ผู้เขียน หัวข้อ: แค้นเสน่หา วันที่ 17 กรกฎาคม 2556  (อ่าน 643 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
แค้นเสน่หา วันที่ 17 กรกฎาคม 2556
« เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2013, 10:14:01 am »

 “ขอบใจที่เลี้ยงขนมชายเดียว แต่ไหน ๆ ฉันมาแล้วคงจะต้องให้เขากลับ ชายเดียวจะเอาขนมไปทานต่อที่บ้านก็ได้” ท่านหญิงเอ่ยกับจริมาอย่างจงใจที่จะเลี่ยงพูดคุยกับจันทร์
    
    “คงไม่อร่อยเท่าทานที่นี่เพคะ” จริมาพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มจริงใจ
    
    “เธอคงเป็นลูกสาวคุณพจน์ ที่ไปงานศพคืนนั้น?...” ท่านหญิงทอดเสียงเป็นคำถาม
    
    “ใช่เพคะ” จริมาย่อตัวไหว้
    
    “มีอีกคนที่ไปด้วยกัน”
    
    “รุ้งมังคะ...ลูกแม่จันทร์” รุ้งย่อตัวต่ำ ไหว้สวยงาม
    
    “ชายเดียว...หญิงทอแสงอยู่ในรถ คอยชายอยู่”ท่านหญิงหันไปพูดกับชายเดียว “ทำไมหญิงทอแสงต้องมาด้วยคะ ชายมีการบ้านทำ”
    
    “น้องมีเรื่องจะคุยกับชาย...ชายมาที่นี่ได้แสดงว่าการบ้านไม่มากนัก ใช่ไหม?”
    
    จันทร์รู้สึกเป็นคนนอก ค่อย ๆ ถอยออกไปทีละก้าว สีหน้าหมอง ๆ
    
    “น้าจันทร์จะไปไหนคะ”
    
    ท่านหญิงได้ยินเต็ม ๆ คิ้วขมวด พึมพำ “น้าเหรอ”
    
    “ผมคงต้องกลับก่อน ขอบคุณคุณน้าครับ”ชายเดียว ไหว้ลา
    
    “ไม่เป็นไรค่ะคุณชาย” จันทร์รับไหว้
    
    ท่านหญิงลอบมอง แม่ลูกคุยกัน ตัวท่านเองอยู่ตรงกลาง
    
    “อาหารอร่อยมาก ผมไม่เคยรับประทานอาหารแบบนี้มาก่อน คุณน้าทำอาหารเก่งมากครับ”
    
    “ขอบคุณค่ะคุณชาย”
    
    ทุกคนไหว้ท่านหญิง
    
    “ขอบใจที่ดูแลลูกชายอย่างดี ชาย....ช่วยพาแม่ออกไปสิจ๊ะ”
    
    “คะ ท่านแม่เกาะแขนชายสิคะ...ดี ๆ นะคะ พื้นตรงนี้ลื่น”
    
    ชายเดียวประคองท่านหญิงออกไป จันทร์มองตาม ด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ
     
    และเมื่อท่านหญิงกลับไปพร้อมกับชายเดียวแล้ว จริมาก็เข้ามาคุยกับจันทร์ด้วยความหงุดหงิด
    
    “น้าจันทร์ขา...ริมาไม่ชอบ “ท่านแม่” ชายเดียวเลย เขาวางอำนาจบาตรใหญ่ยังไงไม่ทราบ ทำเหมือนชายเดียวมาในที่ที่ไม่ควรมา บ้านเราก็มีศักดิ์ศรีไม่น้อยไปกว่าวังเขา
    เมื่อไหร่ แถมทำท่าเหมือนโกรธที่เราส่งรถไปรับ ตั้งแต่มาเขายังไม่พูดกับน้าจันทร์ตรง ๆ เลย”จริมาพูดไปตามความคิดของตน
    
    “สารภีเองก็ตกใจค่ะ อยู่ ๆ รถก็มาจอด ท่านเดินลงมา ถามมาหาใครก็ไม่พูดด้วย แต่สารภีจำได้ว่าเป็นรถจากวังคุณชายเดียว จะถามนายยอดว่าใช่ไหม…” สารภีพูดเป็นฉาก ๆ
    
    “อะไรนะสารภี...นายยอดทำไมมาอยู่แถวนี้ “จันทร์ถามอย่างตกใจ
    
    “ทีแรกบอกมาดูคุณชายเดียวค่ะ แต่พอท่านหญิงมาก็หายตัวไปเลย”
    
    “ท่านคงตกพระทัย ที่จู่ ๆ คุณชายก็หายออกมาจากวัง” จันทร์แอบโล่งอก
    
    “โธ่...คุณน้าขา อีตาชายเดียวไม่ใช่เด็กตัวโตเบ้อเร่อเบ้อร่า แล้วก็ไม่ได้ปัญญาอ่อนสักหน่อย กลัวทำไม”
    
    “คุณริมา” จันทร์ท้วงเบา ๆ
    
    “จริงนะคะ ท่าทางท่านหญิงน่ะร้ายเงียบ ชายเดียวก็กลัวหงอน่าสงสาร คุณน้าออกไปส่งเห็นยายทอแสงรัศมีไหมคะ”จริมาซัก
    
    “ดิฉันไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่มีคนนั่งรอในรถ”
    
    “เขาละค่ะ...อยู่โรงเรียนก็พูดถึงพี่ชายตลอด เหมือนนกขุนทองไงคะคุณน้า ร้องเรียกแต่ชายเดียว ชายเดียว”
    
    จริมาจีบปากจีบคอนินทาคุณหญิงทอแสง ทำเอาสารภีถึงกับหัวเราะชอบใจ
    
    “สารภี...ฟังริมานินทาเพื่อนอยู่ได้ ควรจะรั้ง ๆ ไว้บ้าง เพื่อนตัวเองเหมือนกัน อย่างนี้จะเรียนโรงเรียนเดียวกันทำไม”
    
    ฉัตต์ว่ากระแทกใส่รุ้ง และเดินหนีไป ทุกคนถึงกับเหวอไปหมด
    
    “เออ...พี่ฉัตต์เขากินอะไรเข้าไป ตัวเล็กทนฟังอยู่ได้...บอกไปสิว่า ถ้าอยู่โรงเรียนเดียวกันแล้ว ต้องรักกันจี๋จ๋าล่ะก็ เราจะลาออกจากโรงเรียนนี้ทั้งสองคนเลย...มีปากทำไมไม่พูดไปฮะตัวเล็ก อมอะไรอยู่”
    
    จริมาต่อว่ารุ้งอย่างอ่อนอกอ่อนใจ...ขณะที่ จันทร์เมื่อคุยกับพวกจริมาเสร็จแล้ว ก็หลบออกมาคุยกับยอดที่ท่าน้ำตามลำพัง
    
    “ระวัง ท่านเด็จมาเงียบ ๆ ไม่บอกล่วงหน้า ถ้าวันหลังท่านทอดเนตรเห็นยอด จะเป็นเรื่องใหญ่...เสียหายถึงคุณหญิงกับคุณพจน์”
    
    “หม่อมไม่น่าเล่าเรื่องคุณหญิงให้คุณพจน์รู้...เรื่องความลับคนรู้มากไม่ปลอดภัย”
    
    “ฉันรู้ แต่ฉันหวังพึ่งคุณพจน์ ฉันจะปล่อยให้คุณหญิงเกิดและตายไปกับการเป็นแค่รุ้งไม่ได้ ถ้าฉันเป็นอะไรไป คุณพจน์จะช่วยรุ้งได้”จันทร์บอกอย่างมีความหวัง
    
    “ครับ ผมเข้าใจแล้ว”
    
    “ที่วังมีแต่เรื่องเศร้า ว่าไปแล้วฉันก็สงสารท่านหญิงเหมือนกัน ตอนนี้ท่านโดดเดี่ยวนะยอด มีแต่คุณชายเดียว”
    
    “ผมเห็นเด็กผู้หญิงอีกคนในรถ”
    
    “คุณหญิงทอแสงรัศมี เธอเป็นลูกท่านหญิงเล็กไง ตอนที่ฉันท้อง ท่านหญิงเล็กท้อง 6 หรือ 7 เดือนแล้ว” จันทร์กล่าว ขณะที่ยอดพยักหน้ารับรู้
     
    ระหว่างนั่งอยู่บนรถ ภาพจันทร์แวบเข้ามาในความคิดของท่านหญิง เสียงคุณหญิงทอแสงคุยเสียงแจ๋ว ๆ ชวนชายเดียวไปงานโรงเรียน
    
    “คงไป...บอกเพื่อนไว้แล้ว”
    
    “เพื่อนที่ไหนคะ ยายริมา หรือว่ายายรุ้ง” คุณหญิงทอแสงไม่พอใจ
    
    “ทั้งสองคน”
    
    “ฮึ...พี่ชายต้องไปเพราะหญิงสิคะ หญิงเป็นน้องนะ”
    
    ชายเดียวนั่งนิ่งไม่ตอบ ทำให้คุณหญิงทอแสงไม่พอใจ แต่พยายามเก็บอาการไว้...พอถึงวังรังสิยา เธอจึงตามมาคาดคั้นชายเดียวอีก จนเขารำคาญ
    
    “ไปดูหญิงหรือดูยายริมาหรือว่ารุ้ง”
    
    “พี่ก็รู้จักทั้งสามคน หญิงมีปัญหาอะไรหรือ”
    
    “หญิงไม่มีปัญหาอะไร แต่พี่ชายเดียวกำลังจะทำตัวให้มีปัญหา เพราะไปสัญญิงสัญญาไว้กับใคร มันจำเป็นด้วยหรือ”
    
    “ถ้าหญิงคิดจะชวนทะเลาะ พี่คงไม่เสียเวลาด้วย พี่จะไปทำการบ้าน”
    
    “ท่านป้าให้พี่ชายเดียวอยู่เป็นเพื่อนหญิง หญิงไม่ชอบอยู่คนเดียวพี่ชายเดียวจะไปทำการบ้านหญิงก็จะตามไป”
    
    “ตามไปทำไม พี่จะอยู่ในห้อง หญิงกล้าไปหรือ”
    
    “กล้าค่ะ”
    
    “เหลวไหล...ทำไมหญิงถึงดื้อ และเอาแต่ใจตัวเองอย่างนี้”
    
    “เพราะไม่มีใครกล้าขัดใจหญิง”
    
    “เธอไม่น่ารักเลยหญิงทอแสง”
    
    ประโยคนี้เหมือนเอาน้ำมันไปราดบนกองไฟ
    
    “ใช่ซิ...หญิงมันไม่น่ารัก ที่ไหนจะเหมือนแม่จริมา แม่รุ้ง พวกเขาทำเสน่ห์อะไรพี่ชายเดียวถึงคลั่งไคล้นัก รถไม่มีก็อุตส่าห์เรียกร้องให้ทางนั้นมารับ ทีหญิงโทรฯมากี่หนก็ไม่ยอมรับสาย หญิงเป็นญาติ เป็นน้อง พี่ชายเดียวยังไม่เคยกระตือรือร้นไปหาหญิงบ้าง ทำไมเป็นอย่างนี้ หญิงด้อยว่าแม่พวกนั้นตรงไหน หญิงมีเกียรติมากกว่าพวกเขาเสียอีก”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)