ผู้เขียน หัวข้อ: สุภาพบุรุษจุฑาเทพ คุณชายปวรรุจ วันที่ 6 เมษายน 2556  (อ่าน 802 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์

 “ค่ะ.....เมื่อกี้นี้เอง ไบล์ด ลิลลี่ คือตุ๊กตาที่เขาให้ฉันไว้ ฉันก็เลยจะเอาไปโยนทิ้งซะ”
    
    “แล้วจากนี้เธอจะทำอะไรต่อ”
    
    “ไม่ทราบค่ะ ถ้าไม่กลับเมืองไทย ฉันก็คงอยู่เที่ยวสักพักไม่ให้ทางบ้านสงสัย คอยดูเถอะ ฉันกลับบ้านคราวนี้ ฉันจะไปถอนหมั้น ท่าน....เออ คุณพ่อบังคับยังไง ฉันก็ไม่ยอมเด็ดขาด ฉันเกลียดที่สุดในชีวิตคือการหลอกลวง”
    
    ปวรรุจดูอาการแค้นเคืองของรสาอย่างแปลกใจ “อย่าหาว่าฉันสอดรู้เรื่องของเธอเลยนะ เธอ....รักเขาแค่ไหน”
    
    “ทำไมคุณชายถามฉันอย่างนั้น”
    
    “อาการของเธอไม่ใช่อาการของคนอกหักสักนิด”
    
    “แล้วคนอกหักต้องมีอาการยังไง”
    
    “ไม่รู้ซี....ต้องซึม...ต้องเหงาเปล่าเปลี่ยว ต้องหมดอาลัยตายอยากกับชีวิต เหมือนโลกทั้งโลกมันพังทลายไปต่อหน้า แบบนี้ละมั้ง”
    
    “ตายจริง ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างนั้น         เลย....มีอย่างเดียวคือความโกรธที่ถูกหลอกเท่านั้น”
    
    “งั้นฉันก็ดีใจกับเธอด้วย แสดงว่าเธออาจจะรักเขาน้อยกว่าที่คิด หรืออาจจะไม่ได้รักเลยก็ได้”
    
    รสาคิดตาม เริ่มเห็นด้วย “เป็นไปได้ค่ะ เราถูกหมั้นหมายกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนที่โตมา ฉันกับเขาก็แทบไม่ได้เจอกันเลย”
    
    “เพราะอะไร”
    
    “ฉันเรียนอยู่ที่ปีนัง ส่วนเขาก็ทำงานต่างประเทศตลอด ปีนึงอาจจะเจอกันสักครั้งสองครั้งเท่านั้น เราคงไม่ได้รักกันเลยอย่างที่คุณชายบอกนั่นแหละ ขอบคุณนะคะคุณชาย....ที่ทำให้ฉันเข้าใจความรู้สึกของตัวเองดีขึ้น”
    
    “ยินดีที่ได้ช่วย แปลกนะ....เมื่อกี้ฉันก็เพิ่งพบคนที่แอบนอกใจแฟนตัวเองไปหยก ๆ เหมือนกัน”
    
    “ใครคะ”
    
    “เป็นท่านชายพระองค์นึงน่ะ ฉันมาเจอท่านโดยบังเอิญ” รสารีบหลบตากลัวปวรรุจจะจับได้
    
    “ไปกันเถอะ หนูอ้าย หนูเอื้อยคงรอเธอแล้วล่ะ”
    
    ปวรรุจลุกขึ้นแล้วยื่นมือให้รสาจับ รสามองหน้าปวรรุจยื่นมือให้ ปวรรุจประคองรสาขึ้นมา รสารู้สึกถึงความอบอุ่นในไมตรีนั้น ทั้งสองเดินเคียงคู่ไปด้วยกัน  
     
    ปวรรุจพารสากลับไปพบกับเอื้อย อ้าย และปกรณ์ที่ร้านกาแฟหน้าโรงแรม
    
    “เออ....หนูอ้าย หนูเอื้อยเล่าให้ผมฟังหมดแล้วเรื่องคู่หมั้นของคุณรสา ผมเสียใจด้วยจริง ๆ”
    
    “ไม่เป็นไรค่ะ”
    
    “เออ....อย่าหาว่าผมละลาบละล้วงเลยนะครับ คู่หมั้นของคุณรสาชื่ออะไร เผื่อผมจะรู้จัก เพราะคนไทยที่สวิสคนดัง ๆ ผมรู้จักแทบทั้งหมด”
    
    รสาอึกอักไม่กล้าบอกชื่อชายทัศน์ อ้ายโพล่งบอกออกมาแทนว่าชื่อเฮียเพ้ง ปกรณ์ยังซักไม่เลิก อยากรู้ว่าเฮียเพ้งทำงานอะไร เอื้อยตอบแทนว่าเป็นตัวแทนนำเข้านาฬิกาจากสวิส ปกรณ์อ้าปากจะซักต่อ รสารีบตัดบทอ้างว่าเธอพยายามจะไม่นึกถึงเรื่องคู่หมั้นอีก
    
    “แล้วจากนี้เธอจะทำอะไรต่อ จะพักที่ไหน อยู่กันยังไง” ปวรรุจหันไปถามรสา
    
    “ฉันอยากพักก่อนน่ะค่ะ อยู่นิ่ง ๆ สักพัก แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้ฉันอยากไปจากโลซาน แล้วก็ไปจากร้านนี้ด้วย”
    
    “ทำไมครับ”
    
    “ฉันไม่อยากเห็นหน้าเฮียเพ้งมาเพ่นพ่านแถวนี้น่ะซีคะ เพราะร้านนี้มันหน้าโรงแรมที่เขาพัก”
    
    “จริงด้วย ถ้างั้นจะไปไหน ไปพักโรงแรมอะไร ผมยินดีช่วยเต็มที่ครับ ก่อนที่ผมจะต้องไปส่งเจ้าคุณชายที่เจนีวาเย็นนี้”
    
    “เยี่ยมเลย เราอยากล่องเมืองเลียบทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่มองเตรอซ์เวเว่ย์...ไปจนถึง...”
    
    เอื้อยมองเลยไป เห็นชายทัศน์กับลิลลี่กำลังเดินมา ทั้งสองกำลังเถียงกันหน้าเครียด เอื้อยรีบสะกิดบอกรสากับอ้ายให้รีบเข้าไปในร้าน อ้างว่าจะเข้าไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ ปวรรุจกับปกรณ์พากันแปลกใจกับท่าทีแปลก ๆ ของสามสาว
    
    ชายทัศน์พาลิลลี่เดินกลับมาที่โรงแรม แต่พอลิลลี่เห็นปวรรุจกับปกรณ์รีบปรี่เข้าไปหา ชายทัศน์ตามมาดึงตัวลิลลี่กลับไปที่โรงแรม แต่ลิลลี่ไม่ยอม
    
    “เธอทำอะไรลิลลี่ กลับไปที่โรงแรมกับฉันเดี๋ยวนี้”     
    
    “ยังไม่กลับจนกว่าฉันจะรู้ความจริง เป็นเรื่องจริงใช่ไหมที่มิสเตอร์ภาณุ มีฟิอองเซ่อยู่ที่เมืองไทย และกำลังจะแต่งงานกัน” 
    
    “อืมม์ ถ้าผมปฏิเสธมันก็เป็นเรื่องโกหก งั้นก็คงต้องพูดความจริง ครับเป็นเรื่องจริงทั้งหมด”
    
    ชายทัศน์มองปวรรุจอย่างเดือดดาล “อย่าไปฟัง ไอ้ Bastard สองคนนี่เลย”
    
    ปกรณ์อ้าปากหวอ ปวรรุจลุกขึ้นอย่างโกรธเพราะคำหยาบที่ชายทัศน์ใช้เรียก ไม่มีใครคาด ลิลลี่หยิบแก้วเครื่องดื่มสาดเข้าหน้าชายทัศน์เต็มหน้า เลอะเสื้อผ้าหน้าตาหัวหู ก่อนสะบัดหน้าเดินหนีไป ชายทัศน์โวยวายลั่น ปกรณ์บอกให้ชายทัศน์รีบเข้าไปล้างตัวในร้านก่อน
    
    “เชิญในร้านก่อนดีกว่าครับ เพราะเจ้าของร้านรู้จักกับผมดี เดี๋ยวผมจะช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้”
    
    รสา เอื้อย อ้ายที่แอบดูอยู่ในร้านพากันตกใจ “อุ๊ย....ทำไงดี ท่านชายจะเข้ามาแล้ว”
    
    สามสาวรีบหิ้วกระเป๋าหนีออกไปทางหลังร้าน
    
    “ต้องหลบก่อน พี่ชายทัศน์มาเห็นหญิงตอนนี้ความแตกต่อหน้าคุณชายแน่ ๆ”
    
    “ก็ให้ความแตกไปเลยซีคะไม่เห็นต้องแคร์”
    
    “ได้ยังไงล่ะหนูอ้าย หญิงโกหกคุณชายไปตั้งเท่าไหร่แล้วเรารีบหนีก่อนดีกว่าที่พวกเขาจะตามมาเจอเถอะ”
    
    “แล้วเราจะไปไหน อย่างไรคะ”
    
    “ไม่รู้ แต่ยังไงก็ต้องไปแล้วล่ะ”
    
    “ไม่ต้องห่วง เมื่อกี้หนูอ้ายเห็นสถานีรถไฟแล้ว คุณปกรณ์แนะนำว่าเรานั่งรถไฟไปมองเตรอซ์ได้สบาย ๆ เลย ไม่ไกลด้วย ตกลงคืนนี้เราจะไปพักที่มองเตรอซ์กัน”   

                         


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)