ผู้เขียน หัวข้อ: ฟ้ากระจ่างดาว วันที่ 17 มิถุนายน 2556  (อ่าน 355 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
ฟ้ากระจ่างดาว วันที่ 17 มิถุนายน 2556
« เมื่อ: มิถุนายน 17, 2013, 05:20:45 am »

 หลังงานเลี้ยง มัทนา สาระวารีและมีคณาปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนาน ทั้งสามนึกถึงงานที่บก.ไชยวัฒน์มอบหมาย มัทนาถูกให้ไปสัมภาษณ์เขตต์ตวัน อดีตดาราดังที่ลาวงการไปแล้ว ทั้งที่ยังเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาแฟนคลับ สาระวารีถูกให้ไปทำสกู๊ปเรื่องกาสิโนแห่งใหม่ในพื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้าน  ฝั่งตรงข้ามจังหวัดตราด ที่เจ้าพ่อษมาเจ้าของเกาะยานกเป็นผู้ได้รับสัมปทาน ส่วนมีคณาก็ถูกใช้ให้ไปทำงานแฟชั่นโชว์ ทั้งที่ไม่ใช่สายงานของตัวเอง และเธอกำลังเซ็ง ๆ กับเรื่องนี้อยู่ ทุกคนต่างอวยพรให้งานราบรื่น พอมาถึงมีคณา สาระวารีเตรียมจะอวยพร แต่มีคณารีบแทรก
    
    “ขอให้บอกอส่งคนอื่นไปงานแฟชั่นโชว์แทนเราทีเถอะ”
    
    “ไม่มีทางหรอกย่ะ...ฟัง ฟัง...ฉันขอให้เธอได้พบรักในงานก็แล้วกัน” สาระวารีหน้าทะเล้นแกล้งเพื่อน มีคณาตอกกลับทันที หน้าเหยเก “ประสาท  อวยพรอะไรบ้า ๆ ไม่เอา” สาระวารีขำ
    
    “มัทมั่งค่ะ มัทขออวยพรให้งานแฟชั่นการกุศลคราวนี้สนุกประทับใจ  มีประเด็นท้าทายให้
    พี่มี่ทำข่าวอย่างมีความสุขค่ะ”
    
    “สมพรปากทีเถอะจ้ะ” มีคณาฝืนยิ้มให้มัทนา
    
    “อ้ะ ๆ จะเมาน้ำหวานอยู่แล้ว จะได้กลับบ้านซะที  เชียร์”
     
    สามสาวชนแก้วน้ำหวานกันอีกครั้ง มีคณาแอบถอนหายใจเซ็ง ๆ ไม่อยากไปทำข่าวนี้เลย
     
    หญิงสาวหวานแถมสวมแว่นตา ไม่มีใครคิดว่าลุคอย่างมีคณาจะเป็นนักข่าวอาชญากรรมได้ แถมเธอยังเรียนเทควันโดจนได้ดีกรี วันที่เธอ     มาสมัครงานที่สยามสารในตำแหน่งนักข่าวอาชญา กรรม ไม่มีใครคิดว่าเธอจะทำได้ แม้แต่ไชยวัฒน์ แต่มีคณาก็แสดงฝีมือให้ไชยวัฒน์เห็นว่าเธอสามารถทำได้ มีคณาอยากเป็นสื่อกลางช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกเอาเปรียบทางเพศ  อยากให้การค้าประเวณีหมดไปจากโลกนี้ ซึ่งเป็นเพราะปมในวัยเด็กของ มีคณา แต่เธอก็ไม่เคยเปิดเผยเรื่องนี้ให้ใครฟัง มีคณาถึงกับเซ็งเมื่อไชยวัฒน์ใช้ให้เธอไปทำข่าวแฟชั่นโชว์แทนมัทนา ไชยวัฒน์รู้ว่ามีคณาเป็นคนจริงจัง ชอบทำข่าวหนัก ๆ แต่ไชยวัฒน์ก็หว่านล้อมจนมีคณาจำต้องยอม
     
    เสร็จงานดึก มีคณากลับมาบ้านซึ่งเธออาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็ก เป็นบ้านเก่าของป้า บ้านของเธอตั้งอยู่ตรงหัวโค้งหักศอก ติดกับศาลเจ้าใหญ่ ทำให้บ้านมีควันธูปลอยมาอยู่ตลอดเวลา มีคณาเดินมาถึงหน้าบ้านหยิบจดหมายต่าง ๆ ในตู้จดหมายออกมาดู มาสะดุดตรงซองจดหมายสีฟ้าคุ้นเคยที่ส่งมาจากประเทศอังกฤษเป็นประจำทุกเดือน ก่อนจะเปิดประตูและเข้าบ้านไป จดหมายซองสีฟ้า เป็นของป้ามั่นสิน ผู้หลงใหลสีฟ้าเป็นชีวิตจิตใจ จนเธอเคยแอบคิดอยากจะมีผมสีฟ้า ตาสีฟ้า ตัวสีฟ้าบ้าง เผื่อป้าจะหันมารักเธอบ้าง ป้ามั่นสินเขียนจดหมายทุกวันที่ 16 เหมือนเดิมตลอด 5 ปีที่ป้าย้ายไปช่วยเพื่อนสนิทคุมร้านอาหารเล็ก ๆ อยู่ที่อังกฤษ ป้ามั่นสินคือญาติข้างพ่อคนเดียวที่เหลืออยู่ของมีคณา และเป็นคนเดียวที่เลี้ยงมี่มาตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 7 วันดี
     
    ย้อนกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ยายพาแม่บานเช้าของเธอซึ่งอายุไม่ถึง 20 ดี มาโวยวายกับมั่นสิน เพราะบานเช้าท้องกับน้องชายของมั่นสิน แต่น้องชายของมั่นสินปฏิเสธแถมยังหนีหายไปแล้ว มั่นสินไม่รู้จะทำอย่างไรจึงรับปากว่าจะช่วยดูแลบานเช้าและรับผิดชอบเด็กที่จะเกิดมา พอคลอด
    มีคณา บานเช้าก็ถูกยายจับแต่งงานกับผู้ชายในหมู่บ้านเพื่อล้างอายและอีก 2 ปีต่อมา ป้ามั่นสินก็ย้ายไปสอนอีกโรงเรียนหนึ่ง เป็นเวลาเดียวกับแม่บานเช้าคลอดลูกชายคนแรกกับครอบครัวใหม่ ก่อนจะได้ลูกสาวตามมาอีก 2 คนชนิดหัวปีท้ายปี
     
    ป้ามั่นสินเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงออกมานัก และมุ่งมั่นทำงานเป็นอย่างมาก ตอนมีคณาอายุ 7 ขวบ ป้ามั่นสินก็ให้เธอเข้าโรงเรียนใกล้บ้าน และมีคณาจะต้องอยู่ในกรอบตลอดเวลา เพราะป้ามั่นสินเป็นคนดุ ทำให้มีคณาไม่ค่อยสนิทกับป้ามากนัก มีคณาเหมือนอยู่ตัวคนเดียว พอย่างเข้าสู่วัยรุ่น มีคณาเกิดมีปากเสียงกับป้ามั่นสิน โวยวายบอกไม่อยากอยู่กับมั่นสินอีกต่อไป ป้ามั่นสินหน้านิ่งไร้ความรู้สึก  เดินขึ้นบันไดบ้านหลังตรง หน้าเชิด ไปเงียบ ๆ แต่มีคณาสอบเสร็จ ป้าก็เขียนจดหมายถึงแม่บานเช้า และก็ซื้อตั๋วรถทัวร์ให้มีคณากลับไปอยู่กับแม่ทันที
     
    บานเช้าพามีคณามาแนะนำกับครอบครัวใหม่ ทั้งบุญสมพ่อเลี้ยง ธำรง ธิดา และธารา น้องชายและน้องสาว แต่ทุกคนมองมีคณาแบบไม่เป็นมิตรนัก ไม่นานบุญสมก็พาคุณนายสาวใหญ่มาดูตัวมีคณา มีคณารู้ตัวว่ากำลังจะถูกขายก็ไม่ยอม จึงถูกพ่อเลี้ยงและน้องชายต่อว่าไม่มีความกตัญญู เพราะผู้หญิงในหมู่บ้านทุกคนต่างก็ไปขายตัวส่งเงินมาให้ครอบครัวใช้จ่าย แถมยังพูดจาดูถูกบานเช้า แม้จะเสียหน้าต่อหน้าลูกสาวแต่บานเช้าก็ไม่กล้าหือกับบุญสม มีคณายืนยันว่าจะไม่ทำตามที่บุญสมต้อง การแน่ แถมยังว่าบุญสมไม่ยอมทำการทำงาน บุญสมโกรธมากถึงขั้นลงไม่ลงมือ แต่มีคณาสู้สุดใจขาดดิ้น แรงมีคณาสู้ชายไม่ได้จึงถูกบุญสมซ้อมจนหมดสติไป พอบานเช้าเข้ามาช่วยก็ถูกบุญสมตบคว่ำอีกคน
     
    มีคณาฟื้นขึ้นมาก็รู้ว่าแม่บานเช้าก็โดนหนักไม่น้อยไปกว่าเธอ ทั้งที่ร่างกายสะบักสะบอมยังต้องทำงานบ้านทุกอย่าง แม้แต่ธำรงน้องชายคนสุดท้องก็ไม่เคยสงสารแม่ เพราะถูกเลี้ยงมาในสภาพแวดล้อมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ไม่ต้องทำงาน โดยมีผู้หญิงหาเลี้ยงและทำทุกอย่างให้ มีคณาทนไม่ไหวจึงคิดจะหนีออกจากบ้าน บานเช้าเอาเงินมาส่งให้บอกว่า ครูมั่นสินรู้ว่าสักวันต้องมีเหตุการณ์เช่นนี้จึงฝากเงินไว้กับบานเช้า เพื่อให้เป็นค่ารถให้มีคณากลับไปอยู่กับมั่นสิน
    
    มีคณากลับมาบ้านมั่นสินและก้มลงกราบเท้าป้าก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น มั่นสินไม่รู้จะปลอบใจหลานอย่างไร เพราะไม่เคยแสดง ออกอะไรเลย จึงได้แต่บ่นมีคณาเบา ๆ แต่แค่นั้นก็ทำให้มีคณารู้ว่าป้าก็เป็นห่วงเธอไม่น้อย
     
    มีคณาน้ำตาคลอเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต เปิดจดหมายป้ามั่นสินอ่าน ข้อความในจดหมาย สั้น ๆ กระชับ ถามไถ่สารทุกข์ก่อนจะตบท้ายด้วยถ้อยคำเดิม ๆ “หวังว่ามี่คงจะสบายดี ทางนี้ป้าสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง” มีคณาพับจดหมายและเก็บรวมไว้กับจดหมายของป้าฉบับก่อนหน้า ก่อนจะเดินขึ้นห้องนอนเงียบ ๆ ชีวิตของมีคณาเป็นเหมือนเดิมในทุกวัน   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)