ผู้เขียน หัวข้อ: มัจจุราชสีน้ำผึ้ง วันที่ 12 มิถุนายน 2556  (อ่าน 342 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
มัจจุราชสีน้ำผึ้ง วันที่ 12 มิถุนายน 2556
« เมื่อ: มิถุนายน 12, 2013, 08:13:50 am »

 “ความรักมักทำให้คนเราเห็นแก่ตัว”
    
    “แต่คงไม่ใช่สุภาพบุรุษแสนดีอย่างคุณปวุฒิ”
    
    “สุภาพบุรุษ..ยังไงก็เป็นคน มีดีมีชั่วด้วยกันทั้งนั้น”
    
    โลมฤทัยมั่นใจในความคิดของเธอ ลำเพายิ้มรับ...โลมฤทัยขับรถพารจนาไฉนออกมาสำรวจน้ำตก ชิและจันทร์เจ้าตามมาด้วยเพราะไม่ไว้ใจโลมฤทัย เช่นเดียวกับปัทม์จะตามไป แต่เปรมเข้ามาขัดเสียก่อน
    
    “ลูกยังไม่ไว้ใจหนูพบอีกเหรอ”
    
    “เปล่าครับ ผมแค่อยากทำหน้าที่สามีที่ดี ไปช่วยเธอ”
    
    “เฮ้อ...มันน่าน้อยใจนัก ปล่อยให้อยู่กับเมียไม่กี่เดือนก็ลืมแม่ซะแล้ว”
    
    “ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ ผมยังรักคุณแม่” ปัทม์เข้ามาโอบกอดเปรม...
    
    “แม่รู้จ้ะ ปล่อยให้พี่น้องได้อยู่กันตามลำพังเถอะ นาน ๆ เขาจะได้อยู่ด้วยกัน อาจเป็นห้วงเวลาของการปรับความเข้าใจกันก็ได้”
    
    “ครับคุณแม่” ปัทม์ยิ้มรับในเหตุผลของเปรม และคาดหวังว่าโลมฤทัยจะดีขึ้น..
     
    รจนาไฉนเดินสำรวจบริเวณน้ำตกหันมาเห็นโลมฤทัยยืนร้องไห้อยู่ ก็แปลกใจเข้ามาถาม
    
    “พี่เพื่อน พบขอโทษ พี่เพื่อนให้อภัยพบได้มั้ยคะ ที่ผ่านมาพบใจร้ายกับพี่เพื่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่พี่เพื่อนก็ไม่เคยโกรธ พบรู้สึกแย่มาก พบเกลียดตัวเอง ไม่อยากให้อภัยตัวเองเลย”
    
    “ไม่เอาน่า อย่าทำอย่างนี้เลย ยังไงพบก็เป็นน้องของพี่...พี่ดีใจที่น้องพบคิดได้ มันทำให้ความเชื่อของพี่เป็นจริง...พี่เชื่อเสมอว่า ความดีสามารถชนะทุกสิ่ง และวันนี้น้องพบก็ได้พิสูจน์สัจธรรมในข้อนี้แล้ว”
    
    “ใช่ค่ะ พบพ่ายแพ้ต่อความดีของพี่เพื่อนอย่างหมดใจ”
     
    โลมฤทัยเข้าไปสวมกอดรจนาไฉน แอบยิ้มพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เธอวางไว้ โลมฤทัยทำทีเป็นค้นหากล้องถ่ายรูป
    
    “เอ...พบเอากล้องไว้ตรงไหน พบจะถ่ายรูปให้คุณพ่อดู...แย่จัง พบลืมกล้องไว้ในรถ”
    
    “พี่ขึ้นไปเอามาให้”
    
    “ไม่เป็นไรจ้ะ พี่เพื่อนรอพบที่นี่ดีกว่า...เดี๋ยวพบมาค่ะ”  โลมฤทัยยิ้มพอใจเดินออกไป โทรศัพท์หาปวุฒิ แต่ไม่มีคนรับสาย เธอรู้สึกผิดหวัง..จะหันกลับลงไปยังน้ำตก..พลันสายตาเหลือบไปเห็นปวุฒิยืนอยู่ โลมฤทัยยิ้มอย่างพอใจ  
    “ฉันคิดแล้วว่าคุณต้องมา...ขอบคุณนะคะ ที่ทำให้ความเชื่อของฉันเป็นจริง ไม่มีใครดำสนิทหรือขาวบริสุทธิ์”
    
    ปวุฒิไม่ตอบ เดินไปตามทางลงไปยังน้ำ ตก...รจนาไฉนแปลกใจเมื่อปวุฒิเดินมาหา
     
    “ปวุฒิ คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่มั้ยคะที่คุณมาที่นี่”
    
    “ผมอยากคุยกับคุณเรื่องที่เราคุยค้างกันอยู่”
    
    “ฉันบอกคุณแล้วไงคะอย่าทำให้ฉันลำบากใจอีกเลย”
    
    รจนาไฉนจะเดินเลี่ยงออกไป ปวุฒิคว้ามือไว้...
    
    “คุณคิดยังไงกับผม”
    
    “คุณรู้คำตอบนั้นดีแล้วไม่ใช่เหรอคะ”
    
    “ผมรู้ว่าเวลาเปลี่ยนใจคนอาจจะเปลี่ยน แต่ไม่ใช่ผม ความรู้สึกที่ผมมีต่อคุณมันเหมือนเดิม และมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ยิ่งเราห่างกัน ความรักและความหวงแหนกลับเพิ่มทวีคูณ ผมรักคุณ”
    
    ปวุฒิดึงร่างรจนาไฉนเข้ามาโอบกอดไว้แน่น...รจนาไฉนดันตัวปวุฒิออก...
    
    “ฉันถือว่าสิ่งที่คุณทำเมื่อกี้เป็นเพราะคุณขาดสติยั้งคิด และจะเป็นกอดสุดท้ายที่ฉันให้คุณได้”
    
    รจนาไฉนจะเดินกลับไป ฝนตกลงมาห่าใหญ่...ปวุฒิเข้ามาดึงมือเธอเข้ามาพาหาที่หลบฝน...ปัทม์ร้อนรนทนรอต่อไปไม่ไหวจะออกไปตามรจนาไฉน ลำเพารู้ทันเข้ามาดักไว้..
     
    “คุณปัทม์จะไปไหนคะ”
    
    “ผมจะไปตามรจนาไฉนกับคุณโลมฤทัยครับ”
    
    “เอ่อ..แม่ว่าฝนตกอย่างนี้ เขาคงเดินทางกลับมาแล้ว ไม่ต้องไปตามหรอกค่ะ”
    
    “ดิฉันว่าไปรับเถอะค่ะ...ฝนตกหนักอย่างนี้ ถนนหนทางลำบาก”
     
    ปัทม์รับร่มจากเปรมจะออกไป แต่แล้วโลมฤทัยวิ่งเข้ามา ในสภาพเปียกปอน...ปัทม์มองหารจนาไฉน
    
    “เธอกลับมาแล้วเหรอ...รจนาไฉนล่ะ เกิดอะไรขึ้น รจนาไฉนอยู่ไหน”
    
    “พบขอคุยกับคุณปัทม์เป็นการส่วนตัวค่ะ”
    
    ลำเพาแอบยิ้มพอใจ รู้ว่าโลมฤทัยทำตามแผนได้สำเร็จ...เข้ามาในห้องปัทม์รุกถามโลมฤทัยทันที
    
    “ว่าไง คุณเพื่อนอยู่ที่ไหน ทำไมไม่กลับมาด้วย”
    
    “พบไม่อยากพูดเลย มันเหมือนการใส่ร้ายพี่สาวตัวเอง”
    
    “มีอะไรว่ามา”
    
    “หลังจากที่เราเดินดูน้ำตก พี่เพื่อนบอกว่ามีธุระ ขอให้พบกลับมาก่อน แต่พบเป็นห่วงพี่เพื่อน พบย้อนกลับไปรับ แต่พบเห็นพี่เพื่อนนัดเจอคุณปวุฒิ”
    
    “พอเถอะ เลิกใส่ร้ายพี่สาวที่รักและหวังดีกับเธอได้แล้ว” ปัทม์ไม่เชื่อ  “พบเข้าใจค่ะว่าพบเป็นคนที่แย่ในสายตาคุณปัทม์ คุณปัทม์ไม่มีความเชื่อถือในตัวพบ...แต่คุณปัทม์ควรจะเชื่อในสิ่งนี้...”
     
    โลมฤทัยยื่นโทรศัพท์ให้ปัทม์ดูคลิปในมือถือ...ปัทม์โกรธจัด โยนโทรศัพท์ทิ้ง แล้วเดินออกไป ลำเพาเข้ามา
    
    “ลูกพบเกิดอะไรขึ้น”
    
    “โศกนาฏกรรมของนังเพื่อนค่ะ”
     
    โลมฤทัยและลำเพายิ้มพอใจที่ทุกอย่างเดินไปตามเกม...ปัทม์ขับรถฝ่าสายฝนออกไปด้วยด้วยความเร็ว เพื่อไปหารจนาไฉน พลันหวนคิดถึงคำพูดของปวุฒิที่เคยบอกว่า อีกไม่นานเขาจะแย่งของรักของเขาคืน ทำให้ปัทม์เครียดและคิดมาก
    
    ด้านปวุฒิพารจนาไฉนมาหลบฝนที่ในกระท่อม เขาหายออกไปและกลับมาพร้อมกับมงกุฎดอกไม้
     
    “คุณจำมงกุฎดอกไม้ได้ไหม”รจนาไฉนพยักหน้ารับ ปวุฒิสวมมงกุฎดอกไม้ให้เธอ
    
    “คุณคือดวงใจของผม”
     
    ปวุฒิยิ้ม จะเข้าไปสวมกอด แต่รจนาไฉนถอยห่าง...
    
    “อย่าพูดถึงมันอีกเลยค่ะ อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ขอให้ลืมมัน”
    
    “จะให้ลืมคนที่ผมรัก ผมทำไม่ได้...หรือคุณลืมไปแล้วว่าคุณก็เคยรักผม”
    
    “ฉันไม่เคยลืมค่ะ ฉันยังจดจำความรู้สึกที่ดีที่คุณมีต่อฉันได้เสมอ แต่สำหรับความรักในวันนี้..มันหมดแล้ว ฉันขอโทษนะคะที่พูดตรง ๆ ต่อให้วันนี้คุณปัทม์ทิ้งฉันไป ฉันก็รักคุณไม่ได้อีกแล้ว...ยอมรับความจริงเถอะค่ะ ไม่เช่นนั้นความรู้สึกที่ดีมันจะเลือนหายไป จนไม่เหลือแม้แต่ความเป็นเพื่อนให้แก่กัน...ถ้าคุณรักฉันจริง ขอให้คุณรักษาพื้นที่ความเป็นเพื่อนของเราไว้”
    
    รจนาไฉนยิ้มให้ปวุฒิ แล้วจะเดินออกไปจากกระท่อม ปวุฒิตกใจรีบเข้ามากอดจากทางด้านหลัง
    
    “อย่าทิ้งผมไป อย่าทิ้งคนที่รักคุณจนหมดหัวใจ”
    
    “อย่าทำอย่างนี้ค่ะ ฉันขอร้อง”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)