ผู้เขียน หัวข้อ: มัจจุราชสีน้ำผึ้ง วันที่ 11 พฤษภาคม 2556  (อ่าน 408 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
มัจจุราชสีน้ำผึ้ง วันที่ 11 พฤษภาคม 2556
« เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2013, 04:50:27 am »

 “แม่เข้าใจค่ะ แล้วก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ว่า...เราไปคุยกันเป็นการส่วนตัวหน่อยมั้ยคะ”
    
    “จะปลีกตัวไปคุยทำไมแค่สองคน คุณอาเชิญทุกคนมาเป็นสักขีพยานไม่ใช่เหรอ คุยซะตรงนี้เลยดีกว่า”
     
    “เอ้อ...คือ...คุยก็คุยจ้ะ คือว่า...ที่นี่ก็มีธรรมเนียมปฏิบัติที่ยึดถือกันมาเหมือนกัน คือ...ต้องมีเงินสดมาวางให้พ่อแม่ฝ่ายหญิง ถือว่าให้ค่าเลี้ยงดู”
     
    “เท่าไหร่”
     
    “ว้าย เกรงใจจัง ให้บอกเลยเหรอจ๊ะ”
     
    “ผมขอร้องนะคุณปัทม์ เราค่อยคุยเรื่องนี้ทีหลังได้มั้ย” นพรัตน์ขอร้อง
    
    “หรือจะไม่เอา” ปัทม์เสียงแข็ง
     
    “สิบล้าน” ลำเพารีบบอก
     
    ทุกคนครางฮือ ซุบซิบ ๆ นพรัตน์อายมาก รจนาไฉนก้มหน้านิ่ง ปัทม์ยิ่งสะใจ
     
    “ผมไม่มี” ปัทม์พูดหน้าตาย
    
    ทุกคนครางฮืออีก ลำเพาโวยวายขึ้นทันที
     
    “จะผิดสัญญากันรึไง”
     
    “คุณลำเพา ลูกเราไม่ใช่สินค้าจะมาต่อรองราคากันแบบนี้” นพรัตน์กระซิบ
     
    “เฉยน่า ฉันจัดการเอง” ลำเพาอารมณ์เดือด
    
    “เดี๋ยวจะหาว่าผมให้ค่าน้ำนมคุณน้อยเกินไป...เดือนละแสน...โอนเข้าบัญชี แต่ต้องทำงานในไร่เหมือนคนงานอื่น ๆ ลาป่วยได้ปีละ 30 วัน ลากิจ 7 วัน ลาคลอด 3 เดือน ฮึ ๆ แต่คิดว่าคงไม่ได้ใช้สิทธิลาคลอดหรอก...เพราะผู้หญิงคนนี้เป็นได้แค่คนงานทดลองงาน” ปัทม์หันไปทางรจนาไฉนแล้วยิ้มเย้ย
     
    รจนาไฉนมองปัทม์ด้วยแววตาไม่พอใจ แต่ไม่ออกอาการมากนัก
    
    “ให้ทดลองงานเป็นภรรยา 3 เดือน ถ้าหนีกลับ...ถือว่าสัญญาทุกอย่างที่พ่อผมให้ไว้กับตระกูลวิชนีเป็นโมฆะ ไม่มีสิทธิเรียกร้องใด ๆ ทั้งสิ้น”
     
    ปัทม์พยักหน้าให้ชิ หยิบเอกสารที่หนีบมาด้วย ดึงออกมาส่งให้ ลำเพารีบคว้ามาอ่านดู
    
    “เซ็นรับทราบซะ ในสัญญาระบุรายละเอียดทุกอย่าง”
     
    ลำเพากำกระดาษแน่น จะไม่ยอมเซ็น รจนาไฉนตัดสินใจคว้ากระดาษสัญญามา
     
    “ฉันจะเซ็น”
     
    ปัทม์ยิ้มเยาะ ชิยื่นปากกาให้ รจนาไฉนรับปากกามาเซ็นลงไปทันที ปัทม์คว้ามาดู พึงพอใจ
    
    “ต้องทำอะไรอีกรึเปล่า...ถ้าไม่มีผมจะได้กลับ”
     
    ที่เก้าอี้รดน้ำ...เจ้าบ่าวเจ้าสาวนั่งคู่กัน ปัทม์ที่หันมายิ้มเย้ย รจนาไฉนเบือนหน้าหนี แต่จำต้องยิ้มรับแขก ทำหน้าที่ของเธอให้ดีที่สุด...นพรัตน์เข้ามารดน้ำให้คู่บ่าวสาว ปัทม์ไม่แม้แต่จะมองหน้านพรัตน์
     
    “ช่วยดูแลลูกสาวผมด้วยนะคุณปัทม์”
     
    ปัทม์ไม่ตอบ นพรัตน์เดินมารดน้ำให้รจนาไฉน...
     
    “พ่อขออวยพรให้ลูกพบแต่ความสุข... แต่ขอให้จำไว้...วันไหนที่ลูกทนไม่ไหวให้โทรฯหาพ่อ...พ่อจะเป็นคนไปรับลูกกลับมาเอง”
    
    “ขอบคุณค่ะคุณพ่อ” รจนาไฉนซึ้งใจ
     
    ลำเพาเข้ามารดน้ำสังข์ต่อ ยังโกรธไม่หาย มาถึงก็รด ๆ ๆ ไม่อวยพรใด ๆ แล้วก็สะบัดหน้าออกไป รจนาไฉนไหว้ลำเพา แต่ปัทม์ยังนิ่งเฉย ไม่ไหว้ตอบ รจนาไฉนหันมองอย่างไม่พอใจ
     
    “มีมารยาทหน่อยได้มั้ย” รจนาไฉนพูดเสียงเบา
     
    “ไม่จำเป็น” ปัทม์พูดกวน ๆ
     
    รจนาไฉนไม่พอใจ แต่พูดอะไรต่อไม่ได้ เพราะแขกผู้ใหญ่มารดน้ำต่อ รจนาไฉนและปัทม์ยังก้มหน้านิ่ง จนมีมือหนึ่ง มารดน้ำปัทม์ และรจนาไฉน
     
    “คุณเพื่อนครับ”
     
    “คุณปวุฒิ” รจนาไฉนตกใจรีบเงยหน้าขึ้น เห็นปวุฒิ
     
    “ผมมาอวยพร ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ที่ทำให้คุณต้องแต่งงาน...แต่ผมจะไม่ยอมเสียคุณไป ผมจะไปทวงเจ้าหญิงของผมคืน” ปวุฒิหันไปทางปัทม์
     
    “อยากกินของเหลือเดนก็เอาสิ”
    
    “นายมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย”
     
    ปัทม์โมโห กระชากมงคล ลุกขึ้นผลักอกปวุฒิ
     
    “แล้วไอ้คนที่มาบอกผัวว่ากำลังจะแย่งเมียไปเนี่ย มันลูกผู้ชายรึไงวะ” แขกเหรื่อตื่นตกใจ ชิวิ่งเข้ามาตะครุบปัทม์ไว้ได้ก่อนที่ปัทม์จะมีเรื่องมากกว่านี้ โลมฤทัยเข้ามากันปวุฒิไว้...
    
    “นายครับ อย่าครับ...กำลังอยู่ในพิธีนะครับ” ชิห้ามปัทม์
     
    “งั้นก็ไม่ต้องทำพิธี เข้าหอเลย” ปัทม์ตัดบท
     
    ทุกคนครางฮือฮา ชิหน้าเหวอ
     
    “ตอนนี้เนี่ยนะ”
     
    “บอกแล้วไงว่ารีบ! อยากมีเมียเร็ว ๆ”
     
    ว่าแล้วปัทม์ก็ดึงข้อมือรจนาไฉนเข้าไปข้างใน ลำเพากุมขมับเวียนหัว ทำท่าจะเป็นลม โลมฤทัยรีบเข้าไปประคอง ส่วนนพรัตน์ได้แต่นิ่งเงียบ เครียด ปวุฒิยืนอึ้ง มองปัทม์ฉุดกระชากรจนาไฉนเข้าไปข้างในด้วยความปวดร้าว
     
    รจนาไฉนนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง ปัทม์ยิ้มเยาะ พูดกวน ๆ
    
    “กำลังคิดหาวิธีหนีเจ้าบ่าวป่าเถื่อนคนนี้รึไง”
    
    “ถ้าฉันทำอย่างนั้นได้ก็คงจะดี เพราะฉันไม่แน่ใจว่าเข้าพิธีแต่งงาน...หรือเพิ่งลงนรกมาเจอซาตาน”
    
    “ทำไม...ฉันมันโหดเหี้ยมกว่าชู้รักของเธอมากนักเหรอ”
    
    “อย่าเอาเขามาเกี่ยวกับเรื่องนี้...แล้วก็กรุณาจำไว้ด้วย คุณใช้เงินซื้อตัวฉันได้ แต่คุณซื้อหัวใจฉันไม่ได้”
    
    “เธอคงอ่านนิยายมากไป คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกนิยาย” ปัทม์หัวเราะขำ
    
    รจนาไฉนไม่ตอบโต้นั่งนิ่ง...มองปัทม์ด้วยสายตาหวาด ๆ
     
    “ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันไม่เคยนึกพิศวาสเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเธอรู้ว่าใครเป็นขยะ เธอจะอยากยุ่งเกี่ยวด้วยเหรอ”
     
    ปัทม์เดินผ่านตัวรจนาไฉนไป แล้วหยิบเสื้อผ้าในตู้ชุดลำลองออกมาโยนใส่
    
    “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันจะกลับไร่ชา”
    
    “กลับไร่ชา”
    
    “เดี๋ยวนี้!!”
    
    “แต่ฉันเหนื่อย ต้องการพักผ่อน”
    
    “ฉันรีบ...และจะไม่ยอมเสียเวลาเพราะขยะมากไปกว่านี้ งานของฉันมีค่ากว่าตัวเธอร้อยเท่าพันเท่า ถ้าไม่เปลี่ยนชุด ฉันจะเปลี่ยนให้”
    
    ปัทม์จะเข้ามาจับตัว รจนาไฉนสะบัดมือปัทม์ออก บอกเธอจะเปลี่ยนเอง
    
    “ดี...ไม่ต้องให้ใช้กำลัง ฉันไม่อยากแตะต้องตัวเธอนักหรอก รู้มั้ยว่ามันน่าขยะแขยงมากแค่ไหน”
     
    รจนาไฉนมองปัทม์อย่างไม่พอใจที่ปัทม์ช่างทำร้ายจิตใจเธอได้ตลอดเวลา จนปัทม์แปลกใจ
    
    “มองอะไร!!” “ถ้ารีบ....ก็อย่าขวางทางฉัน”
     
    ปัทม์หันไปมอง เพิ่งรู้ว่ายืนขวางทางเข้าห้องน้ำ เขารู้สึกเสียหน้า...รีบถอยพลางกำชับสั่งว่าให้เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า 5 นาทีรจนาไฉนคิดหาวิธีเอาคืนปัทม์ เธอเดินไปเปิดน้ำฝักบัวให้ไหลทิ้ง แล้วนั่งอ่านนิตยสารฆ่าเวลา...ปัทม์เดินหงุดหงิดโมโห เลยเวลามาหลายชั่วโมงแล้วหญิงสาวก็ยังไม่ออกมา   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)