ผู้เขียน หัวข้อ: ระวัง!!! ปุ่ม Snooze ทำให้"ง่วง"กว่าเดิม  (อ่าน 698 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
ระวัง!!! ปุ่ม Snooze ทำให้"ง่วง"กว่าเดิม
« เมื่อ: เมษายน 09, 2013, 01:21:11 pm »
ไม่ว่าคุณจะใช้นาฬิกาปลุกทั่วไป หรือ iPhone (รวมถึงสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นๆ ด้วยนะครับ :D) ในการดึงวิญญาณให้กลับเข้าร่างในตอนเช้า แต่แทนที่จะกดปุ่มปิดเสียงปลุกแล้วลุกจากเตียงทันที หลายคนมักเลือกที่จะใช้ปุ่มงีบต่อ หรือ snooze button เพื่อขอต่อเวลานอนอีกเล็กน้อย โดยเชื่อว่า มันจะช่วยเติมเต็มให้การพักผ่อนของคุณสมบูรณ์ได้                                                                                     

ASAPscience ได้ให้คำตอบเรื่องของปุ่ม Snooze ไว้อย่างน่าสนใจ โดยนำเสนออกมาในรูปแบบของคลิปวิดีโอด้วยการวาดลายเส้นการ์ตูนที่เข้าใจง่าย ซึ่งปรากฎว่า การกดปุ่ม "ขอเวลางีบต่อ" หรือ snooze ไม่ใช่เรื่องดีเลย หากเราทำจนเป็นนิสัย เนื่องจากช่วงเวลานอนหลับของคนเราจะมีช่วงเริ่มหลับไปจนถึงหลับลึก ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงรู้สึกตัวเตรียมพร้อม (เซลล์ตั้งเวลาในร่างกายทำงาน หรือนาฬิกาปลุกทำงาน) เพื่อตื่นและลุกไปทำกิจกรรมต่างๆ แต่การต่อเวลานอนด้วยการกดปุ่ม snooze จะทำให้เรานอนต่อจนเข้าสู่ช่วงหลับ และอาจจะเลยไปจนถึงหลับลึก แต่แล้วการต่อเวลาก็สิ้นสุดลง นาฬิกาปลุกเริ่มส่งเสียงโวยวายอีกครั้ง การถูกขัดจังหวะในช่วงหลับ และต้องลุกขึ้นไปทำงาน ส่งผลเสียกว่า เนื่องจากมันจะทำให้เราง่วงกว่าเดิม พาลกลายเป็นง่วงทั้งวัน - -"
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=P6zcSFA7ymo" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=P6zcSFA7ymo</a>
ASAPscience แนะนำให้ตั้งเวลาปลุกช้าลงไปอีก 30 นาทีจะดีกว่าการใช้ปุ่ม snooze เพราะการต่อเวลานอน นอกจากไม่ได้ช่วยเติมเต็มการหลับอย่างแท้จริงแล้ว มันยังอาจทำให้คุณถูกปลุกขณะเข้าสู่รอบหลับลึก (deep sleep cycle) ส่งผลให้เกิดอาการง่วงค้างไปทั้งวัน เฮ่อ...เขียนข่าวไปก็ให้รู้สึกง่วงเหมือนกัน อยากนอนต่อขอ snooze สัก 10 นาทีนะครั...บ... Zzzz...zzz...zzz...                                                                                                                                                                               


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)