ผู้เขียน หัวข้อ: สุภาพบุรุษจุฑาเทพ คุณชายรณพีร์ วันที่ 28 มิถุนายน 2556  (อ่าน 414 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์

 “ถ้าอยากเป็นเพื่อนกับสลักจิต ผมต้องอดทนใช่ไหมครับพี่พีร์”
    
    “ใช่ ความเป็นเพื่อนสำคัญมาก ชีวิตข้างหน้าต้องเจออะไรอีกมากมาย ความเป็นเพื่อน ความไว้ใจ ความเชื่อใจที่เรามีให้กันสำคัญที่สุด ถ้าคุณประณตเห็นว่าสลักจิตเป็นคนสำคัญขนาดนั้นก็ต้องสู้นะครับ พี่ก็จะสู้เหมือนกัน ไม่ยอมแพ้หรอก สู้ ๆ”
    
    รณพีร์กับประณตกำหมัดสู้ ๆ กันสองคน รณพีร์มองเพียงขวัญ เพียงขวัญมองตอบ ใจเย็นลงเรื่อย ๆ อ่อนลงทีละนิด
     
    ตอนที่ 17 
    
    อัทธ์ไปเรียนชกมวยที่ค่ายตามปกติ หลังซ้อมมวยเสร็จ อัทธ์เอ่ยปากชวนจันทน์กระพ้อไปดูหนังด้วยกัน ปุ้มปุ้ยรอจังหวะจันทร์กระพ้อลุกออกไปเก็บจาน โพล่งถามอัทธ์ออกมาตรง ๆ
    
    “ที่มาเรียนมวยนี่ ก็เพราะอยากจีบยายจันทน์มันใช่มั้ย”
    
    “ใช่ครับ”
    
    ปุ้มปุ้ยหัวเราะหึ ๆ ก่อนหยิบมีดปลายแหลมในกระจาดผักขึ้นมา อัทธ์กลืนน้ำลาย หน้าซีด
    
    “เอ้อคือ ผมมาที่นี่ ได้เรียนชกมวย ได้อยู่ใกล้ชิดกับจันทน์เค้า แล้วยังอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ด้วย ไม่คิดว่าจะน่าเกลียดอะไร”
    
    “แว่ว ๆ ว่าจะชวนกันไปไหนนะ เมื่อกี้”
    
    “แค่ไปดูหนังกันเฉย ๆ ครับ แต่ถ้าพ่อไม่อนุญาต ไม่ไปกันก็ได้ครับ”
    
    “ก็ไม่ได้ห้ามอะไร แต่อย่ากลับค่ำนักล่ะ มันดูไม่งามไอ้จันทน์มันเป็นสาวเป็นแส้”
    
    ปุ้มปุ้ยขยับมีดในมือฝานมะเขือจิ้มน้ำพริก อัทธ์แอบถอนหายใจโล่งอก
     
    อดุลย์ให้เสมียนส่งจดหมายบริษัทไปหาเพียงขวัญ บอกให้มาสัมภาษณ์งาน เพียงขวัญตกใจมากเมื่อรู้ว่าบริษัทที่มาสัมภาษณ์งานเป็นบริษัทขายไม้ของอดุลย์
    
    “คุณ...หลอกฉันมา”
    
    “นี่ อนงค์กับอารีย์ เป็นน้องสาวพ่อ เป็นอาของลูก”
    
    “เพิ่งได้เห็นตัวจริงก็วันนี้เอง เป็นดาราใช่ไหมคะ น่าตาน่ารักน่าเอ็นดูจริง ๆ เลยจ้ะ”
    
    เพียงขวัญยกมือไหว้สองสาว อัทธ์เดินมาสมทบ เลื่อนเก้าอี้ให้เพียงขวัญนั่งลงด้วยกัน
    
    “ที่พ่อตามทุกคนมาวันนี้ เพื่อให้รับรู้พินัยกรรมของพ่อ พ่อมีลูกแค่สองคน ทรัพย์สินทั้งหมดของพ่อ จะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน อย่างละครึ่ง ครึ่งหนึ่งเป็นของนายอัทธ์ อีกครึ่งหนึ่งให้เป็นของลูก”
    
    “หนูก็จะได้ถือหุ้นในบริษัทนี้ ครึ่งนึง” อนงค์ยื่นซองเอกสารให้พร้อมสมุดบัญชี
    
    เพียงขวัญไม่รับหันไปบอกอดุลย์ “คุณนึกอยากทำอะไรก็ทำ ไม่เคยสนใจความคิดอ่านของดิฉัน ไม่เคยถามดิฉันสักคำ ดิฉันคงรับไม่ได้”
    
    “ลูกจะเป็นเจ้าของบริษัทนี้ ครึ่งหนึ่งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย”
    
    “หนูจะรับหรือไม่รับมันไว้ ทุกอย่างก็เป็นไปตามพินัยกรรม”
    
    เพียงขวัญกลับไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้นภาฟัง นภาแปลกใจเป็นอย่างมาก
    
    “แล้วน้องสาวคุณอดุลย์เขาไม่ได้ว่าอะไรรึ ที่คุณอดุลย์ทำอย่างงี้”
    
    “เค้าคงคุยกันแล้ว คุณอดุลย์คงรู้สึกผิดและอยากใช้เงินชดเชยทุกอย่างให้เราสองคน”
    
    “แล้วขวัญคิดยังไง”
    
    “ถึงคุณอนงค์จะเมตตากับขวัญ แต่เวลาที่ขวัญไปรับเงิน พวกเสมียนก็มองขวัญูเป็นลูกเมียน้อยอยู่ดี ขวัญูหนีสายตาแบบนี้มาทั้งชีวิต”
    
    “บางครั้งเงินก็ซื้อศักดิ์ศรีคนไม่ได้ เรื่องนี้แม่ไม่ขอออกความเห็น เป็นความรับผิดชอบของคนเป็นพ่อที่มีต่อลูก แม่ไม่มีสิทธิยุ่ง ขวัญค่อย ๆคิดก็แล้วกัน ว่าจะเอายังไง”
     
    รณพีร์ตัดสินใจขอเพียงขวัญแต่งงาน เพียงขวัญตกใจ ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี
    
    “เพียงขวัญ แต่งงานกับผมเถอะนะครับ ผมจะให้ผู้ใหญ่ของผมมาสู่ขอคุณ”
    
    “ผู้ใหญ่ของคุณเขาหมั้นหมายคุณไว้กับวิไลรัมภาแล้ว อย่าลืมสิคะ”
    
    “ชีวิตเป็นของผม ผมมีเงินเดือน มีบ้านพักนายทหาร ผมเลี้ยงดูคุณได้”
    
    “มันไม่ง่ายอย่างงั้นหรอกคะ คุณชายพีร์ ในเมื่อผู้ใหญ่ของคุณไม่เคยยอมรับดิฉันเลย”
    
    “ผมขอยืนยันอีกครั้ง ผมจะแต่งงานกับคุณเท่านั้น ถ้าหม่อมย่าท่านไม่ยอม ผมจะออกจากวังจุฑาเทพ”
    
    “คิดดี ๆ นะคะ การแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคนเท่านั้น”
    
    “ผมไม่สนใจใครทั้งนั้น ขอแค่คุณรักผมก็พอ หรือว่าคุณไม่ได้รักผมเพียงขวัญ”
    
    เพียงขวัญนิ่งอึ้งไป พูดอะไรไม่ออก รณพีร์รวบรัดตัดความคิดว่าเพียงขวัญตอบตกลง จึงรีบกลับไปคุยกับเอียดกับอ่อนว่าจะแต่งงานกับเพียงขวัญ เอียดรู้จักนิสัยรณพีร์ดี และคิดว่ารณพีร์คงจะออกจากวังจุฑาเทพไปแต่งงานกับเพียงขวัญแน่ถ้าถูกขัดขวาง ทางเดียวที่จะทำให้รณพีร์แต่งงานกับวิไลรัมภาได้ มีทางเดียวคือ เพียงขวัญต้องปฏิเสธความรักของรณพีร์เท่านั้น
    
    เอียดแสร้งทำเป็นรับปากจะไปคุยกับผู้ใหญ่ของเพียงขวัญ เพื่อหลอกให้รณพีร์ตายใจ คิดว่าเอียดกับอ่อนจะไปเจรจาสู่ขอเพียงขวัญให้ แต่จริง ๆ แล้วเอียดกับอ่อนให้คนไปตามเพียงขวัญ นภา และบุหลันมาคุยกันที่วังจุฑาเทพ เพราะต้องการให้เพียงขวัญรู้สึกว่าตนเองไม่เหมาะสมจะเป็นสะใภ้จุฑาเทพ
    
    อ่อนเล่าเรื่องสะใภ้จุฑาเทพทั้งสี่ให้เพียงขวัญฟัง เอียดเล่าเรื่องสัญญาระหว่างสองตระกูลให้เพียงขวัญรับรู้ เพียงขวัญ นภาและบุหลันถึงกับอึ้งไป
    
    “วันนั้นเธอร้องไห้ เห็นแล้วก็สงสาร ฉันไม่อยากให้เธอผิดหวัง โดยไม่ได้รับอะไรตอบแทน ฉันอยากให้เธอรับสิ่งนี้ไป” เอียดยื่นซองใส่เงินให้เพียงขวัญ “ฉันพนันได้ ทั้งชีวิตเธอไม่เคยจับเงินก้อนใหญ่ขนาดนี้”
    
    เพียงขวัญวางคืนซองเงินให้โดยไม่ลังเล “ดิฉันคงรับเงินนี้ไม่ได้หรอก”
    
    อ่อนผิดคาดตกใจ “อย่ามาทำเป็นทิฐิหน่อยเลย เงินนี้เปลี่ยนชีวิตเธอได้นะ”
    
    “ดิฉันเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทั้งสองต้องการจะบอกดิฉันแล้ว ดิฉันกับแม่กับน้าขอกราบลาค่ะ”
    
    นภาลุกขึ้น เพียงขวัญและบุหลันลุกตาม เอียดกับอ่อนขัดใจมาก หยิบเงินลุกตามไป
    
    “รับเงินนี่ไป แล้วปฏิเสธชายพีร์ซะ”
    
    “ดิฉันขอยืนยัน ดิฉันไม่ต้องการเงินนี้”
    
    “เธอหวังในเงินก้อนใหญ่กว่าใช่ไหม เธอรู้อยู่แล้ว ยังไงเขาต้องแต่งกับเธอ เธอก็เลยแกล้งไม่รับเงิน เธอจะทำให้ชายพีร์คลั่งเพราะเธออีกใช่ไหม”
    
    บุหลันชักโมโห “เอ๊ะ คุณ พูดไม่รู้เรื่องหรือ เราไม่ใช่เจ้าหญิงเจ้าชายอย่างคุณก็จริง แต่เราก็มีศักดิ์ศรี ไม่ใช่คุณมีเงินแล้วจะสั่งใครก็ได้นะ”
    
    “แต่งงานกับใครสักคน ก็เหมือนแต่งงานกับครอบครัวเขา เจอคนอย่างพวกคุณ อย่างคุณชายเจ้าหญิง เจ็ดแปดคนนั่น ฟังดูไม่เห็นน่าจะมีความสุข ฉันว่ายายขวัญคิดถูกแล้ว”
    
    “ดิฉันรักคุณพีร์ ในฐานะผู้ชายธรรมดาๆ ไม่เคยคิดเรื่องฐานันดร และเงินทองพวกนั้นซักนิด และที่สำคัญที่สุด ดิฉันจะไม่ยอมให้คุณชายรณพีร์ต้องเสื่อมเสียเกียรติ สัจจะ และความกตัญญูเพราะดิฉันเพียงคนเดียว”
    
    “เธอจะทำยังไง แล้วฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่าเธอจะทำได้อย่างที่พูด”
    
    “ดิฉันไม่มียศถาบรรดาศักดิ์อะไร แต่ท่านเชื่อคำพูดของดิฉันได้ด้วยเกียรติของผู้หญิงธรรมดาคนนึงเท่านั้น ดิฉันให้สัญญาค่ะ” เพียงขวัญปวดร้าวเมื่อพูดเรื่องนี้ แต่ก็ยังเข้มแข็ง
     
    รณพีร์รู้จากเอียดและอ่อนว่าเพียงขวัญปฏิเสธการแต่งงานก็ตกใจมาก รีบขับรถไปหาเพียงขวัญที่บ้าน แต่พอไปถึงกลับพบเพียงขวัญกำลังคุยอยู่กับอัทธ์ เพียงขวัญบอกรณพีร์ว่ากำลังจะแต่งงานกับอัทธ์ รณพีร์ตกใจแทบช็อก จันทน์กระพ้อที่แอบได้ยินพลอยตกใจไปด้วย
    
    อัทธ์ไม่รู้ว่าจันทน์กระพ้อแอบมาได้ยินเพียงขวัญบอกรณพีร์ว่าจะแต่งงานกับตน วันรุ่งขึ้น ตอนไปเรียนชกมวยกับปุ้มปุ้ยตามปกติ จึงเอ่ยปากชวนจันทน์กระพ้อไปเที่ยวบ้าน อยากแนะนำให้อดุลย์รู้จักจันทน์กระพ้อ จันทน์กระพ้อรีบปฏิเสธ ก่อนกลับเข้าไปในห้อง เก็บเสื้อผ้าหนีไปต่างจังหวัดทันที
    
    “พ่อครับ จันทน์เค้าเป็นอะไร อยู่ดี ๆ เค้าก็เก็บเสื้อผ้าออกจากบ้าน จะไปจากพระนคร แล้วผมจะไปตามหาเค้าที่ไหนล่ะพ่อ”
    
    ปุ้มปุ้ยเดินเข้ามาโอบไหล่ “ใจเย็น ๆ ไอ้ทิด มันจะไปไหนได้ มันก็ไปได้ที่เดียว”
     
    ตั้งแต่ถูกเพียงขวัญปฏิเสธ รณพีร์ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เอียด อ่อน วิไลรัมภาเดินหน้าจัดเตรียมงานแต่งงาน รณพีร์ไม่ดื้อไม่ปฏิเสธ เอาแต่นิ่งเงียบ ไม่เถียง ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว ธราธร พุฒิภัทร รัชชานนท์เห็นแล้วก็นึกเป็นห่วง
    
    เทวพันธ์คิดมัดมือชก เอาข่าวการแต่งงานไปลงหนังสือพิมพ์ กะให้รณพีร์ดิ้นไม่หลุด เพียงขวัญเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ก็ถึงกับอึ้งไป ตอนที่ 18 
    
    จันทน์กระพ้อหนีไปช่วยป้าปูที่เป็นพี่สาวแท้ ๆ ของปุ้มปุ้ยสอนหนังสือให้กับเด็ก ๆ ที่โรงเรียนบนดอย อัทธ์ตามไปปรับความเข้าใจกับจันทน์กระพ้อ จันทน์กระพ้อเพิ่งได้รู้ความจริงทั้งหมดจากปากของอัทธ์
    
    เทวพันธ์ขอยืมเงินจากธราธร อ้างว่าอยากได้รถคันใหม่มาใช้ขับพาวิไลรัมภาไปแจกการ์ดแต่งงาน ธราธรจำต้องเซ็นเช็คจ่ายเงินให้ไป ทั้งที่รู้ดีว่าคงไม่ได้เงินก้อนนี้คืนแน่ เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เทวพันธ์มาขอยืมเงิน พอไปเล่าให้พุฒิภัทรกับรัชชานนท์ฟัง สองหนุ่มก็พากันหนักใจแทนรณพีร์ที่จะต้องแต่งงานกับวิไลรัมภา
    
    วิไลรัมภาไปเห็นชุดแต่งงานของพิมพรรณที่ร้านตัดเสื้อชื่อดัง เกิดชอบใจ อยากได้ดีไซน์แบบของพิมพรรณไปใช้ในงานแต่งงานของตนเอง ทั้งที่งานของพิมพรรณจัดก่อน แต่วิไลรัมภาดื้อจะขอใช้แบบเสื้อแล้วให้พิมพรรณเปลี่ยนไปใช้แบบอื่นให้ได้ พิมพรรณปฏิเสธไม่ออก จำต้องยอมยกแบบชุดให้วิไลรัมภาไป พอยอดยศรู้เรื่องก็ยิ่งไม่ชอบวิไลรัมภามากขึ้น
     
    สถานการณ์ชายแดนเวียงพูคำเริ่มตึงเครียด เกิดการปะทะกันระหว่างทหารของเจ้าหลวงรังสิมันต์กับกองกำลังกบฏของเจ้าวีระวงศ์ เจ้าหลวงรังสิมันต์เดินทางมาขอความช่วยเหลือจากผู้บัญชาการทหารไทยในฐานะพันธมิตรร่วมรบ ผู้บัญชาการเซ็นเอกสารอนุมัติให้กองกำลังสนับสนุนทางอากาศไปช่วยเหลือเจ้ารังสิมันต์ที่เวียงพูคำ รณพีร์กับยอดยศต้องขึ้นบินด้วย
    
    ระหว่างพัก ยอดยศที่สังเกตเห็นท่าทางผิดปกติของรณพีร์ ตัดสินใจพูดขึ้นมา “นายเป็นยังไงบ้าง หมู่นี้เงียบจนผิดปกติ เพื่อน ๆ เริ่มห่วงกันแล้ว”
    
    “ห่วงอะไรวะ”
    
    “ไอ้พีร์คนเก่า ยิ้ม หัวเราะบ่อยกว่านี้ เอาเถอะน่า ตัดใจจากคุณขวัญได้แล้ว เพื่อตัวแกเองนะเว้ย”
    
    “ความรักทำให้มีความสุขมาก แต่เมื่อผิดหวัง เราก็ทุกข์มากกว่าเดิม มากกว่าตอนที่เรายังไม่รู้จักความรักเสียอีก”
    
    “แกกับคุณเพียงขวัญรักกัน ฉันรู้สึกได้”
    
    “นี่คงเป็นรักครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของฉันแล้ว เขากำลังจะแต่งงาน อย่าไปพูดถึงเขาอีกเลย”
    
    “ฉันเข้าใจว่ะ ตอนที่เขาบอกเลิกฉันเขาก็ทำฉันเจ็บแทบตายเหมือนกัน”
    
    “ไอ้ยอด ฉันขอโทษว่ะ เรื่องที่แกพูดถึงเป็นแค่การแสดง ฉันก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย เพียงขวัญไม่เคยดูถูกใครเขาจงใจดูถูกแก แกล้งทำตัวแย่ ๆ ให้แกกับคุณพิมเห็น วันนั้นฉันก็อยู่ด้วย ฉันกับคุณขวัญก็เลยคิดแผนนี้ขึ้นมา เพราะฉันบอกเขาว่าแกกำลังอกหัก และกำลังจะหมดอนาคต”
    
    “นี่แกรวมหัวกับคุณขวัญหลอกฉันหรือ”
    
    “ตอนนั้นมันไม่มีทางเลือกอื่นนี่หว่า แกเหลวแหลกไม่เลิก เขาเป็นคนต้นคิดว่าให้ใช้ไม้แข็ง ไม่น่าเชื่อ ไม่งั้นแกจะรู้เหรอว่า คุณพิมเขารักแก เป็นห่วงแกแค่ไหน ถึงได้ออกตัวปกป้องแกได้ขนาดนั้น”
    
    “แล้วทำไมแกไม่บอกความจริง”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)