แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - Warden

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 26
76
ข่าว IT / อีก 50 ปีคนจะลืม"จอบส์"แต่จำ"เกตส์"ได้
« เมื่อ: มิถุนายน 10, 2012, 09:19:07 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] วันนี้เป็นวันสุดท้ายของงาน COMMART NEXT GEN 2012 ที่จัดขึ้นที่ศูนย์สิริกิติ์แล้วนะครับ ใครที่ยังไม่ได้ไปจับจองสินค้าไอที โมบาย พร้อมทั้งประมูลแก็ดเจ็ตเด็ดๆ ในงานช่วงเย็นนี้ ไม่ควรพลาด ส่วนรายงานข่าวเช้านี้จะเป็นเรื่องที่เกิดเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ได้สองวันแล้วนั่น เมื่อ มัลคอล์ม แกลดเวลล์ (Malcolm Gladwell) นักคิดนักเขียนหนังสือชื่อว่า "สัมฤทธิ์พิศวง" (Outlier) ที่ขายดีไปทั่วโลกได้ให้สัมภาษณ์ที่ Toronto Public Library’s Appel Salon ว่า ประวัติศาสตร์จะจารึกชื่อของบิลเกตส์ ในขณะที่คนส่วนใหญ่จะลืม "สตีฟ จอบส์" อุ๊ปส์!!!



แกลดเวลล์ กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์ โดยให้คำอธิบายต่อเหตุผลที่ตนเชื่อเช่นนั้นว่า ในขณะที่เกตส์ (Gates) ใช้ช่วงเวลาเกษียณไปกับการบริหารมูลนิธิด้วยการให้ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับประชากรที่ประสบความทุกข์ร้อนทั่วโลก ตรงกันข้ามกับสตีฟจอบส์ที่ต้องทำงานโดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่่อยจนกระทั่งเขาต้องเสียชีวิตลงก่อนวัยอันควร เพื่อทำให้บริษัทแอปเปิ้ลเติบโต แกลดเวลล์ได้สำรวจงานช่วยเหลือสังคมของเกตส์จนมั่นใจว่า มันจะสร้างความยิ่งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนทั่วโลกได้มากกว่าตำนานความสำเร็จของแอปเปิ้ล ซึ่งแน่นอนว่า ภายหลังที่มีการเผยแพร่ไอเดียของนักเขียนเบสท์เซลเลอร์ระดับโลกออกไปบนออนไลน์กระแสที่ไม่เห็นด้วยโดยเฉพาะสาวกของจอบส์ได้สร้างปรากฎการณ์บนเว็บขึ้นมาอีกครั้ง

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=ateBLjTIYeg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=ateBLjTIYeg</a>

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip หลายๆ ท่านคงจะเห็นต่างจากความคิดของแกลดเวลล์ ซึ่งแหล่งข่าวบางแห่งถึงกับมอง่วา เป็นการปั่นกระแสทางความคิดโดยบิดความรู้สึกของคนส่วนใหญ่มากกว่าที่จะเป็นเรื่องที่พอจะอธิบายเชิงสถิติได้แบบสัมฤทธิ์พิศวงหนังสือชื่อดังของเขา ชื่อ และความเป็นตัวตนตลอดจนไอเดียต่างๆ ของสตีฟจอบส์ที่สร้างตำนานให้กับแอปเปิ้ลกลับมายิ่งใหญ่จนแม้แต่คนที่ไม่เคยสนใจโลกไอทีมาก่อนยังรู้จัก คงไม่เป็นเรื่องง่ายนักที่มัีนจะตกหล่นหายไปในประวัติศาสตร์ได้ภายใน 50 ปี ที่สำคัญ สองคนนี้ (จอบส์ และเกตส์) เปลียนโลกคนละช่วงเวลา และมิติ สิ่งที่แกลดเวลล์พยายามนำเสนอคือ แนวทางการสร้างประวัติศาสตร์ของทั้งสองคนในช่วงนี้ที่แตกต่างกัน โดยแกลดเวลล์กล่าวในรายการว่า "นักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ทีสุดส่วนใหญ่จะไร้ศิลธรรม" เพราะฉะนั้นจึงไม่มีอะไรที่น่าจดจำเท่ากับผู้ที่กำลังทำความดีให้กับประชากรโลก เอาจริงๆ เลยนะครับ คุณผู้อ่านคิดเห็นอย่างไรกับไอเดียของแกลดเวลล์ครับ?

ที่มา : arip

77
ข่าว IT / Pocket TV เปลี่ยนทีวีเป็น"สมาร์ททีวี"
« เมื่อ: มิถุนายน 09, 2012, 08:48:56 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ย่างเข้าสู่วันที่สามของงาน COMMART NEXT GEN 2012 แล้ว ใครที่กำลังมองหาอัลต้ร้าบุ๊ก แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน สมาร์ททีวี และโน้ตบุ๊ก ไม่ควรพลาดไปเดินชมเลือกหาในงานกันนะครับ (7 - 10 มิ.ย. 2012 ศูนย์ประชุมสิริกิติ์) กลับมาเข้าข่าวกันดีกว่า ใครที่อยากได้สมาร์ททีวี แต่เพิ่งถอยทีวีมาได้ไม่นาน บางทีโปรเจ็กต์ Pocket TV อาจจะช่วยให้คุณสมหวังได้ด้วยการเพิ่มเงินอีกประมาณ 4,800 พันบาทเท่านั้น



Infinitec บริษัทตั้งใหม่ที่กำลังระดมทุนในเว็บไซต์ Kickstarter สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า Pocket PC ที่สามารถเปลี่ยนทีวีของคุณให้กลายเป็นสมาร์ททีวี (Smart TV) ได้ภายในพริบตา โดยตัวมันเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android ที่ดีไซน์ให้มีขนาดเล็กมากเท่าๆ กับแพลชไดรฟ์ที่มีความยาวแค่ 3.3 นิ้ว โดยมีคอนเน็คเตอร์เชื่อมต่อเข้ากับพอร์ต HDMI ของทีวี ซึ่งเมื่อต่อมันเข้ากับทีวีชองคุณ เพียงแค่นี้ คุณก็ได้สมาร์ททีวีแล้ว...ว้าว!!!

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=p-S1JBgBKLI" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=p-S1JBgBKLI</a>

ภายใน Pocket TV จะประกอบด้วย โพรเซสเซอร์ ARM COrtex A9 หน่วยความจำ (RAM) 512MB และสตอเรจภายใน 4GB และปลั๊ก HDMI สำหรับเชื่อมต่อกับทีวีดังรูป นอกจากนี้ ตัวมันยังมีช่องใส่ microSD เพื่อเพิ่มหน่วยความจำ พอร์ต USB 2.0 และความสามารถในการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi อุปกรณ์เสริมสำหรับ Pocket TV ก็จะมีรีโมทคอนโทรล ซึ่งมีให้เลือก 2 แบบคือ รีโมทอินฟราเรดมาตรฐาน กับ Air Remote ที่มาพร้อมกับคีย์บอร์ด QWERTY ให้คุณสามารถพิมพ์ด้วยนิ้วโป้งแบบ BB ได้ ราคาตั้งของทางบริษัทผู้ผลิตคือ 160 เหรียญฯ หรือประมาณ 4,800 บาท Pocket TV ยังมาพร้อมกับ Android 4.0 และ Google Play Store โดยทางบริษัทเรียกมันเป็นแพลตฟอร์มสมาร์ททีวีเวอร์ชันโมบายที่สามารถเล่นวิดีโอฟูลไฮเดฟฯ 1080p และเกมส์สนุกๆ ได้

ที่มา : arip

78
ข่าว IT / Samsung Galaxy S3 ถูกแตะเบรคโดย...
« เมื่อ: มิถุนายน 08, 2012, 06:51:00 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ในระหว่างที่มีการไต่สวนคดีความฟ้องร้องที่แอปเปิ้ล (Apple) มีต่อผลิตภัณฑ์ Galaxy Nexus ของ Samsung ล่าสุดเมื่อวานนี้ทนายความของบริษัทผู้ผลิตไอโฟนกล่าวว่า ภายใต้การดำเนินคดีดังกล่าว Apple ได้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งไม่ให้ซัมซุงนำ Galaxy S3 เข้าไปวางจำหน่ายในสหรัฐฯ ได้เป็นการชั่วคราว

แน่นอนว่า งานนี้เป็นการเล่นเกมการตลาดของ Apple ที่ต้องการสกัดดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง Samsung Galaxy S3 เกิดในตลาดสหรัฐฯ เร็วเกินไป โดยล่าสุด ซัมซุงรายงานว่า มียอดสั่งซื้อล่วงหน้าสำหรับ Galaxy S3 มากกว่า 9 ล้านเครื่องแล้ว โดยตัวเครื่องได้เริ่มวางจำหน่ายไปใน 28 ประเทศทั่วโลกแล้วด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Apple ได้ฟ้อง Galaxy S3 ของ Samsung ด้วยการอ้างว่า สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวเป็นรุ่นที่ได้รับการออกแบบ และพัฒนาต่อยอดจาก Galaxy Nexus (ซัมซุงร่วมกับกูเกิ้ล) ที่อยู่ในระหว่างการดำเนินคดี



อย่างไรก็ตาม ซัมซุงเชื่อว่า แอปเปิ้ลไม่ควรได้รับการสนองต่อความฟ้องดังกล่าว และทางบริษัทคงจะดำเนินการค้านคำร้องดังกล่าวเต็มที่ โดยพร้อมที่จะสาธิตให้ศาลเห็นถึงความแตกต่างของนวตกรรมใน Samsung Galaxy S3 ที่แตกต่างจาก Galaxy Nexus ขณะเดียวกัน ซัมซุงยังระบุอีกด้วยว่า ผู้บริโภคในสหรัฐฯ คาดว่าจะได้เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนเรือธงของซัมซุงในช่วงปลายเดือนนี้ นอกจากนี้ โอเปอเรเตอร์รายยักษ์ในสหรัฐฯ หลายๆ ราย ไม่ว่าจะเป็น T-Mobile และ Sprint ต่างก็ได้สั่งจอง Samsung Galaxy S3 ล่วงหน้าแล้ว เพื่อให้สามารถเปิดตัวในสหรัฐฯ ได้ในวันที่ 21 มิถุนายน ศกนี้ คงต้องติดตามกันดูต่อไปว่า งานนี้ Apple จะสกัดคู่แข่งอย่าง Samsung ได้ หรือไม่? แต่ถ้าคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip กำลังมองหา Samsung Galaxy S3 สามารถเข้าไปซื้อหาได้ในงาน COMMART NEXT GEN 2012 ที่บูธซัมซุงได้แล้ว ตั้งแต่ 7 -  10 มิ.ย. ศกนี้ที่ศูนย์สิริกิติ์

ที่มา : arip

79
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ที่ชื่นชอบแก็ดเจ็ตไม่ควรพลาดชม Gadget Zone ในงาน COMMART NEXT GEN 2012 (7 - 10 มิ.ย. 2012 ณ.ศูนย์สิริกิติ์) ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ไฮเทคที่น่าสนใจพร้อมประมูลมากมาย ตั้งแต่นาฬิกาปลุกเฮลิคอปเตอร์ไปจนถึง Smart Watch ของ Sony แต่สำหรับข่าวเทคโนโลยีเช้านี้ ใครที่กำลังรู้สึกว่า การพิมพ์บนหน้าจอสัมผัสไม่ค่อยสะดวก ไม่ควรพลาดข่าวดีนี้ครับ



Tactus Technology กำลังนำเสนอต้นแบบเทคโนโลยีหน้าจอสัมผัสสำหรับสมาร์ทโฟนแห่งอนาคตในงาน SID Display Week 2012 ที่จัดขึ้นในกรุงบอสตัน โดยจอสัมผัสรุ่นใหม่ของ Tactus จะมาพร้อมกับชั้นสัมผัส (Tactile Layer) ที่สามารถสร้างอินเตอร์เฟซทีให้ความรู้สึกถึงการสัมผัสได้ราวกับกดปุ่มจริงๆ ตลอดจนเส้นไกด์ และรูปร่างต่างๆ ที่นูนขึ้นมาจากหน้าจอสัมผัสปกติ ในขณะเดียวกันชั้นสร้างความรู้สึกสัมผัสทีว่านี้จะสามารถกลับไปอยู่ในสภาพเรียบสนิทเหมือนเดิมได้เมื่อไม่ถูกกระตุ้นให้ทำงาน ตัวแทนของบริษัทกล่าวว่า ชั้นสัมผัสดังกล่าวถือได้ว่าเป็นระบบแรกของโลกที่สามารถสร้างรูปร่างของปุ่มต่างๆ ขึ้นมาบนหน้าจอให้เห็น และสัมผัสได้ความรู้สึกนูนต่ำจริงๆ อีกทั้งยังสามารถคืนรูปร่างกลับไปเป็นชั้นสัมผัสที่เรียบไปบนหน้าจอได้



สำหรับการทำงานของมัน Tactus อธิบายว่า พวกเขาใช้เทคโนโลยีของเหลว(ที่ไหลเข้าไปในชั้นสัมผัส)ขนาดจิ๋ว หรือ microfluidic เพื่อให้มันสามารถสร้างปุ่มต่างๆ ให้นูนเด้งขึ้นมาจากหน้าจอสัมผัสจนผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ หรือความรู้สึกเดียวกันกับการกดปุ่มจริงๆ และเมื่อไม่ได้ใช้ ปุ่มต่างๆ ก็จะถูกดึงของเหลวกลับคืนเข้าไปในหน้าจอสัมผัสจนกลับมาเป็นพื้นผิวเรียบของชั้นสัมผัสบางๆ บนหน้าจอสมาร์ทโฟนตามปกติ Tactile Layer หรือขั้นสัมผัสของ Tactus จะมีความเรียบมากๆ แถมยังมองทะลุผ่านได้อย่างสบาย พื้นผิวมีความยืดหยุ่นสูง โดยเมื่อติดขึ้นไปบนหน้าจอสัมผัสของสมาร์ทโฟนทั่วไปจะไม่ทำให้มันทำให้เพิ่มความหนาเพิ่มขึ้นจนรู้สึกได้แต่อย่างใด เมื่อผู้ใช้สัมผัสปุ่มที่สร้่างขึ้นชันสัมผัส รูปร่าง ความสูง และความแข็งแรงของมันจะปรากฎบนหน้าจอสัมผัส แทนการนิ้วสัมผัสโดยตรงบนหน้าจอ ผู้ใข้จะรู้สึกได้อีกด้วยว่า ปุ่มมีการยุบตัว และพยายามเด้งกลับเหมือนปุ่มบนคีย์บอรด์จริงๆ Tactus มองว่า Tactile Layer จะช่วยให้แก็ดเจ็ตอย่าง สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เครื่องอ่านอีบุ๊ก และเครื่องเล่นเกมส์ต่างๆ ตลอดจนจอแสดงผลในรถยนต์ได้รับการพัฒนารูปแบบการใช้ไปอีกขั้นหนึ่ง

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=bwbO2JvW6lE" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=bwbO2JvW6lE</a>

ที่มา : arip

80
ข่าว IT / คู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของ New iPad คือ...
« เมื่อ: มิถุนายน 08, 2012, 06:49:58 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ในงาน คอมมาร์ต เน็กซ์เจน 2012 ได้เริ่มแล้วเมื่อวานนี้ (7 - 11 มิ.ย. 2012 ณ.ศูนย์ประชุมิสิริกิติ์) เกิดกระแส Samsung Galaxy S3 ที่มีผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมาก เข้าไปเลือกจับจองที่บูธของซัมซุงกันอย่างท่วมท้นตลอดเวลา ในขณะที่ทางฝั่ง Apple เอง New iPad ก็ได้รับความสนใจไม่น้อยเหมือนกัน โดยเฉพาะกับคุณสมบัติการทำงานที่เหนือกว่า iPad 2 แต่รายงานข่าวนี้กำลังจะเปิดเผยให้ทราบว่า คู่แข่งของ New iPad ตัวเอ๊กคือใคร?



คำตอบที่ฟังดูเหมือนน่าจะเสียดแทงใจแอปเปิ้ลก็คือ หลังจาก Apple เปิดตัว New iPad ไปเมื่อเดือนมีนาคมทีผ่านมา ทางบริษัทก็ได้ดำเนินการตามกลยุทธ์เดิมนั่นคือ ลดราคาของ iPad 2 ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ได้ดึงดูดผู้ซื้อแทบเล็ตให้เพิ่มขึ้นตามแผนที่วางไว้ แต่ล่าสุด หน่วยงานวิจัย CIRP (Consumer Intelligence Research Partners) ในสหรัฐฯ ระบุว่า แม้จะมีรายงานข่าวความสำเร็จของยอดขาย New iPad แต่ยอดขายของ iPad 2 ครองส่วนแบ่งยอดขายไอแพดทุกรุ่นอยู่ที่ 41% เลยทีเดียว แต่ก่อนที่จะสรุปว่า มันเกิดการแข่งขันกันเองของผลิตภัณฑ์ภายในบริษัท ความจริงมันอาจไม่ใช่อย่างที่เข้าใจก็ได้ :P



ปรากฎการณ์ดังกล่าวได้สร้างความปรหลาดใจให้กับนักวิเคราะห์ โดยพวกเขามองว่า Apple ได้เปลี่ยนวิธีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าสนใจ กล่าวคือ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่เพียงแต่ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่จะขายดีเท่านั้น แต่มันยังทำให้ผลิตภัณฑ์รุ่นก่อนหน้านี้ที่ลดราคาลงกลับมาได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นด้วย ทั้ง iPad 2 และ iPhone 4 (27%) กลับกลายเป็นคู่แข่งตัวสำคัญของ New iPad และ iPhone 4S ตามลำดับ ซึ่งแน่นอนว่า ยอดขายที่แข็งแรงทั้งของผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ และเก่าของ Apple ย่อมส่งผลกระทบให้กับบรรดาบริษัทผู้ผลิตแท็็บเล็ตรายอื่นๆ ที่ในไตรมาสแรกดูจะทรงๆ ไม่เคลื่อนไหวสักเท่าใด โดยเฉพาะแท็บเล็ตราคาถูกจาก Amazon (Kindle Fire) และ B&N (Nook Tablet) และหาก iPad 2 ยังคงแข็งแรงต่อเนื่องเช่นนี้ ความหวังสุดท้ายของผู้ผลิตแท็บเล็ตก็คงจะเป็นวินโดวส์ 8 ที่จะออกมาในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้ คงต้องมาลุ้นกันอีกทีว่าจะสำเร็จ หรือไม่?

ที่มา : arip

81
ข่าว IT / Windows Phone จะแซง iPhone ในปี?
« เมื่อ: มิถุนายน 07, 2012, 05:35:51 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ในขณะที่หลายคนยังสงสัยในโอกาสของ Windows Phone แต่ล่าสุด บ.วิจัยไอดีซีออกมาฟันธงว่า ไม่เพียงแต่ Windows Phone จะสามารถเอาชนะ BlackBerry ได้แล้ว มันยังจะแซงหน้าอุปกรณ์ iOS (iPhone, iPod Touch และ iPad) ของ Apple และสามารถขึ้นแท่นแพลตฟอร์มสมาร์ทโฟนยอดนิยมอันดับสองของโลกภายในปี 2016 อีกด้วย :O

นับว่าเป็นการคาดการณ์ที่ฟังดูสุดโต่งมากทีเดียว เนื่องจากปัจจุบัน Windows Phone มีส่วนแบ่งตลาดเฉพาะในไตรมาสแรกของปี 2012 แค่ 2.2% ในขณะที่ BlackBerry ครองส่วนแบ่งตลาด 9.7%  และหากจะพูดถึง iPhone อย่างเดียว (ไม่นับรวมอุปกรณ์ iOS อื่นๆ) ก็ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่สูงถึง 23% ซึ่ง Windows Phone ถือว่า มีการเติบโตที่ช้ามาก แต่นักวิเคราะห์ไอดีซีกลับเชื่อว่า Windows Phone จะม่ีการเติบโตที่รวดเร็วภายใน 4 ปี โดยเฉพาะการรุกทางด้านราคา และตลาดเกิดใหม่ โดยคาดการณ์ว่า ส่วนแบ่งตลาดของ Windows Phone ทีมีอยู่ทั้งหมดในปัจจุบัน 5.2% จะก้าวกระโดดเป็น 19.2% ในปี 2016 ในขณะที่อุปกรณ์ iOS จะตกลงจาก 20.5% เหลือ 19% แพ้ Windows Phone ซะงั้น??? ส่วนแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง Android จะยังครองแชมป์อันดับหนึ่ง แต่ก็ลดลงจาก 61% เหลือ 52.9%



บริษัทวิจัยดังกล่าวไมได้เปิดเผยแค่ตัวเลขสถิติที่มีการคาดการณ์เท่านั้น แต่ยังให้เหตุผลถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เกินคาดของ Windows Phone ด้วย โดยให้เครดิตของความสำเร็จว่าจะมาจากจุดแข็งของ Nokia ในตลาดเกิดใหม่ทีต้องการสมาร์ทโฟนราคาไม่แพง แต่ตอบโจทย์การใช้งานครบถ้วน ซึ่ง Nokia เป็นแชมป์ยอดขาย Windows Phone ในปัจจุบัน นั่นหมายความว่า มันมีโอกาสที่จะพัฒนาตลาดเกิดใหม่อย่างประทศในแถบเอเชีย ละตินอเมริกา และแอฟริกา ให้หันมาใช้วินโดวส์โฟนภายใต้แบรนด์โนเกียได้ไม่ยากเย็นนัก โดยในขณะที่แอปเปิ้ลกำลังขยายตลาดในจีน และยุโรป แต่มันยังมีตลาดในส่วนอื่นๆ อีก ในขณะเดียวกันการขยายตลาดดังกล่าวของ Apple ไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร บ.วิจัยยังมองอีกว่า วินโดวส์โฟนจะเป็นสมาร์ทโฟนที่เจาะเข้าตลาดล่างได้ ในขณะที่ Apple ยังคงส่งมอบ iPhone เครื่องเก่าให้ลูกค้าในราคาที่ถูกลง ไอดีซีเชื่อว่า ลูกค้าจะเลือกของใหม่อย่างวินโดวส์โฟนมากกว่า iPhone ตกรุ่น - -"




นอกจากการขยายส่วนแบ่งตลาดผ่าน Nokia แล้ว วินโดวส์โฟนจะยังได้รับแรงขับเคลื่อนจากโอเปอเรเตอร์ยักษ์ใหญ่อย่าง AT&T และ Verizon ตลอดจนกระแส Windows 8 อีกด้วย ซึ่งฐานผู้ใช้พีซีทีรันวินโดวส์ในปัจจุบันสูงถึง 84% ดังนั้น Windows 8 ที่จะเปิดตัว และเข้าไปอยู่ในเครื่องผู้ใช้ด้วยอินเตอร์เฟซ Metro UI ที่คล้ายกันจะช่วยผลักดันให้เกิดการใช้วินโดวส์โฟนมากขึ้น??? ทั้งหมดทั้งมวลคือปัจจัยที่ทำให้ไอดีซีเชื่อว่า วินโดวส์โฟนจะสามารถแซงหน้า iPhone ได้ภายใน 4 ปี แต่มันดูเหมือนจะมองโลกในแง่ดีเกินไป หรือเปล่า? แต่บริษัทวิจัยยังคงยืนยันความคิดของตนเองว่า ตลาดสมาร์ทโฟนวันนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้วินโดวส์โฟนจะมีส่วนแบ่งตลาดค่อนข้่างน้อยมากในขณะนี้ แต่ก็สามารถขึ้นเป็นอันดับสองได้ เพราะตลาดโดยรวมยังอยู่ในระยะเริ่มต้น มีความอ่อนไหว เปลี่ยนแปลงได้ง่าย ซึ่งนั่นคือโอกาสที่วินโดวส์โฟนทีจะก้าวขึ้นมาเป็นอันดับสองของโลกได้ ว่าแต่...คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ล่ะครับ คิดเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้ Windows Phone จะสามารถโค่น iPhone ได้ภายในอีกไม่กี่ปีได้ หรือไม่ครับ?

ที่มา : arip

82
ข่าว IT / Twitter เปลี่ยนโลโก้"นกกระจิบ"ตัวใหม่
« เมื่อ: มิถุนายน 07, 2012, 05:35:23 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] เช้าวันแรกของงาน COMMART NEXT GEN 2012 (7 - 10 มิ.ย. 2555 ที่ศูนย์สิริกิติ์ฯ) ขอเริ่มต้นด้วยข่าวของไมโครบล็อกที่ยังต้องเดินหน้าหาหนทางทำเงินต่อไปอย่าง "ทวิตเตอร์" (Twitter) ที่ล่าสุดมีรายงานว่า ทางบริษัทได้เปลี่ยนแปลงโลโก้ "นกกระจิบ"ใหม่ เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ตัวแทนหนึ่งเดียวของแบรนด์



โลโก้ใหม่ของ Twitter ได้มีการประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาในบล็อกของทางบริษัท โดยจะใช้แทนตัว t เล็ก และนกกระจิบตัวเก่า ซึ่งสำหรับโลโกใหม่นี้จะว่าไปแล้ว มันยังคงมีความคล้ายกับโลโก้เดิม แต่จะมีแค่ตัวนกที่ดู "ผอมลง" ผมเผ้าซอยเรียบร้อย ขนปีกแข็งแรงลู่ลม และยกหน้าแอ่นอกสูงขึ้น โดยรวมดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และทะมัดทะแมงกว่าโลโก้นกตัวเดิม เหมือนกับทวิตเตอร์จะพยายามบอกกับผู้ใช้ทั่วไป และธุรกิจผู้ลงโฆษณา ตลอดจนนักลงทุนว่า บริษัทพร้อมที่จะบินให้สูงกว่าเดิมแล้ว

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Fh20pdCrCAU" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Fh20pdCrCAU</a>

"ต่อจากนี้ไป นกตัวนี้จะเป็นสัญลักษณ์สากลที่ใช้สร้างความจดจำของ Twitter (ทวิตเตอร์ คือ นกที่เห็น และนกที่เห็น คือ ทวิตเตอร์ ไม่ใช่ตัว t เล็ก หรือนกอ้วนตัวเดิม)" ข้อความที่โพสต์โดย Doug Bowman ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของทวิตเตอร์ "จะไม่มีการใช้ตัวหนังสือที่เป็นตัวอักษร t เล็ก เพื่อใช้เป็นตัวแทน Twitter อีกต่อไป" ทั้งนี้ ทางบริษัทยังกล่าวอีกด้วยว่า โลโก้ใหม่มีที่มาจากการซ้อนทับวงกลมสามวง (ดูแล้วน่าจะเกินนะ) ซึ่งทวิตเตอร์ให้ความหมายของวงกลมเหล่านี้ว่า มันคือสัญลักษณ์แทนเครือข่ายของผู้ใช้ เรื่องราวความสนใจต่างๆ และไอเดียที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นนกตัวสีฟ้าที่คุณเห็นในโลโก้นั่นเอง นอกจากนี้ นกกระจิบตัวใหม่ในท่วงท่าที่ดูแข็งแรงนี้ ยังหมายถึง อิสรภาพ ความหวัง และความเป็นไปได้ทีไร้ขีดจำกัดอีกด้วย ลึกซึ้งเหลือเกิน :P

ที่มา : arip

83
ข่าว IT / Orville "แมวบิน" บังคับวิทยุ (=^;^=)
« เมื่อ: มิถุนายน 06, 2012, 06:02:59 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ก่อนพักเที่ยง มีแก็ดเจ็ต (Gadget) ที่อาจจะทำให้หลานยคนตะลึง ไม่ใช่เพราะความไฮเทค หรือไอเดียบรรเจิดสุดๆ แต่มันเป็นการผสมผสานผลงานบางอย่างที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว เมื่อเจ้าของ Orville แมวสุดที่รักได้ใช้ร่างสต๊าฟของมันผนึกรวมเข้ากับ Quadcopter หรือคอปเตอร์ 4 ใบพัดบังคับวิทยุ เพื่อให้มันกลายเป็น (ซาก) แมวบินได้ แล้วสาธิตการบินในงานแสดงศิลปะ KunstRai art fair ที่จัดขึ้นในกรุงอัสเตอร์ดัม



Orville ไม่ใช่แมวตัวแรกที่บินได้ เพราะหากเข้าไปเสิร์ชคำว่า flying cat คุณจะพบคลิปวิดีโอ "แมวบิน" มากมาย แต่ที่ Orville แตกต่างจากคลิปที่คุณชมก็คือ มันไม่ได้ใช้ความแข็งแรงของมัน แต่ใช้ตัวช่วยอย่าง Quadcopter คอปเตอร์ 4 ใบพัดที่ควบคุมการบินด้วยชุดบังคับวิทยุ ว่าแต่เจ้าแมวตัวนี้มันช่างเชื่องซะขนาดจนกล้ากางขาทั้งสี่ขี่คร่อมไปบน Quadcopter เลยหรือ? คำตอบก็คือ Orville เป็นแมวที่ตายแล้ว ซึ่งเจ้าของได้สต๊าฟมันให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์จนดูเหมือนแมวทียังมีชีวิต ก่อนที่จะนำมันมายึดติดกับของเล่นสุดโปรดอย่างคอปเตอร์ 4 ใบพัด เพื่อให้มันกลับมามีชีวิตอีกครัง แถมยังเก่งกว่าเดิม เพราะบินได้ อืม...ฟังดูรู้สึกพิลึกเล็กน้อย

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=-S4DZ_aWNuU" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=-S4DZ_aWNuU</a>

Bert Jansen ศิลปินผู้สร้าง Orville เจ้าแมวบินได้บังคับวิทยุ ได้สาธิตการบินของมันในงานแสดงศิลปะดังกล่าว หวังว่า เจ้าแมวน้อยจะไม่ได้ต้องมาจบชีวิต (ก่อนที่มันจะบินได้ขนาดนี้) เพื่อผลงานชิ้นนี้ของเจ้าของนะครับ ไม่งั้นคงถูกกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ต่อต้านอย่างรุนแรงอย่างแน่นอน ว่าแต่...คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip คิดว่า ผลลงานศิลปะชิ้นนี้ที่ดูเป็นแก็ดเจ็ตพิลึกพิลั่นนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ บวก ลบ ชอบ หรือไม่ แชร์ไอเดียกันได้เต็มที่เลยครับ ก่อนจบนึกได้แล้วว่า มันมีแมวบินด้วยคอปเตอร์อีกตัวหนึ่งที่ปีนี้มีอายุครบ 100 พอดี ชื่อว่า โดราเอมอน :D

ที่มา : arip

84
ข่าว IT / บ๊ายบาย เฟซบุ๊ก? ฟันธงไร้เงาในอีก...
« เมื่อ: มิถุนายน 06, 2012, 06:02:30 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการ เมื่อนักวิเคราะห์ออกมาฟันธงว่า เฟซบุ๊ก (Facebook) จะหายไปจากโลกอินเทอร์เน็ตก่อนถึงปี 2020 เนื่องจากไม่สามารถหาวิธีสร้างรายได้ที่ชัดเจนเป็นกอบเป็นกำได้จากการย้ายแพลตฟอร์มเข้าไปอยู่บนสมาร์ทโฟนที่กำลังกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของคนยุคนี้เป็นต้นไป

แม้ปัจจุบันเฟซบุ๊กจะมีฐานสมาชิกผู้ใช้บริการมากกว่า 950 ล้านคนทั่วโลก ถ้านับเป็นประเทศก็น้องๆ จีน จนใครๆ หลายคนเชื่อว่า เครือข่ายสังคมออนไลน์แห่งนี้จะครองใจผู้ใช้ทั่วโลกไปตลอดกาล อย่างไรก็ตาม Eric Jackson นักวิเคราะห์ และผู้ก่อตั้งบริษัทกองทุน Ironfire Capital กำลังมองต่างจากความเชื่อนี้ โดยล่าสุดเขาได้ให้สัมภาษณ์ทาง Squawk on the Street รายการธุรกิจทีเผยแพร่ทางสถานี CNBC เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเขาเชื่อว่า เฟซบุ๊กจะหายไปภายในไม่เกินปี 2020 "ภายใน 5 - 8 ปีข้างหน้า เฟซบุ๊กจะหายไปเช่นเดียวกับปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับยาฮู (Yahoo) ซึ่งในขณะที่ยาฮูยังคงทำเงินได้ และกำไร อีกทั้งยังมีพนักงานถึง 13,000 คน แต่ประเด็นคือ มันเป็นแค่ 10% ของความยิ่งใหญ่เมื่อเทียบกับเมื่อปี 2000 ด้วยแนวโน้มที่เกิดขึนจะด้วยความตั้งใจ หรือไม่ก็ตาม มันจะหายไปในที่สุด" Jacson กล่าวกลางรายการ



สำหรับหลักเกณฑ์ที่นักวิเคราะห์ใช้ในการคาดคะเนครั้งนี้มาจากการติดตามเฝ้าดูบริษัทเว็บในแต่ละรุ่นที่ผ่นามา ยาฮูเป็นบริษัทเว็บรุ่นแรกในฐานะพอร์ทัลยักษ์ใหญ่ ในขณะที่เว็บโซเชียลอย่าง เฟซบุ๊ก ถือเป็นบริษัทเว็บยักษ์ใหญ่ทีอยู่ในรุ่นที่สอง ยาฮู และเว็บไซต์ที่คล้ายกันต่างก็ได้ลดบทบาทความสำคัญในโลกอินเทอร์เน็ตกันไปแล้ว ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ในรุ่นที่สามที่กำลังก่อตัวขึ้นอยู่ในขณะนี้จะเป็นธุรกิจออนไลน์ที่ทำเงินจากแพลตฟอร์มโมบาย ซึ่งเป็นทำเลในการหาเงินที่เฟซบุ๊กยังไม่สามารถหาคำตอบได้ "เมื่อคุณมองดูเว็บทั้งสามรุ่น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงไหนของความสำเร็จ จะสังเกตเห็นได้ว่า ไม่มีเว็บธุรกิจใดที่สามารถอยู่รอดข้ามรุ่นได้อย่างชัดเจน ไม่เกียวกับว่า เงินที่พวกเขามีในธนาคารจะมากน้อยเท่าไร และไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ก่อตั้ง หรือมีทีมงานที่จบด็อกเตอร์ หรือไม่ ดูอย่าง Google ที่กำลังสับสนกับการเคลื่อนทัพเข้าสู่โซเชียล ซึ่งผมคิดว่า เฟซบุ๊กก็กำลังเผชิญกับปัญหานี้ เมื่อพวกเขาเข้าสู่ยุคโมบาย"

Jacson ยังกล่าวอีกว่า "โลกกำลังหมุนเร็วกว่าเดิม ทำให้การแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ผมคิดว่า ใครก็ตามที่กำลังครองตลาดในปัจจุบัน กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ลำบากอย่างหนักในการที่จะก้าวไปสู่ยุคต่อไป" ซึ่งจากแนวโน้มที่เกิดขึ้น ทำให้เฟซบุ๊กตัดสินใจซื้อ Instagram เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีข่าวว่า เฟซบุ๊กกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติในสมรภูมิโมบาย โดยเฉพาะจากการที่ผู้ใช้ย้ายไปใช้บริการบนสมาร์ทโฟนทั้งๆ ที่ยังไม่มีช่องทางสร้างรายได้ที่แข็งแรง นอกจากนี้ยังมีข่าวลือตามมาอีกว่า เฟซบุ๊กเจรจาซื้อ Opera บราวเซอร์ยอดนิยมบนสมาร์ทโฟน และล่าสุดตามที่มีรายงานข่าวว่า เฟซบุ๊ก อาจจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ iOS 6 และที่ได้ยินกันมานานแล้วอีกข่าวหนึ่งก็คือ สมาร์ทโฟนเฟซบุ๊ก หรือ Facebook phone รายงานข่าวเหล่านี้สนับสนุนแนวคิดของ Jackson ที่ว่า การย้ายข้ามเจนเนอเรชั่นของเว็บแต่ละยุค อาจจะหมายถึงการหายไปของเว็บยุคนั้นๆ ก็ได้ แล้วคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ล่ะครับ คิดเห็นอย่างไรกันบ้างกับคำทำนายนี้? ถ้าโลกนี้จะไม่มีเฟซบุ๊กในอีก 5 - 8 ปีข้างหน้า

ที่มา : arip

85
ข่าว IT / สเป็กรั่ว!!! MacBook Pro 13 นิ้วรุ่นใหม่
« เมื่อ: มิถุนายน 06, 2012, 06:01:20 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] นอกจากข่าวรั่วๆ หลุดๆ ของ iPhone 5 แล้ว ล่าสุดเว็บไซต์ในจีนเผยภาพแสดงรายละเอียดสเป็กของ MacBook Pro ขนาดหน้าจอ 13 นิ้วรุ่นใหม่ ที่อ้างว่ามาจากพนักงานแอปเปิ้ล (Apple) ในสหรัฐฯ เหตุผลที่ทำให้ประเด็นที่มีการเปิดเผยออกมาได้รับความสนใจก็คือ มีข่าวว่า แอปเปิ้ลจะเปิดตัวแมคบุ๊กโปรรุ่นใหม่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้



Weiphone เว็บไซต์กระทู้ในจีนได้เปิดเผยภาพจากผู้ใช้รายหนึ่งที่อ้างว่า ได้รับมาจากพนักงานแอปเปิ้ลในสหรัฐฯ โดยเป็นภาพรายละเอียดสเป็กของ MacBook Pro รุ่นใหม่ที่ดูเหมือนว่ามันไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงสเป็กจากรุ่นก่อนหน้านี้มากนัก โดย MacBook Pro รุ่นใหม่ขนาดจอ 13.3 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล ทำงานด้วยดูอัลคอร์โพรเซสเซอร์ Intel Core i5 ความเร็ว 2.5GHz และชิปกราฟิกเป็น HD Graphics 4000 ของ Intel ที่ติดตั้งมาบนบอร์ดเลย ตามด้วยพอร์ตความเร็วสูงอย่าง Tunderbolt และพอร์ต USB 3.0 อีก 2 พอร์ต ซึ่งนั่นหมายความว่า MacBook Pro รุ่นใหม่ได้รับการอัพเกรดให้แรงขึ้นด้วยโพรเซสเซอร์ Ivy Bridge ของ Intel ในขณะที่น้ำหนักเครื่องเพิ่มขึ้นจาก 2.04 กิโลกรับเป็น 2.06 กิโลกรัม ส่วนดีไซน์ของตัวเครื่องจะคล้ายเดิม



แม้ภาพที่เผยแพร่ออกมาจะสามารถทำปลอมด้วยวิธีต่างๆ ได้ง่ายดายก็ตาม แต่แหล่งข่าวเผยว่า บาร์โค้ดที่ปรากฎระบุรหัส 826-9882-A ในภาพจะคล้ายกับภาพของพอร์ต Thunderbolt บน MacBook Pro ที่เคยหลุดออกมาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมันอาจจะเป็นหลักฐานที่พอจะทำให้น่าเชื่อถือได้ว่า ภาพดังกล่าวเป็นของจริง อย่างไรก็ตาม แอปเปิ้ลยังคงอัพเกรด MacBook Pro รุ่นอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะรุ่นหน้าจอ 15 นิ้ว เนื่องจาก MacBook Pro รุ่น 13 นิ้วในปัจจุบันจะมาพร้อมกับจอละเอียด 1280 x 800 พิกเซล ซึ่งเท่ากับที่แสดงในสเป็กของรุ่นใหม่ (จากภาพรายละเอียดสเป็กที่หลุดออกมา) ในขณะที่ข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ระบุว่า แอปเปิ้ลวางแผนที่จะใช้จอแสดงผล Retina Display และออกแบบให้ตัวเครื่องบางลงสำหรับรุ่น 15 นิ้ว งานนี้เราอาจจะได้ทราบความจริงช่วงสัปดาห์หน้าที่ Apple จัดงาน WWDC 2012 ก็เป็นได้

ที่มา : arip

86
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ARIP ฉลองครบรอบ 22 ปี นิตยสาร Computer.Today ด้วยการเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วย ภาพ เสียง และวีดีโอ กับ Interactive Digital Magazine บน iPad ที่สามารถโต้ตอบกับผู้อ่านได้ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมอวยพรและจุดเทียนเค้กวันเกิด, การตอบคำถามชิงรางวัล และ เกม Sudoku ที่พร้อมให้คุณเล่นได้ทันที



Computer.Today ฉบับครบรอบ 22 ปี เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี ในวันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน 2555 โดยผู้อ่านที่ลงทะเบียนภายในเล่มมีสิทธิ์ลุ้นรับ Gear4 Angry Birds Speaker รุ่น Black Bird จำนวน 3 รางวัล เท่านั้นยังไม่พอ สำหรับผู้อ่านที่ลงทะเบียนแล้วชวนเพื่อนพี่น้องมาดาวน์โหลดและลงทะเบียนได้มากที่สุด รับ New iPad Wi-Fi +4G 32GB ไปเลย หมดเขตร่วมสนุกในวันที่ 30 มิถุนายน 2555

พิเศษกับงานเปิดตัว Computer.Today ฉบับ Interactive Digital Magazine ในงาน Commart Next Gen 2012 ณ.ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต วันที่ 7 - 10 มิถุนายน 2555 พบกิจกรรมและของรางวัลมากมาย เพียงแสดง iPad ที่ดาวน์โหลด นิตยสาร Computer.Today เรียบร้อยแล้วรับทันที Gift Voucher จาก Dunkin' Donuts มูลค่า 100 บาท พร้อมคูปองเครื่องดื่ม 1 แก้ว

ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.arip.co.th/comtoday

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=FvC0MtEzqxg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=FvC0MtEzqxg</a>

ที่มา : arip

87
ข่าว IT / Acer เปิดตัว"แท็บเล็ต" Windows 8
« เมื่อ: มิถุนายน 05, 2012, 07:07:24 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ในงาน Computex 2012 ที่จัดขึ้นณ.กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน เริ่มต้นแล้ววันนี้ (5 - 7 มิถุนายน 2012) โดยคาดว่า ในงานนี้เหล่าบรรดาผู้ผลิตพีซีจะใช้เป็นเวทีในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทีใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 8 ไม่ว่าจะเป็น แท็บเล็ต ไฮบริด หรือแม้แต่ออลอินวันพีซี สำหรับเช้านี้ขอประเดิมด้วยแท็บเล็ตของเอเซอร์ (Acer)



เอเซอร์ ประกาศเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดทีทำงานด้วยระบบปฎิบัติการ Windows 8 ถึงสองรุ่นด้วยกันได้แก่ ICONIA W510 ไฮบริดแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์การใช้งานถึงสามโหมดการทำงาน และ ICONIA W700 แท็บเล็ต "ฟูลเอชดี" Windows 8 ที่มาพร้อมกับขนาดหน้าจอสัมผัสที่ใหญ่ถึง 11.6 นิ้วพร้อมด้วยแท่นรองที่ดีไซน์เท่สุดๆ ทั้งสองรุ่นได้รับการออกแบบให้สอดรับการหลักสรีรศาสตร์ และการใช้งานที่ง่ายมาก ซึ่งสำหรับ W510 จะเป็นแท็บเล็ตหน้าจอสัมผัส 10.1 นิ้ว ทีทำงานได้ 3 ลักษณะการใช้งานด้วยกันคือ สัมผัส (หน้าจอ) พิมพ์ (มีคีย์บอร์ด) และรับชม (view) โดยนอกจากจะใช้เป็นแท็บเล็ตแล้ว มันยังสามารถใช้ทำงานได้อย่างลงตัว คีย์บอร์ดสามารถถอดได้ ในขณะที่แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 18 ชั่วโมง และจากการทีมันสามารถพับคีย์บอร์ดกับแท็บเล็ตได้กว้างถึง 295 องศาทำให้คุณสามารถใช้ตั้งพรีเซนต์งาน (presentation mode) ได้อย่างลงตัว

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=q5V_OGwSUww" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=q5V_OGwSUww</a>

ส่วน Acer W700 แท็บเล็ตทีมาพร้อมกับแท่นรองสารพัดประโยชน์ โดยสามารถปรับมุมมองได้หลายองศาทั้ง 70 องศา เพื่อการรับชมวิดีโอ หรือพรีเซนต์งาน และ 20 องศากับพื้นราบที่ช่วยให้การใช้งานในลักษณะสัมผัสสะดวกยิ่งขึ้น แท่นรองสามารถวางแท็บเล็ตได้ทั้งในแนวตั้ง และแนวนอนตามความต้องการใช้งาน (จะท่องเว็บ หรืออ่านอีบุ๊ก) W700 ยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลระดับฟูลเอชดีขนาด 11.6 นิ้ว และพอร์ต USB 3.0 สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีระบบเสียงดอลล์บี้โฮมเธียเตอร์ทีให้เสียงสมจริง จะว่าไปแล้วแท็บเล็ตทั้งสองรุ่นก็ดูน่าใช้ดีเหมือนกัน ซึ่งแน่นอนว่า หัวใจหลักของมันคือ Windows 8 ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ของไมโครซอฟท์

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=8UL9mXQ0_L8" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=8UL9mXQ0_L8</a>

ที่มา : arip

88
ข่าว IT / ซีอีโอ Apple แตะเบรค Windows 8 ?
« เมื่อ: มิถุนายน 05, 2012, 07:06:38 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ในงาน All Things D นอกจาก TIm Cook ซีอีโอของ Apple จะประกาศจุดยืนชัดเจนว่า แอปเป้ิลจะรักษาความลับเกียวกับผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อถูกผู้เข้าร่วมประชุมถามถึง แท็บเล็ต (โน้ตบุ๊ก และเดสก์ทอป) ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 8 จากไมโครซอฟท์ คู่แข่งที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ทิมคุก ซีอีโอของแอปเปิ้ลได้วิจารณ์อย่างหนักสำหรับไอเดียของ Windows 8 ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติของการเป็นโอเอสที่สามารถทำงานได้กับทุกอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็น แท็บเล็ต เดสก์ทอป โน้ตบุ๊ก หรือไฮบริดว่า "ในมุมมองของผม แท็บเล็ต และพีซี แตกต่างกัน ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต้องมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบในการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน ผู้ใช้ต้องเลือก ข้อเท็จจริงคือ ยิ่งคุณมองว่า แท็บเล็ต คือ พีซีมากเท่าไร เงื่อนไขต่างๆ ของการใช้งานที่เป็นภาระในอดีตจะยิ่งส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์มากขึ้นเท่านั้น" ในขณะที่ไมโครซอฟท์มองว่า ไม่ควรที่จะมีการพัฒนาโอเอสที่แตกต่างกันให้กับเฉพาะอุปกรณ์ (อย่างเช่น iPad ทีใช้ iOS) แต่โอเอสตัวเดียวกันนี้ควรจะต้องสามารถทำงานได้ทั้งบนพีซี และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้งานร่วมกัน



ซีอีโอของแอปเปิ้ลยังอธิบายต่อไปอีกว่า "ยังไง แท็บเล็ต และพีซี ก็ไม่มีวันเหมือนกัน คุณสามารถทำสิ่งต่างกับแท็บเล็ตได้ โดยไม่ต้องรู้สึกหนักใจกับการใช้ระบบการทำงานแบบเดิมๆ ของพีซี ผมแค่คิดว่า คุณไม่สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดได้ด้วยความพยายามทำให้ทุกผลิตภัณฑ์บรรจบการทำงานร่วมกันด้วยวิธีดังกล่าว" อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ พันธมิตรทางด้านฮาร์ดแวร์ของไมโครซอฟท์ต่างเร่งผลิตอุปกรณ์ที่สามารถรองรับระบบการใช้งานแบบสัมผัส และคีย์บอร์ดแบบพีซีที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 8 ซึ่งจากสิ่งที่ทิมคุกกล่าว กับแนวทางของไมโครซอฟท์จะเดินสวนทางกันโดยสมบูรณ์ ซีอีโอของแอปเปิ้ลยังเคยกล่าวเป็นเชิงหยอกล้อว่า บริษัทต่างๆ ทั่วโลกสามารถรวมเครื่องปิ้งขนมปังเข้ากับตู้เย็นได้ แต่เชื่อเถอะว่า ในที่สุดแล้วจะไม่มีใครทำเช่นนั้น




กล่าวโดยสรุป แอปเปิ้ลไม่มีไอเดียที่จะรวมไอแพดเข้ากับแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ของแมค หรือยุบ iOS กับ OSX เป็นโอเอสตัวเดียว (อย่างน้อยก็คงไม่ใช่เร็วๆ นี้ - -") ทิมคุกยังกล่าวทิ้งท้ายไว้อีกด้วยว่า "ถ้าคุณบังคับให้มันอยู่ร่วมกัน พีซีจะไม่สามารถดีที่สุดได้เท่าที่มันควรเป็น และแท็บเล็ตที่ได้ก็จะไม่สามารถเช่นเดียวกัน ถ้าคุณมองอุปกรณ์ประเภทไฮบริด อย่าง โนัตบุ๊ก (แปลงร่างเป็นแท็บเล็ต) คุณจะไม่มีวันได้เห็นดีไซน์ของผลิตภัณฑ์เจ๋งๆ อย่างแน่นอน" แร๊งส์!!!

ที่มา : arip

89
ข่าว IT / นินเทนโด้เปิดตัวเกมแพด Wii U รุ่นใหม่
« เมื่อ: มิถุนายน 05, 2012, 07:05:57 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] นินเทนโด้ (Nintendo) เปิตตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Wii U GamePad ไอเดียในการนำเครื่องเล่นเกมส์กับ"แท็บเล็ต"มารวมตัวกัน โดยมีขนาดหน้าจอสัมผัส 6.2 นิ้ว และมาพร้อมกับเทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) แถมยังสามารถใช้งานแทนรีโมทควบคุมทีวีด้วยอินฟราเรดที่มาพร้อมกับตัวเครื่องได้อีกด้วย



ซาโตรุ อิวาตะ ประธานบริษัทนินเทนโด้เปิดเผยในระหว่างการเปิดตัว Wii U GamePad ล่วงหน้าก่อนงาน E3 ซึ่งนอกจากคุณสมบัติของการเป็นเครื่องเล่นเกมดีไซน์แท็บเล็ตแล้ว ด้วยเทคโนโลยี NFC ยังทำให้ผู้ใช้สามารถใช้มันเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) ได้อีกด้วย นอกจากนี้ Wii U GamePad ยังสามารถอ่าน และเขียนข้อมูลจากบัตรต่างๆ และหุ่นจำลองที่ใช้เล่นร่วมกันได้



อิวาตะกล่าวว่า Wii U เป็นวิวัฒนาการที่ดูเรียบง่ายของเครื่องเล่น Wii แต่ก็แฝงไว้ด้วยคุณสมบัติบางอย่างที่แตกต่างจาก Wii โดยสิ้นเชิง โดย GamePad จะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ตราวจจับความเคลื่อนไหวทั้ง Motion sensor และ Gyro Sensor ซึ่งจะทำให้การควบคุมเกมลื่นไหล และเป็นธรรมชาติกว่าเดิม ผู้เล่นจะต้องใช้ทักษะการเล่นที่สูงขึ้น นอกจากนี้ Wii U GamePad ยังมีปุ่มควบคุมที่เรียกว่า circle pad แบบ 3DS ให้ถึง 2 อันด้วยกัน โดยอิวาตะให้เหตุผลว่า ปุ่มควบคุมลักษณะนี้เหมาะสำหรับอุปกร์พกพา เนื่องจากมันจะทำให้ผู้เล่นที่ไม่คุ้นเคยกับฮาร์ดแวร์เกมสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=9AkPdAWfFjI" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=9AkPdAWfFjI</a>

ในการนำเสนอที่ปรากฎในคลิป อิวาตะยังได้ไฮไลท์ฟีเจอร์ที่เรียกว่า Miiverse สังคมออนไลน์ของ Wii U ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถสร้างอวาตาร์ Mii ของตนเอง ในขณะที่หน้าจอของ Wii U จะแสดงเกมส์ และแอพพลิเคชันต่างๆ ที่คุ้นเคย บนจอทีวีจะแสดงรายชื่อของเกมส์ และ Mii avatars ของผู้เล่นคนอื่นๆ การสื่อสารระหว่าง Mii จะใช้การแสดงข้อความง่ายๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถเขียนได้ด้วยมือ Wii U รุ่นใหม่จะมีให้เลือก 2 สีคือดำ และขาว โดยคาดว่าในงาน E3 ทางนินเทนโด้น่าจะเปิดเผยรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเกมส์มากกว่านี้

ที่มา : arip

90
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ริโก้ (Ricoh) บริษัทผู้ผลิตเครื่องพิมพ์เลเซอร์ และมัลติฟังก์ชันที่ได้รับการไว้วางใจจากองค์กรธุรกิจชั้นนำทั่วโลก ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน และความคุ้มค่า ตลอดจนการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ข่าวดีคือ คุณค่าเหล่านี้กำลังจะถูกส่งมอบให้กับผู้ใช้ทั่วไปด้วย "เครื่องพิมพ์เลเซอร์" RICOH SP 100 ที่ได้ชื่อว่าเป็น เครื่องพิมพ์ เลเซอร์ที่บางที่สุดในโลก แถมยังมีขนาดที่เล็กมากอีกด้วย รองรับรอบการพิมพ์งานที่ 10,000 หน้าต่อเดือนได้อย่างสบาย เหนืออื่นใดพบกับราคาสุดพิเศษ (Best Price) ที่คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip สามารถ"สั่งจอง"ได้ในงาน Commart Next Gen 2012 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 7 - 10 มิถุนายน ศกนี้ ที่ศูนย์การประชุมสิริกิติ์



Ricoh SP 100 เครื่องพิมพ์เลเซอร์ที่บางที่สุดในโลก (บางเท่ากับความสุงของ iPhone) ประมาณ 4.68 นิ้วเท่านั้น ในขณะที่ตัวเครื่องมีความกว้างแค่ 15.8 นิ้ว และยาวเพียง 14.5 นิ้ว ซึ่งต้องถือว่าเป็นเครื่องพิมพ์เลเซอร์ที่มีขนาดเล็กจนสามารถนำใส่กระเป๋าไปใช้นอกสถานที่ได้ ในขณะเดียวกันเมื่อมันอยู่บนโต๊ะทำงานก็ใช้พื้นที่น้อยมากอีกด้วย ในส่วนของการทำงานเครื่องพิมพ์เลเซอร์ Ricoh SP 100 จะสามารถพิมพ์เอกสารที่ความละเอียดคมชัดสูงถึง 1200 x 600 dpi ด้วยความเร็วในการพิมพ์ 13 แผ่นต่อนาที โดยเอกสารแผ่นแรกจะใช้เวลาพิมพ์แค่ 6.4 วินาทีเท่านั้น (หน่วยความจำ 16MB) หากจะเรียกว่าเป็นเครื่องพิมพ์เลเซอร์ที่จิ๋วแต่แจ๋วก็เห็นจะไม่ผิดความจริงแม้แต่น้อย

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=UpCJmFHB3-Q" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=UpCJmFHB3-Q</a>

Ricoh SP 100 ยังเป็นเครื่องพิมพ์เลเซอร์ที่มีเสถียรภาพในการทำงานสูงอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนผู้ใช้ด้วยระบบการทำงานที่เกิดสียงเบามากเวลาพิมพ์ โดยรองรับขนาดกระดาษทีใช้พิมพ์ได้หลากหลายไซส์ได้แก่ A4, A5, Letter และ Legal ถาดใส่กระดาษสามารถรองรับได้ 50 แผ่น รอบการพิมพ์ต่อเดือนได้สูงสุดถึง 10,000 แผ่น นอกจากจะมีจุดเด่นมากมายดังทีได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว เครื่องพิมพ์เลเซอร์ Ricoh SP 100 ยังใช้งานง่ายอีกด้วย โดยเชื่อมต่อกับโน้ตบุ๊ก หรือเดสก์ทอปทางพอร์ต USB 2.0 เพียงแค่เตรียมกระดาษให้พร้อม หลังจากเปิดเครื่องให้วอร์มประมาณ 25 วินาที คุณก็พร้อมสั่งพิมพ์เอกสารขาวดำที่มีความคมชัดสูงแล้ว และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ในงาน Commart Next Gen 2012 ที่จะจัดขึ้นในวันที่  7 - 10 มิ.ย. ศกนี้ ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip สามารถสั่งจอง "เครื่องพิมพ์เลเซอร์" Ricoh SP 100 ได้ในราคาพิเศษสุด (Best Price) แค่ 499* บาทได้ตามบูธ Big Bonus (3 จุด เมนฟอร์เย่, C- ล่าง และทางออกรถไฟฟ้าใต้ดิน) ,สมาชิกนิตยสาร arip ( 3 จุด เมนฟอร์เย่, C-ล่างใกล้ฟู้ดคอร์ด และเพลนารี่ ฮอลล์) และ Gadget Zone/Buyer's Guide (ด้านหน้า บอลล์รูม ฝั่งขวาของทางเข้างาน) ราคานี้เฉพาะในงานเท่านั้น รีบจองด่วน!!! มีจำนวนจำกัด

*สั่งจองเฉพาะเครื่อง 499 บาท ส่วนโทนเนอร์จะซื้อได้ในราคาพิเศษในวันรับสินค้าราคา 1,500 บาท (จาก 1,800 บาท) สำรองสิทธิ์ 1 ท่านต่อ 1 ชุดเท่านั้น



บูธสั่งจองจะอยู่ตรงข้าม บอลล์รูม ทางเข้างาน



บริเวณ เมนฟอร์เย่ ตรงข้ามเพลนนารี่ฮอลล์



บริเวณชั่น C ล่างใกล้ฟูดคอร์ด และบันไดเลื่อน

ที่มา : arip

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 26