ผู้เขียน หัวข้อ: สาปพระเพ็ง วันที่ 1 กันยายน 2556  (อ่าน 342 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
สาปพระเพ็ง วันที่ 1 กันยายน 2556
« เมื่อ: กันยายน 01, 2013, 02:20:52 am »

 “คนอย่างวิกกี้ไม่รู้จักคำว่าขู่...เล่นจริง  แทงจริง  เจ็บจริง...ลองมั้ย” 
    
    “ฉันจะแจ้งตำรวจ”   
    
    “ดี...ฝากฉันไปแจ้งก็ได้ ฉันนี่แหละทำงานกับตำรวจ”
     
    เพื่อน ๆ พากันดึงสิริรัตน์ วิกกี้ตวาดเสียงดัง
    
    “ว่าไง  ตกลงจะแจ้งความมั้ย  จะแจ้งว่าอะไร  เร็ว ๆ พูดมา”
    
    “คอยดู ฉันจะฟ้องแก...ฉันจะเอาแกออกจากคดีนี้  แกข่มขู่พยาน คนอย่างแกไม่มีวันเกาะกระแสคดีพี่ดำดังขึ้นมาได้”
    
    วิกกี้โกรธจนตัวสั่น  แล้วผลุนผลันออกมา  โดยมีวิวตามติด ๆ  เพราะกลัวจะไปมีเรื่องกันอีก
    
    “ทำไมถึงคิดว่าผู้หญิงจะต้องทำงานเอาหน้า  ความเป็นผู้หญิงมันดูโง่ ไร้สติ สมองไม่ได้มีไว้คิดเลยใช่มั้ย” 
    
    “เจ๊จะเก็บคำพูดคนอย่างงั้นมาทำร้ายตัวเองทำไม”
    
    “ไม่ใช่แค่ผู้หญิงอย่างสิริรัตน์...แกเองก็ด้วย...  แกก็คิดว่าฉันทำงานเพราะบ้าผู้กองพัทธ์”
     
    วิวพุ่งเข้าจับไหล่วิกกี้  จ้องมองอย่างจริงจัง
    
    “คุณวิกกี้เก่งแค่ไหน...ผมรู้ดี”
     
    วิกกี้มองแววตาวิวที่ไม่มีขี้เล่นหลงเหลือเหมือนเคย  แต่กลับเป็นแววตาชายหนุ่มที่มองเธอด้วยความศรัทธาชื่นชม อย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
    
    “ผมรู้ว่าคนอย่างคุณวิกกี้จะทำทุกงานอย่างเต็มที่  ไม่ว่าจะมีอุปสรรคแค่ไหน  คุณวิกกี้จะไม่มีวันก้มหัว ยอมแพ้”
    
    วิกกี้ฟังแล้วรู้สึกได้ถึงคำชมจากใจจริงของหนุ่มรุ่นน้อง  ก็ยิ้มออกมา “ขอบใจนะ... วิว”
    
    “วันนี้เจ๊ขอบใจผมสองครั้งแล้ว”
    
    “แกนี่จุกจิก...คิดเล็กคิดน้อยเหมือนผู้หญิงเลย นับด้วยว่าฉันขอบใจกี่ครั้ง” วิกกี้ยิ้มขำ
    
    “เค้าไม่ได้เรียกจุกจิก...เค้าเรียก... ใส่ใจ...” วิวพูดน้ำเสียงหนักแน่น
      
    วิกกี้อึ้ง ๆ กับสายตาอ่อนโยน เต็มไปด้วยความรู้สึกของชายหนุ่มรุ่นน้องที่ส่งมา วิวรู้สึกตัว ปล่อยมือที่จับไหล่วิกกี้ เปลี่ยนเป็นเสียงขี้เล่นเหมือนเดิม
    
    “กลับบ้านเหอะเจ๊  เดี๋ยวเกิดคุณสิริรัตน์เธอเปลี่ยนใจ  เอาพวกมารุมส่งถึงรถ”
    
    “แกกลัวเหรอ”
    
    “ไม่ได้กลัว แต่ยังไม่อยากนอนกรามหักแถวนี้”
     
    วิกกี้หัวเราะออกมา วิวมองรอยยิ้มวิกกี้  จนพลอยยิ้มไปด้วย 
     
    หลังจากกลับมาจากบ้านอภิมุข  รัดเกล้าก็ง่วนอยู่กับการทำงานด้านเอกสารจนถึงเวลาเลิกงาน  ยอดชายก็มาลากไปดูบอลกับไผ่ที่ร้านอาหาร  แล้วแกล้งทิ้งเธอไว้กับไผ่เพียงลำพังสองคน  รัดเกล้าไม่พอใจที่ถูกหลอกจึงผลุนผลันออกไปเรียกแท็กซี่กลับบ้าน  แต่ไผ่ตามมาและไล่รถแท็กซี่
    
    “ไปเลย ทะเลาะกับเมีย”
     
    แท็กซี่ยังมองไม่แน่ใจ ตามวิสัยพลเมืองดี   ไผ่ตะโกนว่าเขาเป็นตำรวจ   พอได้ยินเช่นนั้นคนขับรีบบึ่งออกไป รัดเกล้าหันมาทางไผ่  พลางสั่งห้ามเข้ามาใกล้ ๆ
    
    “โอเค...ห่างแค่นี้พอแล้วใช่มั้ย รัดเกล้า คุณฝันเห็นอดีตเหรอ...ผมก็เคยฝันนะ ตื่นมาก็จำไม่ค่อยได้หรอก มันคลับคล้ายคลับคลา แต่ผมดีใจที่เราฝันเหมือน ๆ กัน”
    
    “อย่าพูดประโยคต่อมานะ  ว่าใจเราตรงกัน  เพราะมันเลี่ยนมาก”
    
    “เลี่ยน แต่มันก็เป็นความจริง คุณกับผม เรามีอะไรคล้าย ๆ กัน”
    
    “ใช้บ่อยมั้ย มุกนี้” รัดเกล้าถามอย่างหมั่นไส้
    
    “ไม่บ่อย   เพิ่งใช้กับคุณคนแรก”
    
    “เกล้าจะฝันอะไร   มันก็เรื่องของเกล้า  ต่อให้เราฝันเรื่องเดียวกัน มันก็แค่ความบังเอิญ”
     
    “คุณคิดว่าที่เราเจอกัน คุณเจ็บตัว  มีอาการแปลก ๆ  มันแค่เรื่องบังเอิญ”
     
    รัดเกล้ารีบยืนยันเสียงแข็ง  เพื่อกลบเกลื่อนความคิดรบกวนจิตใจ
    
    “ใช่ค่ะ  หรือผู้กองมีคำอธิบายดี ๆ ที่พิสูจน์ได้”
    
    “ไม่มี...แต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นแค่ความบังเอิญ”
    
    “ยังไงชีวิตเกล้าก็ไม่เกี่ยวกับผู้กองหรอกค่ะ  ผู้กองไม่ต้องสนใจเกล้าเลยยิ่งดี” 
    
    “คุณห้ามผมไม่ได้หรอกนะ  รัดเกล้า...ผมห่วงคุณ ต่อให้คุณเกลียดหน้าผมแค่ไหน  ผมก็ยังเป็นห่วงคุณ”
     
    ไผ่มองลึกลงไปในดวงตารัดเกล้า เต็มไปด้วยความรู้สึกผูกพัน จนรัดเกล้าใจอ่อนยอมให้ไผ่ไปส่งที่บ้าน
    
    “โชคดีที่คุณยอมให้ผมมาส่งถึงบ้าน ไม่กลัวพี่สาวเอาไม้เรียวตีก้น”
    
    “เกล้าไม่ได้กลัวพี่วิกกี้นะคะ แล้วพี่วิกกี้ก็ไม่ได้ดุอย่างที่คุณพูดด้วย ถึงเป็นพี่น้องคนละแม่   เราก็ไม่เคยทะเลาะกัน ตรงกันข้าม รักกันมากด้วยซ้ำไป พี่วิกกี้เข้มงวดก็จริง แต่ก็เพราะเป็นห่วงเกล้าค่ะ”
    
    “คุณเคยว่าใครบ้างมั้ย รัดเกล้า” ไผ่ยิ้มเอ็นดู 
    
    “ก็คุณไงคะ ผู้กองไผ่...คนแรก”
    
    “นึกแล้ว ซวยได้ถ้วยจริงจริ๊ง... ยอม... ยอม  งั้นผมขอเป็นคนเดียวได้มั้ย ...คนแรก และคนเดียวในชีวิตคุณ”
    
    รัดเกล้ามองไผ่อึ้ง ๆ แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ 
    
    “ได้ค่ะ ...แต่ขอเกล้าถามพี่วิกกี้ก่อนนะคะ”
     
    “งั้นผมก็คงถูกพี่วิกกี้ของคุณเหยียบ ขยี้ บี้  เตะโด่งไปอยู่ท้ายแถว...ผมอยากให้เราคุยกันดี ๆ นะ รัดเกล้าถ้าคุณไม่กลัวผม อาการเจ็บประหลาด ๆ ของคุณจะได้หายไปสักที ผมก็รู้ว่า ผมมันชอบแกว่งปากหาเรื่อง เข้ากันไม่ค่อยได้กับพี่สาวคุณ... คุณเองก็อาจจะไม่ชอบหน้าผม แต่ถึงยังไง...ขอให้ผมไม่ใช่ฝันร้ายของคุณก็พอนะครับ”    
     
    รัดเกล้ากับไผ่ยิ้มให้กันอย่างรู้สึกดี ๆ   
     
    วันรุ่งขึ้น  พัทธ์เรียกวิกกี้มาตำหนิ  เพราะถูกอภิวัฒน์โทรฯมาฟ้องเรื่องที่ไปมีเรื่องกับสิริรัตน์   แต่วิกกี้พยายามหว่านล้อมให้พัทธ์มุ่งประเด็นความน่าสงสัยไปที่คนทั้งคู่  พัทธ์จึงยอมพาวิกกี้ไปที่บ้านอภิมุขอีกครั้ง.... สิริรัตน์หน้าบึ้งตึง มีอภิวัฒน์อยู่ข้าง ๆ  เพชรดากับมาริษายืนมองอยู่ด้วย
    
    “ลูกน้องผู้กองน่ะป่าเถื่อน ใช้อำนาจผิด ๆ ฉันไม่ยกโทษให้หรอกนะ”
    
    “วิกกี้ไม่ได้มาขอโทษนะคะ กรุณาเข้าใจซะใหม่” 
    
    “ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง  พวกคุณจะกร่างมากไปแล้ว” อภิวัฒน์เอ่ยขึ้นอย่างไม่ยอม
    
    “ผมขอดูวงจรปิดในร้าน  เห็นคุณสิริรัตน์กับพวกล้มโต๊ะที่คุณวิกกี้นั่ง  ผมว่า.. เรื่องเข้าใจผิดมันคงเริ่มตรงนี้ใช่มั้ยครับ  คุณสิริรัตน์”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)