กว่าจะได้คิวสัมภาษณ์ซุป’ตาร์ฮาตลอด อย่าง “โก๊ะตี๋ อารามบอย” หรือ “เจริญพร อ่อนละม้าย” ก็ร้องเพลงรอไปหลายรอบ สุดท้ายแจ๊กพอตมาลงที่รายการ “ครัวคุณต๋อย” เนื่องจากในวันนั้นโก๊ะตี๋มีคิวอัดเทปตลอดทั้งวัน ณ โรงถ่ายกันตนา แถวเหม่งจ๋าย ซึ่งพอจะปลีกเวลา (ทอง) ให้เราได้แบบสบาย ๆ แถมได้กินของอร่อย ๆ ที่ทางรายการเชิญชวนให้ลิ้มชิมรสอีกด้วย
ยังไม่ทันเริ่มงาน “โก๊ะตี๋” ที่แสนดี เดินมาคุยกับเราก่อนซะงั้น.. เราก็เลยคว้ามือโก๊ะ พร้อมหามุมสงบเงียบ มานั่งเมาท์แบบสองต่อสอง คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ตอนนี้กดรีโมตทีวีไปช่องไหน มักจะเห็นหน้า “โก๊ะตี๋” อยู่บ่อย ๆ รับงานล้นมือขนาดนี้ เพราะงานวิ่งเข้ามาชน หรือถือคติ “น้ำขึ้นให้รีบตัก” เหมือนนักแสดงบางคน “โก๊ะตี๋” วัย 33 ปี คุยให้ฟังว่า “ถ้าเป็นประเด็นน้ำขึ้นให้รีบตัก หนูว่าตอนนี้น้ำก็คงท่วมบ้านหนูไปแล้ว เพราะมันขึ้นมาหลายปีแล้ว เพียงแต่ว่าสิ่งที่หนูทำลงไปทุกวันนี้ หลาย ๆ งานหรือรับเยอะ หนึ่ง..อาจจะมาจากด้วยปัจจัยว่า ผู้ใหญ่เมตตา แล้วบางครั้งบางทีเราปฏิเสธไม่ได้ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะมีพระเดชพระคุณอยู่ในวงการนี้ บางทีติดที่เขาเคยช่วยเหลือเรามา เกื้อหนุนจุนเจือมา”
“มา ณ วันหนึ่ง เราพอที่จะมีเหมือนเรียกเรตติ้งอะไรให้เขาได้บ้าง เราก็ต้องทำ หรือว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันตรงคอนเซปต์กับตัวเรา เราก็ต้องไปให้เขา อย่างที่บอกเขามีพระเดชพระคุณ สอง..หนูถือว่าหนูออกไปทำงานนอกบ้านแล้วมีความสุข มนุษย์มันต้องหาความสุขของตัวเองให้เจอ หนูรู้สึกว่าความสุขของหนูคือการทำงาน คือการทำให้ทุกคนมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ การได้ไปพบปะพี่ป้าน้าอา พี่น้อง แม่บ้าน คนทำกับข้าว หนูรู้สึกว่ามันเหมือนเป็นญาติมิตร แล้วยิ่งเราทำรายการมานาน ๆ หลาย ๆ ปี เหมือนครอบครัวเดียวกัน พอเราได้ออกไปอย่างนั้น เหมือนได้ไปหาความสุขนอกบ้าน
จริง ๆ แล้วในบ้านหนูก็มีความสุข เพียงแต่ว่าบางครั้งบางทีไม่เหมือนกับอยู่ข้างนอก”
ดูเหมือน “โก๊ะ” เป็นคนขี้เกรงใจ พูดภาษาชาวบ้านคือ ปฏิเสธใครไม่เป็น เคยปฏิเสธงานที่ติดต่อมาบ้างมั้ย? แล้วมีวิธีพูดยังไง “เคยปฏิเสธครับ หนูจะบอกพี่ หนูไม่สะดวก มันไม่ว่าง บางทีงานที่เขาติดต่อมา มันไม่ใช่เรา ตอนนี้ที่ทำอยู่มี 7 รายการแล้วก็มีละครด้วย แต่พอปฏิเสธไปแล้วหนูก็จะบอกว่าเอาไว้โอกาสหน้าแล้วกัน ถ้าน้องว่างน้องไปให้อยู่แล้ว มันจึงมีผลต่อเนื่องมาทำให้หนูไม่ว่าง พอว่างปุ๊บ โทรฯ มาได้หรือยังโก๊ะ อ๋อ..โอเค ๆ ได้แล้วพี่ ก็ได้ไปทำงานกับเขา มันเป็นอย่างนี้”
ธุรกิจข้าวมันไก่ ได้ยินว่าปิดตัวไปหลายสาขาแล้ว จริงหรือเปล่า? “ใช่ครับ อันนี้หนูก็ยอมรับตรง ๆ ว่า ธุรกิจมันก็มีประสบความสำเร็จบ้างเจ๊งบ้าง ตอนนี้ถ้าเป็นกะทิก็อยากให้มันงวด อยากให้มันเข้มข้น สาขาที่ยังเปิดอยู่ตอนนี้ ก็มีอาร์ซีเอ แล้วก็รามอินทรา ทางที่จะไปแฟชั่นไอส์แลนด์ และที่เมืองทองธานี ตึก ซี 3” รู้สึกท้อมั้ย? “ไม่ท้อครับ เพราะอย่างอาร์ซีเอ ก็ยังสร้างกำไรให้เรา มันก็ยังเป็นเส้นเลือดใหญ่ของครอบครัว เป็นเส้นเลือดใหญ่ของพี่น้อง แต่หนูรู้สึกว่างานบริการมันยาก ปัญหามันเยอะ หนึ่ง..ผู้จัดการร้าน ไม่ดูแลร้าน สอง..มีการคอร์รัปชั่นบางขั้นตอนบางส่วน สาม..ที่จอดรถไม่มี พอโดนใบสั่งเราก็ต้องไปเคลียร์ให้ลูกค้าที่ สน. สี่..ค่าเช่าแพง”
ฟังแล้วเหนื่อยแทน.. ถ้าโก๊ะจะรับแต่งานบันเทิง ไม่ต้องทำธุรกิจได้มั้ย “ตัวเองอยู่ได้อยู่แล้ว แต่ที่ทำเพราะครอบครัว ไม่งั้นหนูต้องแบกภาระเอาเงินแสดงหนังแสดงละครมาจุนเจือเขา คือให้ทำงานจะได้มีรายได้ คือเราขุดบ่อแล้วก็ปล่อยปลา ทำให้เขาจับปลากินกันเอง ทุกวันนี้ผมดูแลคนในครอบครัว เฉพาะญาติพี่น้องลูกหลานเหลนโหลน 30 กว่าชีวิต หนูเป็นเสาหลักของพวกเขา ก็ภูมิใจนะ บางทีเราเดินเข้าบ้าน เราก็ยืนมองบ้าน จากเด็กวัดคนหนึ่งจากเด็กบ้านนอกคนหนึ่งเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย อยู่กระท่อมปลายนากับแม่ วันหนึ่งเรามามีได้มากขนาดนี้ เราก็รู้สึกภูมิใจเพราะทุกอย่างมาจากหยาดเหงื่อแรงงานของเรา ที่เราทุ่มเทลงไป”
ภาพที่ทุกคนเห็น “โก๊ะตี๋” ในจอทีวีตลกเฮฮาตลอด ตัวตนจริง ๆ เป็นแบบนั้นหรือเปล่า.. “ไม่..เป็นคนจริงจังกับชีวิต และค่อนข้างซีเรียส เพียงแต่ว่าไม่รู้เหมือนกันเวลาขึ้นเวที มันทำไมเป็นอีกคนหนึ่ง ตลกสนุกสนานตามเรื่อง ตอนนั้นรู้อย่างเดียวว่าเป็นหน้าที่เรา ต้องทำการแสดงให้คนได้ชอบได้เฮฮา”
จากนี้ไปวางแผนจะทำอะไรอีก “หนูเป็นคนที่มีการวางแผนในชีวิต ตอนอายุ 20 ก็วางแผนว่าอยากมีทาวน์โฮม พออายุ 25 หนูก็เป็นเจ้าของทาวน์โฮม มีบ้านเป็นของตัวเอง เมื่อก่อนหนูไม่เคยคิดว่าจะอยู่กรุงเทพฯ พอถึงอายุ 25 เสร็จปุ๊บเราก็ต้องคิดไปอีกแล้ว วางเป้าหมายว่าอายุ 30 หนูอยากจะมีบ้านเดี่ยวให้แม่ แล้วก็อยากจะมีรถ อายุ 30 หนูก็มี หนูก็ตั้งเป้าว่าอายุ 35 หนูจะต้องประสบความสำเร็จในธุรกิจอะไรสักอย่าง ก็อาจจะเป็นธุรกิจข้าวมันไก่ กำลังดูอยู่ บางทีเราก็เดินหน้าสู่อาเซียนเหมือนกัน ฮะ..ฮะ..ฮ่า”
คุยเรื่องงาน ไม่ถามเรื่องความรัก จะกระไรอยู่ กับแฟนสาว “อ้อย” ที่คบกันมาหลายปี เรียกว่ารู้ใจกันทุกซอกทุกมุม เมื่อไหร่จะได้ฤกษ์แต่งสักที “ยังไม่แต่ง คือชีวิตหนูมันต้องใช้ชีวิตไปแบบนี้ ยังแต่งไม่ได้ เพราะเราก็มีครอบครัวหลัก เรามีแม่ เราทิ้งไม่ได้ อย่างที่บอกแม่เราไม่มีความสุขก่อน เราก็จะเป็นลูกที่ไม่ดี ณ ตอนนี้ยังไม่คิดเรื่องอะไรเลย ขอแค่ใช้ชีวิตแบบนี้ไปก่อน แล้วทำยังไงก็ได้ให้เรามีความสุขซึ่งกันและกัน แล้วก็ให้แม่มีความสุขมากที่สุด” สุขภาพร่างกายเป็นยังไงบ้าง “น้ำหนักตอนนี้ 90 กิโลกรัม แต่ออกกำลังกายประจำ ชอบเตะบอล หรือไม่ก็เข้าฟิตเนส หลายๆคนอาจจะมองว่าหนูเป็นคนอ้วน แต่ขอบอกว่าแข็งแรงนะครับ นี่กำลังพยายามลดน้ำหนัก งดแป้งงดของหวาน งดน้ำอัดลม”
ถือว่าโก๊ะตี๋ เป็นนักแสดงตัวอย่างที่ดีของรุ่นน้อง มีอะไรอยากจะฝากถึงพวกเขา “อยากแนะนำน้อง ๆ นักแสดงรุ่นใหม่ ทำตัวทำนิสัยทำจิตใจ ให้เปรียบเสมือนทอง หนูรู้สึกว่าทองอยู่ที่ไหนก็คือทอง มันจะไปผสมกับอะไรก็อยู่ในเนื้อทอง อยู่ที่ไหนก็มีค่า หนูอยู่วงการมา 18-19 ปี หนูเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีใครสอน มันเป็นครูพักลักจำ หนูโชคดีที่อยู่กับคนที่เก่งคนที่ฉลาด เหมือนกับภาษิตที่ว่า คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล แน่นอนถ้าคุณคบเพื่อนดี สิ่งแวดล้อมดี วันหนึ่งคุณก็ต้องเป็นคนดี หนูคิดอย่างนั้น และอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิต หนูมองว่าอุปสรรคมันคืออุปกรณ์ในการดำเนินชีวิต ไม่มีชีวิตใดในโลกใบนี้ที่ไม่มีอุปสรรค ชีวิตพวกเราเกิดมาพร้อมกับการแก้ไข ทำยังไงให้มันเป็นเพื่อนเราที่ดีที่สุด แล้วมันก็จะผ่านไป”
ไหน ๆ ก็มาสัมภาษณ์ขณะอัดเทปรายการ “ครัวคุณต๋อย” ในฐานะพิธีกรอยากให้พูดถึงรายการ “หนูรู้สึกว่าดี ได้เห็นรูปแบบรายการที่หลากหลาย เหมือนอา (ต๋อย-ไตรภพ) กับหลานทำกับข้าวกันในครัว อะไรอร่อยที่ไหน สโลแกนของรายการ ถ้าไม่ได้กิน ถือว่าผิด มันไม่ได้ผิดร้ายแรง หรือแบบคือต้องติดคุกหรือถูกตำรวจจับ อย่างคุณไปหนองมนถ้าคุณไม่กินข้าวหลาม ผิดมั้ย..ผิด ก็ข้าวหลามหนองมนดังไง ดูรายการขำ ๆ อย่าไปซีเรียส รู้แค่ว่าที่ไหนมีอาหารอร่อย และวิธีทำอาหารให้อร่อยเลิศรส ทำยังไงก็โอเชแล้ว ติดตามชมทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลาบ่ายโมงสี่สิบ ทางช่อง 3”
คุยกันเพลิน ถึงเวลาอัดเทปต่อ ... “โก๊ะตี๋” รีบยกมือไหว้ แล้วเจอกันนะคร้าบ..
“ปรางค์ ปิ๊กมี่” 
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง
