ผู้เขียน หัวข้อ: สาปพระเพ็ง วันที่ 14 สิงหาคม 2556  (อ่าน 450 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
สาปพระเพ็ง วันที่ 14 สิงหาคม 2556
« เมื่อ: สิงหาคม 14, 2013, 01:20:59 pm »

 “ข้าไม่ได้มาหาองค์ ข้าเอายารักษาแผล...มาให้แม่ทัพสีหสา...เห็นที...คงมียาดีอยู่แล้ว”
     
    สุเลวินหันหลังกลับไปทันที องค์นรสิงห์ผละจากร่างสีหสาอย่างหมดอารมณ์ สีหสาเจ็บใจที่สุเลวินมาขัดจังหวะ
    
    เจ้านางอินยาปักมีดลงไปที่ต้นไม้ใหญ่ระบายความเจ็บใจ เจ้าปันแสงยืนมองอยู่ด้านหลัง
    
    “พวกมันจะอยู่เหนือเราได้อีกไม่นานหรอก ปันแสง...โดยเฉพาะนังมรันมา...มันจะไม่ได้เฉียดใกล้บัลลังก์ศรีพิสยา นังอเลยาแม่มันเคยแย่งชิงหัวใจเจ้าศรีพิสยาไปจากข้าครั้งนึงแล้ว...ลูกมันจะไม่มีสิทธิมาแย่งอะไรไปจากเราอีก ที่ ๆ เดียวที่มันสองคนแม่ลูกสมควรอยู่ คือ สุสานฝังศพ”
    
    เจ้านางอินยาจะจ้วงมีดลงไป แต่เจ้าปันแสงจับข้อมือแม่ ดึงมีดออก
    
    “ใครที่ขวางทางเรา ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหน...มันต้องมีจุดจบเดียว”
     
    ว่าแล้วเจ้าปันแสงปามีดไปปักเข้าที่คอทหารตายทันที สองแม่ลูกแค่ปรายตามองทหารยามที่กำลังกลากออกไป เหมือนแค่เศษชีวิต แล้วหันกลับมายิ้มให้กันอย่างเลือดเย็น
    
    “ข้าจะทำทุกอย่างให้ศรีพิสยาเป็นของเจ้า ...ปันแสง ของเจ้าคนเดียว”
     
    เวลาเดียวกันในวิหารปุระอมร นรสิงห์รุ่มร้อนอยากจะบุกตีศรีพิสยา
    
    “ทำทุกอย่างที่ข้าจะได้ศรีพิสยา ใครหรือสิ่งใดที่มันปกป้องศรีพิสยาอยู่ ทำลายให้หมด...”
     
    นรสิงห์ประกาศแววตากร้าวกระด้าง ทะนงในอำนาจอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง สีหสามองอย่างบูชานรสิงห์
     
    “แสงเดียวที่จะสาดส่องเหนือทุกอาณา จักรบนโลกนี้ ต้องเป็นแสงอาทิตย์ขององค์นรสิงห์สีหบดี ไม่ว่ากี่ร้อยกี่พันปี ชื่อขององค์นรสิงห์สีหบดีจะต้องเป็นอมตะ”
     
    พลันเห็นเมฆดำลอยผ่าน แสงสีฟ้าเข้มวาบขึ้นทาบทับเสี้ยวหน้าขององค์นรสิงห์ ติสสานั่งมองมรันมาที่พันแผลให้ เขาเผลอยิ้มมองเพลิน มรันมาเงยขึ้นมอง ติสสารีบทำหน้าเคร่งขรึม
    
    “ลุกไหวมั้ยจ๊ะ”
    
    “ถ้าไม่ไหว น้องน้อยจะอุ้มพี่ชายไปส่ง”
    
    “น้องน้อยไม่อุ้มหรอก...น้องน้อยจะเรียกเมฆากับมารุตมาแบกพี่ชายไป”
    
    “เฮ้อ...ให้ไอ้สองคนนั้นมาแบก พี่ยอมคลานไปดีกว่า เจ้านาง”
    
    “อย่าเรียกน้องน้อยแบบนั้น ...พี่ก็รู้ ทั้งรู้ทั้งเห็นมาตั้งแต่น้องน้อยเกิด ไม่ใช่สายเลือดเจ้าศรีพิสยา น้องน้อยไม่เสียใจ ให้เป็นแค่มรันมา เป็นน้องน้อยของพี่ชายใจดี ที่คอยปกป้อง แค่นี้ก็พอ...”
     
    ติสสาค่อย ๆ เลื่อนมือไปชิด แล้วสบสายตามรันมาหลบตาเขินอาย ติสสาเด็ดดอกไม้กะจิด ริดใกล้ ๆ ส่งให้มรันมา
    
    “ดอกหญ้า...เหมือนตัวน้อง”
    
    “ทำไมน้องน้อยถึงชอบดูถูกตัวเองนัก”
    
    “ก็ดีกว่าให้คนอื่นมาเย้ยหยัน...ชีวิตที่ไม่เคยถูกเหยียบย่ำ ไม่ต้องเติบโตอยู่ใต้คำกดขี่อย่างพี่ชาย จะไม่มีวันรู้ว่าความเจ็บที่แทรกอยู่ทุกอณูในกาย ในลมหายใจ...มันเจ็บปวดสาหัสเพียงใด ให้มีดกรีดร่างร้อยเล่มพันเล่มยังเจ็บน้อยกว่า”
    
    มรันมาร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บช้ำที่โดนเจ้านางอินยา และเจ้าปันแสงทารุณจิตใจมาตลอด ติสสาแตะเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา
    
    “ยังมีคนเห็น...มีคนห่วงใย”
     
    มรันมาหันมาสบตาติสสา สองหัวใจกำลังสื่อความรู้สึกที่ดีต่อกัน ติสสามองใบหน้านวลสวย แล้วหักห้ามใจผละตัวออกห่าง มรันมาเองก็เก้อเขิน รีบลุกขึ้น
    
    “น้องน้อย...จะไปไหน”
    
    “กลับไปตำหนัก หายมานาน เดี๋ยวเจ้านางอินยาจะไม่พอใจ”
    
    “พี่ชายจะพาไปตำหนักเจ้านางจันทเทวี อย่ากลับไปตำหนักเจ้านางอินยาอีกเลย อย่าไปให้เจ้าปันแสง...มาอยู่ใกล้ ๆ”   “พี่ชายนี่เองที่คอยช่วยน้องน้อยจากเจ้าปันแสง...พี่ชายคอยช่วยน้องน้อย เมื่อคืนก่อนในสวนใช่มั้ย”
    
    มรันมาหันมามองหน้าติสสาอย่างอยากรู้ ติสสามองสบตามรันมา
    
    “ไม่ใช่พี่ชายหรอก...เจ้าปรันมาสั่งทหารคนนึงให้คอยติดตามน้องน้อย”
    
    “ทหาร...คนไหน ชื่ออะไร”
    
    “พี่ชายก็ไม่รู้...เจ้าปรันมาเป็นห่วงน้องน้อยมากนะ...เป็นห่วงอย่างน้องสาวคนนึง”
    
    “น้องสาวเจ้าปรันมามีเพียงคนเดียว คือเจ้านางจันทเทวี น้องไม่ใช่...น้องน้อยไม่อยากเป็นเจ้านาง ถ้ากรีดเลือด ทุกหยดของเจ้าศรีพิสยาออกมาจากตัวได้...น้องน้อยก็จะทำให้เหลือเพียงเลือดของแม่อเลยา น้องน้อยไม่เคยต้องการเลือด สูงส่งของราชวงศ์ศรีพิสยามาอยู่ในตัว”
     
    ติสสาเอามือปิดปากมรันมาทันที ชั่วขณะสบตากัน ความรู้สึกใกล้ชิดแล่นเข้าหัวใจสองดวง
     
    “อย่าพูดอย่างนั้น น้องน้อย...อย่าปฏิเสธสายเลือดศักดิ์สิทธิ์แห่งศรีพิสยา
     
    มาปัจจุบัน รัดเกล้าเหมือนถูกผลักกลับมาในที่ ๆ สว่าง พร้อมอาการเจ็บแปลบที่อก จนตัวงอ ก่อนจะลุกพรวดขึ้น เจ็บที่หน้าอก ไผ่เผลองีบที่เก้าอี้ สะดุ้งตกใจ รัดเกล้าหันไปเห็นหน้าไผ่     เต็ม ๆ เธอถึงกับอึ้ง   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)