จากกรณี จา พนม ยีรัมย์ พระเอกนักบู๊ระดับอินเตอร์ มีข่าวกระทบกระทั่งกับ นายทองดี ยีรัมย์ พ่อ ที่มีรายงานข่าวว่าป่วย และอยากพบหน้าจา และระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์ ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. กลับมีกระแสข่าว จากน.ส.ทิพย์กัญญา หรือปลา สุรวิทยานนท์ ผู้จัดการส่วนตัวที่ระบุอ้างว่า ทั้งคู่เข้าไปคุยในรถตู้ได้แค่ไม่นาน ก็เกิดการยื้อกัน คาดว่า การพูดคุย อาจทำให้นายทองดี พ่อไม่พอใจ จนต้องเข้าไปห้าม แต่พ่อจา จะมาทำร้ายร่างกายตนแทน แต่หนีทัน กระทั่งเป็นข่าวดังกล่าว หลังเกิดเหตุ ที่ นางรินทร์ ยีรัมย์ อายุ 62 ปี มารดาของจา พนม เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เกี่ยวกับความปลอดภัยของ จา พนม หลังจากที่ลูกชาย หายไปกลับชายฉกรรจ์ ที่ครอบครัวไม่รู้จัก หลังเกิดเหตุพ่อของจาทำร้ายลูกชาย ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อปางช้างอยุธยา เพื่อขอไปสังเกตการณ์การถ่ายภาพยนตร์ของจา พนม แต่ได้รับการปฏิเสธอ้างว่าไม่มีการถ่ายภาพยนตร์แต่อย่างใด ต่อมาครอบครัวยีรัมย์ ออกมาชี้แจง นำทีมโดยคุณพ่อทองดี ,คุณแม่รินทร์ พี่สาว และพี่ชาย โดย ทั้งหมด เดินทางมาออกรายการไนน์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่สตูดิโอไนน์เอ็นเตอร์เทน แต่เนื่องจากพ่อจา ความดันขึ้นสูง อาการป่วยจากโรคเส้นสมองร้าว 3 เส้นกำเริบ ยังไม่สามารถพูดได้ จนไม่สามารถบันทึกเทป ช่วงแรกของรายการ จึงมีเพียงแม่, พี่สาว และพี่ชาย ขึ้นมาพูด ส่วนช่วงท้ายรายการ พ่อจาอาการดีขึ้นจึงได้พยายามขึ้นมาพูดบ้าง กระทั่งรายการดำเนินจนเสร็จ โดยช่วงแรก แม่ พี่สาว และพี่ชาย เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่า ไม่ได้มีการทำร้ายจา อย่างที่เป็นข่าว แต่เป็นแค่การสั่งสอนจา ลักษณะพ่อสอนลูก เท่านั้น ส่วนที่เห็นเตะจานั้น คงเป็นไปไม่ได้เพราะพ่อป่วย เป็นโรคความดัน เส้นเลือดในสมองร้าว 3 เส้นจะเครียด ไม่ได้ จะทำให้ยกขายกแขนไม่ได้ ทั้งนี้ที่เดินทางมาออกรายการ ไม่ได้ต้องการเงิน เพราะทุกคนในครอบครัว ต่างมีอาชีพ หาเลี้ยงตัวเองได้ แต่แค่อยากให้จา มาพบพ่อ เพราะพ่อป่วยจริงๆ แต่ที่ผ่านมา ไม่เคยมาหาหรือติดต่อมาเลย ด้านแม่รินทร์ กล่าวทั้งน้ำตา ว่า เคยคิดอยู่แล้ว และเคยตัดพ้อให้ลูกสาวฟังว่า ถ้าจา เข้าวงการแล้ว ทำให้แม่ทุกข์ใจแบบนี้ ไปเป็นคนธรรมดาอยู่บ้านนอกคอกนาดีกว่า ครอบครัวจะอบอุ่นและมีความสุขมากกว่า เพราะเมื่อก่อนจาเป็นคนกตัญญู นอบน้อมถ่อมตน แต่ปัจจุบันตั้งแต่แต่งงานก็เฉยชากับพี่น้อง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับจาเหมือนโดนอะไรครอบงำ ไม่ยอมกลับบ้าน และยืนยันว่าครอบครัวไม่เคยมีปัญหาอะไรกับจา จะมีก็เพียง “แวว” น้องสาวของจาที่ไม่ถูกกับบุ้งกี๋ เพราะบุ้งกี๋เปลี่ยนไป ก่อนแต่งงานทำตัวดีซื้อข้าวของส่งมาให้ ทั้งที่ไม่เคยเรียกร้อง แต่หลังแต่งงานไปกลับเปลี่ยนไป คล้ายมีผลประโยชน์แอบแฝง
ด้านพ่อทองดี เปิดเผยว่า คงไม่มีพ่อที่ไหนทำร้ายลูกตัวเอง ตอนคุยกันก็กอดกันปกติ แต่อาจเป็นตอนที่ทักทาย แบบดีดขาไปลักษณะออกมวยแบบที่เคยฝึกกันมา ส่วนที่ไปพบตอนนั้น แค่อยากให้จา กลับบ้าน บ้าง เพื่อไปครอบครู เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยกลับมาครอบครูเลย เลยอยากให้เขากลับมาทำพิธีมากกว่า เพราะทำมาหากินด้านนี้ ไม่นึกว่าจะมีข่าวออกมาอย่างนี้ ทั้งนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่จะออกตามหา จา แล้ว หากคิดว่ายังเป็นลูก หรือยังเห็นเป็นพ่อเป็นแม่อยู่ ก็ให้กลับมา ถ้าไม่ก็ต่างฝ่ายต่างอยู่กันไป แต่ถ้ายังสงสารพ่อ ก็ให้กลับมาครอบครู แต่ถ้าไม่มาก็ไม่รู้จะว่าไง
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง
