ผู้เขียน หัวข้อ: แผนร้ายพ่ายรัก วันที่ 10 เมษายน 2556  (อ่าน 580 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
แผนร้ายพ่ายรัก วันที่ 10 เมษายน 2556
« เมื่อ: เมษายน 12, 2013, 02:21:08 am »

 “ขอบคุณป๊ากับเฮียที่ช่วยส่งเสริม ผมขอให้ปิดความสัมพันธ์ของเราเป็นความลับต่อไป... จนกว่า ผมจะได้ในสิ่งที่ควรจะเป็นของผมมาตั้งแต่แรกอย่างสมบูรณ์”
     
    “ไม่ต้องห่วง เราพี่น้องกัน อยากให้ช่วยอะไรอีกก็บอก”
     
    “ผมทำได้ทุกอย่างเพื่อทำลายพวกมัน... ยังมีเรื่องให้เฮียช่วยอีกหลายเรื่อง”
     
    “ได้เสมอ...เอ้าชน เพื่อสิ่งที่ควรจะเป็นของลื้อและเพื่อกำไรของอั๊ว”
     
    ทั้งสองชนแก้วกัน ในหัวของพิทยาเต็มไปด้วยแผนการคุมกิจการและกำจัดพิแสงต่อลาภทำเจ้าชู้กรุ้มกริ่มพยายามลวนลามเขมมิก แต่เธอไว้ตัวไม่เล่นด้วย หลอดกับเสริมเห็นก็เข้าไปขวางไว้...เวลาเดียวกัน อนงค์ทำเป็นแกล้งป่วยเพื่อให้พิแสงเห็นใจ เพื่อที่เขาจะได้มีเวลาอยู่ใกล้ชิดกับวาศินีบ่อยขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่า พิแสงรู้สึกสงสาร จึงแนะนำให้อนงค์ออกจากงานมาพักผ่อนอยู่กับบ้าน อนงค์ถึงกับอึ้ง ช็อก ไม่ทันจะโวยวายอะไร หลอดกับเสริมก็เข้ามาลากตัวเขาออกไป วาศินีแอบตามมาฟังด้วยความอยากรู้
     
    “นายต่อลาภเนี่ยนะลวนลามเขมมิก”
     
    พิแสงฟังเรื่องจากหลอดกับเสริมก็ตกใจหลอดกับเสริมยืนยัน
     
    “พวกเราเห็นชัด ๆ คาตาว่าไอ้ลาบก้อยนั่นมันฉุดแขนฉุดมือคุณเขม” หลอดบอก
     
    “แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณเขมถึงได้ปฏิเสธ ว่า มันไม่ใช่” เสริมว่า
     
    “เพราะไม่อยากให้ใครรู้น่ะสิ...ว่าอ่อย...แล้วตอนนี้เขมมิกอยู่ไหน” พิแสงหึง
     
    หลอดกับเสริมอึ้งเพราะนึกขึ้นได้ว่าเอาเขมมิกไปทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล เพราะเธอไปเยี่ยมลุงแก้ว
    
    “ลืมเขมมิกไว้ที่ไหนอีกแล้ว...ไอ้หลอด ไอ้เสริม พรั่นพรือหลาว หา!!” วาศินีไม่พอใจที่พิแสงดูจะเป็นห่วงเขมมิก มาก และที่สำคัญทำเจ้าชู้กับเขมมิกด้วย
     
    ด้านสาวิกาอึดอัดใจที่แม่พยายามจับคู่เธอกับพิแสง เธอจึงตัดสินใจมาทำงานกับที่รีสอร์ทของ กนธี ทำให้สร้อยเพชรร้องไห้ฟูมฟายด้วยความเป็นห่วงลูก สาวิการู้สึกเบื่อหน่ายกับท่าทางของแม่จึงหลบมาคุยกับพิศินี พอดีพิทยาโทรฯมาบอกให้เธอเก็บกระเป๋าเพื่อเดินทางไปหาดใหญ่ ทำเอาพิศินีนึกถึงคำพูดของพ่อแม่ที่คุยกับเธอตอนกลับจากพัทลุงคราวก่อน
    
    “เราไม่ได้บอกตาพีทใช่มั้ย เรื่องยัยเขมมิก อยู่ที่ฟาร์มของตาใหญ่”
     
    “คุณก็...ยัยศินีจะพูดทำม้ายยยยให้บ้านแตก” พิสุทธิ์ว่า
     
    “ก็ไม่แน่...เพราะลูกเราเป็นคนประเภทผู้หญิงโลกสวย คิดว่าความจริงใจจะเอาชนะทุกอย่างได้ แต่แม่จะบอกอะไรให้นะ...ความจริงใจแพ้ทางความไม่รู้จักพอของคนเสมอ”
     
    “ตาพีทเค้าพอแล้ว เค้าหยุดแล้ว” พิสุทธิ์บอก
     
    “จะไปรู้เรอะ ไม่ได้ตามติดตาพีทไปตลอดเวลานี่ อาจจะหยุดไม่จริงก็ได้”
     
    “เอาเข้าไป...คุณจ๋า...เรื่องมันยังไม่เกิด เราระวังไว้ก็พอ แต่ไม่ต้องถึงกับระแวงหรอก”
     
    “ศินี...เอาไงเรา”
     
    “หนูอยากมีความสุขค่ะคุณแม่ หนูไม่พูดหรอกค่ะ”
     
    แม้ว่าพิศินีจะสลัดความคิดเรื่องนั้นออกไปจากความระแวงแล้ว แต่พอพิทยาโทรฯมาบอกว่าจะไปหาดใหญ่ ทำให้เธอเกิดระแวงขึ้นมาอีก
    
    พิแสงมารับเขมมิกที่โรงพยาบาล ท่าทางเขาหงุดหงิดหลังได้รับข้อมูลจากหลอดและเสริมที่ต่อลาภ...พอทั้งสองขึ้นมาบนรถก็เปิดฉากถกเถียงกันอย่างไม่ยอมแพ้ เขมมิกไม่พอใจที่พิแสงถามว่าเธอไปอ่อยอะไรต่อลาภ เขมมิกโกรธกัดแขนเขาอย่างแรง ด้วยความโกรธ    “เขมมิกหยุดเดี๋ยวนี้นะ”
    
    “ไอ้อุด”เขมมิกพูดทั้งที่ปากยังกัดไม่ปล่อย
    
    รถของพิแสงเบี้ยวไปเบี้ยวมาเหมือนงูเลื้อย   

                         


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)