ผู้เขียน หัวข้อ: ทองเนื้อเก้า วันที่ 19 ตุลาคม 2556  (อ่าน 794 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
ทองเนื้อเก้า วันที่ 19 ตุลาคม 2556
« เมื่อ: ตุลาคม 19, 2013, 01:21:05 pm »

 “ทำยังงี้มันหนีหน้ากันนี่หว่า เอาลูกฉันไปเป็นเดือนแล้วมาทำเฉยได้ไง คอยดูเหอะจะฟ้องว่าขโมยลูก” ลำยองขู่
     
    “ฟ้องใครล่ะ” สมัยถามเย้ย ๆ
     
    “ฟ้องใครก็ฟ้องตากวงน่ะแหละ”
     
    “เธอยกให้เขาแล้วไม่ใช่เรอะ”
     
    “ยกให้แต่มันเรื่องอะไรมากีดกันไม่ให้แม่ลูกเขาเจอหน้ากัน”
    
    “ฉันไม่รู้ด้วยหรอกนะเรื่องนี้ ต้องไปคุยกับคุณกวงเขาเอาเอง”
     
    “โรงงานใหม่เขาอยู่ไหน ฉันจะไปตามเขาเอง บ้านเขาด้วย บอกมานะบอกมา”
    
    “ไม่บอกจะทำไม...ไม่ใช่หน้าที่”
     
    “กรี๊ด...ด...ไอ้คนเฮงซวย...พรากแม่พรากลูกเขาไม่พอยังพรากผัวพรากเมียเขาอีก ไอ้คนใจร้าย”
     
    “ฉันไม่ได้พรากนา....ตกลงกันเอง มาเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย บ้านผัวตัวเองไม่รู้จัก แล้วจะมาโทษใคร ไป...กลับบ้านไปซะเถอะ อย่ามาวุ่นวายแถวนี้อีก”
     
    “กูเป็นเมียคุณกวงนะมึง” ลำยองขู่อีก
     
    “ก็แค่เมียเก็บเอาไว้ให้เขาทำลูกละวะ” สมัยยิ้มเยาะอย่างไม่กลัว
     
    “กรี๊ด...ด...” ลำยองจะกรี๊ดอีก
     
    “หุบปากเลย...หนวกหู ถ้าลื้อไม่ออกไปดี ๆ อั๊วจะให้ยามมาลากออกไป”
    
    ลำยองเหมือนถูกผลักเซออกมาจนล้มลงกับพื้น ยามปิดประตูรั้วหน้าโรงงานแล้วยืนคุมเชิงห่าง ๆ ลำยองแค้นใจคว้าก้อนหินข้างตัวเขวี้ยงโรงงานก่อนจะเดินออกไป...เสี่ยกวงยืนอยู่ตรงหน้าต่างห้อง ชั้นบนมองเห็นเหตุการณ์ตลอด เขาเป็นคนสั่งสมัยให้โกหก เพราะไม่ต้องการเจอกับลำยองอีก
     
    “ไปแล้วครับ” สมัยเปิดประตูเข้ามา
     
    “ผมเห็นแล้ว ขอบคุณมากคุณสมัย”
     
    “โชคดีนะที่คุณเปลี่ยนรถ เปลี่ยนห้องทำงาน ไม่งั้นมีหวังเรื่องยาวแน่”
     
    “ไม่หรอก สำหรับผมให้เงินแล้วก็ถือว่าจบกันไปแล้ว...ลูกคือความรับผิดชอบของผม ถ้านิสัยเขาดีกว่านี้สักหน่อยผมอาจจะสงสารแล้วก็เลี้ยงดูส่งเสียเขาต่อไปก็ได้ แต่นี่ ไม่ไหว ยิ่งเขาทำตัวตํ่าเท่าไร ผมยิ่งรู้สึกผิดต่อลูกเมียผมมากขึ้นเท่านั้น”
     
    “ผมว่ายังไงเขาก็ต้องกลับมาอีก”
     
    “เรื่องลูกน่ะเป็นแค่ข้ออ้าง ผู้หญิงคนนี้หิวเงินยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น...เข็ดแล้วคุณสมัย...ผมเข็ดแล้วจริง ๆ”
     
    ลำยองเดินกลับบ้าน แวะซื้อเหล้าที่ร้านค้าซดเหล้ากั๊กพรวดเดียวหมดจอกหน้าตาบิดเบี้ยวเพราะฤทธิ์อันร้อนแรง แต่อึดใจหลังจากนั้นกลับกลายเป็นความอภิรมย์เดินเหน็บขวดเหล้าไป พอถึงบ้าน เห็นยายแลท้าวสะเอวยืนปักหลักรออยู่
     
    “นังลำยอง...อีโง่ทำไมมึงถึงได้โง่ยังงี้วะ”
     
    “อะไรแม่ ฉันยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่นะ”
    
    “มึงให้ลูกชายเขาไปแล้ว ทีนี้เขาจะกลับมาหามึงทำไม สู้ไปหาอีพวกสาวสิบหกนอนกกเล่นไม่ดีกว่าเรอะ อีโง่จะทำอะไรทำไมไม่ปรึกษากูก่อน”
    
    “แม่รู้ได้ไงเนี่ย”
    
    “มึงนึกว่ากูหูหนวกตาบอดเรอะ เขาลือกันไปทั้งซอย”
    
    “อีพวกปากมาก เรื่องของคนอื่นสาระแนอยากรู้กันนัก”
     
    ลำยองเดินเข้าบ้าน ยายแลตามไปพูดต่อ
     
    “บ้านช่องก็ปิดเงียบเชียบ คนใช้มันหายหัวไปไหนกันหมด”
     
    “มันลาออกกันไปหมดแล้ว”
     
    “แล้วเอ็งจะทำยังไง”
     
    “แม่ก็หาคนใช้ใหม่มาให้ฉันซักคนสิ เอาไว้ซักผ้า ถูบ้าน กับข้าวไม่ต้องทำฉันจะกินกับแม่ ฉันให้แม่เดือนละแปดร้อย ตกลงไหม”
    
    “แล้วคนใช้กับไอ้วันมันจะกินยังไง”
    
    “สาย ๆ กับเย็น ๆ แม่ก็ให้ไอ้ปานมันหิ้วปิ่นโตมาส่งสิไอ้วันน่ะเช้า ๆ ก็ให้มันไปกินเอาที่โรงเรียน ให้เงินมันไปซื้อเอาเอง”
     
    “ให้ลูกเขาไปแล้ว คุณกวงเขาไม่กลับมาหาเอ็งอีก เอ็งจะทำยังไง”
    
    “ไม่ต้องกลัวน่า...ยังไงเขาก็ต้องมา” ลำยอง ยังเชื่อมั่นในเสน่ห์ของตัวเอง
    
    “เอ็งนึกยังไงวะให้ลูกเขาไปเนี่ย”
    
    “มันเลี้ยงยากจะตายแม่ เดี๋ยวเป็นหวัดเดี๋ยวตัวร้อน เดี๋ยวขี้ไหลร้องทั้งวันเยี่ยวทั้งคืน หาหมอไม่รู้อาทิตย์ละกี่หน เบื่อจะตาย ย่ามันอยากได้ไปเลี้ยงเองให้ตั้งสามหมื่นใครไม่เอาก็โง่ละ”
    
    “สามหมื่น...มิน่า...ทองเต็มตัวมึงเลย แล้ว ก็ไม่ให้กูซักบาท” ยายแลบ่น
    
    “เอ๊อ...ไอ้อภิชาติมันลูกฉันนะไม่ใช่ลูกแม่ซะหน่อย”
    
    “มันก็ต้องสำนึกบุญคุณกันบ้างโว้ย”
     
    “ก็ที่ฉันให้แม่เดือนละแปดร้อยค่ากับข้าวนั้นไง แม่ก็ไปจัดการเอาเองสิ”
    
    “สมัยไอ้วัน อีย่ามันให้แค่สามพัน ไอ้อภิชาตินี่ ได้สามหมื่นเชี่ยวเหรอวะ”
    
    “ก็นั้นนะสิ ฉันถึงได้ให้ไปไง คุณกวงเขาอยากได้ลูกชายหลาย ๆ คน ยังไงเขาก็ต้องกลับมาหาฉันอีก แม่ค่อยดูเหอะ” ลำยองพูดอย่างผยองลำพองใจ
     
    หลังหมั้นหมายสันต์ก็แต่งงานกับเทวีด้วยพิธีที่เรียบง่ายแต่ถูกต้องตามประเพณี สันต์ไปอยู่บ้านใหม่ที่ซื้อร่วมกับเทวีถึงวันหยุดทั้งสองก็แวะมาที่เรือนแพและช่วยกันทำอาหารให้พ่อสินกับแม่ปั้นกิน “สันต์คะ เดี๋ยวกินข้าวแล้ว เราไปหาวันเฉลิมกันนะคะ”
    
    “วันนี้วันเสาร์ ไอ้วันมันคงขลุกอยู่ที่กุฏิหลวงลุงปิ่นน่ะแหละ” แม่ปั้นบอก
     
    “หนูซื้อขนมกับของเล่นมาให้แกหลายอย่างนะคะ”
     
    “ขอบใจมากนะหนูเทวี ที่อุตส่าห์เมตตา เอ็นดูไอ้วันมัน”
    
    “วันเฉลิมแกเป็นเด็กน่ารักนี่คะพ่อ”
    
    “หนูไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจก็ดีแล้ว ถือว่าเป็นบุญของไอ้วันมัน”
     
    พ่อสินกับแม่ปั้นพอใจที่สะใภ้คนใหม่รักใคร่เอ็นดูหลานชายซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเธอ....จากนั้นสันต์กับเทวีชวนกันไปวัดเจอวันเฉลิมหิ้วหม้ออวยเดินสวนทางมาก็เรียกถาม วันเฉลิมบอกเอาก๋วยเตี๋ยว ที่ร้านลำยงไปให้แม่ สันต์ฟังแล้วสงสารลูก เทวียื่นถุงขนมกับของเล่นให้ วันเฉลิมไหว้ขอบคุณก่อนรับถุงของมาจากเทวี
    
    “มาอยู่กับพ่อไหมวัน พ่อได้ยินมาว่า ป๊าเขาก็เอาน้องไปเลี้ยงแล้ว บางทีแม่เขาอาจจะสบายขึ้น ถ้าไม่ต้องคอยห่วงวันอีกคน”  
    
    “วันต้องถามแม่ก่อนครับ”    “อาเทวีรู้จักโรงเรียนอนุบาลดี ๆ ใกล้ ๆ บ้านใหม่พ่อตั้งหลายที่นะลูก”     เทวียิ้มให้วันเฉลิมอย่างเอ็นดู   “วันต้องรีบเอาก๋วยเตี๋ยวไปให้แม่แล้วครับ แม่คอยวันนานแล้ว”      สันต์เจื่อนที่วันเฉลิมยังห่วงแม่มาก เขาได้แต่มองตามลูกชายไป เทวีได้แต่จับแขนสันต์บีบเบา ๆ ปลอบใจเพราะรู้ดีว่าสันต์รู้สึกยังไง...ขณะที่ลำยองไปตามหาเสี่ยกวงที่โรงงานอีกครั้ง สมัยรับหน้า บอกเสี่ยกวงไม่อยู่เหมือนเดิม     “โกหก...งั้นไอ้รถที่จอดอยู่ข้างนอก นั่นมันรถใคร ถ้าไม่ใช่รถผัวฉัน”      ลำยองเตรียมจะอาละวาด อาซ้อเมียเสี่ยกวงเข้ามาพอดี      “ผู้หญิงที่ไหนมาตามหาผัวถึงนี่ ไม่รู้จักอับอาย”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)