ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวเรือง วันที่ 17 กรกฎาคม 2556  (อ่าน 638 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
ดาวเรือง วันที่ 17 กรกฎาคม 2556
« เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2013, 10:21:02 am »

 “เอ๊ะ พูดยังไง! ถ้าฉันต้องเป็นฝ่ายผิด ฉันจะเสียเงินจ้างทนายทำไมห๊า”
    
    “คุณจะโทรฯ บอกอาจารย์ผมให้เปลี่ยนตัวผู้ช่วยมาทำงานนี้แทนก็ได้นะครับ”
    
    โรสจำต้องอ่อนข้อให้พฤกษ์อีกครั้ง “แล้วที่บอกว่าจะนัดคุยกับพี่น้ำหวานน่ะเมื่อไหร่ ขอเป็นเร็วที่สุดก็แล้วกัน”
     
    เห็นวรรณฟิตซ้อม แถมยังประกาศจะจูบดาวเรืองโชว์คนในหมู่บ้านให้ได้ จินตวัฒน์นึกเป็นห่วงดาวเรืองมาก หลังเลิกงานรีบไปหาดาวเรืองที่ร้าน หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้ววรรณแกล้งทำเป็นฟิตโชว์ต่อหน้าจินตวัฒน์เท่านั้น พอลับหลังก็ไม่ได้ซ้อมอะไร
    
    เพี้ยนเลิกเรียนกลับมาถึงร้านก็รีบเอาจดหมายของกำนันเทิ้มไปให้ดาวเรือง ดาวเรืองกลัวชาติมือขวาของเสี่ยกำพลที่มานั่งกินข้าวกับคนขับรถซุงจะสงสัย ตะโกนบอกเสียงดังว่าเป็นจดหมายของจินตวัฒน์ที่ฝากกำนันเทิ้มมาให้
    
    จริง ๆ แล้วกำนันเทิ้มส่งจดหมายมานัดดาวเรืองให้ไปเจอกันตอน 6 โมงเย็น แต่ดาวเรืองทำเป็นอ่านจดหมายเสียงดังเหมือนกับจินตวัฒน์เขียนจดหมายมาบอกว่าจะมาซ้อมมวยให้ พอดีจินตวัฒน์ขับรถมาถึงร้าน ดาวเรืองรีบหันไปโวยวายใส่จินตวัฒน์เพื่อเป็นการกลบเกลื่อน
    
    “อะไรกันค้าคุณปลัด ไอ้เรืองยังไม่ได้เตรียมตัวเลย มาไวปานจรวดขนาดนี้ ทีหลังไม่ต้องพึ่งไอ้เพี้ยนส่งจดหมายก็ได้ ปะ... ไหน ๆ มาแล้วก็ไปซ้อมกันเลยละกัน ไอ้เพี้ยน..เอ็งเฝ้าร้านให้ดีนะเว้ย”
    
    พูดจบดาวเรืองก็รีบดึงมือจินตวัฒน์ที่ยังงง ๆ ออกไปนอกร้าน มือก็พับจดหมายเก็บใส่กระเป๋ากางเกงไปด้วย
    
    “อะไรของเธอห๊า..ดาวเรือง แล้วจดหมายนั่นมันอะไร”
    
    ดาวเรืองแกล้งพูดเสียงดัง “เริ่มที่จ๊อกกิ้ง ก่อนดีมั้ยปลัด”
    
    “ฉันมาหาเธอก็เพราะเรื่องนี้แหละ ทำไมไม่รู้จักซ้อมบ้าง เธอรู้มั้ยว่าวันนี้นายวรรณเขาวิ่งออกกำลังกายไปถึงหน้าอำเภอ แถมยังประกาศว่าถ้าได้จูบเธอ จะถ่ายรูปไปติดที่หอนาฬิกาด้วยนะ จะเอาอย่างนั้นเหรอ”
    
    ชาติกับพวกคนขับรถซุงเดินออกมาจากร้าน ผ่านจินตวัฒน์กับดาวเรืองไป ดาวเรืองทำเป็นวิ่งซอยเท้าขมีขมัน อยากไปออกกำลังกายเต็มที่ ชาติกับพวกเดินไปที่รถกระบะที่จอดอยู่ ท่าทางดูลังเลเหมือนจะจับผิดอะไร ดาวเรืองรีบคว้าแขนจินตวัฒน์ วิ่งผ่านหน้ารถของพวกชาติไป
    
    ดาวเรืองวิ่งไปถึงบ้านกำนันเทิ้มที่ดอนล้อมช้าง แอบกระซิบบอกให้กำนันเทิ้มรู้ว่าวันนี้ฤกษ์ไม่ดี ไม่ให้ขยับทำอะไร กำนันเทิ้มเห็นจินตวัฒน์วิ่งตามดาวเรืองมา แถมยังมีรถกระบะของพวกชาติขับตามมาก็เข้าใจได้ทันที
    
    นอกจากจะคุมดาวเรืองวิ่งออกกำลังกายแล้ว จินตวัฒน์ยังบังคับให้ดาวเรืองซ้อมชกมวยอีกด้วย ดาวเรืองเห็นกรอดกับแหลมแอบมาสังเกตการณ์ จึงแกล้งทำเป็นหมดแรง เวียนหัว เจ็บคอ ครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้ แหลมกับกรอดเห็นท่าทางดาวเรืองแล้วก็คิดว่างานนี้วรรณจะต้องชนะแน่
    
    ที่ดาวเรืองแกล้งทำเป็นไม่สบาย เพราะอยากให้พวกชาวบ้านแทงมวยข้างวรรณ เพื่อที่เธอจะได้ชนะพนันได้เงินจำนวนมาก ๆ บานชื่นอดเป็นห่วงไม่ได้ ยังไงดาวเรืองก็เป็นผู้หญิง จะไปสู้แรงผู้ชายอย่างวรรณได้ยังไง
    
    ผันแอบเล่นพนันมวยข้างวรรณหนึ่งหมื่น พอเวียงรู้แทนที่จะต่อว่า กลับบอกให้ผันเทเงินลงไปอีกสองสามหมื่น เพราะคิดว่าวรรณจะต้องชนะดาวเรืองแน่ บุญปลอดเอาเงินเก็บห้าพันพนันข้างวรรณด้วย
     
    วันงาน ชาวบ้านหลั่งไหลไปทำบุญตักบาตรที่วัดแต่เช้า บานชื่นขี่ซาเล้งมาจอดที่ลานจอดรถ แล้วเร่งให้เพี้ยนเอาถาดของคาวกับโถข้าว ดาวเรืองเอาถาดของหวานไปส่งให้ฤดีให้ทันก่อนที่พระจะเริ่มรับบาตร เพี้ยนกับดาวเรืองรีบวิ่งไปตามหาฤดีในงาน
    
    ฤดีเดินสะดุดส้นรองเท้าหัก จินตวัฒน์ ช่วยติดกาวตราช้างให้ฤดี จินตวัฒน์เผลอทำกาวกระเด็นขึ้นมาโดนหลังมือขวาเป็นทางยาว ดาวเรืองวิ่งหน้าตื่นมา ไม่ทันระวัง เกือบชนกับเสมอใจ ดาวเรืองถลาเสียหลักจะล้ม มือซ้ายปัดป่ายหาหลักยึด ไปคว้ามือขวาจินตวัฒน์ไว้  มือดาวเรืองติดกาวตราช้าง จับอยู่บนมือจินตวัฒน์
    
    ถึงเวลาตักบาตร ดาวเรืองจำต้องใส่บาตรกับจินตวัฒน์เพราะมือติดกันอยู่ ทุกคนในงาน พากันอ้าปากค้าง เมื่อเห็นดาวเรืองใส่บาตรกับจินตวัฒน์โดยที่มือดาวเรืองอยู่บนมือจินตวัฒน์เหมือนคู่บ่าวสาวที่ถือเคล็ดว่าผู้หญิงต้องจับทัพพีอยู่เหนือผู้ชาย จินตวัฒน์แอบยิ้ม มีความสุขเล็ก ๆ ที่ได้แกล้งดาวเรือง
    
    วรรณซึ่งยืนอยู่กลางแถวกับผัน เวียง และบรรดาเมีย ๆ ตกใจแทบเสียจริต ทำท่าจะกระโจนออกจากแถวไปเอาเรื่องจินตวัฒน์ ผู้ใหญ่ผันรีบห้ามไว้ พระครูจ้อยเดินรับบาตรมาถึงแถวครอบครัวขยันสอยพอดี วรรณใส่บาตรกับครอบครัว ตามองดาวเรืองไปขมขื่นไป
    
    หลังเพล พระครูจ้อยจะขึ้นธรรมมาสน์เทศน์กัณฑ์ชูชก ช่วงบ่ายมีพิธีอาบน้ำมันมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของหลวงตาคง แต่ก่อนจะถึงเวลา อาบน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ หลวงตาคงทำพิธีรดน้ำมนต์ พร้อมหลอกขายสาลิกาลิ้นทองให้พวกชาวบ้านก่อน ดาวเรืองกับจินตวัฒน์แอบยืนมองอยู่คนละมุม
    
    กำจรสวมบทเป็นลูกศิษย์หลวงตาคงเรียกแขกให้ “เอ้า!! ให้ไว ๆ ใครอยากพรมน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของหลวงตาก็เร่เข้ามา หนุ่ม ๆ สาว ๆ หลีกทางให้เด็ก สตรีมีครรภ์ และคนชราเดินหน้าเข้ามาก่อน ไม่ต้องเบียดไม่ต้องเสียด แต่ให้ไว ของดีมีไม่มาก น้ำมนต์นี่ปลุกเสกกลางแสงจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญ พรมแล้วมีเสน่ห์..โน่น..ยาวถึงปีหน้า ปีหน้าหมดเสน่ห์แล้วค่อยมาพรมกันใหม่ เอ้า!!! เร่เข้ามา ๆ”
    
    “ไม่ต้องเบียดกัน ได้ทั่วถึงทุกคนนั่นแหละ เอ้าทุกคน สมาทานศีลกันก่อนนะ ตั้งจิตอธิษฐานให้ดี คิดถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เมื่อจิตนิ่งแล้วก็ว่าตามข้า...เดชะคุณความดีที่ข้าพเจ้าจะทำ ทั้งเมื่อนี้และเมื่อหน้า...จงพาให้น้ำมนต์ทรงความศักดิ์สิทธิ์ ถ้าข้าพเจ้าคิดชั่ว ขอให้ข้าพเจ้าแพ้ภัยตัวเอง”
    
    หลวงตาคงใช้ก้านมะยมจุ่มน้ำมนต์สะบัดไปทั่ว ชาวบ้านบางคนโดนน้ำมนต์ปั๊บถึงกับตัวสั่นของขึ้น ยิ่งเรียกเสียงฮือฮาเข้าไปใหญ่
    
    “ใครรดน้ำมนต์แล้วถอยไป ให้พวกแม่ค้าแม่ขายเข้ามารับสาลิกาลิ้นทองบ้าง”
    
    หลวงตาคงเอาเทียนวางพาดปากบาตร พนมมือสวดมนต์พึมพำ เสร็จแล้วก็จุ่มเทียนลงกวนน้ำมนต์ในบาตร แล้วกำตะกรุดมาเทลงไปในบาตร
    
    “จมหมดแล้ว...เดี๋ยวเขาจะค่อย ๆ ลอยขึ้นมา เอ้า ตะกรุดดอกไหนจะฟื้นคืนชีวิต เป็นเจ้าสาลิกาลิ้นทอง จงลอยล่องขึ้นมาช้า ๆ ลอย...ลอย...ลอย...ลอยขึ้นมา”
    
    ตะกรุดซึ่งจมอยู่ที่ก้นบาตรค่อย ๆ ลอยขึ้นมา ทีละดอกสองดอกจนเต็มบาตร ชาวบ้านฮือฮา รีบกรูกันเข้ามา ดาวเรืองเห็นแล้วหงุดหงิด รู้ทันว่าเป็นการต้มตุ๋น
    
    “ใครที่บูชาไปต้องระวังให้ดี สาลิกานี่ชอบคนสะอาด อ่อนโยน ถ้าพูดหยาบคาย ลามกจกเปรต ของจะหายจากตัว ไอ้เรือง เอ็งเอาไปดอกหนึ่งสิ ข้าให้ฟรี ๆ แต่อย่างเอ็งคงรักษาไว้ได้ไม่นาน พูดจาไม่มีสัมมาคารวะ ของดีที่ไหนก็ไม่อยู่กับเอ็ง”
    
    ดาวเรืองโดนแขวะ ไม่ตอบโต้แต่แสยะยิ้มเยาะ “เดี๋ยวเราจะได้เห็นดีกัน” จินตวัฒน์มองดาวเรืองอย่างจับสังเกต รู้สึกไม่ชอบมาพากลตงิด ๆ
     
    ดาวเรืองให้เพี้ยนไปซื้อน้ำมันปี๊บจากร้านเจ๊กฮวดมาเปลี่ยนน้ำมันปี๊บที่หลวงตาคงเตรียมไว้ทำพิธีอาบน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเอาน้ำมันของหลวงตาคงมาดู ดาวเรืองก็ได้รู้ความลับ ว่าแท้จริงแล้วในปี๊บมีน้ำเปล่าเต็มไปหมด มีน้ำมันลอยหน้าอยู่ด้านบนบาง ๆ เท่านั้น และตอนทำพิธีหลวงตาคงทาปูนแดงไว้ทั่วตัว ช่วยกันความร้อนไว้อีกชั้นหนึ่ง
    
    “น้ำมันเวลามันเดือด ร้อนแค่ไหนเราก็รู้กันอยู่ แต่จุดเดือดของน้ำมันต่ำกว่า และเพราะน้ำมันลอยอยู่บนน้ำ พอน้ำข้างล่างเดือด มันก็จะเดือดพรั่งขึ้นมาข้างบน ทำให้คนคิดว่าน้ำมันเดือด แล้วพอช้อนแต่น้ำมันตรงขอบ ๆ กระทะไปอาบ มันก็ไม่ร้อนเท่าไหร่ แถมหลงตาเอาปูนทาตัวไว้ซะหนาแบบนั้น ความร้อนยิ่งไม่ถูกเนื้อ”
    
    “แต่พี่เรืองให้สลับเอาน้ำมันแท้ ๆ 100% ไปแทนน้ำ 99.99% แบบนี้หลงตาคงก็ได้กลายเป็นปลาไหลต้มเปรตน่ะสิ”
    
    “ทำแบบนี้ไม่ได้นะดาวเรือง”
    
    “ไม่ต้องมาห้ามซะให้ยาก หลักฐานชัดขนาดนี้ ยังไงฉันก็ไม่ปล่อยให้หลงตาต้มตุ๋นชาวบ้านต่อไปแน่”
    
    “ฉันก็รู้ทุกอย่างเหมือนที่เธอรู้ แล้วก็เคยคิดจะทำเหมือนอย่างที่เธอจะทำ แต่มันจะมีประโยชน์อะไร ต่อให้หลวงตาเลิกแสดงอภินิหาร เธอคิดเหรอว่าคนที่งมงายจะเลิกงมงาย เขาก็แค่วิ่งไปหาที่ใหม่เท่านั้นเอง”
    
    “แต่อย่างที่หลวงตาทำอยู่มันเท่ากับ...”
    
    “เวลาที่ท่านรดน้ำมนต์หรือให้ของขลังคน เธอไม่ได้สังเกตเหรอว่า ท่านคอยสอนตลอดว่าต้องทำดี คิดดีด้วย ของดีที่ว่าถึงจะให้คุณ การกระทำทุกอย่างต้องดูที่เจตนา วิธีการของหลวงตาอาจจะไม่เหมือนพระครูจ้อย ไม่เหมือนคนอื่น ๆ แต่จุดหมายปลายทางคือต้องการให้คนทำดี”
    
    ดาวเรืองคิดคล้อยตามคำพูดจินตวัฒน์ รีบไปห้ามไม่ให้หลวงตาคงทำพิธีอาบน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ แม้หลวงตาคงจะรู้ความจริงว่าโดนสับเปลี่ยนน้ำมัน แต่ยังยืนยันจะทำพิธีต่อ เพราะไม่อยากให้พวกชาวบ้านต้องผิดหวัง ดาวเรืองคิดแก้ไขปัญหา ด้วยการให้ลูกศิษย์หลวงตาคง ใส่กากสมุนไพรลงไปในกระทะต้มน้ำมันด้วย จากที่เคยใส่แค่น้ำคั้นสมุนไพร หวังให้กากสมุนไพรที่ลอยหน้าอยู่นั้น ช่วยประทังความร้อนให้หลวงตาคง จินตวัฒน์เฝ้ามองชื่นชมการแก้ปัญหาของดาวเรือง
     
    ก่อนนอนคืนนั้น จู่ ๆ จ่าแม่นก็บุกไปหาจินตวัฒน์ที่บ้านพัก
    
    “คุณปลัดครับ สายทางหมู่จ้อยรายงานว่า ไอ้เรืองจะส่งยาเสพติดลอตใหญ่ หลังจากชกมวยพรุ่งนี้ครับ ทางตำรวจจะแฝงกำลังอยู่ในพวกที่มาเชียร์มวย แล้วตามสกัดจับไม่ให้มันรู้ตัว”
    
    “เอ่อ...แล้ว...จะให้ผมช่วยอะไรมั้ยครับ”
    
    “ในฐานะที่คุณปลัดเป็นผู้ประสานงานที่ต้องดูแลความเรียบร้อยทั้งหมด ผมอยากขอให้คุณปลัดช่วยจับตาไอ้เรืองให้อีกแรง เจอกันพรุ่งนี้นะครับ”
    
    จ่าแม่นตบเท้าพรึ่บ หันหลังแล้วเดินสวนสนามหายไปในความมืด จินตวัฒน์ครุ่นคิด...เคร่งเครียด
     
    ดาวเรืองนัดพบกับกำนันเทิ้มที่กระท่อมที่ใช้เล่นไพ่
    
    “พรุ่งนี้พวกไอ้เสี่ยกำพลมันจะส่งยากันช่วงบ่าย ข้าว่าน่าจะเป็นช่วงที่เอ็งชกมวยนั่นแหละ มันคงคิดว่าตอนนั้นทางสะดวก เพราะคนคงไปอยู่ที่วัดกันหมด”
    
    “กำนัน ฉันขอร้องอย่างนะ อย่าเพิ่งวู่วามทำอะไร รอให้ฉันชกมวยเสร็จแล้วฉันจะรีบไปช่วย”
    
    “ข้าไม่ได้อยากให้เอ็งมาช่วยนะไอ้เรือง เอ็งยังเด็ก งานนี้มันอันตรายเกินไป ที่ข้ามา ก็แค่อยากจะให้เอ็งรู้ว่า ถ้าข้าเป็นอะไรไป ก็เพราะไอ้เสี่ยกำพลคนเดียว”
    
    ดาวเรืองหน้าซีด กำนันเทิ้มยิ้มบาง ๆ ตบไหล่ดาวเรืองเบา ๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป ดาวเรืองมองตามหลังกำนันเทิ้ม ถอนใจเฮือกใจคอไม่ดี
     
    ดาวเรืองเดินกลับมาถึงบ้าน เห็นจินตวัฒน์ยืนรออยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จริงจัง
    
    “กาวก็แกะไปแล้ว ยังจะมาตามติดเป็นฝาแฝดอิน-จันอยู่ได้ ไม่คิดจะหลับจะนอนบ้างรึไงห๊า..คุณปลัด”
    
    “ฉันนอนไม่หลับ”
    
    “แล้วไง ถ่อมานี่คิดว่าฉันช่วยได้รึไง”
    
    “เธอช่วยได้ เลิกเกี่ยวข้องกับยาเสพติด..ดาวเรือง เธอเป็นเด็กฉลาด เธอรู้จักโทษของมัน เธอรู้ดีว่ามันเป็นภัยมืดที่ทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมามากแค่ไหน”
    
    “แล้วไง”
    
    จินตวัฒน์สะอึก เพราะคำว่า “แล้วไง” มันคือการยอมรับกลาย ๆ ว่าดาวเรืองยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจริง
    
    “เอาเป็นว่าฉันขอร้องให้เธอเลิกยุ่งเกี่ยวกับมัน ฉันเตือนเธอได้เท่านี้ เพราะอย่างที่ฉันบอก เธอเป็นเด็กฉลาด...ขาดแต่สามัญสำนึกเท่านั้นล่ะ ที่เธอต้องถามตัวเองว่าเธอยังมีอยู่รึเปล่า”
    
    จินตวัฒน์พูดจบก็ประสานสายตากับดาวเรืองสักครู่ ก่อนจะเดินกลับไป ทิ้งให้หญิงสาวยืนหน้าชา..อึดอัดอื้ออึงอยู่ตรงนั้น
     
    ใกล้ถึงเวลาชกระหว่างวรรณกับดาวเรือง ลูกค้าร้านนวดสมุนไพรของไสวพากันวิ่งออกจากร้านไปซื้อบัตรดูมวยกันหมด เสมอใจเองก็รีบเช็ดไม้เช็ดมือ วิ่งตามพวกลูกค้าไป ที่ร้านผัดไทยของเวียงกับบรรดาเมียทั้งหมดของผู้ใหญ่ผัน เวียงสั่งปิดร้านชั่วคราวเพื่อพากันไปเชียร์วรรณที่ขอบเวที
    
    สมัยเรียนมัธยม จ่าแม่น เคยเป็นตัวแทนโรงเรียนวัดดอนล้อมแรด ไปแข่งชกมวยระดับจังหวัดมาแล้ว เลยได้รับเกียรติให้มาเป็นกรรมการห้ามมวยบนเวที พอระฆังยกแรกดังขึ้น วรรณก็รีบเดินเข้าหาดาวเรือง ตั้งใจจะเข้าคลุกวงในเต็มที่ ดาวเรืองฟุตเวิร์กหลบเป็นพัลวัน บรรยากาศตื่นเต้น วรรณโผเข้าหาดาวเรือง หวังจะกอด ไม่ได้กะชก ปลายหมัดวรรณเฉี่ยวหน้าดาวเรือง ดาวเรืองแกล้งผงะหงายหลังมาชนเชือก แล้วกระดอนลงมาซบพื้นซะโอเวอร์
    
    บานชื่นที่ยืนอยู่ข้างเวทีก็ตกใจมาก “ไอ้เรือง ไหวมั้ยลูก”
    
    ดาวเรืองผุดลุกอย่างทุลักทุเล แต่แอบหันมาขยิบตาเจ้าเล่ห์ใส่แม่เป็นทำนองว่าสบายมาก บานชื่นยิ้มรีบล้วงโพยออกมา เดินเข้าไปในหมู่คนดู รับแทงพนันต่อ
    
    จ่าแม่นให้สัญญาณชกอีกครั้ง วรรณเดินเข้าหาดาวเรืองอย่างระวังมากขึ้น ดาวเรืองแกล้งออกหมัดท้าทายวรรณบ้าง วรรณตรงเข้าหาดาวเรือง ทิ่มหน้าเข้ามากะซุกไซ้เต็มที่ พร้อมกับยื่นแขนไปคว้าตัวดาวเรืองกะกอดให้หนำใจ แต่แค่มือพุ่งออกไปเท่านั้น ดาวเรืองก็แกล้งห่อตัวเหมือนโดนหมัดทะลวงไส้จนจุก ก่อนจะล้มกระเด็นเป็นครั้งที่ 2 วรรณงงเป็นไก่ตาแตก รู้สึกว่ายังไม่ได้โดนตัวดาวเรืองด้วยซ้ำ
    
    หมดยกแรก ดาวเรืองเดินเซตุปัดตุเป๋เข้ามุม บานชื่นแอบยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ลูกสาว แล้วแกล้งทำท่าเจ็บปวดใจ ทนดูสภาพลูกไม่ได้ หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับที่ตา คนดูมารุมล้อมบานชื่นกันใหญ่ ต่างลงเงินแทงเพิ่ม
    
    ตรงที่นั่งประธาน เสี่ยกำพลรับโทรศัพท์ แล้วลุกขึ้นเดินออกไป ผู้กำกับมองตาม คนที่เหลือได้แต่สนใจบนเวที ไม่ได้สังเกตเสี่ยกำพล
    
    เพี้ยนหลบออกไปปัสสาวะ ขณะกำลังจะเดินกลับไปหาดาวเรืองที่เวทีมวย แอบได้ยินเสี่ยกำพลคุยโทรศัพท์นัดให้เลื่อนเวลาส่งของเร็วขึ้น จึงรีบวิ่งไปกระซิบบอกดาวเรืองที่กำลังจะชกยกสองกับวรรณ ดาวเรืองต้องเปลี่ยนแผน เอาชนะวรรณให้ได้ภายในยก 2 หญิงสาวร้องเรียกหาผ้าชุบน้ำมันหม่องจากเพี้ยน หลวงตาคงเห็นดาวเรืองยื่นนวมให้เพี้ยนเอาผ้าชุบน้ำมันหม่องเช็ดนวมให้ก็เข้าใจว่าดาวเรืองเจ้าเล่ห์ขนาดไหน พอระฆังยกสองดังขึ้น ดาวเรืองก็เดินหน้าเข้าหาวรรณ ทั้งเตะทั้งต่อยไม่ยั้ง จนวรรณล้มลงไปกองกับพื้น พอวรรณยืนขึ้นได้ ดาวเรืองก็โถมหมัดเข้าใส่หน้าอย่างเดียว วรรณแสบตาโดนน้ำมันหม่องเข้าไป พออ้าปากจะร้องก็โดนดาวเรืองทิ่มหมัดเข้าที่หน้าอีกครั้ง คราวนี้จงใจขยี้ตาวรรณ วรรณแสบตา ลืมตาไม่ขึ้น
    
    ดาวเรืองซัดอีกหมัด วรรณล้มลงไปนั่งก้นกระแทกพื้น น้ำตาไหลพราก จ่าแม่นเข้าไปถามอาการว่าจะชกต่อมั้ย วรรณพยักหน้า พยายามจะยืนขึ้น ดาวเรืองควงหมัดเสยเข้าปลายคางวรรณ วรรณหน้าหงาย หมดสติกลางอากาศ เวียง บุญปลีก บุญปลอด เมีย 7-8-9 ของผันร้องกรี๊ด วี้ดลั่น จ่าแม่นเข้าไปนับถึงสิบวรรณก็ยังไม่รู้สึกตัว จ่าแม่นจึงเข้าไปชูแขนดาวเรือง หมุนไปรอบ ๆ สังเวียน   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)