“แม่เข้าใจค่ะ แล้วก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ว่า...เราไปคุยกันเป็นการส่วนตัวหน่อยมั้ยคะ”
“จะปลีกตัวไปคุยทำไมแค่สองคน คุณอาเชิญทุกคนมาเป็นสักขีพยานไม่ใช่เหรอ คุยซะตรงนี้เลยดีกว่า”
“เอ้อ...คือ...คุยก็คุยจ้ะ คือว่า...ที่นี่ก็มีธรรมเนียมปฏิบัติที่ยึดถือกันมาเหมือนกัน คือ...ต้องมีเงินสดมาวางให้พ่อแม่ฝ่ายหญิง ถือว่าให้ค่าเลี้ยงดู”
“เท่าไหร่”
“ว้าย เกรงใจจัง ให้บอกเลยเหรอจ๊ะ”
“ผมขอร้องนะคุณปัทม์ เราค่อยคุยเรื่องนี้ทีหลังได้มั้ย” นพรัตน์ขอร้อง
“หรือจะไม่เอา” ปัทม์เสียงแข็ง
“สิบล้าน” ลำเพารีบบอก
ทุกคนครางฮือ ซุบซิบ ๆ นพรัตน์อายมาก รจนาไฉนก้มหน้านิ่ง ปัทม์ยิ่งสะใจ
“ผมไม่มี” ปัทม์พูดหน้าตาย
ทุกคนครางฮืออีก ลำเพาโวยวายขึ้นทันที
“จะผิดสัญญากันรึไง”
“คุณลำเพา ลูกเราไม่ใช่สินค้าจะมาต่อรองราคากันแบบนี้” นพรัตน์กระซิบ
“เฉยน่า ฉันจัดการเอง” ลำเพาอารมณ์เดือด
“เดี๋ยวจะหาว่าผมให้ค่าน้ำนมคุณน้อยเกินไป...เดือนละแสน...โอนเข้าบัญชี แต่ต้องทำงานในไร่เหมือนคนงานอื่น ๆ ลาป่วยได้ปีละ 30 วัน ลากิจ 7 วัน ลาคลอด 3 เดือน ฮึ ๆ แต่คิดว่าคงไม่ได้ใช้สิทธิลาคลอดหรอก...เพราะผู้หญิงคนนี้เป็นได้แค่คนงานทดลองงาน” ปัทม์หันไปทางรจนาไฉนแล้วยิ้มเย้ย
รจนาไฉนมองปัทม์ด้วยแววตาไม่พอใจ แต่ไม่ออกอาการมากนัก
“ให้ทดลองงานเป็นภรรยา 3 เดือน ถ้าหนีกลับ...ถือว่าสัญญาทุกอย่างที่พ่อผมให้ไว้กับตระกูลวิชนีเป็นโมฆะ ไม่มีสิทธิเรียกร้องใด ๆ ทั้งสิ้น”
ปัทม์พยักหน้าให้ชิ หยิบเอกสารที่หนีบมาด้วย ดึงออกมาส่งให้ ลำเพารีบคว้ามาอ่านดู
“เซ็นรับทราบซะ ในสัญญาระบุรายละเอียดทุกอย่าง”
ลำเพากำกระดาษแน่น จะไม่ยอมเซ็น รจนาไฉนตัดสินใจคว้ากระดาษสัญญามา
“ฉันจะเซ็น”
ปัทม์ยิ้มเยาะ ชิยื่นปากกาให้ รจนาไฉนรับปากกามาเซ็นลงไปทันที ปัทม์คว้ามาดู พึงพอใจ
“ต้องทำอะไรอีกรึเปล่า...ถ้าไม่มีผมจะได้กลับ”
ที่เก้าอี้รดน้ำ...เจ้าบ่าวเจ้าสาวนั่งคู่กัน ปัทม์ที่หันมายิ้มเย้ย รจนาไฉนเบือนหน้าหนี แต่จำต้องยิ้มรับแขก ทำหน้าที่ของเธอให้ดีที่สุด...นพรัตน์เข้ามารดน้ำให้คู่บ่าวสาว ปัทม์ไม่แม้แต่จะมองหน้านพรัตน์
“ช่วยดูแลลูกสาวผมด้วยนะคุณปัทม์”
ปัทม์ไม่ตอบ นพรัตน์เดินมารดน้ำให้รจนาไฉน...
“พ่อขออวยพรให้ลูกพบแต่ความสุข... แต่ขอให้จำไว้...วันไหนที่ลูกทนไม่ไหวให้โทรฯหาพ่อ...พ่อจะเป็นคนไปรับลูกกลับมาเอง”
“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ” รจนาไฉนซึ้งใจ
ลำเพาเข้ามารดน้ำสังข์ต่อ ยังโกรธไม่หาย มาถึงก็รด ๆ ๆ ไม่อวยพรใด ๆ แล้วก็สะบัดหน้าออกไป รจนาไฉนไหว้ลำเพา แต่ปัทม์ยังนิ่งเฉย ไม่ไหว้ตอบ รจนาไฉนหันมองอย่างไม่พอใจ
“มีมารยาทหน่อยได้มั้ย” รจนาไฉนพูดเสียงเบา
“ไม่จำเป็น” ปัทม์พูดกวน ๆ
รจนาไฉนไม่พอใจ แต่พูดอะไรต่อไม่ได้ เพราะแขกผู้ใหญ่มารดน้ำต่อ รจนาไฉนและปัทม์ยังก้มหน้านิ่ง จนมีมือหนึ่ง มารดน้ำปัทม์ และรจนาไฉน
“คุณเพื่อนครับ”
“คุณปวุฒิ” รจนาไฉนตกใจรีบเงยหน้าขึ้น เห็นปวุฒิ
“ผมมาอวยพร ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ที่ทำให้คุณต้องแต่งงาน...แต่ผมจะไม่ยอมเสียคุณไป ผมจะไปทวงเจ้าหญิงของผมคืน” ปวุฒิหันไปทางปัทม์
“อยากกินของเหลือเดนก็เอาสิ”
“นายมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย”
ปัทม์โมโห กระชากมงคล ลุกขึ้นผลักอกปวุฒิ
“แล้วไอ้คนที่มาบอกผัวว่ากำลังจะแย่งเมียไปเนี่ย มันลูกผู้ชายรึไงวะ” แขกเหรื่อตื่นตกใจ ชิวิ่งเข้ามาตะครุบปัทม์ไว้ได้ก่อนที่ปัทม์จะมีเรื่องมากกว่านี้ โลมฤทัยเข้ามากันปวุฒิไว้...
“นายครับ อย่าครับ...กำลังอยู่ในพิธีนะครับ” ชิห้ามปัทม์
“งั้นก็ไม่ต้องทำพิธี เข้าหอเลย” ปัทม์ตัดบท
ทุกคนครางฮือฮา ชิหน้าเหวอ
“ตอนนี้เนี่ยนะ”
“บอกแล้วไงว่ารีบ! อยากมีเมียเร็ว ๆ”
ว่าแล้วปัทม์ก็ดึงข้อมือรจนาไฉนเข้าไปข้างใน ลำเพากุมขมับเวียนหัว ทำท่าจะเป็นลม โลมฤทัยรีบเข้าไปประคอง ส่วนนพรัตน์ได้แต่นิ่งเงียบ เครียด ปวุฒิยืนอึ้ง มองปัทม์ฉุดกระชากรจนาไฉนเข้าไปข้างในด้วยความปวดร้าว
รจนาไฉนนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง ปัทม์ยิ้มเยาะ พูดกวน ๆ
“กำลังคิดหาวิธีหนีเจ้าบ่าวป่าเถื่อนคนนี้รึไง”
“ถ้าฉันทำอย่างนั้นได้ก็คงจะดี เพราะฉันไม่แน่ใจว่าเข้าพิธีแต่งงาน...หรือเพิ่งลงนรกมาเจอซาตาน”
“ทำไม...ฉันมันโหดเหี้ยมกว่าชู้รักของเธอมากนักเหรอ”
“อย่าเอาเขามาเกี่ยวกับเรื่องนี้...แล้วก็กรุณาจำไว้ด้วย คุณใช้เงินซื้อตัวฉันได้ แต่คุณซื้อหัวใจฉันไม่ได้”
“เธอคงอ่านนิยายมากไป คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกนิยาย” ปัทม์หัวเราะขำ
รจนาไฉนไม่ตอบโต้นั่งนิ่ง...มองปัทม์ด้วยสายตาหวาด ๆ
“ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันไม่เคยนึกพิศวาสเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเธอรู้ว่าใครเป็นขยะ เธอจะอยากยุ่งเกี่ยวด้วยเหรอ”
ปัทม์เดินผ่านตัวรจนาไฉนไป แล้วหยิบเสื้อผ้าในตู้ชุดลำลองออกมาโยนใส่
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันจะกลับไร่ชา”
“กลับไร่ชา”
“เดี๋ยวนี้!!”
“แต่ฉันเหนื่อย ต้องการพักผ่อน”
“ฉันรีบ...และจะไม่ยอมเสียเวลาเพราะขยะมากไปกว่านี้ งานของฉันมีค่ากว่าตัวเธอร้อยเท่าพันเท่า ถ้าไม่เปลี่ยนชุด ฉันจะเปลี่ยนให้”
ปัทม์จะเข้ามาจับตัว รจนาไฉนสะบัดมือปัทม์ออก บอกเธอจะเปลี่ยนเอง
“ดี...ไม่ต้องให้ใช้กำลัง ฉันไม่อยากแตะต้องตัวเธอนักหรอก รู้มั้ยว่ามันน่าขยะแขยงมากแค่ไหน”
รจนาไฉนมองปัทม์อย่างไม่พอใจที่ปัทม์ช่างทำร้ายจิตใจเธอได้ตลอดเวลา จนปัทม์แปลกใจ
“มองอะไร!!” “ถ้ารีบ....ก็อย่าขวางทางฉัน”
ปัทม์หันไปมอง เพิ่งรู้ว่ายืนขวางทางเข้าห้องน้ำ เขารู้สึกเสียหน้า...รีบถอยพลางกำชับสั่งว่าให้เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า 5 นาทีรจนาไฉนคิดหาวิธีเอาคืนปัทม์ เธอเดินไปเปิดน้ำฝักบัวให้ไหลทิ้ง แล้วนั่งอ่านนิตยสารฆ่าเวลา...ปัทม์เดินหงุดหงิดโมโห เลยเวลามาหลายชั่วโมงแล้วหญิงสาวก็ยังไม่ออกมา
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง