ผู้เขียน หัวข้อ: 'หอย เกียรติศักดิ์' รับ...ผมไม่หล่อ แต่ฮอต - หนุ่มฮอตหนุ่มฮิพ  (อ่าน 454 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์

 “สาระแน ทีวี”
    
    ได้ข่าวมาว่า จะเปลี่ยนผังใหม่รายการในช่องสาระแน ทีวี เพื่อสู้ฟรีทีวีกันเลยทีเดียว ?

    
    “สาระแนทีวี ปีนี้ถือว่าเป็นปีทองของเคเบิล เพราะมี กสทช. เข้ามาควบคุมแล้ว ช่องไหนที่ไม่เหมาะสมก็จะถูกตัดออก เพราะว่าช่องที่ดี ๆ หลาย ๆ ช่องทุ่มเงินกันมาก หลายช่องทุ่มเงินซื้อคอนเทนส์ รายการทีวีต่างประเทศกันเลย ซึ่งคนดูจะได้กำไรจากจุดนี้เยอะมาก เรียกว่าแข่งกันสูงมาก เพราะฉะนั้นเราทำสาระแนทีวีมาปีนี้เป็นปีที่ 2 เรามีสาระแน
    เก่า ๆ ที่เอามารีรัน ซึ่งวันนี้ถือว่ามันเก่าแล้ว เราก็ต้องมีการปรับเปลี่ยน เราก็จะเปลี่ยนคอนเทนส์ช่อง เราเรียกว่าบิ๊กคอนเทนส์เลยทีเดียว ทำแบบฟรีทีวีเลย เพื่อมาสาระแนทีวีของเรา มีหลายรายการที่เกิดขึ้นใหม่ด้วย
    
    อย่างแรกเราเอารายการที่เคยฮิต ส่วนมากคนที่ดูช่องเราจะเป็นครอบครัว ซึ่งรายการที่เราจะเอามาลงก็จะมี ฮาจะเกร็ง กับ นั่งยาง เราจะมีรายการที่เคยประสบความสำเร็จที่ไม่มีในฟรีทีวีแล้ว เราก็นำกลับมาฉายในช่องของเรา ส่วน ฮาจะเกร็ง เราก็เอามาทำแบบลงทุนกันบิ๊กโปรดักชั่นเลย ความฮาของเราสนุกมาก เราจะได้ดูจันทร์ถึงศุกร์เลย ซึ่งชนกับละครฟรีทีวีแต่เราได้เปรียบเรามาตอน 2 ทุ่ม เราคิดว่าน่าจะกลับมาได้ดีเพราะจะเป็นอีกทางเลือกของผู้ชม ตอนนี้เราอัดไปแล้วมันสนุกมาก แล้วดาราแต่ละคนที่เข้ามาก็แบบสุด ๆ ทุก ๆ คน ไม่ว่าจะเป็น พี่ติ๊ก กลิ่นสี, โก๊ะตี๋, แจ๊ส ชวนชื่น, และน้องเฟิร์น ลูกพี่จาตุรงค์ ซึ่งแต่ละคนใส่เต็มกันมาก อันนี้เรารับรองเลยว่าฮาแน่นอน
    
    และเรายังมี นั่งยาง ฮาร์ดคอ ที่มีเนื้อหายาวมาก เพราะถ้าเราดูทางช่อง 3 เราจะได้ดูแค่ 25 นาทีเท่านั้น แต่ในช่องของเรา เราจัดเต็มสุด ๆ และที่สำคัญอีกอย่างคือเรามีรายการข่าวด้วยนะ เป็นข่าวดี ๆ น่ารัก ๆ ไม่มีข่าวรุนแรง ชื่อรายการว่า ครอบครัวไข่ เราลอกเขามา (หัวเราะ) เราได้พี่ฮาร์ท มาอ่านข่าวอารมณ์ดี เราทำเหมือนครอบครัวข่าวเลย แต่เราครอบครัวไข่ เศรษฐกิจการเมือง กีฬา อะไรเราก็มี แต่เราจะไม่เอาข่าวเครียด ๆ มา คือมันจะสนุกสนานดูแล้วขำ เวลาจริงจังเราจริงจัง เวลาเราขำในรายการข่าวเราก็ขำได้
    
    แล้วก็ยังมีรายการสดคือ รายการคำถามคือ ซึ่งจะกลับมาจัดสดพิธีกรคือ อ้น ศรีพรรณ กับน้องแหม่ม คัทลียา ซึ่งตอนนี้น้องแหม่มกำลังจะกลายเป็นตลกหญิงแล้ว และนอกจากนั้นยังได้ พี่ปุ้ย พิมลวรรณ มาช่วยด้วย ฝั่งของเราตอนนี้ทั้งวันแน่นมาก เราสู้ฟรีทีวีเต็มที่
          
    ส่วนเรื่องละครเราไม่ได้มีเงินทำ (หัวเราะ) ผมยอมรับเฮียฮ้อเลยว่าเขาทุ่มทุนสู้มาก ผมตบมือให้เลยครับ และโปรดักชั่นละครเขาก็สู้ฟรีทีวีได้สบายมาก แต่สำหรับเราไม่มีเงิน แต่เรามีหนัง เราได้หนังมา 200 กว่าเรื่อง ซึ่งเป็นหนังที่พวกเราชอบ ย้ำพวกเรานะ คือ ผม วิลลี่ น้องแหม่ม นะ (หัวเราะ) คือเราเลือกแต่หนังอารมณ์ดีมาทั้งนั้น ถ้าเป็นหนังผีก็เป็นหนังผีที่อารมณ์ดี ถ้าบู๊ ก็จะเป็นบู๊คอมเมดี้
      
    แต่ในอนาคตเราจะได้ร่วมคอนเทนส์กับ ญี่ปุ่น ที่ไม่ได้ไปฉายที่อื่นมาแล้ว อย่างเราไปญี่ปุ่นมาเราก็ได้ดูทีวีอย่างเคเบิลบ้านเขา ดูแล้วเราก็แบบเฮ้ย ทำไมมันตลกจัง ซึ่งตอนนี้เราก็คุยไว้แล้ว เราก็จะเอามาลงในช่องเรา ซึ่งเป็นรายการที่ไม่ได้ออกช่องอื่น ๆ มาก่อนในบ้านเรา”
     
    “หนุ่มฮอต”
    
    ขอถามเรื่องความรัก ข่าวว่าเนื้อหอมมาก ฮอตมากเลยทีเดียว จัดสรรเวลายังไง ?

    
    “ตอนนี้ ฮอตส์ จริง ๆ ใส่เอสด้วย (หัวเราะ) ผมบอกสาว ๆ ของผมว่า เราทำงานขนาดนี้นะ ผมทำนี้ ทำนั้น คือ ต้องบอกเขาก่อน คือบางทีช่วงที่เราคุยกับผู้หญิงคนนั้นเป็นช่วงที่ว่างจริง ๆ แล้วพอคุย ๆ ไป  เรามีงานเข้ามาต้องทำ เขาก็จะแบบทำไมหายไป เพราะฉะนั้นเราก็จะต้องบอกพวกเขาก่อนว่าเราทำงานนะ บางทีอาจจะไม่ได้คุย คือคนเรามันขาดเรื่องพวกนี้ไม่ได้หรอก”
    
    สาวเยอะขนาดนี้ มีดีอะไร ?
    
    “คือผมว่าเดี๋ยวนี้ รสนิยมผู้หญิงเปลี่ยนไป คือ โดม ก็หล่อนะ ติ๊กก็แจ๋วง่ะ อนันดาก็ดูดี แต่สำหรับผมตัวเตี้ย แต่ก็ลองเข้ามาคุยดู ถึงผมจะตัวเตี้ยแต่ทำให้เพลียได้ครับ (หัวเราะ) อันนี้เอามาจากสติกเกอร์ที่เขากำลังฮิตกันนะ”
    
    “แฟน 7 คน”
    
    แล้วที่เขาบอกพี่หอยมีแฟน 7 คน จริงไหมคะ ?

    
    “ไม่ได้ใช้คำว่าแฟนหรอก เพราะบอกเขาไม่ได้เรียกว่าแฟน ก็บอกเขาคุยกันไปนะ จริง ๆ มีมากกว่านั้นด้วย (หัวเราะ)”
    
    ผู้หญิงแบบไหนหยุดพี่หอยได้ ?
    
    “คือเราบอกทุกคนนะว่า ถ้าคุยกับเราแล้วรู้สึกดีก็คุยกับพี่เถอะ ขอร้อง แต่ถ้าน้องรู้สึกไม่ดีกับพี่ก็ไม่เป็นไร เราก็มีวิถีชีวิตของกันและกัน น้องอาจจะชอบชอปปิง แต่พี่อาจจะชอบดูหนัง คือพี่ไม่ค่อยมีเวลา พี่อาจจะดูทีเดียว 4 เรื่องรวดอะไรแบบนี้ น้องจะไปกับพี่เหรอ หรือว่าน้องบางคนไปกินสุกี้กับผมครั้งเดียว แล้วไม่มาอีกเลยก็มีนะ (หัวเราะ) เพราะผมกินเลอะเทอะมาก กินเป็นทางเลย มันก็แล้วแต่เขาจะรับเราแค่ไหน (หัวเราะ) บางคนแรก ๆ เขาก็รับเราได้นะ แต่หลัง ๆ เขาก็รับเราไม่ได้ เขาก็ไป (หัวเราะ)
    
    ส่วนผู้หญิงที่จะหยุดผมได้ ผมว่าต้องเป็นผู้หญิงที่เข้าใจเรามากกว่านะ ผู้หญิงที่ไม่ค่อยมาถามว่าเราอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ชอบคนที่ถามเราว่าเหนื่อยไหมมากกว่า ไม่ใช่แบบอยู่ที่ไหน ทำอะไร ชอบได้ยินอะไรที่มันชื่นมื่นมากกว่า เหนื่อยไหม กินข้าวแล้วยัง พักผ่อนนะพี่ อะไรแบบนี้มากกว่า นี่คืออุปมาอุปมัย คุณก็ทำงานของคุณไป เรียนหนังสือคุณไป (หัวเราะ) ชีวิตต้องขำไว้ก่อน”
    
    “กลัว!”
    
    อายุมากขึ้น ไม่คิดจะจริงจังเรื่องนี้เหรอคะ ?

    
    “ผมเห็นชีวิตของคนที่มีครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นวิลลี่ หรือว่าน้องแหม่ม ผมบอกได้เลยว่าเป็นครอบครัวที่มีความสุข สำหรับคนที่มีครอบครัว แต่ผมดูแล้ว ผมไม่ได้ชอบที่จะมีชีวิตแบบนั้น และอีกอย่างผมเคยบอกวิลลี่ว่าใน 5 ปี คือตอนนี้เหลือ 4 ปีแล้วนะ เพราะพูดไปเมื่อปีที่แล้วว่า ใน 4 ปีนี้ผมจะไม่แต่งงาน ไม่มีครอบครัว เพราะมันเป็นช่วงที่บริษัทเราครบ 16 ปี ปีนี้ครบ 16 อีก 4 ปี บริษัทเราจะครบ 20 ปี เราก็จะนั่งดูความสำเร็จ นั่งดูน้อง ๆ ดูตัวแทน ผมก็พยายามค้นหาคนที่มาแทน แต่ไม่ได้หยุดที่จะอยู่เบื้องหน้า แต่เราก็พยายามจะปั้นเด็กเราขึ้นมาเพราะเรามีช่องของเราให้ยืนอยู่บนเวทีในพิธีกรอารมณ์ดีของเราได้
    
    เพราะฉะนั้นถ้าเรามีครอบครัวมีลูก เราคงจะหมดแรงบันดาลใจ สำหรับผมนะ คือผมเห็นวิลลี่ทำงานทุกวัน ทำงานเสร็จผมไล่วิลลี่กลับบ้าน หรือว่างานอะไรที่ผมทำเองได้ผมจะทำเอง วิลลี่ไม่ต้อง ถ้าวิลลี่พลาดไปสัก 5 วันนะ ลูกจะโตไปเลยนะ (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นอยู่กับลูกไปให้คุ้ม 20 ปีนี้ เราจะไม่มีครอบครัว เราจะทำบริษัทของเราให้ประสบความสำเร็จ เราจะได้มายืนดูกัน คือจริง ๆ ผมไม่อยากมีลูก อย่างผมมีหลาน คิดถึงหลานก็ไปอยู่กับหลาน ๆ เล่นกับหลาน ดูแลเขาเหมือนลูก แต่อยู่ได้พักเดียวไม่ไหวแล้ว ก็ไปทำอย่างอื่น พี่เราก็เลี้ยงไป แต่ถ้าเป็นลูกเราเองเลย เราไม่เลี้ยงแล้วใครจะเลี้ยงจริงมั้ย”
    
    กลัวการผูกมัดเหรอ ?
    
    “ก็เป็นอย่างหนึ่งนะ และอีกอย่างคือเราเป็นคนขี้เบื่อ บางทีเราไม่อยากคุยเราก็ไม่คุยได้นะ คือเราเคยมีแฟนที่รักกันมาก ๆ แล้ววันหนึ่งเราพรากจากกัน มันรู้สึกโลกโหดร้าย อะไรที่เรารู้สึกว่ารักกันมาก ๆ ยังขาดกันได้เลย คือในโลกนี้สิ่งไหนที่ไม่ใช่ของเรายังไงก็ไม่ใช่ของเราวันยังค่ำ ถ้ามันมาเดี๋ยวก็มาเอง คือไอ้ที่คุย ๆ อยู่ 7-8 คน มันอาจจะไม่ใช่เลยก็ได้ ใครจะไปรู้อยู่ ๆ เจอใครก็ไม่รู้แป๊บเดียวแต่งเลยก็อาจจะเป็นไปได้ ผมเชื่อพรหมลิขิตนะ อย่างที่บอกรักกัน 7-8 ปี ยังเลิกกันได้ มันไม่มีอะไรที่แน่นอน เพราะฉะนั้นเราหาอะไรที่แน่นอนของเราทำดีกว่า อย่างงาน มันเป็นของเราแน่นอน เพราะเราสร้างและบังคับมันได้ให้ไปตามที่เราอยากให้เป็นได้ แต่ความรักมันบังคับให้ไปตามใจเราต้องการมันยาก เอาสิ่งที่เราทำแล้วเป็นไปตามที่เราตั้งใจดีกว่า เก๋ไหม เราเป็นคนเก๋นะ”
    
    ผู้ชายเก๋ ๆ ที่เราต้องยอมรับเลยว่าไม่หล่อ แต่ฮอตชนิดที่เรียกว่าต้องเติม เอส ทั้งเรื่องงานและเรื่องสาว ๆ ส่วนเสาร์หน้า หนุ่มคนไหนจะมาพูดคุยกับเราตรงนี้ ต้องติดตามกันนะจ๊ะ. กาญจนา สิทธิเม่ง รายงาน   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)