หลังจากที่ฝ่าย หนิง-ปณิตา ธรรมวัฒนะ ได้ควงคุณสามี จิน-จรินทร์ เปิดฉากชี้แจงถึงเรื่องที่ว่าจินนั้นคบกิ๊กคือ ไฮโซ น้ำหวาน-วรพรรณ พันธุ์คงชื่น จนเป็นเรื่องราวใหญ่โตไปก่อนหน้านี้ไปแล้ว ล่าสุดไฮโซสาวเลยขอนัดสื่อมวลชน ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น กรุงเทพฯ เพื่อเล่าถึงในมุมตัวเองบ้าง น้ำหวาน เผยว่า “ที่หวานออกมาวันนี้ก็เพื่อชี้แจงอีกมุมหนึ่งของหวาน ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกันมาก่อน หวานรู้จักกันผ่านรุ่นพี่ หวานนั่งอยู่ที่ร้านอาหารกับพี่ตั้ม-สมประสงค์ และเพื่อน ๆ ประมาณตี 1 คุณจินก็เดินเข้ามาทักทายพี่ตั้ม ตามมารยาทคุณตั้มก็แนะนำทุกคน ที่คุณจินพูดว่าแอบแลกเบอร์ คำว่าแอบก็ผิดแล้ว ตอนที่แลกเบอร์กัน พี่จินได้ขอเบอร์หวานและรุ่นพี่ทุกคนที่นั่งบนโต๊ะก็เห็นกันหมด และก็ขอชี้แจงเรื่องงานวันหมั้นของคุณแนน น้องสาวคุณหนิง หวานไม่ทราบเลยว่ามีงานอะไร หวานไม่ได้เข้ามาร่วมงานนั้นเลย หวานได้เคยคุยโทรศัพท์กับคุณหนิง หวานได้โทรฯไปหาคุณหนิง เพราะมีท่านอาวุโสคนหนึ่งได้โทรฯมาหาหวาน แล้วบอกว่าทราบมั้ยว่าคุณจินแต่งงานแล้ว หวานก็บอกว่าไม่ทราบค่ะ แล้วเขาก็เอาเบอร์มาให้ บอกว่าคุณหนิงรออยู่ คุณหนิงร้อนใจ หวานก็รีบโทรฯไปหาคุณหนิงทันที โทรฯไปคุณหนิงก็พูดว่าเขาไม่เคยแยกกันอยู่กับคุณจิน ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน หวานก็งง ๆ ว่าทำไมต้องมาบอกหวาน เพราะตัวหวานกับคุณจินก็รู้จักกันแค่ 3 วันเอง และก็รู้จักกันเชิงเพื่อน หลังจากที่วางสายจากคุณหนิง คุณจินก็ได้โทรฯกลับมาบอกว่าท่านผู้ใหญ่ผู้นั้นฝากมาขอโทษ บอกว่าไม่ทราบเรื่องที่คุณหนิง กับคุณจินมีปัญหากัน ส่วนเรื่องข้อความต่าง ๆ ที่เขียนว่า ฮันนี่, มิสยู จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องพูดในเชิงคนรักกัน พูดกับเพื่อนกันก็เป็นเรื่องปกติ หวานคิดว่าอาจจะพลาดเองที่ไม่เข้าใจวัฒนธรรมไทยลึกซึ้ง หวานก็ขอโทษตรงนี้ที่ทำให้คำพูดพวกนี้กลับมาทำร้ายตัวหวานเองได้ แต่สังเกตให้ดียังไม่มีอะไรบอกแน่ชัดเลยนะคะ ว่าเรามีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งไปมากกว่านั้น” “ส่วนเรื่องที่บอกว่าเรามิสคอลหาเขาจริง ๆ หวานมีหลักฐานยืนยันว่าคุณจินพยายามโทรฯมาหา และหวานก็ไม่ได้รับและเขาก็พยายามติดต่อ หวานคิดว่าคำพูดที่เขาบอกว่าแย่งสามีมันเป็นคำพูดที่แรงเกินไปรึเปล่า มันเหมือนเขาไม่สนใจเรา แต่เราพยายามจะเอา จะตื๊อ หวานไม่มีความจำเป็นจะตื๊อเขาขนาดนั้น ซึ่งหลังจากทราบข่าวหวานก็ได้เขียนข้อความที่แปลได้ว่า ฉันพอแล้ว ให้หวานอยู่คนเดียวเถอะ ส่วนข้อความที่คุณหนิงเอามาแปล ที่หวานเขียนเป็นภาษาอังกฤษ “if you are free call me back ได้ไหมคะ Naver mind นะคะ Stay with your family and I will do what I have to do” ซึ่งคำแปลจากคุณหนิงบอกว่า ฉันไม่ได้สนใจอะไรถ้าจะอยู่กับครอบครัว ฉันจะทำในสิ่งที่ต้องการทำ แต่ความเป็นจริงที่หวานพยายามจะสื่อคือ ให้โทรฯกลับมาถ้าว่าง ไม่เป็นไรอยู่กับครอบครัว ฉันจะทำในสิ่งที่ต้องทำในตอนนั้น ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรในเรื่องนี้ ซึ่งเขาอาจจะไม่เข้าใจภาษาของหวาน ส่วนเรื่องตั๋วเครื่องบินที่หวานส่งอีเมลไปให้คุณจิน คือคุณจินได้ให้อีเมลไว้ แล้วจะขอมารับส่งหวานเอง แต่ทั้งขาไปและขากลับหวานไปและกลับเองค่ะ หวานไม่ทราบคุณหนิงแต่งกับคุณจิน หวานไม่ทันตอนนั้นบวกกับเป็นคนไม่สนใจข่าวสาร ไม่ดูละคร สำหรับเรื่องที่โรงแรมคอนราดที่คุณหนิงกล่าวว่าจะมาเคลียร์กัน 3 คน ก็ไม่เคยมีการเคลียร์ และไม่คิดว่าจะต้องเคลียร์เลย เพราะมันไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่แรก และจากที่หวานได้เจอคุณหนิง หวานยืนอยู่ตรงหน้าโรงแรม รถหวานอยู่ฝั่งตรงข้าม คุณหนิงก็ได้วิ่งออกมาจากรถและเอาไอโฟนมาถ่ายวิดีโอหวานและพูดว่านี่ หนิง-ปณิตา และวิ่งกลับมาที่รถหวานเพื่อถ่ายทะเบียน นี่คือความเป็นจริงที่เห็นจากตา สำหรับเรื่องการฟ้องร้อง หวานไม่เคยพูดเลยว่าจะฟ้องคุณแนน คุณหนิงหรือทางครอบครัว แต่ที่พูดไปว่าจะฟ้องเป็นเรื่องอินสตาแกรมของใครก็ไม่รู้ที่มาด่าครอบครัวหวาน ทางกฎหมายก็ดำเนินการไป อยากให้เป็นคดีตัวอย่าง ไม่เกี่ยวกับคุณหนิงและคุณแนน แต่ถ้าจะฟ้องก็ขอฟ้องต่อคุณหนิงว่าทำไมให้พี่จินมาทำอย่างนี้กับหวาน หวานออกมาวันนี้ไม่ได้อยากต่อความยาวสาวความยืด อยากให้จบ แต่สิ่งที่คุณแนน คุณหนิง คุณจินอยากให้จบนั้น การกระทำมันไม่เหมือนกับคำพูด เพราะหลังจากแถลงข่าวก็มีโพสต์ในอินสตาแกรมของคุณแนนให้คนมาวิพากษ์วิจารณ์ต่อ ก็ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร ให้คนมาคอมเมนต์ ให้ เรื่องไม่จบเหมือนเดิม และก็เรื่องที่อเมริกาที่บอกว่าหวานติดต่อคุณจินตลอดเวลา ก็ติดต่อจริงค่ะ เพราะหวานเป็นข่าวอยู่ หวานคงต้องอยากรู้เป็นธรรมดา ส่วนคุณจินโทรฯมารึเปล่า ก็อยากให้ดูบิลค่าโทรศัพท์ ซึ่งคุณจินก็ให้มาเก็บตังค์กับเขา ก็ฝากพี่ ๆ นักข่าวทวงละกันประมาณ 7 หมื่นกว่าบาท ไม่รวมที่สิงคโปร์นะคะ” ส่วนที่บอกว่าหลังจากกลับมาจากอเมริกาแล้วหวานไปนัดเจอเขาที่คอนโดฯที่พัทยา หวานไม่ได้ไปค่ะ ถามว่าคุณจินมีท่าทีจีบตั้งแต่ แรกมั้ย ตอนแรกก็คิดว่าเป็นพี่ ไม่ได้คิดอะไร แต่หลัง ๆ ก็รู้สึกว่าเขาจีบ เราก็ปฏิเสธเขาทางข้อความและไม่ได้รับสายเขาเยอะมาก ใช้คำว่าคบกันได้มั้ย ก็ไม่ได้นะคะ มันเป็นเพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ ที่ติดต่อกัน จนบัดนี้ก็ยังไม่ทราบนิสัยใจคอเขาที่แท้จริงเลย สำหรับรูปที่ออกมาที่หลายคนมองว่าสนิทสนมกัน คือถ้าหวานสนใจเขาจริง ๆ มันควรมีรูปพวกนี้ในโทรศัพท์หวาน แต่รูปพวกนี้หวานไม่คุ้น ตอนเห็นหวานยังตกใจ คือเราสนิทกันระดับหนึ่ง ส่วนที่บอกว่าเราไปบ้านพักกับคุณจินที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านของเพื่อนหนิง คือหวานไปเชียงใหม่ แต่ไม่ได้ไปกับเขา หวานมีโรงแรม มีกิจการผับอยู่ที่นั่น ซึ่งหวานต้องไปดูแลทุกเดือน เป็นเรื่องปกติ คือหลังจากที่เรารู้ว่าเขามีครอบครัว ก็ไม่ได้คุยกันต่อเลย และคุณจินก็เป็นคนที่ไม่ควรจะรู้จักกันต่อไปด้วยซ้ำ ตอนนี้ไม่ได้ติดต่อเขาเลย 2 อาทิตย์แล้ว คือหวานคิดว่าการที่อยากให้ครอบครัวตัวเองกลับมามั่นคง มันไม่จำเป็นต้องพูดในความเท็จ เพื่อให้ครอบครัวตัวเองดีขึ้นแล้วทำให้คนอื่นดูแย่ลงไป โดยไม่คำนึงว่าเขาจะเป็นยังไง แต่เอาให้ตัวเองสบายก่อน ส่วนที่ทางคุณหนิงและคุณจินไปออกรายการ แล้วบอกว่ารู้สึกสงสารเราที่ถูกคุณจินหลอก คือหวานว่าต้องสงสารตัวเองดีกว่า อยากให้ครอบครัวตัวเองมีความสุข ก็อยากให้เขามั่นใจและเชื่อใจในกันและกันมากกว่านี้ หวานไม่ทราบว่าคุณจินกลับไปคุยกับคุณหนิงว่ายังไง คุยกับหวานว่ายังไง แต่อยากให้คุณจินเล่าความเป็นจริง จะทำให้คุณหนิงรู้สึกดีขึ้นมากกว่านี้ เข้าใจหวานมากกว่านี้ ไม่ใช่ออกมาด้านลบอย่างเดียว ถ้าคุณหนิงรู้จักหวานตัวจริง อาจจะไม่คิดอย่างที่เห็นก็ได้ค่ะ คือหวานยืนยันว่าไม่ได้ไปกิ๊กหรือยุ่งกับเขาโดยตั้งใจหรืออะไรก็แล้วแต่เลยค่ะ”.
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง
