ผู้เขียน หัวข้อ: สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันที่ 18 ตุลาคม 2556  (อ่าน 833 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์

 อติเทพเล่นพนันหมดตัว ถูกการ์ดหน้าเหี้ยมจับโยนออกมานอกบ่อน จุนจีกับกรรัมภาสะกดรอยตามอติเทพไปถึงคอนโดแห่งหนึ่ง ทั้งคู่จะขึ้นลิฟต์ตามอติเทพไปที่ชั้น 9 แต่กุมาริกาคอยขวางไม่ให้ประตูลิฟต์ปิด กรรัมภาจับได้ พยายามคาดคั้นถามสาเหตุที่กุมาริกามาขวางทาง กุมาริกาไม่ตอบ พยายามไล่กรรัมภากลับไป กรรัมภาขู่จะไปฟ้องสุคนธรส กุมาริการ้องไห้โฮ ก่อนหายตัวแวบไป จุนจีกับกรรัมภาขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 9 กุมาริกาเดินร้องไห้มากอดกรรัมภา บอกทางให้กรรัมภาไปหาอติเทพ
    
    “หนูไม่อยากให้พี่แก้มไปยุ่งกะเค้า...พี่ปล่อยเค้าไปเถอะนะคะ เค้าน่าสงสารมากค่ะ”
    
    “อะไรนะ...โกลเด้น...นายอติเทพมาหาใครที่เธอรู้จักงั้นเหรอ”
    
    ทันใดนั้นก็มีเสียงเปิดประตูโครม ตามด้วยเสียงเอะอะโวยวายชายหนุ่มหญิงสาวดังมา จุนจี กรรัมภา ที่กำลังจะเดินตรงไปถึงกับผงะ เมื่อเห็น อติเทพพรวดพราดออกจากห้องมา แล้วมีอรวี โผล่ตามออกมา ยื้อแย่งของบางอย่างจากอติเทพ จุนจี กรรัมภาเลยรีบผลุบถอยมาแอบเข้าหลืบมุม
    
    “เลขาคนนั้นนี่...สองคนนี้อยู่ด้วยกัน ...เป็นไปได้ยังไง โกลเด้น เธอรู้อะไรมา บอกมา...เธอรู้จักยัยอรวีเหรอ ทำไม ยังไง ทั้งหมดนี่มันคืออะไร”
    
    “อรวีไม่ผิด ๆ เค้าน่าสงสารมาก...เค้าต้องอดทนมามากแค่ไหน ไม่มีใครรู้หรอก...พี่แก้มอย่าทำอะไรเค้านะคะ”
    
    อติเทพเหวี่ยงหลังมือเข้าที่หน้าอรวี อรวีเซถลาล้มกองกับพื้น อติเทพรีบเดินลิ่วไปที่โถงลิฟต์
    
    “คุณอติเทพ...คุณมันยํ่าแย่จนตรอกถึงขนาดมาเอาสร้อยที่คุณให้ชั้นตอนวันวาเลนไทน์คืนเลยเหรอ...คุณมันเกินเยียวยาแล้วนะ”
    
    อติเทพเลี้ยวมาจุนจีกับกรรัมภาที่กำลังจะโผล่ไปดูอีกทีรีบกลับมานั่งผลุบยอง ๆ ก้มหันหน้าเข้าข้างฝา อติเทพเดินผ่านลิ่วไปกดลิฟต์ หันมามองทั้งสองผ่าน ๆ ไม่ได้ใส่ใจนัก ก่อนเดินหายเข้าลิฟต์ไป
    
    กุมาริกาหายตัวแวบไปลูบหัวปลอบอรวี กรรัมภาชวนจุนจีตามไปดูอติเทพต่อ จุนจีดึงรั้งตัวกรรัมภาไว้
    
    “แก้ม ผมว่าพอเถอะ แค่นี้ผมว่าผมเห็นอะไรต่ออะไรจนรู้ซึ้งกับนายคนนี้แล้ว...นะ”
    
    จุนจีกับกรรัมภา ค่อย ๆ เยี่ยมหน้ามาดูจากมุมโถงหน้าลิฟต์สีหน้าสลดใจเล็กน้อย ก่อนหันจะเดินกลับกันไปที่ลิฟต์พลันลิฟต์เปิดออก ทนายสมชายเดินพรวดออกมา กรรัมภาที่เดินนำหน้าจุนจีไปถึงกับผงะ ถอยหมุนตัวจะหนีจนไปสะดุดเท้าจุนจี พากันล้มลงไปที่พื้น กลายเป็นจุนจีนอนหงายเค้เก้ส่วนกรรัมภาล้มทับคร่อมบนตัว
    
    ทนายสมชายตกใจสะดุ้ง หยุดมอง ๆ จุนจีมองผ่านศีรษะกรรัมภาไปเห็นหน้าทนายสมชายมอง เลยรีบใช้มือจับหน้ากรรัมภาบังหน้าไว้จนดูเหมือนวินมอไซค์สองคนกำลังจูบกัน ทนายสมชายรู้สึกสะอิดสะเอียน
    
    “นี่มันคอนโดส่วนตัวนะคุณ...ขึ้นมาได้ยังไงกัน เดี๋ยวผมแจ้ง รปภ.เลย...ลงไปเร็ว”
    
    ทนายสมชายเดินลิ่วไปทางห้องอรวี จุนจีกับกรรัมภา รีบลุกขึ้นเดินกลับเข้ามุมไปแอบดูต่อ
     
    อรวีได้ยินเสียงเคาะประตู ก็คิดว่าอติเทพจะกลับใจ แต่พอเห็นว่าเป็นทนายสมชายก็มีท่าทีผิดหวังเป็นอย่างมาก ทนายสมชายหันไปมองที่โถงหน้าลิฟต์ เห็นคู่วินมอเตอร์ไซค์เดินเข้ามุมไปก็รีบปิดประตูห้อง สีหน้าไม่พอใจมาก
    
    ทนายสมชายเห็นอรวีร้องไห้ จึงพยายามซักถามจนได้รู้ความจริงว่าอติเทพมาเอาทองไป ทนายสมชายตกใจมาก ไม่คิดว่าอติเทพจะอับจนขนาดนั้น อรวีโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ทำให้จุนจีเซ็นเอกสารไม่สำเร็จซักที
    
    ทนายสมชาย มองอรวี แววตาสลด สมเพช ในที่สุด เข้ามา ดึงตัวอรวีไปกอด ลูบหลัง “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ใจเย็น ๆ อดทนอีกนิดนะ อีกไม่นาน...ทุกอย่าง...จะประสบความสำเร็จแน่ ๆ”
    
    กุมาริกามองอย่างสงสัย ว่าสิ่งที่รอให้สำเร็จนั้น มันคืออะไร
    
    ติณห์ซื้อของมาให้เบญจามากมาย ทำเหมือนกับว่าออกไปซื้อของในเมืองมาจริง ๆ เบญจาไม่ติดใจสงสัยอะไร พาติณห์ไปพบกับแขกพิเศษที่กำลังคุยอยู่กับมิรันตีที่บ้านพักรับรอง ติณห์ ตกใจมากเมื่อเห็นว่าแขกพิเศษคือหมอสมคิด หมอสมคิดทำเหมือนกับเพิ่งเจอติณห์เป็นครั้งแรกติณห์ต้องแสร้งทำเป็นเหมือนกับไม่รู้จักหมอสมคิด
    
    คืนนั้น ติณห์แอบโทรศัพท์ไปเล่าเรื่องหมอสมคิดให้ญาณินฟัง “มันเป็นหมอผีสมคิดแน่ มาพักที่รีสอร์ท มา...ทำท่าเหมือนจะ...สนใจมอมมี้ผม”
    
    “หรือว่า...เรื่องทั้งหมดนี้...เขาคือ...คนที่ชักใยอยู่คะติณห์”
    
    “ดาลิ้ง...เราทุกคน...ต้องเตรียมตัวตั้งรับอย่างเวรี่ ๆ ๆ ซีเรียสลี่แล้วล่ะ มันทำเหมือนไม่รู้จักผม และใช้ชื่อใหม่ เป็นคนใหม่ เพราะฉะนั้น ผมคิดว่า...ผมก็ควรจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่ามันเป็นใครมาจากไหนเหมือนกันและคุณกับเพื่อน ๆ คุณก็ต้องทำอย่างนี้ด้วยเข้าใจนะ เราต้องหาตัวช่วยแล้วล่ะจะเอาหลวงลุงของสุคนธรส หรือกำนันพงษ์หรือใครดี...เพราะลำพังพวกเรา...ผมว่ายาก... เอาละ...ผมแค่นี้ก่อนนะมิสยูจุ๊บ ๆ
    
    “ค่ะบาย....สมคิดเหรอ...เป็นไปไม่ได้” ญาณินอึ้งกังวลใจ
     
    
    จุนจีพากรรัมภากลับไปที่ห้องพัก ทั้งคู่นั่งคุยกันอยู่ในห้องรับแขก กรรัมภาถอดถุงมือที่สวมอยู่ออกเพราะรู้สึกร้อนเหนียว
    
    “คนพวกนั้นร่วมสมคบคิดกันหลอกลวงคุณย่า ที่คุณย่าพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือให้ผมช่วยหาความยุติธรรม...ที่แท้ก็เพราะคนรอบล้อมตัวท่าน ใครคนนึง...หรือทั้งหมดนั้น มันคือฆาตกร”
    
    พลันเก้าอี้โต๊ะที่อยู่ใกล้คนทั้งสองไหวไปมา จุนจี กรรัมภา มองรอบ ๆ รู้สึกถึงบางอย่างขึ้นมา
    
    พิมพ์พิลาสปรากฏตัวขึ้น สีหน้าโศกเศร้า กำลังสะอื้นไห้ครํ่าครวญโหยหวน “ทำไม...ทำไมเทพถึงทำกับพี่อย่างนี้...เทพใจร้ายที่สุด เทพหักหลังพี่ทำไม...ทำไม”
    
    จุนจียกมือขึ้นจับที่หูร้องโอดโอยขึ้นมา กรรัมภาตกใจ รีบเข้าไปจับประคองตัวจุนจีที่โงนเงนไปมา ทันทีที่กรรัมภาแตะโดนตัวจุนจี ก็รู้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้ากระตุกร่าง กรรัมภาได้ยินเสียงพิมพ์พิลาสครํ่าครวญดังชัดเจนขึ้นมาทันที
    
    “จักร หลานต้องช่วยย่า...หลานต้องจัดการ ไอ้พวกทรยศนี้ทั้งหมดให้ย่า”
    
    จุนจีลงไปดิ้นร้องโอดโอย กรรัมภาบอกให้พิมพ์พิลาสหยุดตะโกนกรอกหูจุนจี พิมพ์พิลาสสงบลง หันไปสนใจหลาน ความเกรี้ยวกราดค่อย ๆ ลดลง แล้วความน่ากลัวค่อย ๆ เลือนไป ภาพ
    ย่าค่อย ๆ สวยงามขึ้นทันใดนั้นจุนจีอาการค่อย ๆ สงบลง
    
    “ฮือ...โอย...ดีขึ้นละ ๆ...แต่เมื่อกี๊...ผม ...เป็นอะไร ย่าทำอะไรผมเหรอ ทำไม...ผมรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต”
    
    “คุณย่าคุณ...ท่านไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ...ท่านไม่ทราบ...ว่าถ้าท่านระบายความเกรี้ยวกราด โกรธแค้นออกมา...แรงแค่ไหน ก็มีผลกับคุณมากแค่นั้น คุณพิมพ์พิลาสคะ กรุณาเถอะนะคะ พยายามตั้งสติ อย่าเอะอะโวยวายบ่อย ๆ นะคะ เพราะจุนจีเค้าสื่อกับ...อารมณ์ความรู้สึกที่รุนแรงของคุณได้”
    
    “อะไรนะ ความรู้สึกของย่า...จุนจักรรับรู้ รู้สึกได้...งั้นเหรอ”
    
    “ตั้งแต่แรกเลยค่ะ...แปลกจัง...คล้าย ๆ กับชั้นเลยค่ะ...ชั้นสัมผัสแล้ว จะรู้สึกร่วมกับวิญญาณ ได้...ที่แท้...จุนจีก็รับสื่อแบบนี้ได้ด้วย แต่อาจจะรับได้เฉพาะจากคุณย่าของตัวเอง..ไม่ใช่กับวิญญาณทั่ว ๆ ไป”
    
    “ลอง...ขอชั้น...คุยกับเขาหน่อยสิ...ได้ไหมจ๊ะ”
    
    กรรัมภาแตะมือพิมพ์พิลาส ตั้งสมาธิให้ใจสงบ แล้วแตะมืออีกข้างไปที่มือจุนจี
    
    “จุนจี...ย่าไม่เคยคิดจะทำร้ายหลาน แต่ย่าแค่...ขอให้หลานช่วยย่า ย่าไม่มีใครเลย ตอนเป็นคน ก็ตัวคนเดียว เพราะพ่อแม่...และหลาน...จากไป...แล้วตอนนี้ เมื่อตายแล้ว ก็เป็นวิญญาณที่โดดเดี่ยว ไม่มีใครเลย ไม่เหลือใครอีกแล้ว...หลานไม่ต้องรักย่าหรอก แค่สงสารย่าก็พอ”
    
    “คุณย่า ผมเสียใจ ผมขอโทษ ที่ตอนแรก ผม...ผมหยาบคายมาก ๆ”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)