ผู้เขียน หัวข้อ: มัจจุราชสีน้ำผึ้ง วันที่ 8 มิถุนายน 2556  (อ่าน 365 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
มัจจุราชสีน้ำผึ้ง วันที่ 8 มิถุนายน 2556
« เมื่อ: มิถุนายน 08, 2013, 04:19:47 am »

 “คุณเจ็บ ผมเจ็บ เราเสมอกัน”พ่อเลี้ยงพูนทวียิ้มขมขื่น
    
    “แต่เกมการแข่งขัน ยังไงก็ต้องมีผู้ชนะ”
    
    “และผู้แพ้”
    
    “ตราบใดที่เกมยังดำเนินอยู่ ผมก็มีสิทธิจะกลับเป็นผู้ชนะได้เสมอ”
    
    “สุดยอดเลยครับ สารวัตรเลือดนักสู้” พ่อเลี้ยงพูนทวียกนิ้วให้
    
    “จบเรื่องรึยัง ผมต้องทำงาน”
    
    “ไม่ต้องไล่ครับ...ภารกิจของผมเสร็จสิ้นแล้ว...ลาล่ะครับ นักสู้คงไม่ชอบทานสตรอเบอรี่”
     
    พูนทวีหยิบกระเช้าสตรอเบอรี่คืน เดินออกไป...ปวุฒินั่งลง หยิบภาพรจนาไฉนออกมามองอย่างเศร้าใจ
     
    รจนาไฉนยืนที่ระเบียงห้องนอน...รู้สึกละอายใจที่ผิดคำสัญญาโลมฤทัย ปัทม์เข้ามาโอบกอดจากด้านหลัง...
    
    “ตื่นแล้วเหรอคะ”
    
    “จะให้ฉันนอนหลับได้ยังไง ในเมื่อภรรยามีเรื่องกังวลใจ”
    
    “คุณรู้”  “ผู้หญิงอ่อนโยนอย่างเธอปกปิดความรู้สึกไม่ได้หรอก มีปัญหาอะไรบอกฉันเถอะ ฉันพร้อมจะช่วยเหลือเธอเสมอ”
    
    “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
    
    ปัทม์มองหน้ารจนาไฉน ไม่เชื่อคำพูด...รจนาไฉนจำต้องสร้างเรื่องปิดบัง..
    
    “ฉันกังวลใจว่า...สักวันหนึ่งถ้าฉันตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอหน้าคุณ ฉันคง...”
    
    “นั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องทุกข์ใจเลย เพราะฉันจะอยู่เคียงข้างเธอทั้งยามหลับและตื่น”
     
    ปัทม์ยิ้มให้รจนาไฉน จุมพิตที่หน้าผากเธอเบา ๆ
    
    “กี่โมงแล้วครับ”
    
    “ใกล้สิบเอ็ดโมงแล้วค่ะ”
    
    “แขกคงมาถึงแล้ว”
     
    รจนาไฉนแปลกใจว่า แขกที่ว่าคือใคร ปัทม์จับมือรจนาไฉนเดินไปที่ห้องรับรอง เห็นนพรัตน์นอนอยู่บนเตียง โดยมีพยาบาลดูแลอยู่ใกล้ ๆ ก็วิ่งเข้ามากอดด้วยความดีใจ
    
    “คุณพ่อขึ้นมาที่นี่ได้ยังไงคะ”
    
    นพรัตน์มองไปยังปัทม์
    
    “อากาศที่บริสุทธิ์ สิ่งแวดล้อมที่ดีน่าจะช่วยให้คุณพ่อมีสุขภาพแข็งแรงขึ้น”
    
    “แต่คุณพ่อต้องฟอกไตทุกอาทิตย์”
    
    “ผมประสานงานกับคุณหมอโรงพยาบาลประจำจังหวัดไว้แล้ว อยู่ที่นี่ท่านจะมีพยาบาลส่วนตัวดูแล...หมดความกังวลใจได้รึยัง...พักผ่อนให้สบายนะครับ ที่นี่คือบ้านของคุณพ่อ”
    
    ปัทม์ขอตัวไปทำงานต่อ รจนาไฉนมองตามแล้วยิ้มอย่างสุขใจที่ปัทม์ให้ความเคารพและช่วยเหลือนพรัตน์
    
    “พ่อมีความสุขที่สุด ไม่ใช่เพราะได้รับการรักษาหรือดูแลเป็นอย่างดี แต่เพราะพ่อหมดห่วงที่เห็นลูกได้คู่ครองที่รัก...และเป็นคนดีอย่างพ่อเลี้ยงปัทม์”
    
    “ค่ะ...เขาเป็นเจ้านายที่ดีของลูกน้อง...และเป็นสามีที่ดีค่ะ”
    
    “ลูกต้องรักและดูแลคุณปัทม์ให้ดีนะ”
     
    เวลาถัดมา ปัทม์เดินตามรจนาไฉนที่จูงมือเขามาที่สุสานด้วยความแปลกใจ ว่าเธอจะทำอะไร
    
    “คุณปัทม์...ฉันขอบคุณมากนะคะ”
    
    “พอเถอะ ไม่ต้องขอบคุณฉันอีกแล้ว ไม่งั้นฉันคงต้องฟังคำขอบคุณจากเธอทั้งชีวิต”
    
    รจนาไฉนยิ้มแอบหมั่นไส้ ที่ปัทม์ได้ทีโอ้อวดน้ำใจของเขา
    
    “คุณพาคุณพ่อมาอยู่ที่นี่ ทำให้ฉันหมดความกังวลใจในชีวิตแล้ว ถึงเวลาที่ฉันจะช่วยปลดปล่อยคุณออกจากความทุกข์บ้าง”
     
    “เธอพาฉันมาที่นี่ทำไม”
    
    “ถึงเวลาที่คุณควรอโหสิกรรมให้คุณแสงจันทร์ได้แล้วค่ะ การให้อภัยจะช่วยปลดพันธนาการ ทำให้วิญญาณของเธอหลุดพ้นจากความเกลียดชัง...เชื่อฉันเถอะ ไม่มีใครเกิดมาอยากเป็นคนเลวหรอกค่ะ ทุกคนมีเหตุผลในการกระทำเสมอ สิ่งที่เธอทำไปอาจไม่ถูกใจคุณ เธอก็เป็นมนุษย์คนนึงที่มี รัก โลภ โกรธหลง”
    
    “แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้ เธอมีแต่ความโลภ เธอไม่เคยมีความรักให้ใคร”ปัทม์ยังรับไม่ได้  “ยังไงเธอก็จากไปแล้ว...อย่าเก็บเธอไว้ด้วยความเกลียดชังอีกเลยเพื่อเธอ...และเพื่อตัวคุณเอง”
    
    “เพื่อฉันอย่างนั้นเหรอ” ปัทม์หันมามองรจนาไฉน
    
    “คุณจะก้าวไปหาความสุขในวันข้างหน้าได้ยังไง...ถ้าคุณยังแบกความทุกข์ใจไว้อย่างนี้ ความอาฆาตแค้นไม่เคยสร้างความสุขใจให้ใคร...แต่ความรักและการให้อภัย....จะทำให้โลกนี้มีแต่สันติสุข”
     
    รจนาไฉนยืนมอง รอลุ้นว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร...ปัทม์เดินตรงไปยังสุสานแสงจันทร์
     
    “มันยากที่ฉันจะอภัยให้เธอ แต่ความรักของผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ...ยิ่งใหญ่พอที่จะลบล้างอคติในใจฉันให้หมดสิ้นไปได้ ขอให้เธอไปสู่สุคติ ฉันอโหสิกรรมให้เธอ...แสงจันทร์”  รจนาไฉนถือพานใส่กลีบดอกไม้ มายื่นให้ ปัทม์กำกลีบดอกไม้ แล้วโปรยไปยังสุสานของแสง จันทร์...จากนั้นก็ควบม้าพารจนาไฉนไปปิกนิกที่น้ำตก รจนาไฉนยืนตะลึงมองอย่างหลงใหล ปัทม์แกล้งจับตัวรจนาไฉนจะผลักตกน้ำ
    
    “ไม่เอานะคะ ฉันไม่อยากเปียก”
    
    “ฉันเตรียมผ้ามาเปลี่ยนให้แล้ว”
    
    “น้ำเย็น...ฉันจะหนาวตาย”
    
    “มีฉันอยู่ทั้งคน ชีวิตเธอจะไม่หนาวอีกแล้ว ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ...”
     
    ปัทม์สวมกอดรจนาไฉนไว้...รจนาไฉนจะแกล้งเอาคืนทำให้ทั้งคู่ตกลงไปในน้ำ ปัทม์ร้องเสียงหลง
    
    “เฮ้ย...เธอ”
    
    “คุณพูดเองนี่คะ เราจะอยู่เคียงข้างกัน...” รจนาไฉนวักน้ำใส่ปัทม์
    
    “ฉันหนาวนะ...ขอกอดหน่อย”  ปัทม์จะเข้าไปกอดรจนาไฉน รจนาไฉนว่ายน้ำหนีไป...ปัทม์ดำน้ำมาโผล่มาด้านหลังรจนาไฉน เธอตกใจหันกลับ ทำให้หน้าทั้งสองชิดกัน...ปัทม์ทำซึ้งจะจูบ รจนาไฉนเอามือมาดักไว้สีหน้าผิดปกติ...
    
    “คุณเป็นอะไร”
    
    “ปลาตอดเท้า” ปัทม์ยิ้มให้รจนาไฉน...ทำหน้าจั๊กกะเดียม
    
    “คุณโดนด้วยเหรอ”
     
    แล้วสองหนุ่มสาวก็ยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุข...หลังเปลี่ยนเสื้อผ้า รจนาไฉนนวดให้ ปัทม์ร้องโวยวาย
    
    “ไม่เอา...เดี๋ยวเธอแกล้งนวดกดจุดทำร้ายฉัน”
    
    “กลัวฉันด้วยเหรอคะ”
    
    “กลัวสิ ฉันแกล้งเธอไว้มากนี่”  “ใช่...ฉันเจ็บแค้นมาก อย่างนี้ต้องเอาคืน ฉันจะกดจุดให้กลายเป็นอัมพาตอัมพฤกษ์ไปเลย”
     
    รจนาไฉนแกล้งขู่ ทำท่าจะนวดอย่างแรง ...ปัทม์ไม่ขัดขืนบอกพร้อมยอมรับผิดที่ก่อไว้ รจนาไฉนยิ้มลงมือนวด
    
    “ทำไมเธอถึงปล่อยให้ผู้ร้ายลอยนวล”
    
    “การแก้แค้นมีแต่จะทำให้เกิดความสูญเสีย ทุกอย่างหยุดได้ด้วยตัวเรา”
    
    “โดยที่เธอไม่คิดว่าศัตรูจะหาโอกาสมา กลั่นแกล้งเธออีก”
    
    “ฉันเชื่อว่าความรัก และความดีจะเปลี่ยนใจคนได้...ตราบใดที่มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างให้มีหัวใจ ไม่มีมนุษย์คนไหน...จะฝืนต้านทานความรักหรือความดีได้”
    
    “ถ้าฉันหลงทางมาเจอเธอที่กลางป่า...ฉันคงคิดว่าเธอเป็นนางไม้ผู้อารี”
    
    รจนาไฉนแกล้งปัทม์ นวดกดอย่างแรง...
    
    “โอ๊ย ๆ เจ็บ...ไหงนางไม้กลายร่างเป็นนางมารไปได้”
    
    “ฉันแค่อยากยืนยัน...ว่าฉันเป็นมนุษย์ ที่มีความโกรธ” ปัทม์จับมือรจนาไฉนที่กำลังนวด แล้วโน้มตัวจูบรจนาไฉนด้วยความรัก...
     
    ทั้งสองกลับถึงบ้านพบโลมฤทัย เธอค่อนขอดเชิงน้อยใจว่าปัทม์ใจดำ รับนพรัตน์มาโดยไม่บอกเลยสักคำ รจนาไฉนดีใจถามน้องสาวว่ามาได้ยังไง   “พบเป็นห่วงคุณพ่อนี่คะ ปกติพบต้องคอยป้อนยาป้อนอาหารให้คุณพ่อ พอรู้ข่าวว่าคุณพ่อหายไป พบใจหายหมดเลย”
    
    “ไม่ยักรู้ว่าคุณคอยดูแลท่านด้วย เอาเป็นว่า...ผมขอโทษ ที่ไม่ได้บอกคุณ”
    
    “พี่เพื่อนอย่าลืมทำโทษพี่เขยด้วยนะคะ ไม่งั้นพบไม่ยอมด้วย”
    
    “น้องพบมาเยี่ยมคุณพ่อกี่วันจ๊ะ”
    
    “เจอหน้าไม่ทันไร พี่เพื่อนหาเรื่องไล่พบซะแล้ว พบเสียใจนะคะ”
    
    “พี่ไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้น พี่แค่...”
    
    “พบแหย่เล่นค่ะ...พบตั้งใจมาดูแลคุณพ่อ จนกว่าคุณพ่อจะหาย ตายจริง พบยังไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของบ้านเลย ไม่ทราบว่าคุณปัทม์...”
    
    “บ้านนี้เป็นบ้านของคุณเพื่อน ในฐานะน้องสาวของคุณเพื่อน...คุณโลมฤทัยจะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ ผมขอตัวก่อนนะครับ”
    
    “พี่ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
     
    ปัทม์โอบกอดพารจนาไฉนเดินไปที่ห้อง โลมฤทัยมองตามอย่างไม่พอใจที่เห็นทั้งสองรักกันมาก...หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว รจนาไฉนขอร้องปัทม์ให้ช่วยยอมรับลำเพากับโลมฤทัยเป็นคนในครอบครัว ก่อนจะไปพบกับลำเพาและโลมฤทัยที่ห้อง   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)