ผู้เขียน หัวข้อ: แค้นเสน่หา วันที่ 28 มิถุนายน 2556  (อ่าน 513 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
แค้นเสน่หา วันที่ 28 มิถุนายน 2556
« เมื่อ: มิถุนายน 28, 2013, 05:13:53 am »

 “หญิงไม่เชื่อ เฟืองไม่ฆ่าตัวตาย เฟืองไม่ทิ้งหญิง เฟืองต้องอยู่เป็นเพื่อนหญิง เฟือง... เฟือง ...ไม่ตายนะเฟือง”
     
    ท่านหญิงแขไขสะบัดตัวออก แล้ววิ่งออกไปทันที
     
    ตอนที่ 3
    
    ท่านหญิงนั่งลงข้าง ๆ ศพเฟืองที่คลุมผ้าอยู่ ท่านชาย หลวงวิเศษ เดช และตำรวจยืนออกันอยู่ จ้องดูท่านหญิง เปิดผ้าคลุมหน้าเฟือง ร้องไห้เสียใจเป็นที่สุด เธอจ้องมองหน้าเฟืองอย่างจดจำ
    
    “เฟือง ไหนบอกว่ารักหญิง ห่วงหญิง แล้วทิ้งหญิงไปทำไม”
    
    ท่านหญิงเอาผ้าพันคอออกมา แล้วพันคอเฟืองไม่ให้เห็นรอยผูกอย่างเรียบร้อย น้ำตาหยดหนึ่ง หยดลงบนผ้าเห็นเป็นรอย ปิดผ้าคลุมศพเฟือง ลุกขึ้นหันมองทุกคนที่ยืนมองอยู่ ก่อนเดินเศร้า ๆ ขึ้นตำหนักไป....ผ่องเอาจดหมายของเฟืองที่ฝากไว้มาให้ท่านหญิงแขไข
    
    “เอ๊ะ ทำไมแกไม่บอกฉัน มาบอกทำไมป่านนี้” ท่านหญิงเอ็ดผ่อง
    
    “พี่เฟืองสั่งเด็ดขาด ให้ถวายจดหมาย ตอนพี่เฟืองไปแล้ว หม่อมฉันคิดว่าพี่เฟืองหมายถึงตอนตำรวจเอาตัวไป”
    
    ท่านหญิงรีบแกะจดหมายออกอ่าน...
    
    “อย่าทรงโศกเศร้า เมื่อหม่อมฉันไปแล้ว หม่อมฉันจากไปแต่ร่าง หัวใจ และวิญญาณยังคอยเฝ้าดูท่านหญิงเสมอ” ท่านหญิงน้ำตาไหลพรากด้วยความว้าเหว่และอาดูรยิ่ง เสียงสะอื้นดังสะท้านสะเทือนไปทั้งห้อง
    
    นับตั้งแต่เฟืองตายไป ท่านหญิงแขไขเอาแต่เศร้าโศกเสียใจมาก และไม่ยอมกินอาหาร จนล้มป่วย
    
    “หญิงแขไข พี่พาหมออรุณมาตรวจ ลุกไหวมั้ย”
    
    ท่านหญิงแขไขลืมตาอย่างลำบาก
    
    “เป็นยังไงบ้าง”
    
    “ไม่เป็นไร...ยังไม่ตาย” ท่านหญิงเสียงแหบแห้ง
    
    ท่านชายสะดุ้ง ฉุกใจ แปลกใจ ทำไมเสียงห้วน ห้าว คล้ายเสียงเฟือง...ระหว่างที่หมอตรวจอาการ ท่านหญิงหันหน้ามาสบตากับท่านชายนิ่ง สายตาท่านหญิงแข็งกร้าวน่ากลัว ผิดกับอากัปกิริยาที่นิ่มนวล ท่านชายแปลกใจและสงสัย สักครู่ก็เปลี่ยนสายตาอ่อนลงเหมือนท่านหญิงแขไขคนเดิม
    
    หลังเสร็จงานเผาศพเฟือง ท่านหญิงแขไข นำโกศใส่กระดูกเฟืองกลับมาที่วัง จะนำไปไว้ในห้องพระ แต่ถูกท่านชายสั่งห้าม
    
    “หวังว่าคงเข้าใจ อัฐิของบรรพบุรุษเจ้านายราชสกุลรังสิยาหลายองค์ จะอยู่ปะปนกับกระดูกของไพร่ในวังอย่างนังเฟืองได้ยังไง ถ้าพระญาติองค์ไหนเกิดทรงทราบ”
    
    “หญิงจะหาที่อยู่ให้เฟืองเดี๋ยวนี้ ประทานอภัยด้วยที่หญิงไม่มีความคิด” ท่านหญิงแขไขไม่พอใจ
    
    “ไม่จำเป็นต้องพูดอย่างนั้น พี่รู้ว่าเธอเข้าใจแต่ประชดประชันทำไม พี่อนุญาตให้จัดงานเผาศพมันอย่างที่เธอต้องการ สวด 7 วัน เกินฐานะคนใช้ พี่เตือนแค่นี้เธอยังไม่พอใจอีกหรือ”
    
    ท่านหญิงไม่สนใจฟัง เดินออกไปเงียบ ๆ ท่านชายอารมณ์ขึ้นทันที
    
    “อะไรดลใจเธอหญิงแขไข ถึงจะเอากระดูกของนังไพร่ร้ายกาจคนนี้มาปะปนกับพระอัฐิของเจ้านาย กระดูกของมันน่ะ น่าเอาไปขุดหลุมฝังให้ลึกที่สุดไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันเลย” ท่านชายตะโกนไล่หลัง
    
    คืนนั้น ไฟที่จุดเทียนดับวูบลงพร้อมลมกระโชกเข้ามาในห้อง ท่านชายไม่มีสะดุ้งสะเทือน จุดเทียนใหม่ แต่ดับวูบลงอีก ท่านชายเริ่มโมโหรู้ว่าเป็นการกระทำของเฟือง
    
    “มึงจะเฮี้ยนแค่ไหน กูก็ไม่กลัว มาสิวะ เก่งจริงมึงออกมาสิวะ นังปิศาจ” ท่านชายท้าทายอย่างไม่กลัว
    
    ท่านหญิงนั่งบนเตียง ผ่องอุ้มคุณชายเดียวเข้ามาหา
    
    “ท่านหญิงจะให้คุณชายอยู่นานสักเท่าใดมังคะ ถ้าอยู่นานหม่อมฉันจะขอประทานอนุญาตไปที่ครัวสักชั่วครู่มังคะ”
    
    ท่านหญิงพยักหน้า แล้วรับคุณชายมาจากผ่อง ท่านหญิงมองเด็กน้อยแล้วยิ้มประหลาด กิริยาท่าทางดูแปลกไป
    
    ผ่องออกมา ปิดประตู ชะงักกึก ได้ยินเสียงหัวเราะเสียงดัง เหมือนกำลังเบิกบานใจ
    
    ฝนตกกระหน่ำ ในตัววังรังสิยามีไฟเปิดไว้เป็นบางห้อง สนวิ่งฝ่าฝนมาจะเข้าตึก มองขึ้นไปที่ห้องท่านหญิงแล้วชะงักกึกเห็นท่านหญิงเหมือนกำลังคุยกับใคร สนขยับตัวเข้าไปใต้หน้าต่างเพ่งมองอีกครั้ง สนตกใจล้มโครม ท่านหญิงเหลียวมามอง แล้วหันมาพูดกับเฟืองที่ยืนท่าอ่อนน้อมอยู่ข้างตัว ตบไหล่เฟืองด้วยแล้วเดินลับไป สนยืนตัวแข็ง ขยี้ตาอยู่ไปมาเพื่อความแน่ใจ
    
    สนได้สติก็รีบวิ่งตรงมาที่ครัวทันที เล่าเรื่องที่เห็นให้พิกุลกับสาลี่ฟังแต่ไม่มีใครเชื่อ..เมื่อท่านชายกลับจากงานพระราชพิธี สนเข้าไปช่วยถอดชุดให้
    
    “ข้าต้องไปคนเดียว งานพระราชพิธีอย่างนี้ท่านหญิงไม่ยอมไปกับข้า ไอ้สนเอ็งรู้มั้ยว่าผู้คนเขามองข้ากันทั้งงาน”
    
    “หม่อมได้ยินท่านหญิงทูลว่า จะไม่เสด็จด้วยตั้งแต่เมื่อวาน”
    
    “เออ...เออ ก็ใช่น่ะสิ แล้วมันเป็นอะไร ฮึ...ไอ้สน ข้าว่าวังนี้อะไร ๆ มันก็วิปริตไปหมด ตั้งแต่อีเฟืองมันตายโหงไปเนี่ย”
    
    “เมื่อคืนพี่เฟืองเขามาหากระหม่อม”
    
    ท่านชายหยุดกึก สายตาเข้มขึ้น
    
    “มาที่ไหน”
    
    “มา...มาที่ห้องบรรทมท่านหญิง”
    
    “ตอนไหน ตอนพายุมาใช่มั้ยวะ เอ็งอย่าพูดอะไรเหลวไหลไอ้สน...เอ็งรู้ได้ไง”
    
    “หม่อมเห็น”
    
    ทันใดนั้นสายลมพัดวูบมาแรง ๆ สนผวาสะดุ้งสุดตัว
    
    “นังเฟือง...มึงเรอะ เออมึงมาเลยกูไม่กลัวมึงหรอก เก่งจริงออกมาให้กูเห็นตัวมึงสิ อีนังไพร่ ตายแล้วไม่อยู่ส่วนตายเรอะมึง”
    
    เหมือนมีเสียงถอนหายใจยาว แผ่ว ๆ ฟังแล้วเสียวสันหลังวาบ
    
    “ท่านชายหม่อม...ท่านชาย เสียงอะไรหม่อม”
    
    “เสียงมันน่ะสินังปิศาจ มึงเก่งจริงอย่าแค่ส่งเสียงสิวะ ออกมาเลย ออกมาให้กูเห็นว่ามึงน่ะเฮี้ยนจริง”
    
    “ท่านชายหม่อม อย่าทรงท้าทายผีนะหม่อม”
    
    “เฮ้ย กูไม่กลัวเว้ย กูอยากให้มันมา ดูซิมันจะทำอะไรกูได้ มันมีชีวิตอยู่มันก็เป็นบ่าวกู ตายไปแล้วมันจะมีปัญญาทำอะไรกู ฮะ...อีนังเฟือง ถ้ามึงขืนมารบกวนคนของกูอีก กูจะให้คนมาจับมึงถ่วงน้ำไม่ให้ผุดไม่ให้เกิดเลยเว้ย”
    
    วิญญาณเฟืองโกรธมากเมื่อได้ยินคำท้าทายของท่านชายรังสิโยภาส สำแดงฤทธิ์ยืนท่วมห้องถึงเพดาน อยู่ด้านหลังท่านชาย หลังชนเพดาน แล้วโน้มตัวแนบกับเพดานห้องก้มลงมาเกือบถึงท่านชายอยู่แล้ว สีหน้าโกรธเกรี้ยว สนเห็นแทบช็อกตาย ชาไปทั้งตัว ขาอ่อนลงไปกองกับพื้น
    
    ค่ำคืนนั้น ท่านหญิงอุ้มชายเดียวเดินมา   ช้า ๆ ตัวแข็ง ๆ หน้านิ่งเย็น กิริยาดูแปลกไปเหมือนไม่ใช่ท่านหญิง ยิ้มเหมือนหุ่นก้มหน้ามองชายเดียว ขณะเดียวกันท่านชายกำลังลงบันได หญิงพูดกับชายเดียวเหมือนเฟืองพูด
    
    “คุณชายขา ท่านพ่ออยู่นั่น...เจ้าพี่คะ”
    
    ท่านชายเหลียวมามองเห็นท่านหญิงจ้องเป๋งลงมา แววตาเยือกเย็นเหี้ยมโหด รอยยิ้มหยามหยันเหมือนนางเฟือง ที่จมกองเลือดตายในวันนั้น ท่านชายช็อกเมื่อมองเห็นเฟืองซ้อนอยู่ในตัวท่านหญิง จึงโบกมือไล่ ท่านหญิงเดินเข้าหาท่านชายหนี ท่านหญิงเดินเข้าหาอีก จนในที่สุด ท่านชายก็เสียหลัก กลิ้งหลุน ๆ ลงบันได ร้องเสียงโหยหวน ท่านหญิงยืนจ้องร่างเฟืองค่อย ๆ เลือนรางไป แล้วท่านหญิงก็กรี๊ดสุดเสียง ผ่องตกใจวิ่งถลาออกมาจากห้องชายเดียว
    
    “ท่านหญิงมังคะ”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)