Topics

1

ข่าวบันเทิง ข่าวทั่วไป / ตรวจฉี่ "โคเน่ โมฮัมเหม็ด" นักเตะทีมกิเลนผยองเป็นสีม่วง

« เมื่อ: มีนาคม 01, 2012, 12:33:27 pm »

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 29 ก.พ. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส.

พ.ต.อ.ฉัตรชัย ศิริทรัพย์ รอง ผบก.ปส.1 บช.ปส. พ.ต.อ.วีระชัย วันกนกกุล ผกก.1 บก.ปส.1 บช.ปส. พ.ต.อ.อธิศวิส กมลรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. สนธิกำลังจำนวน 120 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นภายในสถานบันเทิงย่านซอยนานาและซอยม้าคู่ ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา พบชาวต่างชาติผิวดำจำนวนมาก จึงนำตัวไปตรวจปัสสาวะและพาสปอร์ต พบมีฉี่สีม่วง 2 ราย ไม่มีพาสปอร์ต 14 ราย วีซ่าขาดต่ออายุ 4 ราย และเดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้วไม่รายงานตัวภายใน 90 วัน อีก 7 ราย จึงนำตัวส่ง สต.เพื่อดำเนินคดีต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบภายในสถานบันเทิงในซอยนานาอยู่นั้นพบนายโคเน่ โมฮัมเหม็ด อายุ 28 ปี ชาวไอเวอรี่โคสต์

ศูนย์หน้าสโมรสรฟุตบอล เอสซีจี เมืองทองยูไนเต็ด กับนายอับดุล คูริบาลี ชาวไอเวอรี่โคสต์ อายุ 25 ปี กองกลางสโมสรฟุตบอลภูเก็ต เอฟซี กำลังเดินอยู่จึงเชิญตัวมาตรวจสอบพาสปอร์ตและปัสสาวะ ผลปรากฏว่าฉี่ของนายโคเน่ โมฮัมเหม็ด เป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่จึงทำบันทุกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนให้พนักงานสอบสวนนำปัสสาวะ ส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่า ปัสสาวะเป็นสีม่วงเนื่องจากเสพยาเสพติดหรือไม่

ส่วนนายอับดุล คูริบาลี พบพาสสปอร์ตเดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้วไม่รายงานตัวภายใน 90 วัน จึงนำตัวส่งสตม.เปรียบเทียบปรับต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อนายโคเน่ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวขึ้นรถผู้ต้องหา นายโคเน่มีอาการไม่พอใจ พร้อมบอกว่าเป็นนักฟุตบอล แต่เจ้าหน้าที่ก็นำตัวขึ้นรถขนผู้ต้องหาทันที เมื่อผู้สื่อข่าวทราบว่า มีนายโคเน่ รวมอยู่ในรถขนผู้ต้องหาด้วยนั้น ก็พยายามตะโกนถาม ถึงเรื่องปัสสาวะสีม่วง แต่เจ้าตัวกลับเงียบไม่ยอมตอบ จนเจ้าหน้าที่ต้องนำตัวลงมาสอบปากคำด้านล่างอีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวก็พยายามก้มหน้าไม่ให้ผู้สื่อข่าวช่างภาพบันทึกภาพแต่อย่างใด จน พ.ต.อ.วีระชัย ต้องเข้ามาเจรจาให้สงบสติอารมณ์ลง จากการสอบสวนนายโคเน่ เบื้องต้นให้การแต่เพียงว่า ก่อนถูกเรียกตรวจค้นนั้นได้ เดินทางมาตัดผมและกินข้าวในซอยนานากับนายอับดุล และไม่ทราบว่าทำไมปัสสาวะถึงเป็นสีม่วง ยืนยันว่าไม่ได้เสพยาเสพติดแน่นอน กินเพียงแต่วิตามินเท่านั้น
 

ด้าน พ.ต.อ.วีระชัย กล่าวว่า เบื้องต้นจะได้ให้พนักงานสอบสวนจดบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวนายโคเน่ทั้งหมดไว้
 
จากนั้นจะส่งปัสสาวะไปตรวจ ว่ามีเสพสารเสพติดหรือไม่ หากไม่ได้มาจากสารเสพติดก็ไม่มีปัญหา แต่หากปัสสาวะสีม่วงจากยาเสพติด จะให้พนักงานสอบสวน ออกหมายเรียกเจ้าตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับนายโคเน่ โมฮาเหม็ด นั้นนอกจากคว้าแชมป์ไทยลีก 3 สมัยแล้วยังเป็นนักเตะต่างชาติที่ยิงประตูมากที่สุดในเมืองไทยอีกด้วย โดยลงเล่นตั้งแต่ปี 2001 กับ นครปฐม เอฟซี ยิงไป 27 ประตู จากนั้นช่วงปี 2003 - 2005 เล่นกับ ธนาคารกรุงไทย ยิงได้ 18 ประตู ต่อมาในปี 2006 - 2007 และ ปี 2009 ย้ายมาร่วมทีม ชลบุรี เอฟซี ทำได้ 36 ประตู ตามด้วย "กิเลนผยอง" เมืองทอง ยูไนเต็ด ปี 2010 ยิงเพิ่มอีก 17 ประตู และเมืองทองฯ ให้ ทีโอที เอสซี ยืมตัวไปในปี 2011 โดยยิงไป 10 ประตู ซึ่ง โคเน่ ถือเป็นนักเตะต่างชาติคนแรกที่ยิงครบ 100 ประตู ล่าสุด ได้ย้ายกลับมาซบรัง “กินเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2012 ด้วยสัญญา 3 ปี.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์   

2

ข่าวบันเทิง ข่าวทั่วไป / พระแต๋ว-เจ้าวัดเรียกมาตักเตือน ชี้ยังไม่ถึงขั้นปาราชิก

« เมื่อ: มีนาคม 01, 2012, 12:27:56 pm »

จากกรณีการเผยแพร่ภาพทางสื่ออินเตอร์เน็ต ของพระรูปหนึ่งที่ทำตัวไม่เหมาะสมท่าทางกระตุ้งกระติ้งพอกหน้าทาปากคล้ายกระเทย

จนเป็นข่าวฮือฮาตามที่เคยเสนอไปแล้วนั้น ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 29 ก.พ. นายอวยพร จินาโต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนานครราชสีมา พร้อมสื่อมวลชนเดินทางมาที่วัดโบสถ์คงคาล้อม หมู่ 8 ต.กระโทก อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เพื่อเข้าพบพระครูชลธาร (ชัยเขต)  เจ้าอาวาสวัด และรองเจ้าคณะอำเภอโชคชัย ภายหลังสืบทราบว่าพระรูปดังกล่าวเป็นพระลูกวัด


จากการสอบถามพระครูชลธาร กล่าวว่า  พระที่ปรากฏในรูปเป็นพระลูกวัดโบสถ์คงคาล้อมจริงชื่อ พระนราวิชญ์ บวชมา 3 พรรษาแล้ว

คณะนี้กำลังศึกษาที่โรงเรียนสงฆ์ของจังหวัด โดยปกติเป็นคนที่มีกิริยามารยาทเรียบร้อย กิจกรรมทางสงฆ์ที่ได้มอบหมายก็ปฏิบัติทำอย่างสมบูรณ์ ไม่ขาดตกบกพร่อง  ส่วนภาพที่ปรากฏทางสื่อ อาจจะมีบางประการที่ไม่เหมาะสม ทำให้พุทธศาสนิกชนไม่สบายใจ อาตมาในฐานะผู้ปกครอง จึงเรียกมาว่ากล่าวตักเตือนแล้ว และให้โอกาสปรับปรุงในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ให้สมกับเป็นเพศบรรพชิตที่พุทธศาสนิกชนได้เคารพกราบไหว้ต่อไป


ด้านนายอวยพรกล่าวว่า จากภาพข่าวที่ปรากฏ ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมา ได้ประสานคณะสงฆ์อำเภอโชคชัย และวัดโบสถ์คงคาล้อม

เข้าตรวจสอบพบพระรูปดังกล่าวเป็นพระลูกวัดโบสถ์คงคาล้อม ฉายาพระนราวิชญ์ และสอบถามกับเจ้าอาวาสวัดแล้วว่าจริงพร้อมรับปากว่า จะเรียกมาตักเตือน ให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่อาจไม่เหมาะสม ซึ่งความผิดดังกล่าวถือว่าไม่รุนแรงถึงขั้นปราชิก จึงขอขอบคุณ สื่อมวลชน ทุกแขนง ที่ได้ห่วงใยสอดส่องดูแล พระพุทธศาสนา และขอให้เรื่องทั้งหมด ลงเอยด้วยดี และจะทำรายงานนำเสนอแด่สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติต่อไป ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า พระนราวิชญ์ เป็นคน ต.พลับพลา อ.โชคชัย มีนิสัยดี เรียบร้อย ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน และปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด เป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดดังกล่าว.



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

3

ข่าวบันเทิง ข่าวทั่วไป / ตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้นอากาศร้อน- อีสานตอนล่าง ตอ. ใต้ มีฝนเพิ่มลมกระโชกแรง

« เมื่อ: มีนาคม 01, 2012, 12:26:04 pm »

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศประจำวันที่ 1 มีนาคม 2555 เมื่อเวลา 04:00 น.

บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้นและมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน เว้นแต่บริเวณภาคเหนือ ยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า ส่วนลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางแห่ง

สำหรับในช่วงวันที่ 1-4 มี.ค. คลื่นกระแสลมตะวันออกจะเคลื่อนเข้ามา ปกคลุมบริเวณภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง อ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตรในระยะนี้


พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


ภาคเหนือ  มีหมอกในตอนเช้า ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส โดยมีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง  มีหมอกบางในตอนเช้า และอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก  มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆบางส่วน และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

4

ข่าวบันเทิง ข่าวทั่วไป / ศาลสั่ง "กทม." จ่ายกว่า 3 แสนบาท ชดเชยเหยื่อซานติก้าผับ

« เมื่อ: มีนาคม 01, 2012, 12:23:38 pm »

วานนี้ (29 ก.พ.) ศาลปกครองกลางโดยนายชวลิต ลาภผล ตุลาการเจ้าของสำนวน ออกบัลลังก์อ่านคำพิพากษาให้กรุงเทพมหานคร

ชำระค่าสินไหมทดแทนแก่นายบรรจบ ณรงค์ และนางกรกนก ณรงค์ ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของนายกริช ณรงค์ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เพลิงไหม้อาคารซานติก้าผับเป็นเงิน 312,080 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.2552 ซึ่งเป็นวันฟ้องคดีจนกว่าจะชำระเสร็จ ภายใน 60 นับตั้งแต่คดีถึงที่สุด ตามที่นายบรรจบและนางกรกนกยื่นฟ้องกทม.ว่าละเลยต่อหน้าที่ ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ ไม่ตรวจสอบควบคุมดูแลสภาพโครงสร้าง ระบบและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการป้องกันและบรรเทาอัคคีภัยของอาคาร สถานบริการซานติก้าผับให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ขอให้ศาลปกครองสั่งให้กรุงเทพมหานคร ชำระค่าสินไหมทดแทนการเสียชีวิตของนายกริชเป็นเงินจำนวน 10,413,400 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

ทั้งนี้ศาลปกครองให้ความเหตุผลว่า การควบคุม ดูแลสภาพโครงสร้าง ระบบและอุปกรณ์ต่างๆ

ในการป้องกันและบรรเทาอัคคีภัยของอาคารสถานบริการซานติก้าผับให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522  เป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม. หากผู้ว่าฯกทม. ได้ใช้อำนาจตามกฎหมาย เจ้าของอาคารซานติก้าผับไม่ได้ใช้อาคารดังกล่าว และไม่เกิดเพลิงไหม้จนทำให้นายกริชเสียชีวิต แต่ผู้ว่าฯกทม.ไม่ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด แม้ผู้ว่าฯกทม.จะไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับเจ้าของอาคารซานติก้าผับ ต่อ ผกก.สน.ทองหล่อ แต่เป็นการแจ้งความร้องทุกข์หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารดังกล่าวแล้ว จึงถือได้ว่าผู้ว่าฯกทม.ละเลยหน้าที่ต่อหน้าที่ตามกฎหมาย กำหนดให้ต้องปฏิบัติก่อให้ความเสียหายแก่นายบรรจบและนางกรกนก อันเนื่องมาจากความตายของนายกริช จึงควรให้กทม.ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่นายบรรจบและกรกนก ในอัตราร้อยละ 20 ของค่าเสียหายที่ศาลได้วินิจฉัยกำหนดไว้ 1,560,400 บาท ดังนั้นกทม.ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 312,080 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ7.5ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.2552 ซึ่งเป็นวันฟ้องคดีจนกว่าจะชำระเสร็จ.



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

5

ข่าวบันเทิง ข่าวทั่วไป / อนาถภาพเด็กถูกทำร้ายว่อนเว็ต

« เมื่อ: มีนาคม 01, 2012, 12:21:56 pm »

อนาถภาพเด็กถูกทำร้ายว่อนเว็ต แชร์-ติดแท็ก ผ่านเครือข่ายเฟซบุ๊ค อ้าง ถูกพ่อชาวสิงคโปร์ทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุสลดใจ โดยมีการเผยแพร่ภาพถ่ายของเด็กอนุบาล ถูกทำร้ายตามร่างกายอย่างรุนแรง ผ่านเครือข่ายโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะเฟซบุ๊ค โดย ผู้ที่ใช้ชื่อว่า 'Jadsadaporn Da Chiewchupant' ได้แท็กรูปภาพดังกล่าว เพื่อแจ้งข้อมูลขอความช่วยเหลือ มาที่เฟซบุ๊ค "komchadluek become a fan"

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ภาพดังกล่าว ถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ค ของผู้ที่ใช้ชื่อว่า 'Krisada Payakorn'
 
ที่โพสต์ภาพเด็กหญิงคนดังกล่าว จำนวน 3 ภาพ โดยมี 2 ภาพที่ซ้ำกัน พร้อมกับบรรยายว่า เด็กผู้หญิงคนดังกล่าว เรียนอยู่ชั้นอนุบาล และถูกทำร้ายอย่างรุนแรง โดยพ่อของเธอตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งพ่อของเธอ เป็นคนสิงคโปร์ที่อยู่กินกับผู้หญิงไทย

คำบรรยายภาพ ยังระบุว่า แจ้งถึงทุกคนที่เห็นภาพและอ่านข้อความนี้

ได้โปรดร่วมมือกับเรา เพื่อช่วยเหลือเด็กน้อยคนนี้ จากพ่อที่โหดร้ายนี้ พร้อมกับอ้างว่า เขาได้ติดต่อกับตำรวจผู้มีอำนาจ ในการสืบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์อย่างนี้แล้ว และระบุว่า เด็กนักเรียนอนุบาลคนนี้ เป็นนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีสาขาของโรงรียน ทั้งในพื้นที่ กทม. และในจังหวัดใหญ่ทางภาคเหนือ
         
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพดังกล่าว มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย พร้อมทั้งมีการแชร์ภาพ และติดแท็กภาพดังกล่าวไปอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ บางส่วนยังมีการติดแท็กภาพดังกล่าว ไปยังโรงเรียนที่มีการอ้างถึง พร้อมทั้งมีการแนะนำให้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมูลนิธิคุ้มครองเด็กด้วย



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก 

6

ข่าวบันเทิง ข่าวทั่วไป / "ทอร์นาโด"ถล่มเขตมิดเวสต์สหรัฐฯ หลายเมืองราบเป็นหน้ากลอง ตายแล้วกว่า 13

« เมื่อ: มีนาคม 01, 2012, 12:19:53 pm »

เกิดเหตุพายุทอร์นาโดหลายลูกถล่มพื้นที่เขตมิดเวสต์ หรือภาคตะวันตกตอนกลางของสหรัฐอเมริกา ในช่วงเช้าตรู่วันพุธตามเวลาท้องถิ่น มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน ใน 3 รัฐ

สภาพบ้านเรือนในเมืองแบรนสัน รัฐมิสซูรี ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นนครเมกกะแห่งเพลงคันทรี ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง หลังพายุทอร์นาโดพัดถล่มช่วงเช้าตรู่วันพุธ เช่นเดียวกับที่เมืองบัฟฟาโล ซึ่งถูกทอร์นาโดพัดถล่มพื้นที่จอดรถบ้านในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง มีผู้เสียชีวิต 1 คน รวมถึงเมืองคาสวิลล์ เลบานอน และโอ๊ค ริดจ์ ที่ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างเช่นกัน


ขณะที่เมืองแฮร์ริสเบิร์ก รัฐอิลลินอยส์ ได้รับความเสียหายมากที่สุด หลังมีรายงานความรุนแรงของพายุในระดัย อีเอฟ4 หรือระดับรองสูงสุด
 
ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 10 คน บาดเจ็บมากกว่า 30 คน  โดยนักวิทยาศาสตร์ระบุว่ากระแสลมแรงถึง 170 กม.ต่อ ชม.ส่วนที่รัฐแคนซัส หลายเมืองได้รับความเสียหายจากทอร์นาโด จนนายแซม บราวน์แบ็ก ผู้ว่าการรัฐ ต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน

ทอร์นาโดหลายลูกเคลื่อนตัวจากเทือกเขาร็อกกี้ เข้าพัดถล่มหลายพื้นที่ทางตะวันตกตอนกลาง ทั้งรัฐมิสซูรี อิลลินอยส์ แคนซัส โอไฮโอ และเทนเนสซี โดยตั้งแต่คืนวันอังคารถึงเช้าวันพุธ มีรายงานเกิดทอร์นาโดในพื้นที่ดังกล่าวถึง 16 ลูก


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน 

7

ข่าวบันเทิง ข่าวทั่วไป / แห่ขอหวยน้ำหยดใต้ฐานพระประธาน

« เมื่อ: มีนาคม 01, 2012, 12:17:52 pm »

ชาวลำปางแห่กราบไหว้พระประธานสมัยเชียงแสน หลังมีน้ำไหลออกมาตลอดเวลา

วันที่ 29 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากนายน้อย จันทร์ป๊อก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปางว่า พบหยดน้ำไหลออกมาจากมณฑปใต้พระประธานในวัดสันทราย หมู่ 1 ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง  ทั้งนี้มีน้ำหยดไหลออกมาจากใต้พื้นกระเบื้องที่อยู่ด้านใต้องค์พระเจ้าทองทิพย์ พระพุทธรูปสิงห์ 3 สมัยเชียงแสน ความสูงขององค์พระ 1.20 เมตร ส่วนความกว้างของมณฑป ยาว 8 เมตร กว้าง 8เมตร สูง 10เมตร     

พระบุญธรรม อานรโย เจ้าอาวาสวัดสัน กล่าวว่า วัดเพิ่งทำการก่อสร้างมณฑปได้เพียงสองวัน กระทั่งช่วงสายวันที่  29 ก.พ. 

ได้เดินตรวจตราความเรียบร้อยของวัดก่อนจะไปพบน้ำไหลหยดออกมาจากแท่นมณฑป โดยไหลผ่านเป็นหยดน้ำผ่านร่องขอบกระเบื้องเป็นแนวยาวตลอดเวลา ตรวจสอบอย่างละเอียดไม่มีท่อน้ำประปาไหลผ่าน  สำหรับพระเจ้าทองทิพย์เป็นพระพุทธรูปที่ชาวบ้าน บ้านสันทรายนับถือกราบเครารพกันมายาวนาน


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก 

8

ข่าวบันเทิง ข่าวทั่วไป / ทองในปท.ลงพรวด750บาท ทองแท่งขายออกเหลือบาทละ24,850

« เมื่อ: มีนาคม 01, 2012, 12:15:44 pm »

สมาคมค้าทองคำประกาศราคาซื้อขายทองคำวันนี้(1มี.ค.55)

โดยราคาทองปรับลดลงจากวานนี้ถึงบาทละ750บาท หลังราคาทองตลาดโลกที่นิวยอรฺกเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับลดลงกว่า 77ดอลลาร์/ออนซ์



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน   

9

ข่าวบันเทิง ข่าวทั่วไป / หาพี่เลี้ยงเด็ก ศูนย์พี่เลี้ยงเด็ก ดูแลคนป่วย ดูแลคนแก่ ผู้ช่วยพยาบาล ระวัง!!

« เมื่อ: มีนาคม 01, 2012, 12:13:44 pm »

หาพี่เลี้ยงเด็ก ศูนย์พี่เลี้ยงเด็ก ดูแลคนป่วย ดูแลคนแก่ ผู้ช่วยพยาบาล

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา ผู้ช่วยพยาบาล หรือ พี่เลี้ยงเด็ก
และกำลังตั้งใจว่าจะมองหาจากประกาศบนเว็บไซต์ หรือ จากศูนย์ที่อยู่ในเว็บไซต์
เพื่อที่จะได้ พี่เลี้ยงดีๆสักคนมาดูแลลูกน้อยที่คุณรัก หรือ ผู้ช่วยพยาบาลสักคนที่มาดูแล
พ่อแม่ที่แก่เฒ่า คนป่วยที่คุณรัก

เรามีกรณีศึกษา ถึงกระบวนการเนอสซารี่หลอกลวง แก๊งค์ดูแลเด็ก รวมถึงขบวนการผู้ช่วยพยาบาลต้มตุ๋น
รวมถึง black list รายชื่อขบวนการต้มตุ๋น ผู้ที่หวังรายได้ บนหยาดเหงื่อและน้ำตาของผู้เดือดร้อน
(หมายเหตุ กรณีดังกล่าว เกิดขึ้นกับผู้ตั้งกระทู้เอง และได้ลอง search ดูใน net ผลปรากฎว่า
ยังมีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของ บ้านเอรียาส์ อีกหลายคนด้วยกัน ซึ่งทุกเจ้าได้เจอแบบเดียวกัน)

รายชื่อเนอสซารี่หลอกลวง หรือศูนย์เลี้ยงเด็กหลอกลวง ตลอดจน ศูนย์ผู้ช่วยพยาบาลหลอกลวง

คุณนัน หรือ อนัญญา เจ้าของศูนย์ ตัวจริงแก่กว่าในบัตรเยอะ

1. บ้านเอรียาส์ (อ้างว่าเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดบ้านเอรียาส์ แต่ตรวจสอบแล้วไม่ได้จดทะเบียนนิติบุคคลจริง)

เว็บไซต์เก่า : www.baanareeyar.com

เว็บไซต์ใหม่ : www.baanareeya.com

ชื่อเจ้าของผู้บริหาร อนัญญา คำสูงเนิน

ชื่อสำหรับชำระเงิน พรเทพ กินกิ่ง

ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่ลงในเว็บไซต์ : 19 / 140 หมู่บ้านเศรษฐีวิวล์ 7 ถ.บางแค เขตบางแค. แขวงบางแค กรุงเทพ. โทร.02-8032970. สายด่วน 081-5519498, 085-5608913. แฟกซ์ 02-8032970
 
ข้อความที่ลงในเว็บไซต์ : รับบริการทั้งลูกค้าชาวไทย และชาวต่างชาติ , มีหลายตำแหน่ง ดังนี้ ผู้ช่วยพยาบาล / เฝ้าไข้ / ดูแลผู้สูงอายุ (รับดูแลที่ศูนย์ โดยทีมงานคุณภาพ) พี่เลี้ยงเด็กแรกเกิด / เด็กก่อนวัยเรียน / เด็กโต เมื่อ ประจำที่ ศูนย์-ที่บ้าน –โรงพยาบาล

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ดูแลผู้ป่วยบ้านอารียาร์
สถานดูแลผู้ป่วยระยะพักฟื้น และผู้สูงอายุตลอด 24 ชั่วโมง โดยทีมแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ ในบรรยากาศที่อบอุ่น กว้างขวาง เสมือนอยู่บ้านตนเอง บริการจัดส่งทั่วประเทศ

รูปแบบการโกง : หลังจากติดต่อผู้เลี้ยงเด็ก หรือผู้ดูแลคนป่วยเสร็จแล้ว ทางเจ้าของศูนย์ (คุณนัน หรือ อนัญญา คำสูงเนิน จะตอบรับว่ามีพี่เลี้ยงมืออาชีพอยู่ และนัดวันเข้ามาส่งพี่เลี้ยงเด็ก และขอให้ชำระเงิน 1เดือน 8,500- 12,000 บาท ขึ้นอยู่กับการตกลง หลังจากพี่เลี้ยงเข้ามาทำงานได้ประมาณ 7-14วัน จะอ้างว่ากลับไปเก็บของ หรือ มีญาติพี่น้องป่วย
และจะหายไปหลายวันจนเกือบสิ้นเดือน กลับมาทำงานและขอให้โอนเงินเดือนถัดไป
และหลังจากที่โอนเงิน ก็จะหายไปของจริง

ข้อแก้ตัวจากทางเจ้าของศูนย์ : จะโทษพี่เลี้ยงเด็ก หรือผู้ช่วยพยาบาล และจะหาคนมาเปลี่ยนให้ แต่สุดท้ายก็จะผลัดไปผลัดมาจนเป็นเดือนหรือ จะหลอกว่าจะโอนเงินคืนให้ แต่สุดท้ายก็จะประวิงเวลาไว้เป็นเดือน จนเราเหนื่อยที่จะตามเองในที่สุด

ความเสียหายที่เกิดขึ้น :  จ่ายเงิน 1เดือนแรก แต่ทำประมาณ 12-14 วัน
                                    จ่ายเงินค่าประกัน 1เดือน
                                    จ่ายเงินเดือนถัดไป แต่ทำ 0-2วัน และหนีหายไป

นา หรือ รัตนา ศรีกลาง หนึ่งในสมาชิกแก๊งค์ต้มตุ๋นบ้านอารียาส์

หากกำลังคิดจะมองหาพี่เลี้ยงเด็ก จากการค้นจากอินเทอร์เน็ต เรามีเหยือหลาย ๆ เคสมาให้ระวังภัยกันคะ
ประสบการณ์จากท่านอื่น ๆ นะคะที่ได้รวบรวมมาจากอินเทอร์เน็ต มาแชร์ให้ฟังคะ

ตัวอย่างรายละเอียดผู้เสียหาย ที่ได้โพสกระทู้ลงในเวปไซต์ Pantip
หัวข้อ : เตือนภัยศูนย์แม่บ้านชื่อศูนย์พยาบาลบ้านเอรียาส์โดยคุณนัน
จากlink :http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N11131818/N11131818.html
รายละเอียด :

ดิฉันได้รับความเดือดร้อนจาก กรณีศูนย์เอรียาส์ไม่จัดส่งคนมาเเทน และ บ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนเงิน รวมถึงไม่จ่ายเงินเดือนลูกจ้างด้วยค่ะ เรื่องราวเเละหลักฐานเป็นดังนี้ค่ะ

ดิฉันได้ทำสัญญาจ้างแม่บ้านจาก ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านเอรียาส์ โดยนายพรเทพ กินกิ่งสำนักงานอยู่ที่ 19/186 หมู่ 9 ถ.สุขาภิบาล 1 ซอยคลองหนองใหญ่ แขวงบางแค เขตบางแค กทม. วันที่โทรไปมีพนักงานผู้หญิงชื่อนัน รับสาย ทราบภายหลังว่าชื่อ นางอนัญญา คำสูงเนิน อายุประมาณเกือบ 50 ปี เป็นผู้หญิงสูง ท้วม ผมยาวใส่ชุดดำกระโปรงยาว บอกว่าจะหาพนักงานให้ ต่อมา 2-3 วัน นางอนัญญาแจ้งกลับมาว่าได้พนักงานแล้ว ทำงานกับที่นี่มานาน ไม่มีปัญหาจุกจิก มีประสบการณ์เยอะ และได้นัดมาสัมภาษณ์พนักงานที่ตลาดบองมาเช่ วันที่ 29 กรกฎาคม 2554 เมื่อสัมภาษณ์เสร็จ ดิฉันได้ชำระเงินค่าจ้างล่วงหน้าเป็นเงินสดจำนวน 8,000 บาท รวมค่ารถอีก 600 บาท เพราะนางอนัญญาบอกว่าตนเองจะต้องนั่งแทกซี่กลับด้วย จึงขอเก็บเงินค่าแทกซี่ขากลับอีก รวมเป็นเงิน 8,600 บาท (ดูตามเอกสารการจ่ายเงิน) ซึ่งนางอนัญญาได้เซ็นรับไว้เป็นหลักฐาน และให้นามบัตรนายพรเทพ กินกิ่ง ซึ่งนางอนัญญาแจ้งว่าเป็นลูกชายซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนดัง กล่าว

เมื่อนำพนักงานกลับมา พนักงานชื่อนาง กฤษณา กล่อมศรี ชื่อเล่นชื่อนาง แจ้งว่าเพิ่งมาเริ่มงานที่นี่ เป็นที่แรก และ ทางศูนย์แจ้งว่าเดือนแรกจะหักเงินจำนวน 4,000 บาทเป็นค่านายหน้าแต่จะหักแค่เดือนเดียว เดือนต่อไปไม่หักอีกแล้ว ไม่ได้มีประสบการณ์ทำงานกับศูนย์นี้มานานอย่างที่คุณอนัญญาแจ้งไว้ พอทำงานไปได้ 2 อาทิตย์พนักงานชื่อนางก็ได้แจ้งว่าจะต้องขอกลับบ้าน 5 วันเพราะมีธุระที่บ้าน ทางดิฉันบอกว่ากลับได้แต่ต้องให้ทางศุนย์ส่งคนมาแทนเพราะที่บ้านมีเด็กอ่อน และตัวดิฉันเพิ่งผ่าคลอดไม่สามารถทำงานบ้านได้ สมาีก็ต้องออกไปทำงาน และตอนที่จ้างก็ถามแล้วว่าจะกลับบ้านเมื่อไหร่ ทางพนักงานชื่อนางแจ้งว่าไม่กลับ ไม่รู้จะกลับไปทำไม ไม่มีธุระอะไร อยู่ได้นานไม่มีปัญหาแน่นอน นายจ้างเก่าก็อยู่ตั้ง 7 ปีไม่ได้กลับบ้านเลย ทางดิฉันจึงได้ตกลงใจเลือกคนนี้ เมื่อแจ้งไปทางศูนย์ คุณนันแจ้งว่าจะหาเด็กมาแทนแต่รอจนแล้วจนรอดก็ไม่ส่งมาให้

จนอาทิตย์ถัดมาพนักงานชื่อนางบอกว่าจะกลับบ้าน ทางดิฉันก็บอกเหมือนเดิมว่าต้องให้มีคนมาแทนก่อน ตลอดอาทิตย์นั้นก็ได้สอบถามไปที่ศูนย์ตลอด ศูนย์ก็ไม่ส่งคนมา จนพนักงานชื่อนาง แจ้งในอาทิตย์ถัดมาว่าจะกลับบ้านจริงๆ ไม่รอแล้ว แต่ทางศูนย์ก็ยังไม่ส่งคนมา จนพนักงานทำงานครบเดือนในวันที่ 30 สิงหาคม 2554 ทางศูนย์ก็ไม่ยอมจ่ายเงินเดือน เมื่อโทรไปสอบถามก็อ้างว่าทุกทีจ่ายทุกวันที่ 5 ไม่ต้องกลัวหรอกไม่โกงแน่นอน และ พูดเปลี่ยนเรื่องไปเป็นเรื่องอื่น ทำให้พนักงานชื่อนางไม่พอใจ และไม่ต้องการทำงานต่อ ระหว่างนั้นทางศูนย์ก็ยังไม่ยอมส่งคนมาแทน ทั้งที่ติดตามทวงถาม พูดดีด้วยตลอด ให้เรารอบอกว่ากำลังหาให้ เวลาโทรไปบอกว่าจะโทรกลับ แต่จริงๆไม่เคยโทรกลับสักครั้ง บางครั้งก็ไม่รับสาย กดสายทิ้ง โทรเข้าที่ศูนย์พนักงานที่รับสายชื่อบุปผาก็บอกว่าบอกคุณนันแล้ว คุณนันทราบเรื่องแล้วจะโทรกลับ แต่ไม่เคยโทรกลับ

แต่ทางดิฉันก็ได้โอนเงินเดือนงวดที่ 2 จำนวน 8,000 บาทไปอีกครั้งในวันที่ 1 กันยายน และเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์โทรไปคุย ทางคุณนันก็อ้างเหตุผลต่างๆนานา และรับปากว่าจะหาคนมาให้ภายในวันรุ่งขึ้น ทางดิฉันก็สอบถามว่าแล้วเมื่อไหร่จะจ่ายเงินเดือนพนักงาน เพราะพนักงานบอกว่าจะไม่ทำแล้ว และต้องการกลับต่างจังหวัด แต่ไม่มีเงินเลย (ซึ่งทางพนักงานได้ทำการทยอยเบิกค่าทำงานวันหยุดวันละ 400 บาทจากดิฉันไปและคงใช้จนหมดแล้ว ) นางอนัญญาแจ้งว่ายังไงก็ได้เงินอยู่แล้ว ไม่เข้าใจว่าพนักงานจะกลัวอะไร และมีท่าทีโมโห บอกว่าตั้งสำนักงานมา 20 กว่าปีแล้ว ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียเรื่องเงิน และพยายามพูดโน้มน้าว บอกว่าพนักงานแจ้งว่า ดิฉันไม่จ่ายเงินพิเศษค่าทำงานวันหยุดต่างๆ ทั้งที่ดิฉันจ่ายแล้ว และ อ้างเหตุผลเปลี่ยนเรื่องต่างๆ เหมือนต้องการให้ดิฉันไม่พอใจลูกจ้าง แต่ดิฉันบอกว่าเรื่องอื่นไม่ต้องคุยแค่ส่งคนมาและจ่ายเงินเดือนลูกจ้างก็พอ ทางคุณนันก็แจ้งงว่าวันรุ่งขึ้นจะส่งคนมาให้เแต่วันรุ่งขึ้นก็ยังไม่ส่งคนมา ผิดนัดอย่างนี้ทุกวัน จนกระทั่งเวลาผ่านไปถึงวันที่ 5 กันยายน ทางพนักงานก็ไม่ได้รับเงิน สอบถามไปทางศูนย์ก็แจ้งว่าพนักงานพูดจาไม่ดี มีพิรุธและต้องการให้พนักงานเข้าไปที่ศูนย์ อ้างเหตุผลต่างๆ พนักงานก็บอกว่าแค่โอนเงินมาก็พอ เค้าไม่ขอทำแล้ว จะกลับบ้าน ทางศูนย์ก็ไม่ยอมโอน จนดิฉันสงสารให้ยืมเงินส่วนตัวไป เพราะพนักงานไม่มีเงินใช้เลย

จนกระทั่งวันที่ 13 กันยายน 2554 พนักงานชื่อนางบอกว่าขอไปตามเงินที่ศูนย์ (และแอบเก็บเสื้อผ้าใส่ถุงดำออกไปจากบ้านดิฉัน โดยบอกว่าเป็นกระเป๋าจะเอาไปซ่อม) แต่พอไปถึง ทางคุณนันกลับบอกว่าไม่จ่ายเงินเดือนให้ถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา และอ้างเหตุผลว่าพนักงานชื่อนางเป็นคนไม่ซื่อ พูดจายุยงให้ดิฉันกับศูนย์ทะเลาะกัน และเมื่อทางดิฉันทราบเรื่องได้โทรกลับไปคุณนันก็ไม่รับสาย ต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์จึงยอมรับสายและได้พูดจาสับสนบอกว่าทางดิฉัน ต้องการจะดึงเด็กไว้ให้ทำงานเอง ให้จ่ายเงินเค้ามา 10,000 บาท ดิฉันก็แจ้งว่าไม่ได้ต้องการเอาเด็กไว้เลย ไม่งั้นจะจ่ายเงินเดือนเดือนที่ 2 ให้ทำไม แต่เด็กไม่อยู่เพราะคุณไม่จ่ายเงินเดือนเค้า และ ไม่ยอมหาคนมาแทนให้เสียที เวลาโทรไปก็ไม่ยอมรับสาย ต้องเปลี่ยนเบอร์ไปเรื่อยๆถึงจะยอมรับสาย และพูดจาผัดวันประกันพรุ่งตลอด แต่ทางคุณนันก็ไม่ยอมฟัง พูดแทรกระหว่างที่คุยตลอด เปลี่ยนเรื่องอ้างโน่นนี่และวางสายไป พอโทรไปอีกก็ไม่รับ ซึ่งทางดิฉันได้โทรติดตามเรื่องมาตลอด เพื่อจะให้เค้าคืนเงินที่จ่ายไป และให้จ่ายค่าแรงให้พนักงาน แต่ทางคุณนันก็ไม่ยอมรับสาย โทรไปที่ศูนย์ก็บอกว่าไม่อยู่ตลอดออกไปส่งพนักงาน ขอสายคุณพรเทพ ที่เป็นชื่อในนามบัตรก็บอกว่าคุณพรเทพไม่ได้อยู่ที่นี่ พอบอกให้รับเรื่องไว้และแจ้งคุณนัน เด็กที่ศูนย์บอกว่าหนูช่วยไม่ได้ค่ะ พี่ต้องโทรไปคุยกับคุณนันเอาเอง ทางเค้าแจ้งคุณนันแล้ว คุณนันทราบเรื่องแล้วบอกให้พี่โทรไปคุย แต่โทรไปเท่าไหร่ก็ไม่รับสาย หนีหน้าตลอด SMS ไปก็ไม่ตอบกลับ ไม่ยอมรับผิดชอบเลย ขนาดบอกว่าจะแจ้งตำรวจยังไม่สนใจ ขณะนี้เรื่องกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการโดยสมาคมคุ้มครองผู้บริืโภคค่ะ ระวังกันด้วยนะคะ เพราะทางสคบเเจ้งว่าพวกศูนย์แม่บ้านพวกนี้ส่วนมากไม่ยอมมาเจรจาจะยอมให้ฟ้อง เเละขอไกล่เกลี่ยจ่ายเงินน้อยกว่าที่ติดนายจ้างไว้ค่ะ ดิฉันไม่ได้เสียดายเงินไม่กี่พันบาท แต่รู้สึกว่าต้องบอกให้คนอื่นรู้ไว้จะได้ไม่ไปหลอกคนอื่นอีก

แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 54 15:58:41
l จากคุณ: ntml  : เขียนเมื่อ 29 ก.ย. 54 15:58:10


รายที่ 2 บ้านเอรียาส์แก๊งค์เนอสซารี่ลวงโลก

เราพึ่งคลอดลูกได้ 6เดือน ก็พยายามเลี้ยงเองมาตลอดกับแฟน สุดท้ายด้วยทั้งงาน และทั้งลูก
จึงตัดสินใจจะหาคนมาช่วย ก็ทำการ Searchไปเจอเนอสซารี่ 2-3 เจ้า แต่จะต้องรอเพราะยังไม่มีพนักงาน
สุดท้ายดวงตก โชคร้าย เมื่อตัดสินใจโทรไปที่ บ้านเอรียาส์ ทางคุณนันเป็นคนรับสาย บอกว่ามีเด็กพึ่งจบเคส
มาหนึ่งคน ชื่อนา พร้อมเริ่มงานทันที เราจึงนัดให้มาส่งที่ต่างจังหวัด โดยจ้างเดือนละ 11000 บาท และค่ารถ 2500 บาท

มาถึงเราก็ขอบัตรประชาชน ไว้ทั้งคู่ และหนังสือสัญญา ทางนาดูสุภาพเรียบร้อย ท้วมๆ
ส่วนทางคุณนันก็บอกว่าไม่ต้องห่วง หากไม่ชอบใจจะเปลี่ยนพนักงานให้ และมีอะไรให้โอนเงินเข้าที่ศูนย์
ไม่ต้องจ่ายกับทางพนักงานเอง สุดท้ายเริ่มงานกัน เราจ่ายค่ารถให้ไป2500 บาท พร้อมกับล่วงหน้า1เดือน 11000 บาท

เราเช่าห้องพักให้นาอยู่และให้มาทำงานทุกเช้าถึงเย็น นาทำงานได้ 5 วัน บอกขอกลับไปขนของมา
เพราะตอนแรกไม่รู้อยู่ได้หรือเปล่า บอกไปวันเดียว แต่หายไป5วัน จึงกลับมา และทำงานได้3วัน
บอกป่วยเป็นหวัดไม่ยอมมา7วันและบอกว่า ทางคุณนันจะมารับไปตรวจที่โรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ และหายไปอีก 8วันจึงกลับมา กลับมาทำงานได้ 3วัน ก็ถึงกำหนดต้องจ่ายเงินเดือนถัดไป ทางนาบอกว่าจ่ายให้ทางศูนย์เต็ม และ
และจะขอทำชดเชยในวันหยุดให้สำหรับวันที่ขาดไป หลังจากโอนเงินเสร็จ วันถัดมานามาบอกตอนเช้า
บอกว่ายายเสีย ขอกลับบ้าน5วัน ทางเราก็เข้าใจว่ายายเสียจริงๆ ก็เห็นใจ แต่นาหายไป12วันก็ไม่ติดต่อกลับมา
โทรไปไม่รับสาย สุดท้ายแล้ว เลยแจ้งทางศูนย์ คุณนันบอกว่า ขอโทษแทนด้วย เด็กญาติเสียจริงๆ
หายไปเลยติดต่อไม่ได้ จะหาคนมาเปลี่ยนให้ สุดท้ายก็พูดเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา บอกว่าจะมาพรุ่งนี้ตลอดเวลา โทรไปเช้าตอนเช้าก็ยืนยันว่าจะมาบ่าย สุดท้ายคอยอยู่ 1อาทิตย์ก็ไม่มีการส่งคนมา ทางเราก็เริ่มเอะใจว่า งานนี้น่าจะเป็นแก๊งค์ลวงโลก

เราจึงทั้งขู่ทั้งขอร้อง ขอให้คืนเงิน หรือส่งคนมา สุดท้ายก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ทางคุณนันก็โกหกไปเรื่อยๆ
ไม่มาตามนัด เราโทรเข้าไปที่ศูนย์ปลอมเสียง บอกว่าจะหาพี่เลี้ยงเด็ก ทางพนักงานรับเรื่อง
ยืนยันว่าพึ่งจบเคสมา ดูแลเด็กมา3ปี พอเข้าอนุบาลแล้วเลยว่าง พร้อมมาเลย เราถามว่าชื่ออะไร
บอกว่า ชื่อ นา  555 บิงโก เราจับต้นชนปลายถูกแล้ว ยายของนาไม่ได้เสีย แค่นาเป็นแก๊งค์หลอกลวง
คุณนัน กับนา หลอกกินเงินประกันและค่ารถจากเราแล้ว
และหายไปทุกครั้งก็ไปหลอกรายใหม่ต่อ และค่อยโกหกรายใหม่เพื่อไปรับงานใหม่อีกที
และก็โกหกรายใหม่รายที่3 เพื่อกลับมาหารายแรกอย่างเรา พอได้เงินเดือนถัดไปก็เป็นอันจบการหลอกเจ้าที่1
และหารายที่4ต่อทันที  นา1คนได้รายได้จาก3ที่ และกินเงินประกันทั้ง3ที่ และกินเงินเดือนถัดไปอีก3ที่
ส่วนทางคุณนันก็มีหน้าที่บริหารโจรในมือ

สำหรับผู้เสียหายท่านอื่น ๆที่เจอหลอกลวง ค้นได้จาก Google 
Keywordในการค้นหาว่า เตือนภัยพี่เลี้ยงเด็กจะมีผู้มาแชร์ประสบการณ์มากมาย
 
http://topicstock.pantip.com/family/topicstock/2011/02/N10256676/N10256676.html

http://topicstock.pantip.com/family/topicstock/2011/06/N10713783/N10713783.html

http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N11464998/N11464998.html

http://www.motherandcare.in.th/index.php?mode=board_list&id=1950

บ้านเอรียาส์ ก่อนหน้านี้ศูนย์นี้จะใช้ชื่อเวปไซต์ว่า www.baanareeyar.com
ปัจจุบันเปลี่ยนหน้าตาเวปไซต์ใหม่ ดูน่าเชื่อถือ เป็น www.baanareeya.com
ตัดตัว r ออก


ข้อสังเกตง่าย ๆ ของศูนย์นี้คือ เวลาโทรไปจะสามารถนำเด็กมาส่งได้ทันที แจ้งว่าเด็กเพิ่งจบเคส

และเน้นหลอกลวงจากทางอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก

 สำหรับคนที่ถูกถูกหลอกทุกคนสามารถเเจ้ง สคบ.ได้ที่ Tel. 02-141-3450 ถึง 55
อาคารบี ชั้น 5 ศุนย์ราชการ ถนนเเจ้งวัฒนะ  เพื่อดำเนินคดี เเพ่ง เเละ อาญา  อย่าบล่อยให้คนชั่วลวยนวล:-


สุดท้ายนี้ ขอรบกวนสื่อมวลชนทุกแขนง ตรวจสอบด้วยค่ะ

รบกวนทางทีมงาน Teenee.com ตรวจสอบดูด้วยค่ะถ้าหากไม่เป็นความจริง ก็ลบทิ้งได้เลยค่ะ
ถ้าหากตรวจสอบแล้ว รบกวนเอาขึ้นหน้าแรกด้วยค่ะ และรบกวนเว็บไซต์อื่นๆ linkถึงหัวข้อนี้
เพื่อเป็นกุศลช่วยเหลือไม่ให้ผู้อื่นต้องถูกหลอกลวงด้วยค่ะ

รบกวน ทีมงานช่อง3 ข่าวสามมิติ ย้อนรอย คุณสรยุทธ์ และเจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้อง คุณตำรวจ
ช่วยปลอมตัว เข้าไปถ่ายทำแก๊งค์ต้มตุ๋นเหล่านี้ด้วยค่ะ

สุดท้ายนี้ บ้านเอรียาส์ ก็เป็นหนึ่งในขบวนการที่ต้มตุ๋นในลักษณะนี้เท่านั้น
วันหนึ่งก็คงจะเปลี่ยนไปใช้ชื่ออื่น รวมถึงนา หรือ รัตนา ศรีกลาง และ นัน หรือ อนัญญา คำสูงเนิน
ก็คงจะเปลี่ยนชื่อเพื่อใช้หลอกลวงต่อไป

สำหรับผู้ที่จะจ้าง ผู้ช่วยพยาบาล หรือพี่เลี้ยงเด็ก ก็ขอให้ตรวจสอบก่อนเพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ

1. เข้าเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า http://www.dbd.go.th หรือโทรเข้าถามที่
1570 เพื่อเช็คว่าได้จดทะเบียนนิติบุคคล จริงหรือ ไม่ จดเมื่อไร

2. ขอหลักฐาน เป็นบัตรประชาชน และหนังสือสัญญาไว้

3. ถ่ายรูปผู้ช่วยพยาบาล พี่เลี้ยงเด็ก หน้าตรงเอาไว้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตามจับต่อไป
ในกรณีที่มีการลักขโมยลูกของคุณ หรือขโมยของ

4. นำชื่อเจ้าของศูนย์ ผู้ช่วยพยาบาล หรือพี่เลี้ยงเด็ก และชื่อศูนย์มาตรวจสอบใน อินเตอร์เน็ต
หากมีประวัติให้เลี่ยงใช้เจ้าอื่นแทน

10

ข่าวบันเทิง ข่าวทั่วไป / ใครที่โดน บ้านเอรียาส์ (นาง อนัญญา คำสูงเนิน ฉ้อโกง)

« เมื่อ: มีนาคม 01, 2012, 12:03:47 pm »

รบกวนติดต่อมาที่เมล์ maliwan_2553@thailmail.com หน่อยได้ไหม จะปรึกษาเรื่องการแจ้งความค่ะ เราโทรไปปรึกษาตำรวจเห็นบอกว่าถ้ารวบรวมกันได้ถึง 10 คน จะสามารถฟ้องในคดีฉ้อโกงประชาชน เป็นคดีที่ยอมความกันไม่ได้ จะได้เอาคนชั่วติดคุกนะค่ะ 

บ้านเอรียาส์ (อ้างว่าเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดบ้านเอรียาส์ แต่ตรวจสอบแล้วไม่ได้จดทะเบียนนิติบุคคลจริง)

เว็บไซต์เก่า : www.baanareeyar.com

เว็บไซต์ใหม่ : www.baanareeya.com

ชื่อเจ้าของผู้บริหาร อนัญญา คำสูงเนิน

ชื่อสำหรับชำระเงิน พรเทพ กินกิ่ง

ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่ลงในเว็บไซต์ : 19 / 140 หมู่บ้านเศรษฐีวิวล์ 7 ถ.บางแค เขตบางแค. แขวงบางแค กรุงเทพ. โทร.02-8032970. สายด่วน 081-5519498, 085-5608913. แฟกซ์ 02-8032970
 
ข้อความที่ลงในเว็บไซต์ : รับบริการทั้งลูกค้าชาวไทย และชาวต่างชาติ , มีหลายตำแหน่ง ดังนี้ ผู้ช่วยพยาบาล / เฝ้าไข้ / ดูแลผู้สูงอายุ (รับดูแลที่ศูนย์ โดยทีมงานคุณภาพ) พี่เลี้ยงเด็กแรกเกิด / เด็กก่อนวัยเรียน / เด็กโต เมื่อ ประจำที่ ศูนย์-ที่บ้าน –โรงพยาบาล

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ดูแลผู้ป่วยบ้านอารียาร์
สถานดูแลผู้ป่วยระยะพักฟื้น และผู้สูงอายุตลอด 24 ชั่วโมง โดยทีมแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ ในบรรยากาศที่อบอุ่น กว้างขวาง เสมือนอยู่บ้านตนเอง บริการจัดส่งทั่วประเทศ

รูปแบบการโกง : หลังจากติดต่อผู้เลี้ยงเด็ก หรือผู้ดูแลคนป่วยเสร็จแล้ว ทางเจ้าของศูนย์ (คุณนัน หรือ อนัญญา คำสูงเนิน จะตอบรับว่ามีพี่เลี้ยงมืออาชีพอยู่ และนัดวันเข้ามาส่งพี่เลี้ยงเด็ก และขอให้ชำระเงิน 1เดือน 8,500- 12,000 บาท ขึ้นอยู่กับการตกลง หลังจากพี่เลี้ยงเข้ามาทำงานได้ประมาณ 7-14วัน จะอ้างว่ากลับไปเก็บของ หรือ มีญาติพี่น้องป่วยและจะหายไปหลายวันจนเกือบสิ้นเดือน กลับมาทำงานและขอให้โอนเงินเดือนถัดไป
และหลังจากที่โอนเงิน ก็จะหายไปของจริง

ข้อแก้ตัวจากทางเจ้าของศูนย์ : จะโทษพี่เลี้ยงเด็ก หรือผู้ช่วยพยาบาล และจะหาคนมาเปลี่ยนให้ แต่สุดท้ายก็จะผลัดไปผลัดมาจนเป็นเดือนหรือ จะหลอกว่าจะโอนเงินคืนให้ แต่สุดท้ายก็จะประวิงเวลาไว้เป็นเดือน จนเราเหนื่อยที่จะตามเองในที่สุด

ความเสียหายที่เกิดขึ้น : จ่ายเงิน 1เดือนแรก แต่ทำประมาณ 12-14 วัน
                                 จ่ายเงินค่าประกัน 1เดือน
                                 จ่ายเงินเดือนถัดไป แต่ทำ 0-2วัน และหนีหายไป

11

ข่าวบันเทิง ข่าวทั่วไป / ชี้การเจาะปิโตรเลียมที่เขตทวีวัฒนา ไม่ยืนยันโอกาสเจอปิโตรเลียม

« เมื่อ: มีนาคม 01, 2012, 11:53:30 am »

นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ

กล่าวชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินโครงการเจาะสำรวจปิโตรเลียมในพื้นที่เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร ว่าการดำเนินการในโครงการดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่  10/2551/101 ลงวันที่ 21 มกราคม 2551 แปลงสำรวจบนบก หมายเลข L 45/50  ซึ่งกระทรวงพลังงานโดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรีได้ออกให้แก่ บริษัท มิตรา เอ็นเนอร์ยี่  ลิมิเต็ด (ประเทศอังกฤษ)

การดำเนินงานในพื้นที่เขตทวีวัฒนา เป็นการเจาะหลุมสำรวจเพื่อตรวจสอบว่ามีโอกาสเจอปิโตรเลียมหรือไม่

โดยในอดีตเคยมีการเจาะสำรวจปิโตรเลียมในแอ่งย่อยธนบุรี จำนวน 2 หลุม  คือ Wat Sala Daeng -1X  โดยบริษัท Gulf Oil  ในปี  2517  ผลการเจาะไม่พบปิโตรเลียม  และหลุม B1-1  โดยบริษัท Brit Oil  ในปี  2531  ผลการเจาะพบเพียงร่องรอยน้ำมันดิบเล็กน้อย  และสำหรับบริเวณเขตทวีวัฒนาได้มีการสำรวจในพื้นที่ เมื่อเดือนพฤศจิกายน  2552 – มกราคม 2553  พบว่ามีโครงสร้างธรณีวิทยาที่น่าสนใจ   จึงกำหนดจะเจาะหลุมสำรวจ จำนวน 1 หลุม เขตทวีวัฒนา ซึ่งในการดำเนินการเป็นไปตามการประกอบกิจการปิโตรเลียมภายใต้พระราชบัญญัติปิโตรเลียม  พ.ศ. 2514  และหลักปฏิบัติภายใต้พระราชบัญญัติสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535  และในการดำเนินโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม จะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม  ซึ่งครอบคลุมถึงการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญด้วย   ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดให้มีการประชุมเพื่อชี้แจง และรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนไปแล้ว จำนวน 2 ครั้ง คือเมื่อเดือนมิถุนายน และเดือนกันยายน  2553   ขณะเดียวกันสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปเมื่อวันที่  12 กันยายน 2554

ก่อนการดำเนินการเจาะสำรวจในพื้นที่ดังกล่าว กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้ประสานกับสำนักผังเมือง  กองควบคุมสำนักผังเมือง
 
เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม พ.ศ.2549 ได้ข้อสรุปว่า การใช้ประโยชน์ที่ดีเพื่อสำรวจหาแหล่งปิโตรเลียมโดยการเจาะหลุมสำรวจของบริษัท มิตรา เอ็นเนอร์ยี่  ลิมิเต็ด ในที่ดินประเภท ก.2 -9 นั้น  สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากการเจาะสำรวจปิโตรเลียมไม่ใช่การประกอบกิจการประเภทโรงงานลำดับที่  50  ตามบัญชีท้ายกฎหมายกระทรวง (พ.ศ. 2535)  ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 

สำหรับการดำเนินการขุดเจาะสำรวจ บริษัทฯ จะมีการก่อสร้างฐานเจาะ มีพื้นที่ประมาณ 7 ไร่

ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน  โดยในการดำเนินการดังกล่าวจะต้องดำเนินงานอย่างรอบคอบรัดกุมตามมาตรฐานสากล  มีแผนงานชัดเจนในทุกขั้นตอน  ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ปฏิบัติงานและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดต่อบุคคลภายนอกและสิ่งแวดล้อม โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติในฐานะหน่วยงานตามกฎหมายปิโตรเลียม  จะเป็นผู้กำกับดูแลเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  และมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ดี.- สำนักข่าวไทย



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"   

12

ข่าวบันเทิง ข่าวทั่วไป / โจรใต้ใส่เครื่องแบบ นร.ขี่ จยย.ปาบึ้มใส่ชาวบ้านรือเสาะ เจ็บ 2 สาหัส 2

« เมื่อ: มีนาคม 01, 2012, 11:51:06 am »

เกิดเหตุวัยรุ่นจำนวน 2 คน สวมเครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนปอเนาะ ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาในเขตเทศบาลอำเภอรือเสาะ จ.นราธิวาส ก่อนคนร้ายที่ซ้อนท้ายจะปาระเบิดขว้างไม่ทราบชนิด เข้าใส่ประชาชนที่กำลังเข้าคิวซื้ออาหารกันอยู่ จากนั้นจึงขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
       
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บรวม 4 ราย เป็นชาย 2 ราย หญิง 2 ราย ในจำนวนนี้อาการสาหัส 2 ราย
       
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเก็บหลักฐานเพื่อติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน 

13

ข่าวบันเทิง ข่าวทั่วไป / ช้างของกลางภูเก็ตเดินทางถึงศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยลำปางแล้ว

« เมื่อ: มีนาคม 01, 2012, 11:48:25 am »

เมื่อเวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นำโดยนายอวัช นิติกุล หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

ได้นำช้างน้อยจำนวน 2 เชือก อายุ 1 ปี ชื่อพลายป๊อบ หรือฟลุค เพศผู้ และช้างพลายบุญหลาย หรือโจอี้ เพศผู้ ซึ่งช้างทั้งสองเชือก เป็นช้างของกลางที่ทางเจ้าหน้าที่มีการตรวจยึดจากปางช้างปางเอทีวี ซีวิว ออนทัวร์ จ.ภูเก็ต เนื่องจากช้างไม่มีตั๋วรูปพรรณ จึงคาดว่าน่าจะเป็นช้างป่า เดินทางมาถึงศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.ห้างฉัตร จ.ลำปางแล้ว หลังจากเดินทางออกจาก จ.ภูเก็ต โดยรถบรรทุก 10 ล้อ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งการเดินทางของช้างน้อยทั้ง 2 เชือก ช้างอารมณ์ดีกินน้ำ และอาหารได้ดี ตลอดระยะทางการที่ไกลกว่า 1,461 กิโลเมตร

นายอวัช นิติกุล หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า เมื่อรถบรรทุกช้างเดินทางมาถึงพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ลำปาง ช้างมีอาการตื่นเต้นและเจอกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นอุณหภูมิอยู่ต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ในช่วงเช้าของวันนี้ ที่ จ.ลำปาง อุณหภูมิอยู่ต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง
 
ส่วนช้าง 14 เชือก ที่มีการอายัดไว้จากปางช้างไทรโยค จ.กาญจนบุรีนั้น ทางศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจังหวัดลำปาง ขณะนี้ขบวน ซึ่งมีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนำมา ได้เข้าสู่เขต จ.ลำปาง และขบวนจะมุ่งตรงเข้าสู่โรงเรียนฝึกควาญช้าง ภายในศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยทันที



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน   

14

ข่าวบันเทิง ข่าวทั่วไป / อากาศร้อนส่งผลดี ชาวบ้านประกอบอาชีพจับ"ตุ๊กแก-จิ้งจก"อบแห้งขาย

« เมื่อ: มีนาคม 01, 2012, 11:43:16 am »

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครพนมมีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว ชาวบ้านในเขตบ้านตาล หมู่ 15 ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม ซึ่งเป็นอำเภอที่มีชาวบ้านประกอบอาชีพปริศนา หรืออาชีพแปลก สร้างรายได้นำเงินหมุนเวียนเข้ามาในอำเภอเดือนละกว่า 20-30 ล้านบาท

โดยจะทำอาชีพตามฤดูกาล ในช่วงฤดูฝนจะมีอาชีพจับปลิงอบแห้งขาย ฤดูหนาวจับไส้เดือนขาย ส่วนในช่วงฤดูร้อนเดือนมีนาคม-เมษายน  จะมีรายได้จากอาชีพจับตุ๊กแกและจิ้งจกมาอบแห้งขาย  เนื่องจากเป็นฤดูกาลที่ตุ๊กแกออกมาผสมพันธุ์ จึงสามารถจับได้จำนวนมาก เพื่อนำส่งออกไปขายยังต่างประเทศไปปรุงเป็นยาโด๊ป ชูกำลัง โดยซึ่งตุ๊กแกที่อบแห้งเสร็จ มีราคาตัวละ 30-80 บาท ตามขนาด ส่วนจิ้งจกรับซื้อตัวละ 50 สตางค์

ทำให้ในช่วงนี้ชาวบ้านแถบนี้ที่ไม่สามารถทำการเกษตร ได้หันไปทำอาชีพเดินสายจับตุ๊กแกขายแทน  เพราะสร้างรายได้ให้จำนวนมาก ตกครอบครัวละ 30,000-50,000 บาท ต่อเดือน ทำให้ในช่วงหน้าร้อนมีเงินสะพัดหมุนเวียนเข้าอำเภอนาหว้ากว่า 20 ล้านบาท     

นายประสิทธิ์ ลาสุด อายุ 67 ปี ชาวบ้านตาล ที่มีอาชีพทำตุ๊กแกอบแห้งขาย กล่าวว่า ในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นฤดูกาลผสมพันธุ์ของตุ๊กแก ทำให้ตุ๊กแกที่อยู่ตามบ้านเรือน ตามต้นไม้ ออกมาผสมพันธุ์ ชาวบ้านแต่ละครอบครัวมีรายได้จากการออกไปจับตุ๊กแกมาขาย โดยชาวบ้านกลุ่มหนึ่งจะออกเดินสายไปทุกพื้นที่ รวมถึงต่างจังหวัด ใช้วิธีทำบ่วงใส่ไม้ยาวไปคล้องตุ๊กแก บางตัวก็ขอซื้อกับเจ้าของบ้านตัวละ 15-20 บาท แล้วแต่ขนาด จากนั้นจะนำมาให้ชาวบ้านอีกกลุ่มทำหน้าที่ชำแหละเอาเครื่องในออกทิ้ง จากนั้นนำมาแผ่ด้วยการใช้ไม้หนีบกางขาตุ๊กแกทั้ง 4 ข้างออก เพื่อนำไปเข้าห้องอบแห้งใช้เวลาประมาณ 1 คืน

เสร็จแล้วจะนำไปส่งให้พ่อค้าที่เป็นตัวแทนรับซื้อในราคาตั้งแต่ 30-80 บาท ตามขนาดตัวเล็กใหญ่ บรรจุแพคใส่กล่องขึ้นรถบรรทุกไปลงเรือที่กรุงเทพฯ ส่งออกไปขายยังประเทศจีนและไต้หวัน ที่นิยมนำไปปรุงเป็นอาหารและยา

โดยเชื่อว่าเป็นยาโด๊ปชูกำลังชั้นดี ซึ่งในเดือนที่ผ่านมามีตุ๊กแกอบแห้งส่งออกจากอำเภอนาหว้าไปขายประมาณเกือบ 100,000 ตัว ส่วนจิ้งจกนั้นจะรับซื้อราคาตัวละ 50 สตางค์




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน   

15

รูปเซ๊กซี่ Sexy ไม่โป๊ก็เสียวได้ !! / หัวใจผมเดาะ

« เมื่อ: มีนาคม 01, 2012, 11:33:10 am »

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=sSy_eEOWG_4" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=sSy_eEOWG_4</a>