แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - KimZii

หน้า: 1 ... 40 41 [42] 43
616
Talking / จะฮาไปไหนเนี่ย !!
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 29, 2012, 01:13:57 pm »


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=G7ftfILsxAc" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=G7ftfILsxAc</a>



;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D





ที่มา: YouTube


617




จากกรณีดาราสาวนางแบบสาว น.ส.พิลาวรรณ อารีรอบ อายุ 29ปี หรือที่รู้จักในวงการ "หมวย แม็กซิม"


อดีตคนเคยรักของนักร้องหนุ่มเจ้าของบทเพลงรสปูอัด "ฮาเวิร์ด หวัง" ที่ฝ่ายหญิงออกมาแฉว่าถูกฝ่ายชายบังคับให้ทำแท้งที่คลินิคชื่อดังแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท อย่างไรก็ตามภายหลังจากเกิดเรื่องฝ่ายสาวได้เก็บความทุกข์ในจิตใจจนเกินจะแบกรับไหวพร้อมกับสารภาพว่าไปทำแท้งจริง พร้อมกับเดินทางให้ปากคำกับพ.ต.อ. สุพัชร พึ่งพวง ผกก.สด.บชน.ถึงเรื่องดังกล่าว ขณะที่ฝ่ายนักร้องหนุ่มแอ่นอกยอมรับว่าเคยพาอดีตคนเคยรักไปทำแท้งจริง โดยอ้างว่าไม่รู้ว่าความผิดพร้อมกับยินดีเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ก.พ. พ.ต.อ.ชนิน วัชรปาณีกูล ผกก.สน.ลุมพินี  เปิดเผยว่า

ตนได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนขออนุมัติหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อเข้าตรวจคสอบคลินิกภายใน ซอยสุขุมวิท 12  หลังน.ส.พิลาวรรณ หรือหมวย กล่าวอ้างว่าเปิดเป็นสถานที่ทำแท้งเถื่อน โดยทางกองกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี บชน. ได้ส่งสำนวนการสอบปากคำนางสาวพิลาวรรณ เมื่อวันที่25 ก.พ ที่ผ่านมา มามอบให้ ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ลุมพินีได้ประสานกับกระทรวงสาธารณะ ร่วมตรวจสอบสถานที่คลินิคดังกล่าวด้วย

อย่างไรก็ตามในส่วนของกระทรวงสาธารณะสุขจะทำหน้าที่ตรวจสอบในเรื่องใบอนุญาตที่ตั้งสถานประกอบการว่าถูกต้องหรือไม่

ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ลุมพินี จะตรวจสอบทางเวชทะเบียน รายชื่อและวันที่ น.ส.วิลาวรรณ เดินทางมาทำแท้งว่ามีการบันทึกไว้ตรงกับคำให้การหรือไม่ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือเชิญตัวน.ส.วิลาวรรณ มาให้ปากคำเพิ่มเติม ในช่วงเวลา 13.00 น.ของวันที่ 29 ก.พ. ส่วนนายฮาเวิร์ด หวัง แฟนหนุ่ม ยังไม่มีการเชิญตัวเข้ามาให้การแต่อย่างใด อย่างไรก็ดีสำหรับโทษของผู้ที่ยินยอมทำแท้ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พันบาท และสถานที่เปิดทำแท้งเถื่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ส่วนผู้สนับสนุน มีโทษ 2 ใน 3

ต่อมาเวลา  13.00 น. พ.ต.อ.ชนิน พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส. และนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารมว.สาธารณะสุข

ได้นำหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 55/2555 ลงวันที่  28 ก.พ. 2555 เข้าตรวจค้นสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน คลีนิคชุมชนเวชกรรมหรือคลีนิคมีชัย ภายในซอยสุขุมวิท 12 เลขที่ 6 เขตคลองเตย โดยมีนายบุญกิต กงทองลักษณ์ เจ้าของสถานพยาบาลดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ของทางสถานพยาบาล ให้การต้อนรับและเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดขึ้นไปบนอาคาร โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปสังเกตการณ์และทำข่าว  โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ก่อนจะพาเจ้าหน้าที่เดินไปยังอาคารคลินิกซึ่งอยู่ใกล้กัน อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานอาคารคลินิกดังกล่าวที่ตำรวจและทางเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขขึ้นไปตรวจสอบนั้น เป็นอาคาร 3 ชั้น ชั้นละประมาน 6 ห้อง เป็นลักษณะเหมือนสถานพยาบาลทั่วไป

      ภายหลังจากตรวจสอบ พ.ต.อ.ชนินเปิดเผยว่า ในส่วนของตำรวจได้เข้าตรวจสอบหาพยานหลักฐาน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทางผู้บริหารของคลินิก
 
จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบเวชระเบียน หรือประวัติการรักษาของน.ส.พิลาวรรณ เป็นไปได้ว่าอาจมีการแจ้งชื่อนามสกุลปลอม ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางตำรวจสน.ลุมพินี ได้ทำหนังสือเชิญตัวน.ส.พิลาวรรณ มาสอบปากคำเพิ่มเติม ว่าใช้ชื่อนามสกุลใดไปใช้บริการคลินิกดังกล่าว

ทางด้านนายพสิษฐ์ เปิดเผยว่าเป็นการเข้าตรวจตามพรบ.สถานพยาบาล จากการตรวจสอบพบว่าสถานพยาบาลดังกล่าว
 

มีการขอใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฏหมาย มีหลักฐานยืนยันเลขที่ 10101051852 โดยมีกระทรวงสาธารณะสุขเป็นผู้ควบคุมดูแล แต่จากการตรวจสอบการเก็บประวัติเวชระเบียนของผู้รักษา พบว่าสถานบริการดังกล่าวมีความผิดในการจัดเก็บเวชระเบียนของผู้รักษาไม่ถูกต้อง โดยมีโทษจำคุกปรับไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน2หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะตาม พรบ.สถานพยาบาลปี 2541 ระบุว่าสถานพยาบาลจะต้องเก็บประวัติผู้รักษาไว้ 5 ปี

นอกจากนี้จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของทางคลินิกทราบว่านายมีชัย วีระไวทยะ ผู้ก่อตั้งและเจ้าของคลีนิคดังกล่าว ได้เดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าคลีนิค ได้ปิดทำการหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากคลินิกปิดทำการวันเสาร์-อาทิตย์ ตามปกติอยู่แล้ว

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=EpdCQ9gbsDo" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=EpdCQ9gbsDo</a>




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์                         


618



วันที่ 28 ก.พ. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่า ขณะนี้ในเว็บเครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดัง "เฟซบุ๊ก"

มีการเผยแพร่และส่งต่อภาพสามเณรรูปหนึ่ง มีกิริยาอาการคล้ายกับหนุ่มแต๋ว นั่งอยู่ในเต๊นท์ผ้าใบ นอกจากนั้น ในเต๊นท์ยังปูผ้าสีชมพู และมีกระเป๋าคล้ายกระเป๋ายี่ห้อหลุยส์วิตตองวางอยู่  

อย่างไรก็ตาม ในเฟซบุ๊กไม่มีข้อมูลระบุว่าภาพนี้ถ่ายที่ใดและเป็นเณรในประเทศไทยหรือไม่

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=8pgXxN1z6_o" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=8pgXxN1z6_o</a>



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด                        


619





เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 ก.พ. นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่


พร้อมคณะผู้บริหารเทศบาล นายดนัย สารพฤกษ์ ผอ.โรงพยาบาลเทศบาลนครเชียงใหม่ ร่วมกันแจกหน้ากากอนามัยให้แก่ผู้ป่วยในโรงพยาบาล พร้อมแนะนำวิธีการดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่จ.เชียงใหม่ เกิดปัญหาหมอกควัน มลพิษทางอากาศ โดยในโรงพยาบาลเทศบาลนครเชียงใหม่ในช่วงเดือนมกราคม  มีผู้ป่วยจากโรคระบบทางเดินหายใจประมาณ 278 คน เดือนกุมภาพันธ์ 204 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก หลังจากนั้นคณะทั้งหมดได้เดินทางย่านถนนช้างคลาน โดยนำรถพ่นน้ำไปฉีดพ่นน้ำตามท้องถนนเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นของสภาพตัวเมืองเชียงใหม่เพื่อลดปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้น

นายทัศนัย กล่าวว่าปัญหาหมอกควันในเชียงใหม่ถือว่าเข้าขั้นวิกฤติในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนเป็นอย่างมาก จึงนำหน้ากากกว่า 3 หมื่นชิ้นออกแจกจ่ายตามโรงพยาบาล ชุมชน โรงเรียนทุกโรงเรียนเพื่อให้ประชาชนได้มีอุปกรณ์ไว้ป้องกันมลพิษ นอกจากนั้นยังได้ระดมอุปกรณ์เครื่องมือทุกอย่างออกฉีดพ่นน้ำตามถนนทุกสายวันละ 2-3 ครั้ง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับอากาศแก้ปัญหาหมอกควัน

ทางด้านนายบรรพต คันธเสน ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) เชียงใหม่
 

เปิดเผยว่า สำหรับจ.เชียงใหม่ วันนี้ผลการวัดค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ที่สถานีตรวจวัดศาลากลาง จ.เชียงใหม่ วัดได้ 67.80 ไมโครกรัมฯ สถานีตรวจวัดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย อ.เมือง วัดได้ 84.69 ไมโครกรัมฯ ซึ่งเป็นผลมาจากการควบคุมการเผาที่ได้ผลดีขึ้น จึงได้ประสานเพิ่มเติมไปยังทุกภาคส่วน รวมทั้งประชาชนให้ความร่วมมือหยุดการเผาทุกชนิดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการงดการเผาริมทาง งดการเผาในพื้นที่ป่าและไฟป่า รวมถึงขอความร่วมมือจากประชาชนงดเผาขยะ เศษวัสดุการเกษตร และกิ่งไม้ใบหญ้า เป็นต้น เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้น

ขณะที่นายทรง กลื่นประทุม ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เปิดเผยว่า จากการบินขึ้นทำฝนหลวง

เพื่อแก้ปัญหาหมอกควันในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ได้ทำการขึ้นบินปฏิบัติการเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา ในเขตพื้นที่ตอนใต้ของจ.เชียงใหม่ โดยใช้เครื่องบินบรรทุกสารทำฝนหลวงสูตรเย็น ขึ้นปฏิบัติการจำนวน 2 ลำ แต่ปัญหาและความยากลำบากในช่วงนี้คือมีความแห้งแล้งสูง และมีความชื้นต่ำมาก ประกอบกับลมที่พัดเข้ามาเป็นลมตะวันตก หลังจากที่มีการทำฝนหลวงครั้งแรก ยังไม่ประสบความสำเร็จ จนถึงขั้นทำให้ฝนตกลงมาได้ แต่ก็สามารถเพิ่มความชื้นในอากาศจนทำให้เกิดเมฆก่อตัวขึ้นมาได้ สามารถลดภาวะฝุ่นละอองในพื้นที่ได้บางส่วน

ดังนั้นในวันนี้ซึ่งเป็นวันที่สอง ได้มีการประชุมกันในช่วงเช้าแล้ว พบว่าความชื้นที่ก่อตัวกันหลังจากขึ้นทำฝนหลวงวันแรกยังคงอยู่

ในวันนี้จึงจะขึ้นทำอีกครั้งในพื้นที่เดิม ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ตอนล่างของจ.เชียงใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสให้เกิดฝนมากยิ่งขึ้น และจะทำซ้ำกันไปจนกว่าฝนจะตก เมื่อฝนตกแล้วก็จะมีการย้ายพื้นที่เป้าหมายต่อไป โดยจะทำการบิน 6 เที่ยวบิน ในพื้นที่เป้าหมาย 3 จังหวัด คือ จ.เชียงใหม่ ลำปาง และพะเยา ที่มีค่าปริมาณฝุ่นละอองสูง




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์                         


620





กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศประจำวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 เมื่อเวลา 04:00 น.


บริเวณความกดอากาศสูงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิสูงขึ้น เว้นแต่บริเวณภาคเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า ส่วนลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้น


พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  มีหมอกในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีหมอกบางในตอนเช้า และอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก  มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 




ขอขอบคุณ:


621



เดลี่เมล์รายงานวันที่ 28 ก.พ. เปิดตัวคู่รักชาวอินเดียที่ฝ่ายชายเป็นท้าวแสนปม
ทั้งตัวมีตุ่มตะปุ่มตะป่ำ แต่ฝ่ายหญิงไม่รังเกียจใช้ชีวิตคู่กันมา และมีลูกชายด้วยกัน 3 คน

ท้าวแสนปมแห่งแดนภารตะ มีชื่อว่า โมฮัมหมัด อุมาร์ อายุ 62 ปี อาศัยอยู่ในเมืองไฮเดอราบัด ประเทศอินเดีย เล่าว่า ตนเองเริ่มมีตุ่มขึ้นที่มือตั้งแต่อายุ 14 ปี จากนั้นก็ค่อยๆ ลามไปทั่วร่าง จนตะปุ่มตะป่ำทั้งตัว ผู้คนที่เห็นต่างพากันกลัวและรังเกียจ หมอบอกว่า หากแต่งงาน และมีลูกลูกก็อาจเป็นแบบเดียวกับตน


กระทั่ง อุมาร์อายุ 28 ปี พบรักกับฟาร์ฮัน-อัน-นิสา และแต่งงานกัน โดยฝ่ายหญิงไม่รังเกียจที่อุมาร์มีรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ เพราะรู้ว่าเป็นคนดี


"ฉันรู้สึกได้ว่าอุมาร์เป็นผู้ชายที่ดี มีจิตใจดีและมีน้ำใจ ครอบครัวฉันเตือนว่า ในอนาคตอาจต้องลำบาก หากโรคผิวหนังของเขาแย่ไปกว่านี้ แถมยังไปปรึกษาหมอแทนฉัน แต่ฉันตัดสินใจเสี่ยง" ฟาร์ฮัต กล่าว


จากนั้นทั้งสองตัดสินใจมีลูก และโชคดีที่ทุกคนสุขภาพแข็งแรง ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ


สำหรับโรคดังกล่าว เรียกว่า NEUROFIBROMATOSIS หรือ NF เกิดจากความผิดปกติของยีน ดังนั้นจึงถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกได้ โดยมีผลทางเซลล์ประสาทเส้นใย ปรากฏอาการทางผิวหนัง เป็นรอยจ้ำๆ ก่อน จากนั้นจะนูนเป็นตุ่ม ซึ่งไม่มีทางรักษาตุ่มนูนเหล่านี้ แม้ว่าจะใช้การผ่าตัด หรือวิธียิงเลเซอร์


อุมาร์ กล่าวว่า ชีวิตนี้ถ้าไม่มีภรรยาคนนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ภรรยาเป็นพรในชีวิต ตนโชคดีจริง ๆ




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือข่าวสด                         


622



"บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ สร้างความฮือฮาอีกแล้ว เตรียมจัดงานฉลองมหาสงกรานต์ที่ นิว ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม โดยดึง โซระ อาโออิ มาร่วมงานด้วย

เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ที่ นิว ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม สนามของทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทั้งนี้เตรียมดึง เอบิสุ มัสแคทส์ เกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่นนำโดย โซระ อาโออิ ดาราเอวีชื่อดัง เข้าร่วมงานอีกด้วย

โดยบิ๊กเน เผยว่า ตนเองนั้นต้องการให้จังหวัดบุรีรัมย์เป็นศูนย์กลางของงานเทศกาลมหาสงกรานต์ของเมืองไทย ไม่แพ้ถนนข้าวสารและสีลมที่กรุงเทพ หรือในต่างจังหวัดอย่างเชียงใหม่

สำหรับ เอบิสุ มัสแคทส์ เป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปจากญี่ปุ่น ที่รวบรวมดาราเอวีกว่า 25 ชีวิต นำทีมโดย โซระ อาโออิ สร้างความฮือฮาในวงการเพลงญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก






623




จับคาหนังคาเขาสมภารอยู่กับม่ายสาวสองต่อสองในกุฏิวัดดังหัว ไทร นครศรีธรรมราช ชาวบ้านแจ้ง กก.วัดและตำรวจบุกเข้าไป

 
ถึงกับตะลึงพบอยู่ในห้องกันสองคนมีขวดเหล้าทิ้งเกลื่อน รักษาการเจ้าอาวาสสารภาพ รู้จักกับม่ายสาวตอนมาทำบุญพูดคุยสนิทสนมจนมีสัมพันธ์ต่อกัน ยอมลาสิกขาและพาม่ายสาวออกจากวัดไปพร้อมกัน ชาวบ้านมึนไม่นึกว่าจะเป็นพระรูปนี้ เพราะปกติเคร่งระเบียบวินัยจนได้รับแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาส ตอนแรกเห็นผู้หญิงแวะมาตอนกลางคืนคาดว่ามาหาพระลูกวัด จึงพากันจับตากระทั่งเข้าไปเจอจะจะ

เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 28 ก.พ. ขณะที่ด.ต.วรวิทย์ คำคลาย ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช

กำลังออกตรวจ พื้นที่ได้รับแจ้งจากกำนันผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน ม.12 ต.หัวไทร อ.หัวไทร มีพระภิกษุอยู่กับสีกาภายในกุฏิวัดวัดอมรานุยุตต์ หรือวัดอีมอญ จึงแจ้งผู้บังคับบัญชาพร้อมด้วยพ.ต.ท.เจียร ชูหนู พนักงานสอบสวนเวร สภ.หัวไทร ประสานงานกับกรรมการวัด เข้าปิดล้อมกุฏิวัดดังกล่าว โดยได้ยินเสียงผู้ชายกับผู้หญิงอยู่กันสองต่อสอง พูดคุยกะหนุงกะหนิงกันภายในกุฏิ

หน้ากุฏิพบรถจักรยานยนต์จอดอยู่ 1 คัน เจ้าหน้าที่และชาวบ้านจึงฮือบุกเข้าไปภายในถึงกับตกตะลึงเมื่อพบพระบุญลือ อทินนโท อายุ 50 ปี รักษาการเจ้าอาวาส อยู่กับนางสายชล อุ่นสอน อายุ 51 ปี ทั้งคู่ถึงกับแตกตื่นเมื่อเห็นชาวบ้านและเจ้าหน้าที่บุกเข้ามา ภายในกุฏิยังพบขวดเหล้านอกซึ่งดื่มหมดแล้วหลายขวด ขณะที่ชาวบ้านเองก็ตกใจเพราะไม่คิดว่าพระที่อยู่กับสีกาจะเป็นพระบุญลือ

ตอนแรกพระบุญลือปฏิเสธอ้างว่าแค่พูดคุยกันธรรมดาเท่านั้น
 
แต่เมื่อถูกซักถามหนักขึ้นสุดท้ายก็ยอมสารภาพว่ามีความสัมพันธ์กันจริง โดยฝ่ายหญิงเป็นแม่ม่าย ทำธุรกิจส่วนตัวในตลาด อ.หัวไทร รู้จักกันตอนมาทำบุญ จากนั้นก็ติดต่อกันเรื่อยมากระทั่งมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง หลังยอมสารภาพตำรวจให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยพระบุญลือยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง ก่อนพาผู้หญิงลงจากโรงพักไปด้วยกัน

ด้านชาวบ้านที่ร่วมจับกุม กล่าวว่าไม่คิดว่าพระที่ก่อเหตุจะเป็นนายบุญลือ เพราะปกติเป็นพระที่เคร่งมากรูปหนึ่ง จนได้รับความไว้วางใจตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาส

ที่ผ่านมาเห็นนางสายชล แวะมาที่วัดตอนดึกๆ เป็นประจำ สงสัยว่าจะมีเรื่องไม่งามเกิดขึ้น แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นพระรูปใด จึงพากันจับตากระทั่งวันนี้นางสายชลเดินทางมาอีก จึงไปแจ้งตำรวจและกรรมการวัดมาตรวจสอบ กระทั่งทราบเรื่องดังกล่าว




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด                         


624




สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) เตือนว่า



ในปี 2040 โลกเสี่ยงถูกอุกกาบาต ซึ่งมีความกว้าง 460 ฟุต พุ่งชน โดยขณะนี้ทางนาซาและสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กำลังร่วมมือกัน เพื่อหาวิธีป้องกันไม่ให้เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น

รายงานระบุว่า ขณะนี้ โลกมีความเสี่ยง 1:625 ที่จะถูกอุกกาบาตพุ่งชน ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2040

ซึ่งความเสี่ยงดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงในอนาคตก็เป็นได้ โดยในเบื้องต้น นักวิทยาศาสตร์ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุกกาบาตดังกล่าว นอกเหนือจากความกว้าง โดยจะมีการตรวจสอบอีกทีปีหน้า


นาซาเปิดเผยว่า แม้มีความเป็นไปได้ว่า การพุ่งชนของอุกกาบาตครั้งนี้จะคร่าชีวิตผู้คนหลายล้านค
 
ทว่า นักวิทยาศาสตร์มั่นใจว่า จะไม่นำไปสู่การสูญพันธุ์ของมนุษย์ ทั้งนี้ อุกกาบาตที่โหม่งโลกจนส่งผลให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์เมื่อ 65 ล้านปีก่อนนั้น มีความกว้าง 9 ไมล์




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน                         


625





แก้ปัญหา "ไฟป่า-หมอกควัน" ยังขาดการทำงานแบบบูรณาการ


ประเทศไทยมีหน่วยงานด้านการแก้ปัญหาไฟป่ามาตั้งแต่ปี 2552 มีคณะกรรมการจัดการไฟป่าและหมอกควันแห่งชาติที่มีตัวแทนนราชการต่าง ๆ ร่วมมือกันทำงานแก้ไขปัญหา แต่หน่วยงานปฏิบัติที่รับผิดชอบ ระบุว่า ที่ปัญหายังคงรุนแรงทุกปีเป็นเพราะ ยังขาดความร่วมมือจากเกษตรกรซึ่งต้องเร่งสร้างความเข้าใจ

ข้อมูลจากสำนักป้องกันปราบปราม และ ควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รายงานว่า สถานการณ์ไฟป่าในเขตป่าอนุรักษ์ไม่ได้รุนแรงขึ้นกว่าปีที่แล้ว ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม พบเหตุไฟป่า หรือ จุดฮอตสปอตในป่าอนุรักษ์เพียงร้อยละ 20 แต่จุดไฟไหม้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่เกษตรกรรม เพราะเกษตรกรยังนิยมใช้วิธีเผาไร่นาลดต้นทุนเตรียมเพาะปลูก


สำนักป้องกันปราบปราม และ ควบคุมไฟป่า ยังถือเป็นหน่วยงานเดียวที่มีหน้าที่ป้องกันและควบคุมไฟป่าโดยตรง เฉพาะเขตป่าอนุรักษ์ 73 ล้านไร่มีเจ้าหน้าที่ 5,000 นาย แต่ในเขตพื้นที่เกษตรกรรมไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบ


ปี 2552 มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีแต่ตั้งคณะกรรมการจัดการไฟป่าและหมอกควันแห่งชาติ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน อธิบดีกรมควบคุมมลพิษและอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเป็นเลขานุการร่วม และ มีปลัดกระทรวง และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นคณะกรรมการทำให้ถ่ายโอนภาระกิจบางส่วนให้กับท้องถิ่น


ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันไฟป่าจะรับผิดชอบสั่งการและประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่ผ่านมามีการฝึกอบรมการควบคุมไฟป่าให้กับหลายพื้นที่แล้ว แต่ยังคงขาดความพร้อมด้านอุปกรณ์ ที่สำคัญยังขาดการประชาสัมพันธ์ คำแนะนำและสร้างความตระหนักถึงผลกระทบจากหมอกควันไฟป่าให้แก่เกษตรกร



ขอขอบคุณ: TeeNee.Com  


626


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=cRuOnmI2Cmo" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=cRuOnmI2Cmo</a>





ที่มา: YouTube

627
ข่าว IT / ไอที24ชั่วโมง - facebook เปิด verify account
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 29, 2012, 12:24:48 pm »


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=wFpz4FYnW4g" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=wFpz4FYnW4g</a>






ที่มา: YouTube

628


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=23F01QH1QBM" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=23F01QH1QBM</a>





ที่มา: YouTube

629


ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ ตามธรรมเนียมความเชื่อของชาวตะวันตกตั้งแต่ค.ศ.500 โดยเฉพาะเริ่มต้นจากในไอร์แลนด์มีธรรมเนียมให้ผู้หญิงสามารถขอผู้ชายแต่งงานได้ เฉพาะในปีอธิกสุรทิน (ปีที่มี 366 วัน) หรือปีที่เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน ซึ่งในปีนี้มีวันที่ 29 กุมภาพันธ์ โดยชาวตะวันตกเรียกวันนี้ว่า Leap Day และฝรั่งถือว่าผู้หญิงจะขอแต่งงานกับผู้ชายก็ได้ โดยเรียกว่า leap year proposal

ขณะที่ ปี ค.ศ.1288 ในสมัยของราชินีมาร์กาเร็ตแห่งสกอตแลนด์ ได้ออกกฎหมายคุ้มครองเพิ่มเติมขึ้นมาอีก หากผู้หญิงที่ขอผู้ชายแต่งงานในวันดังกล่าวถูกปฏิเสธ ฝ่ายชายต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ฝ่ายหญิง อาทิ ด้วยการจูบ หรือต้องต่างตอบแทนด้วยชุดเสื้อผ้าเครื่องประดับ หรือเงิน 

สำหรับใครที่ไม่แน่ใจว่า จะกล้าหรือไม่ ลองหาภาพยนตร์ “Leap Year” มาชมกันได้ หนังนำเสนอความเชื่อดั้งเดิมนี้ และใช้เป็นพล็อตในภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ เล่าเรื่อง "แอนนา แบรดดี้" สาวมาดเนี๊ยบสุดระเบียบ (รับบทโดย "เอมี่ อดัมส์")เดินทางจากบอสตันไปหาแฟนที่ทำงานในกรุงดับลิน ไอร์แลนด์ เพื่อขอแฟนหนุ่มแต่งงานกับเธอ แต่สภาพอากาศทำให้การเดินทางต้องทุลักทุเลขึ้นรถลงเรือจนไปเกยฝั่งที่หมู่บ้านเล็กๆในเวลส์  แอนนาต้องจ้างหนุ่มเจ้าของบาร์หน้าโหดกวนประสาท "ดีแคลน" (แมทธิว กู้ดดี้) ขับรถไปส่งเธอให้ทันเวลาขอแฟนแต่งงานนั่นเอง


ขอบคุณข้อมูล: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

630

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.สว่างอารมณ์ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์  ว่า ที่บ้านเลขที่ 79/1 หมู่ 4 ต.สว่างอารมณ์ อ.ดอกคำใต้ มีตุ๊กแกประหลาดห้อยหัวและทำท่าเหมือนคล้ายว่ากำลังพนมมือ

นายคำปัน สุยะต๊ะ อายุ 74 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า เมื่อเวลา 07.00 น.


ตนพร้อมด้วยลูกและญาติๆ ทำพิธีทำบุญสืบชะตาให้แก่ตนเองกับนางศรี ผู้เป็นภรรยา อายุ 61 ปี ซึ่งขณะที่ประกอบพิธีกรรมอยู่นั้น มีเสียงแตกตื่นจากชั้นล่างของบ้านว่า มีตุ๊กแกห้อยหัวอยู่ที่หน้าประตูบ้าน จนพิธีกรรมเสร็จสิ้นพระสงฆ์ก็บอกว่าบ้านหลังนี้มีโชคที่ตุ๊กแกมาฟังพระสวดมนต์ ชาวบ้านที่มาร่วมงานก็บอกว่า ขณะที่พระสงฆ์ประพรมน้ำมนต์ให้พรผู้มาร่วมพิธีกรรมนั้น สังเกตพบว่าตุ๊กแกผงกหัวตลอดเวลาด้วย ซึ่งลักษณะที่ตุ๊กแกยึดอยู่กับผนังของบ้านนั้น พบว่า ตุ๊กแกมีความยาวขนาด 9 นิ้ว ใช้ขาหลัง 2 ข้างยึดติดกับผนังบ้าน ส่วนขาหน้าทั้งสองก็ยกขึ้นมาติดกันคล้ายพนมมือไหวด้วย อย่างไรก็ตามบ้านของตนไม่เคยมีตุ๊กแกเลย มาวันนี้เป็นวันทำบุญกลับมีตุ๊กแกมาถือว่าแปลกเหมือนกัน

ด้านนายนันท์ สุยะต๊ะ อายุ 55 ปี ลูกชายนายคำปัน กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนเชื่อว่าอาจจะเป็นดวงวิญญาณของแม่ตนที่ล่วงลับไปนานแล้วถึง 30 ปี มาร่วมรับผลบุญที่ตน พ่อ และญาติ ๆ ได้ทำอุทิศส่วนกุศลไปให้



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน                        

โดย :KimZii โพสเมื่อ [วันอังคาร ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 17:50 น.]


หน้า: 1 ... 40 41 [42] 43