Messages

46

ข่าว IT / เอฟบีไอบล็อค"เน็ต" พีซี 250K สกัดไวรัส

« เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2012, 02:35:05 pm »

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ข่าวด่วนเช้านี้ มีรายงานว่า คอมพิวเตอร์มากกว่า 2.5 แสนเครื่องอาจจะต้องประสบกับปัญหาไม่สามารถเข้าเน็ตได้ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ โดยเอฟบีไอ (FBI) จะทำการตัดการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ดังกล่าว เพื่อสกัดมัลแวร์ (malware) ที่มีการแพร่กระจายบนอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว

ประเด็นแรกทีหลายคนตั้งคำถามต่อข่าวนี้ก็คือ ใครบ้างที่จะตกเป็นเหยื่อ หรือได้รับผลกระทบจากการตัดการเชื่อมต่อโดย FBI ในครั้งนี้ คำตอบก็คือ ผู้ใช้วินโดวส์พีซีประมาณ 277,000 เครื่องทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้พีซีตามบ้าน และในที่ทำงาน ซึ่งรวมถึง 64,000 เครื่องในสหรัฐฯ ซึ่งในขณะนี้ ทาง FBI ยังไม่สามารถกำจัดมัลแวร์ที่แพร่กระจายไปบนพีซีมากกว่า 570,000 เครื่องนานนับปีกว่าแล้ว ส่วนสาเหตุที่ FBI ตัดสินใจตัดการเชื่อมต่อพีซีที่ติดมัลแวร์เหล่านี้เข้าไป ก็เนื่องจากอาชญากรคอมพิวเตอร์จะใช้มัลแวร์ควบคุมคอมพิวเตอร์ที่ติดมันเข้าไป โดยมัลแวร์จะเปลี่ยนทิศทางของข้อมูลทั้งที่เข้า และออกจากเครื่องของเหยื่อให้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์อันตราย ซึ่งอาชญากรคอมพิวเตอร์จะสามารถหลอกพาเหยื่อเข้าไปยังเว็บเพจอันตราย โดย FBI เลือกใช้วิธีชัทดาวน์เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ ทำให้คอมพิวเตอร์ที่ตกเป็นเหยื่อถูกตัดขาดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (มัลแวร์ทีเปลี่ยนทิศทางการเข้าออกของข้อมูลไม่สามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์อันคราย)



สำหรับการหารายได้ของอาชญกรคอมพิวเตอร์ที่ใช้มัลแวร์ดังกล่าว จะใช้วิธีพาเหยื่อเข้าไปยังหน้าเว็บทีมีโฆษณา เพื่อให้ผู้ลงโฆษณาจ่ายเงินให้กับพวกมันในแต่ละคลิกที่มีโฆษณาปรากฎอยู่บนหน้าเว็บนั้นๆ ซึ่งมูลค่าของการโกงคลิ้กโฆษณาด้วยวิธีนี้ ทาง FBI เปิดเผยว่าอย่างน้อย 14 ล้านเหรียญฯ ในส่วนของคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ท่านใด ที่อ่านข่าวนี้แล้วกังวลว่าตนเองโดนมัลแวร์ดังกล่าวเล่นงานเข้าแล้ว หรือไม่ ทาง FBI ก็ได้จัดทำหน้าเว็บตรวจสอบให้แล้วที่ http://www.dcwg.org ประเด็นก็คือ มันไม่มีวิธีง่ายๆ ที่จะบอกได้ว่า มัลแวร์ควบคุมพีซีของเหยื่อได้อย่างไร เนื่องจากการตรวจจับพวกมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พฤติกรรมที่พอจะสังเกตได้ในเบื้องต้นก็คือ บราวเซอร์จะใช้เวลาในการโหลดหน้าเว็บช้ากว่าปกติ เพื่อความปลอดภัย ผู้ใช้ควรหมั่นอัพเดทแอนตี้ไวรัส

ที่มา : arip

47

ข่าว IT / ลือ!!! iPhone 5 อัดชิปควอด-คอร์ A6

« เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2012, 02:34:37 pm »

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] แม้ว่าแหล่งข่าวอย่างดิจิตไทมส์ (Digitimes) มักจะนำเสนอความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ "ไอโฟน 5" *(Phone 5) ออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีอยู่บ่อยครั้งทีเดียวที่ข้อมูลคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางเว็บไซต์ยังคงปล่อยข่าวออกมาอีกครั้ง ซึ่งก็ยังคงได้รับความสนใจจากเว็บไซต์ต่างๆ ตลอดจนผู้บริโภคทั่วโลกเช่นเคย โดยทางเว็บไซต์เปิดเผยว่า แอปเปิ้ล (Apple) จะใช้โพรเซสเซอร์ควอดคอร์ A6 ทีใช้สถาปัตยกรรม Exynos 4 ของซัมซุงกับ iPhone 5

ทั้งนี้เว็บไซต์แหล่งข่าวยังเปิดเผยอีกด้วยว่า มันเป็นสงครามสมาร์ทโฟนที่จุดระเบิดขึ้นอีกครั้ง โดยยกนี้จะเป็นสมรภูมิของสมาร์ทโฟนทีใช้โพรเซสเซอร์ควอดคอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ เหล่าบรรดาผู้ผลิตหลายๆ รายได้ใช้โพรเซสเซอร์ควอดคอร์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนกันล่วงหน้าแอปเปิ้ลไปก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Samsung, LG, HTC หรือแม้แต่ Meizu ของจีน ซึ่งการเคลื่อนเทคโนโลยีของคู่แข่งเหล่านี้ จะเป็นแรงผลักดันให้แอปเปิ้ลต้องขยับตัวตามด้วยการใช้ชิปใหม่ เพื่อให้ iPhone 5 สามารถแข่งขันได้ ทั้งนี้คาดว่า ไอโฟนรุ่นใหม่จะเปิตตัวในช่วงไตรมาสทีสี่ของปีนี้



อย่างไรก็ดี ในขณะที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำส่วนใหญ่เลือกใช้โพรเซสเซอร์ควอดคอร์จาก Qualcomm ทางแอปเปิ้ลกลับเลือกใช้สถาปัตยกรรมชิป Exynos 4 ของซัมซุงในการทำชิปตัวใหม่มากกว่า ซึ่งปัจจุบัน iPhone 4S จะทำงานด้วยโพรเซสเซอร์ดูอัลคอร์ A5 ดังนั้นชิปใหม่ที่น่าจะมาพร้อมกับ iPhone 5 จึงคาดว่า น่าจะเป็นชิปควอดคอร์ A6 มากกว่าที่จะเป็น A5X ชิปอัพเกรดกราฟิกสำหรับเรติน่าดิสเพลย์บน new iPad เพราะมันจะทำให้ iPhone 5 ดูอ่อนด้อยในการแข่งขันกับตลาดทันที อีกทั้งยังอาจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของสว่นแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย ซึ่งแอปเปิ้ลคงไม่ยอมให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ที่มา : arip

48

ข่าว IT / คีย์บอร์ด"โค้ง"บน Windows Phone 8

« เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2012, 09:56:56 pm »

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] เมื่อปีก่อนเห็นจะได้มีรายงาข่าวว่า ระบบปฎิบัติการบนสมาร์ทโฟนอย่าง Windows Phone 8 จะมาพร้อมกับซอฟต์แวร์คีย์บอร์ดที่ได้รับการออกแบบให้สามารถใช้มือเดียวพิมพ์ได้ ล่าสุดข่าวลือดังกล่าวได้กลายเป็นภาพถ่ายทีมีการหลุดรั่วออกมาจาก Microsoft Research ให้ได้เห็นกันแล้วว่า คีย์บอร์ดบนสมาร์ทโฟนทีสามารถใช้มือเดียวพิมพ์ได้นันเป็นอย่างไร?

ซอฟต์แวร์คีย์บอร์ดบนสมาร์ทโฟนที่เชื่อว่า น่าจะเป็นโอเอส Windows Phone 8 นั้นจะได้รับการออกแบบให้สามารถใช้นิ้วโป้งเพียงนิ้วเดียวพิมพ์ได้ โดยไม่ต้องชายตามอง โดยจะมีลักษณะเป็นปุ่มโค้งให้นิ้วโป้งสามารถกวาดนิ้วลงไปบนปุ่มต่างๆ ทีมีตัวอักษร 3 - 4 ตัวอยู่ในนั้น (เอ่อ...ดูท่าจะคล้ายกับการกดปุ่มพิมพ์ SMS บนฟีเจอร์โฟนในอดีตยังไงยังงั้น) แถมยังมีความฉลาดในการเดาคำที่คุณกำลังพิมพ์ให้อีกด้วย ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถใช้มือเดียวพิมพ์ข้อความบนวินโดวส์โฟนได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากรูป หลายคนอาจจะจำกันได้ว่า ซอฟต์แวร์คีย์บอร์ดโค้งๆ อย่างนี้ เคยถูกนำไปใช้บนแก็ดเจ็ตทีประสบความล้มเหลวอย่าง Microsoft UMPC (Ultra Mobile PC)



อย่างไรก็ตาม คาดว่า ไมโครซอฟท์จะพยายามเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 ซึ่งมีการคาดการณ์กันอีกด้วยว่า ซอฟต์แวร์คีย์บอร์ดนี้จะได้รับการพัฒนาให้สามารถใช้งานกับคีย์บอร์ดภาษาอื่นๆ ด้วยต่อไป (ภาษาน่าจะยากอยู่ไม่น้อย เพราะนอกจากจะมีตัวอัษรมากกว่าเกือบสองเท่าแล้ว มันยังมีสระอีกด้วย) สำหรับรูปข้างบนนี้เป็นตัวอย่างคีย์บอร์ดภาษาหลี เอาเป็นว่า เราก็คงต้องเฝ้าดูกันต่อไปในส่วนของศึกสงครามสมาร์ทโฟนยุคปัจจุบัน ใครจะอ่านเกมความต้องการของผู้ใช้ได้ขาดกว่ากัน ตอนนี้ก็ดูภาพหลุดของ HTC Trophy ที่แสดงให้เห็นซอฟต์คีย์บอร์ดดีไซน์โค้งที่สามารถใช้มือเดียวพิมพ์ได้ ยั่วน้ำลายตัวเองไปก่อนก็แล้วกันนะครับ

ที่มา : arip

49

ข่าว IT / Canon เรียกคืนกล้อง PowerShot S100

« เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2012, 09:56:33 pm »

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ข่าวนี้สำหรับผู้ใช้สุดยอดกล้องดิจิตอลคอมแพคอย่าง Canon PowerShot S100 ต้องตรวจสอบเป็นการด่วน เนื่องจากมีรายงานว่า ทางบริษัทแคนอนกำลังเรียกคือนกล้องรุ่นดังกล่าว เนื่องจากพบปัญหาที่เกิดขึ้นกับการทำงานของระบบเลนส์ อย่างไรก็ดี ปัญหาการผลิตกล้องรุ่น Canon PowerShot S100 ไม่ได้พบในทุกเครื่อง โดยจะขึ้นอยู่กับรอบการผลิตของโรงงาน

สำหรับคุณผู้อ่านนเว็บไซต์ arip ที่อาจจะเป็นเจ้าของกล้อง Canon PowerShot S100 ก็ยังไม่ต้องตกใจไป โดยคุณสามารถตรวจสอบได้ว่า S100 ของคุณเป็นรุ่นทีมีปัญหาการผลิต หรือไม่ได้จากหมายเลขทะเบียน (serial number) โดยหากเป็นรุ่นที่มีหมายเลขเริ่มต้นด้วย 29 - 41 ก็จะหมายความว่า กล้องของคุณตกอยู่ในกลุ่มที่มีปัญหาครับ แต่หากไม่ใช่ก็วางใจได้ ทั้งนีทางแคนอนอธิบายว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับกล้อง Canon PowerShot S100 อยู่ที่เลนส์ที่อาจจะไหลเลื่อนเคลื่อนตัวได้ง่าย เนื่องจากมีบางชิ้นส่วนที่ไม่ถูกเชื่อมต่ออยู่ภายในเลนส์ของกล้องรุ่นนี้



ผลกระทบดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการหลวมของตัวเลนส์ เมื่อใช้งานภายใต้อุณหภูมิสูง หรือความชื้นสูง ซึ่งหากคุณพบปัญหานี้ในการใช้งานก็ไม่ต้องประหลาดใจ เพราะมันเกิดจากสาเหตุข้างต้นนั่นเอง ทั้งนี้ทาง Canon จะรับผิดชอบการซ่อมกล้องรุ่น PowerShot S100 ทีมีปัญหาดังกล่าวให้กับลูกค้าฟรี สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านได้จากในเว็บไซต์ของ Canon ครับ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=QT3AdopWgG4" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=QT3AdopWgG4</a>

ที่มา : arip

50

ข่าว IT / ผู้ใช้มีเฮอัพเกรดวินโดวส์ 8 แค่ 40 ดอลล์

« เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2012, 09:56:02 pm »

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวล่าสุดที่น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วโลก เมื่อไมโครซอฟท์ (Microsoft) ออกมาประกาศว่า ทางบริษัทกำลังจะเปิดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP, Windows Vista และ Windows 7 ที่ต้องการอัพเกรดไปใช้โอเอสรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Windows 8 Pro

โดยโปรโมชั่นดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ลูกค้าวินโดวส์ทั้ง 3 เวอร์ชันสามารถอัพเกรดระบบปฏิบัติการเป็น Windows 8 Pro ได้ตั้งแต่วันเปิดตัว (คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนตุลาคม) ไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2013 ซึ่งชุดอัพเกรดจะมีราคาอยู่ที่ 39.99 เหรียญฯ หรือประมาณ 1,200 บาทเท่านั้น หรือหากซื้อเป็นแผ่น DVD ก็จะอยู่ที่ 69.99 เหรียญฯ หรือประมาณ 2,100 บาท นอกจากนี้ ในส่วนของโปรโมชั่นยังรวมถึงการที่ลูกค้าสามารถรับเพิ่มสำหรับ Windows Media Center ผ่านทางตัวเลือก "add features" ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์อีกด้วย ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถเข้าไปอัพเกรดผ่านโปรโมชั่นนี้ได้จากเว็บไซต์ Windows.com



อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip จะตัดสินใจว่า ควรจะอัพเกรดไปใช้ Windows 8 Pro อันเนื่องจากโปรโมชั่นนี้ หรือไม่ แนะนำให้ตรวจสอบก่อนว่า ไฟล์ และแอพพลิเคชัน ต่างๆ ที่ใช้อยู่จะยังอยู่ครบ และสามารถทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 8 Pro ได้ หรือไม่? โดยเฉพาะผู้ใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นที่เก่ากว่า Windows 7 ทั้งนี้ในบล็อกของไมโครซอฟท์ยังเปิดเผยอีกด้วยว่า สำหรับผู้ใช้ Windows 7 จะสามารถอัพเกรดไปใช้ Windows 8 Pro โดยข้อกำหนด ไฟล์ต่างๆ ตลอดจนแอพฯ ที่อยู่ในเครื่องจะยังคงอยู่ครับ และสามารถทำงานได้ตามปกติ แต่ถ้าเป็น Windows Vista เมื่ออัพเกรดเป็น Windows 8 Pro ผู้ใช้ะจได้แค่ข้อกำหนดการใช้งาน และไฟล์งานส่วนตัวเท่านั้น และถ้าเป็น Windows XP ระบบปฏิบัติการจะเปลี่ยนทุกอย่าง (ข้อกำหนดการใช้งานเดิม และโปรแกรมต่างๆ บนเครื่องจะไม่สามารถอัพขึ้นไปรันบน Windows 8 Pro ได้) ยกเว้นไฟล์ข้อมูลของผู้ใช้ที่จะยังอยู่เหมือนเดิม

ที่มา : arip

51

ข่าว IT / ยกเครื่องแอพฯ YouTube บน Android

« เมื่อ: มิถุนายน 29, 2012, 05:16:40 pm »

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ในงานประชุมนักพัฒนา Google I/O ยังคงมีเรื่องตื่นเต้นอีกมากมาย นอกเหนือจาก Nexus 7 "แท็บเล็ต" สเป็กแรง-ราคาถูก ตามด้วย Nexus Q มีเดียสตรีมมิ่ง หรือจะเป็นเทคโนโลยีแว่นตาอัจฉริยะ Glasses ของ Google และที่เพิ่งเป็นข่าวกันไปก็แอพฯ Chrome เวอร์ชันบน iPhone และ iPad ล่าสุดยังมีการยกเครื่องแอพฯ YouTube บน Android ให้มีคุณสมบัติการทำงานที่จัดจ้านยิ่งขึ้่นอีกด้วย

สำหรับแอพฯ YouTube เวอร์ชันใหม่บนอุปกรณ์ Android ผู้ใช้จะสามารถ"พรีโหลด" และจัดเก็บวิดีโอไว้ในหน่วยความจำเป็นการชั่วคราว (temporarily cache) จากแชนเนลที่สมัครเป็นสมาชิก (หรือคลิปที่เก็บไว้ใน watch it later) ได้ทันทีที่มันเชื่อมต่อเน็ต โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปเปิดการใช้งานฟังก์ชันดังกล่าวได้ด้วยการเลือกคำสั่ง "preload" จากในเมนู Settings ประโยชน์ที่จะได้รับจากฟีเจอร์นี้ก็คือ ผู้ใข้จะไม่ต้องเผชิญกับประสบการณ์อันน่ารำคาญเนื่องจากการติดๆ ขัดๆ ในการรับชม เนื่องจากมันถูกโหลดเก็บไว้ในเครื่องแล้ว ซึ่งในทางทฤษฎี วิดีโอพรีโหลดจะสามารถรับชมได้อย่างลื่นไหลต่อเนื่อง



นอกจากแอพฯ YouTube บน Android จะได้รับการเพิ่มคุณสมบัติอย่าง preload เข้าไปแล้ว มันยังมีการปรับแต่งส่วนติดต่อการใช้งานกับผู้ใช้ (user interface) ที่ดีขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย โดยเฉพาะการให้บริการบนพื้นที่หน้าจอที่จำกัดอย่างสมาร์ทโฟน ซึ่งดีไซน์ใหม่ของยูทูบจะมีการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า โดยได้รับการออกแบบให้เหลือที่พอสำหรับการแสดงคลิปแนะนำทางด้านซ้ายของหน้าจอ เช่นเดียวกับ feed ของคลิปวิดีโอใหม่ อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของแอพฯ ยูทูบเวอร์ชันใหม่ก็คือ มันจะทำงานบนอุปกรณ์ทีรัน Android 4.0 - -" เท่านั้น สำหรับผู้ใช้อุปกรณ์ iOS คงต้องรอให้ทางทีมงานเร่งพัฒนากันอีกสักระยะหนึ่ง

ที่มา : arip

52

ข่าว IT / แอพ Chrome บน iPhone, iPad มาแล้ว

« เมื่อ: มิถุนายน 29, 2012, 05:16:10 pm »

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวล่าสุด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กูเกิ้ล (Google) ประกาศเปิดตัวแอพฯ บราวเซอร์ "โครม" (Chrome) เวอร์ชันบนไอโฟน (iPhone) และไอแพด (iPad) ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเปิดศึกในสมรภูมิบราวเซอร์โดยตรงบนอุปกรณ์ iOS ระหว่างกูเกิ้ลกับแอปเปิ้ล (Apple) และเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ในงานประชุมนักพัฒนา Google I/O ที่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐฯ



ความพยายามของกูเกิ้ลในการที่จะผลักดัน Chrome เข้าไปแทนที่บราวเซอร์ซาฟารี (Safari) ของแอปเปิ้ลครั้งนี้ ได้รับการเปิดเผยในงานดังกล่าวหลังจากที่ทางบริษัทได้ประกาศเปิดตัว Google Nexus 7 "แท็บเล็ต"ราคาถูกที่ออกมาต่อกรกับ Kindle Fire ของ Amazon และไอแพดของแอปเปิ้ล ซึ่งหากแอพโครมประสบความสำเร็จบนอุปกรณ์โมบายของแอปเปิ้ลก็จะทำให้กูเกิ้ลได้กำไร แม้จะเป็นของฟรีก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันปัจจุบัน กูเกิ้ลต้องแบ่งรายได้จากโฆษณาให้กับแอปเปิ้ล เพื่อต้องแลกกับการติดตั้งกูเกิ้ลเสิร์ชเอ็นจิ้นเข้าไปในบราวเซอร์ซาฟารีเวอร์ัชันโมบาย โดยกูเกิ้ลจะไม่ต่องแบ่งจ่ายรายได้จากโฆษณาในเสิร์ชที่ใช้บนแอพฯ Chrome ทั้งนี้มีรายงานว่า กูเกิ้ลจะต้องแบ่งค่านายหน้าของโฆษณาบนบริการเสิร์ชที่คลิกจากในบราวเซอร์ซาฟารีสูงถึง 60% เลยทีเดียว

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=rPPIsqFRPsI" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=rPPIsqFRPsI</a>

ก่อนหน้าที่แอพฯ บราวเซอร์โครมบนอุปกรณ์โมบายของแอปเปิ้ลจะเปิดตัวเมื่อวานนี้ เมื่อเดือนก่อนทางยาฮูก็เพิ่งจะออกแอพฯบราวเซอร์ชื่อว่า Axis สำหรับใช้งานบนไอโฟน และไอแพด แต่สิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนก็คือ โครมเวอร์ชันเดสก์ทอปกำลังก้าวสู่การเป็นบราวเซอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแทนที่ไออีของไมโครซอฟท์ในเร็ววันนี้ นอกจากนี้ทางกูเกิ้ลยังเปิดเผยอีกด้วยว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้บราวเซอร์โครมทั่วโลกที่ใช้งานจริงจังมากกว่า 310 ล้านรายจาก 160 ล้านรายเมื่อปีที่แล้ว แม้โครมบราวเซอร์จะมีอายุแค่ 4 ปีกว่าๆ แต่มันก็ประสบความสำเร็จรวดเร็วมาก โดยก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจะพัฒนาจากบราวเซอร์เป็นโอเอสสำหรับโครมบุ๊ก (โน้ตบุ๊กที่ทำงานผ่านระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง) ที่วางขายผ่านเน็ต และจะวางตลาดในเบสท์บายในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่างไรก็ดี ขณะรายงานข่าวพบว่า ยังไม่เสิร์ชพบ และดาวน์โหลดแอพฯ Chrome บน iOS มาใช้งานได้ - -"

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=tSKZy2ayvMs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=tSKZy2ayvMs</a>
ที่มา : arip

53

ข่าว IT / Samsung Hope for Children

« เมื่อ: มิถุนายน 29, 2012, 05:15:26 pm »

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ซัมซุงมุ่งมั่นสร้างปณิธานพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทย เปิดตัวโครงการเพื่อสังคม “ซัมซุง โฮป ฟอร์ ชิลเดร้น - ซัมซุงสร้างนักคิด” ครั้งแรกกับการเปิดเวทีให้เด็กไทย ใช้พลังแห่งจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์สู่การเป็นนักคิด

กรุงเทพฯ (19 มิถุนายน 2555) – ซัมซุงสานต่อพันธกิจเพื่อสังคมเปิดตัวโครงการ “ซัมซุง โฮป ฟอร์ ชิลเดร้น – ซัมซุงสร้างนักคิด” กระตุ้นให้เด็กไทยคิดนอกกรอบ ใช้จินตนาการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพัฒนาชุมชน ร่วมมือกับ อาจารย์รัศมี ธันยาธร วิทยากรและผู้เชี่ยวชาญด้านความคิดสร้างสรรค์ระดับแถวหน้าของเมืองไทย คิดค้นหลักสูตรใหม่ เพื่อพัฒนากระบวนการคิดนอกกรอบอย่างมีระบบขึ้นเป็นครั้งแรก โดยทีมชนะเลิศจะได้รับโอกาสไปทัศนศึกษาอาณาจักรแห่งนวัตกรรมที่ซัมซุง ประเทศเกาหลี

นางจันทร์วิภา พิพัฒนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลาของการดำเนินธุรกิจ ซัมซุงมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้คนทั่วโลก รวมถึงการมุ่งเน้นพัฒนาในเรื่องของเด็กและการศึกษาเป็นสำคัญ จนเกิดเป็นโครงการเพื่อสังคมภายใต้ชื่อ “Samsung Hope for Children (ซัมซุง โฮป ฟอร์ ชิลเดร้น)” ขึ้นทั่วโลก ที่ผ่านมาซัมซุงประเทศไทยได้ร่วมมือกับองค์กรการกุศลเพื่อมอบทุนการศึกษา อุปกรณ์การเรียนรู้ รวมไปถึงที่อยู่อาศัย และความรักความอบอุ่นให้แก่เด็กและเยาวชนในประเทศไทย อาทิ Samsung Hope for Home โครงการให้ที่พักพิงและความรักความอบอุ่นแก่เด็กกำพร้า ร่วมกับโสสะมูลนิธิแห่งประเทศไทยฯ Samsung Hope for Harmony โครงการสร้างผู้นำเยาวชนให้แก่สังคมร่วมกับมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ และ Samsung Hope for Future โครงการมอบโอกาสอนาคตทางการศึกษาผ่านเทคโนโลยีอันทันสมัยของซัมซุง”

“และในปีนี้ ซัมซุงได้สร้างปณิธานใหม่ในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม ด้วยการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนจากทั่วประเทศได้มีโอกาสคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ เพื่อเป็นเป็นประโยชน์ต่อสังคมและชุมชนของตนเองและเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการ ‘ซัมซุง โฮป ฟอร์ ชิลเดร้น – ซัมซุงสร้างนักคิด’ โดยซัมซุงมองว่าการปลูกฝังเรื่องความคิดสร้างสรรค์กับเด็กและเยาวชนเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเด็กและเยาวชนถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญยิ่งของประเทศชาติ การเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการจะเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาให้เด็กและยาวชนอันเป็นอนาคตของชาติให้เติบโตขึ้นเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าและมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยพัฒนาประเทศชาติให้มีความก้าวหน้าต่อไปในอนาคต โดยซัมซุงเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าความคิดสามารถเปลี่ยนโลกได้ เราจึงต้องการติดอาวุธทางปัญญาให้แก่เด็กและเยาวชนไทยผ่านทางการสอนให้คิดเป็น การเรียนแต่ในห้องเรียนอาจจไม่เพียงพอแล้วสำหรับโลกยุคใหม่ เด็กๆ อาจไม่จำเป็นต้องเรียนเก่ง แต่หากกล้าคิดและมีความสร้างสรรค์ในทางบวกก็จะสามารถต่อยอดพัฒนาศักยภาพได้อย่างไร้ขีดจำกัด”
“สำหรับ ‘โครงการ ซัมซุง โฮป ฟอร์ ชิลเดร้น – ซัมซุงสร้างนักคิด’ นี้ ซัมซุงได้ร่วมมือกับอาจารย์ รัศมี ธันยธร ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ บริษัท ศูนย์ความคิดสร้างสรรค์ จำกัด และวิทยากรที่ได้รับลิขสิทธิ์การสอนหลักสูตร Six Thinking Hats  ของดร.เอ็ดเวิร์ด เดอ โบโน (Dr. Edward de Bono) ปรมาจารย์ด้านความคิดสร้างสรรค์ระดับโลกอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในการคิดค้นและพัฒนาหลักสูตรความคิดสร้างสรรค์สำหรับเยาวชนไทยขึ้นเป็นครั้งแรกให้เด็กไทยได้เปิดโลกทัศน์ พัฒนาพลังแฝงที่ซ่อนอยู่ในตัวเองออกมาในเชิงสร้างสรรค์อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ที่จะพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยให้คิดนอกกรอบนอกเหนือไปจากการเรียนในห้องเรียนแต่เพียงอย่างเดียวซึ่งซัมซุงส่งเสริมให้เด็กทุกคนที่ไม่จำเป็นต้องเรียนเก่งเท่านั้น ขอเพียงมีจินตนาการเชิงบวกก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้” นางจันทร์วิภากล่าวเสริม

อาจารย์รัศมี ธันยธร กล่าวว่า “ความคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถในการคิดและทำสิ่งใหม่ที่เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาทักษะด้านการคิดเพื่อเป็นพื้นฐานของการริเริ่มสิ่งใหม่ๆ และการแก้ปัญหาต่างๆ ของเด็กและเยาวไทย ซึ่งถ้าเยาวชนมีความคิดสร้างสรรค์ พร้อมทั้งมีคุณธรรมและจริยธรรมควบคู่กันแล้ว เชื่อว่าประเทศไทยจะพัฒนาไปในทางที่ดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน”

“โครงการ ‘ซัมซุง โฮป ฟอร์ ชิลเดร้น – ซัมซุงสร้างนักคิด” มีจุดประสงค์ในการสร้างนักคิด โดยมุ่งพัฒนาให้เด็กไทยคิดนอกกรอบ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ผ่านการเรียนการสอนอย่างมีระบบ พร้อมทั้งส่งเสริมให้พวกเขาสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมและเกื้อหนุนความคิดสร้างสรรค์ของคนรอบข้าง รวมถึงเป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นหันมาเห็นความสำคัญของพลังแห่งจินตนาการที่ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงโลกให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

“หลักสูตรสำหรับโครงการ ‘ซัมซุง โฮป ฟอร์ ชิลเดร้น – ซัมซุงสร้างนักคิด’ ถือได้ว่าเป็นหลักสูตรแรกที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเด็กและเยาวชนไทยโดยเฉพาะ โดยมุ่งให้เกิดการฝึกปฏิบัติจริงทุกขั้นตอน เพื่อให้เด็กกล้าคิดและกล้านำเสนอความคิดเห็นต่อผู้อื่น เป็นการฝึกให้คิด ซึ่งเราต้องส่งเสริมให้เยาวไทยเก่งรอบด้านมิใช่มุ่งเน้นให้เก่งในห้องเรียนแต่เพียงอย่างเดียว” อาจารย์รัศมีกล่าวเพิ่มเติม



กลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้คือนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากกว่า 4,000 โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการโดยนำเสนอแนวคิดที่สนุกสร้างสรรค์ แปลกใหม่ น่าสนใจ และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนรวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และสังคมต่อไปในอนาคต ภายใต้โจทย์ “นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ช่วยพัฒนาคุณภาพสังคมและชุมชน” เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้เข้ามาส่งเสริมเพิ่มพูนองค์ความรู้ให้แก่เยาวชนไทยต่อไปในอนาคต โดยเยาวชน ที่ผ่านการคัดเลือกจะมีโอกาสได้เข้าแคมป์เพื่อเรียนรู้หลักสูตรความคิดสร้างสรรค์กับอาจารย์รัศมี อีกทั้งผู้ชนะเลิศจะได้เดินทางไปทัศนศึกษา พร้อมสัมผัสประสบการณ์แห่งอาณาจักรของนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ซัมซุง ประเทศเกาหลีอีกด้วย

“ซัมซุงเชื่อมั่นว่าโครงการ นี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้สังคมไทยตระหนักถึงความสำคัญของความคิดสร้างสรรค์ในเด็กและเยาวชนไทยพร้อมส่งเสริมสนับสนุนการสร้างจิตสำนึกที่ดีและช่วยพัฒนาให้เด็กและเยาวชนอันเป็นอนาคตของชาติให้เติบโตขึ้นเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าและมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยพัฒนาประเทศชาติให้มีความก้าวหน้าต่อไปในอนาคต อีกทั้งอาจารย์ที่ได้เข้าร่วมโครงการยังสามารถนำความรู้จากหลักสูตร ของโครงการ

Samsung Hope for Children – ซัมซุงสร้างนักคิด ไปพัฒนากาเรียนการสอนเพื่อต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ให้แก่เด็กๆ รวมถึงตัวเด็กที่เข้าร่วมโครงการเองก็สามารถนำความรู้ไปพัฒนาตัวเอง เพื่อใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป ซึ่งซัมซุงได้เลือก แพนเค้ก – เขมนิจ จามิกรณ์ มาร่วมเป็นทูตโครงการ เพื่อร่วมประชาสัมพันธ์โครงการและร่วมเป็นกำลังใจให้แก่เยาวชน   ที่เข้าร่วมโครงการ อีกทั้งยังร่วมทำกิจกรรมกับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าแคมป์กับซัมซุงอีกด้วย ” นางจันทร์วิภากล่าวสรุป

นักเรียนที่สนใจร่วมโครงการสามารถส่งผลงานเข้าคัดเลือกรอบแรกได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 กรกฎาคมนี้ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://www.samsung.com/th/hope

ที่มา : arip

54

ข่าว IT / เทรนด์ ไมโคร ประกาศแต่งตั้งผู้บริหารใหม่

« เมื่อ: มิถุนายน 29, 2012, 05:14:57 pm »

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] คอมพิวเตอร์ระบายความร้อนด้วยน้ำเชิงพาณิชย์เครื่องแรกของไอบีเอ็มช่วยประหยัดไฟ 40%

บริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์ ผู้นำระดับโลกด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ ประกาศแต่งตั้งนายธนัท เศรษฐโอภาส ดำรงตำแหน่งผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด ดูแลรับผิดชอบด้านงานขาย การตลาด ช่องทางการจัดจำหน่าย และลูกค้าสัมพันธ์ในไทย โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาส่วนแบ่งการตลาดในการเป็นผู้นำระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า พร้อมตั้งเป้ายอดขายเทรนด์ ไมโคร (ประเทศไทย) ปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้น 30% 

ก่อนหน้าที่จะเข้าร่วมงานกับบริษัท เทรนด์ ไมโคร (ประเทศไทย) นายธนัทเคยร่วมงานกับบริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชัน บริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ และบริษัท ซีเกท เทคโนโลยี โดยที่บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชัน เขาเริ่มต้นในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายระดับสูงด้านโซลูชั่นสำหรับองค์กรในทีมบริการที่ปรึกษาด้านโครงสร้างพื้นฐานของเดลล์ และเคยทำงานในตำแหน่งด้านการบริหารจัดการอีกหลายตำแหน่ง และนายธนัทยังได้รับแต่งตั้งให้ดูแลตลาดประเทศไทยและอินโดจีนในส่วนบริการที่ปรึกษาด้านโครงสร้างพื้นฐานของเดลล์ด้วย



นายธนัทสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจบัณฑิต (การเงินและการธนาคาร) จากมหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก (ประเทศสหรัฐอเมริกา) และปริญญาตรีด้านการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ประเทศไทย)

ที่มา : arip

55

ข่าว IT / ซีเอผนึกกำลังขยายฐานรุกตลาดไอที

« เมื่อ: มิถุนายน 29, 2012, 05:13:55 pm »

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ซีเอผนึกกำลังขยายฐานรุกตลาดไอที ทั้งในไทยและระดับภูมิภาค หนุนนวัตกรรมโซลูชั่นเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับลูกค้าระดับเอ็นเทอร์ไพรซ์

กรุงเทพ - 7 มิถุนายน 2555 - ซีเอ เทคโนโลยี ประกาศการแต่งตั้ง บริษัท ซีเอโซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกภายในเครือกลุ่มบริษัท จีเอเบิล เป็นบริษัทพาร์ทเนอร์ตัวแทนประจำประเทศไทย (Country Representative Partner หรือ “CRP”) อย่างเป็นทางการ นับเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญในไทยหลังจากมีการประกาศแต่งตั้งบริษัทพาร์ทเนอร์ตัวแทนในลักษณะเดียวกันในประเทศมาเลเซีย โดยเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญที่จะเพิ่มบทบาทและขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียใต้ ที่ครอบคลุมเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บริษัท จีเอเบิล เป็นหนึ่งในบริษัทด้าน SI ที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศไทย โดยมีความเชี่ยวชาญในด้านการติดตั้งระบบไอทีขนาดใหญ่สำหรับภาคธุรกิจ งานบริการทางการเงิน กลุ่มธุรกิจพลังงาน โทรคมนาคม การศึกษา อุตสาหกรรม และรัฐวิสาหกิจ

นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2012 เป็นต้นไป ทางบริษัท ซีเอโซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด จะทำงานร่วมกับบริษัท ซีเอ เทคโนโลยี ในการทำตลาดและนำเสนอโซลูชั่น ตลอดจนผลิตภัณฑ์ต่างๆจากซีเอ เทคโนโลยี และการบริการสนับสนุนสำหรับลูกค้าในไทยต่อไป



นอกจากนี้ บริษัทพาร์ทเนอร์ตัวแทนประจำประเทศไทย หรือ CRP จะเข้าทำหน้าที่บริหารจัดการพาร์ทเนอร์ และลูกค้าของซีเอ เทคโนโลยี ในไทยด้วยเช่นกัน และเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีความต่อเนื่องในการประสานงานทั้งในด้านความต้องการทางธุรกิจ ของพาร์ทเนอร์และชุมชนผู้ใช้งาน กับโซลูชั่นเทคโนโลยีชั้นนำของ ซีเอ เทคโนโลยี ทางบริษัทซีเอ เทคโนโลยี ประเทศไทย จะทำหน้าที่สนับสนุนต่อ CRP ทั้งในด้านการบริหาร การสนับสนุนทางเทคนิค และการตลาดต่อไป

“กลยุทธ์ CRP ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ได้รับการออกแบบเพื่อยังประโยชน์ให้แก่คู่ค้าและลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพแวดล้อมของท้องถิ่น โดยการผสมผสานระหว่างความเชี่ยวชาญระดับโลกและโซลูชั่นที่ให้บริการโดย ซีเอ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) เข้ากับองค์ความรู้ระดับท้องถิ่นจากจีเอเบิล มันได้กลายเป็นการผสมผสานที่มีประสิทธิภาพยิ่ง ซึ่งเราพร้อมที่จะเดินหน้าสู่ความสำเร็จด้วยกันตั้งแต่วันแรก” นายสุเทพ อุ่นเมตตาจิต ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีเอโซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

“เรานำเสนอโซลูชั่นที่ช่วยให้บริษัทผู้ให้บริการไอทีสามารถนำไปสร้างรายได้ใหม่ๆ เพิ่มประสิทธิภาพในด้านการปฏิบัติงาน และสร้างความประทับใจในการใช้งานให้แก่ตัวลูกค้า” วิกเตอร์ เช็ง รองประธานบริษัทซีเอ เทคโนโลยี ภูมิภาคเอเชียเซาธ์ กล่าว
และว่า “การผนึกกำลังกับบริษัท จีเอเบิล ในครั้งนี้จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับยุทธศาสตร์สำคัญของเรา ที่ต้องการจะเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในประเทศไทย รวมทั้งนำเสนอโซลูชั่นและบริการต่อลูกค้าของเรา เพื่อนำไปใช้ในการแข่งขันธุรกิจต่อไป โดยทางจีเอเบิล นั้นมีประสบการณ์เชิงลึกในด้านงานติดตั้งและใช้งานระบบไอทีขนาดใหญ่ เข้าถึงภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่สำคัญ รวมทั้งมีเครือข่ายในไทยที่ครอบคลุม ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่วางไว้สำหรับประเทศไทย”

รูปแบบของ บริษัทพาร์ทเนอร์ตัวแทนประจำประเทศไทย หรือ CRP ในภูมิภาคนี้จะช่วยให้ทางซีเอ เทคโนโลยีได้ประสานจุดแข็ง ทั้งในด้านความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี และโซลูชั่นไอทีแบบเปิด ที่ไม่ยึดตึดกับแพลตฟอร์ม รวมเข้ากับความชำนาญในภาคสนามในตลาดให้เป็นหนึ่งเดียว และด้วยการทำงานร่วมกันกับผู้ให้บริการโซลูชั่นอย่างเช่น จีเอเบิล จะช่วยให้ทาง ซีเอ เทคโนโลยีสามารถขยายตัวในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างไทยได้อย่างรวดเร็วในอนาคต

ที่มา : arip

56

ข่าว IT / ซีเกท ประกาศซื้อกิจการของลาซี่

« เมื่อ: มิถุนายน 29, 2012, 05:13:27 pm »

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ซีเกทและลาซี่ประกาศการลงนามในสัญญาผูกพันสำหรับการซื้อหุ้น เพื่อการซื้อกิจการของลาซี่


กรุงเทพฯ ประเทศไทย 19 มิถุนายน 2555 – สืบเนื่องจากข่าวประชาสัมพันธ์ที่ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ซึ่งเป็นการประกาศเกี่ยวกับการต่อรองแบบเอ็กซ์คลูซีฟและการได้รับความเห็นชอบจากตัวแทนพนักงานของลาซี่ เอส.เอ. (LaCie S.A.) (Euronext: LAC) เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2555   บริษัทซีเกท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (NASDAQ: STX) และลาซี่ (LaCie) แถลงการณ์ในวันนี้ว่าทางบริษัทซีเกท  นายฟิลิปเป้ สเปิร์ช ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของลาซี่ (Philippe Spruch, LaCie’s chairman and CEO) และหุ้นส่วน ได้เซ็นสัญญาผูกพันเพื่อการซื้อหุ้นทั้งหมดของ นายฟิลิปเป้ สเปิร์ชและหุ้นส่วนซึ่งมีจำนวนร้อยละ 64.5 ของหุ้นทั้งหมดที่อยู่ในมือผู้ถือหุ้นของลาซี่ ในราคาที่เสนอซื้อหุ้น 4.05 ยูโรต่อหุ้น (ราคาหุ้นนี้อาจถูกปรับตัวลดลง ขึ้นอยู่กับปริมาณเงินสดและหนี้สินของลาซี่ ณ วันที่ธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์)  ตามที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ ริโคล ลาสเตอรี่ แอนด์ แอสโซซี่ (Ricol Lasteyrie & Associés)  ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้เชี่ยวชาญอิสระโดยคณะกรรมการบริหารของลาซี่ ในวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ธุรกรรมนี้ได้ผ่านการการอนุมัติจากกรมต่อต้านการผูกขาดการค้า ในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ยังคงขึ้นอยู่กับการอนุมัติในประเทศฝรั่งเศส (การอนุมัติเกี่ยวกับการลงทุนของต่างชาติโดยกระทรวงการคลัง) และประเทศเยอรมนี (การยื่นคำร้องเกี่ยวกับการต่อต้านการผูกขาดการค้า) รวมทั้งกฎหมายตลอดจนเงื่อนไขในการปิดกิจการอื่น ๆ
หลังจากการควบกิจการกับลาซี่ ซีเกทจะเริ่มจัดทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดด้วยเงินสด ในราคา 4.05 ยูโรต่อหุ้น (มีแนวโน้มว่าราคาหุ้นจะถูกปรับตัวลดลงตามข้อมูลที่กล่าวไว้ด้านบน) ราคาหุ้นนี้อาจปรับตัวสูงขึ้นจากราคาที่กำหนดไว้เดิม ถึงร้อยละ 3 หากมีการดำเนินตาม squeeze-out procedure (ส่งผลให้สามารถครอบครองหุ้นและมีสิทธิในการออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้ถึงร้อยละ 95 ของหุ้นทั้งหมด) ส่งผลให้มีความเป็นไปได้ที่ราคาต่อหุ้นของลาซี่อาจมีระดับสูงสุดถึง 4.17 ยูโรต่อหุ้น

ที่มา : arip

57

ข่าว IT / ข่าวลือ!!! iPad mini ต้อนรับ Nexus 7

« เมื่อ: มิถุนายน 28, 2012, 11:03:47 pm »

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ทันทีทีมีข่าวการเปิดตัว Nexus 7 "แท็บเล็ต"ภายในแบรนด์ของ Google ส่งผลให้ข่าวลือเกียวกับ iPad mini กลับมาว่อนเน็ตอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการพูดถึงเป็นระยะอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งแหล่งข่าวกล่าวว่า การเปิดตัว Nexus 7 ที่มาพร้อมกับโอเอสใหม่ล่าสุดอย่าง Android Jelly Bean ถือเป็นอีกหนึ่งแรงกดดันที่อาจทำให้ Apple ต้องรีบปล่อย iPad ทีมีขนาดเล็กกว่าออกมา เพื่อขยาย และยืดอายุตลาดของไอแพดต่อไปให้เร็วที่สุด

สภาพการณ์ตอนนี้ดูเหมือนตลาดแท็บเล็ตขนาดเล็กที่แข่งขันกันนัว โดยเฉพาะกับการที่ Nexus 7 เปิดตัวด้วยดีไซน์ และสเป็กที่เหนือกว่า Kindle Fire ของ Amazon และ Nook ของ B&N ในขณะที่ราคาเท่าๆ กันคือ 200 เหรียญฯ (ประมาณ 6,000 บาท) ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า แท็บเล็ตกลุ่มนี้เป็นคู่แข่งทางอ้อมของ iPad ที่มีราคาอยู่ที่ 499 เหรียญฯ (ประมาณ 15,000 บาท) ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า Apple เตรียมส่ง iPad mini รุ่นเล็กกว่าของ iPad โดยมาพร้อมกับจอแสดงผล Retina และถูกกว่า iPad 2 อีกทั้งยังมีข่าวลือด้วยว่า iPad mini จะวางตลาดพร้อม iOS เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในช่วงไตรมาสทีสามของปีนี้



อย่างไรก็ตาม ประเด็นทีหลายฝ่ายให้ความสนใจก็คือ Apple จะเลือกชนกับ Google และคู่แข่งรายอื่นๆ ที่ผลิตแท็บเล็ต 7 นิ้วด้วยราคาเดียวกัน หรือไม่? เพราะด้วยสไตล์การทำธุรกิจของ Apple แล้ว บริษัทไม่มีแนวทางในการทำผลิตภัณฑ์ราคาถูก (ชนด้วยราคา) แต่การปล่อยให้ Google และคู่แข่งประสบความสำเร็จในส่วนแบ่งตลาดนี้ไปเรื่อยๆ อาจจะไม่เป็นผลดีกับ Apple ในระยะยาว แต่ก็อย่างที่เห็นอยู่ว่า รูปแบบการแข่งขันของธุรกิจวันนี้ ต้องมีการปรับเปลี่ยน เพื่อปิดทางไม่ให้คู่แข่งเข้ามาในตลาดได้อย่างรวดเร็ว ดังเช่นที่เป็นข่าวล่าสุดที่ Apple ชนะคดีละเมิดลิขสิทธิ์สั่งระงับไม่ให้ Samsung จำหน่าย Galaxy Tab 10.1 ในสหรัฐฯได้เป็นผลสำเร็จ แต่วิธีนี้อาจจะใช้ไม่ได้กับ Nexus 7 และคู่แข่งอีกหลายๆราย การออก iPad mini จึงเป็นวิธีหนึ่งที่มีความเป็นไปได้มากทีสุด

ที่มา : arip

58

ข่าว IT / Nexus 7 "แท็บเล็ต"ใหม่จาก Google

« เมื่อ: มิถุนายน 28, 2012, 11:03:19 pm »

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ข่าวใหญ่เมื่อวานนี้ (27 มิ.ย. 2555) กูเกิ้ล (Google) ประกาศเปิดตัว "แท็บเล็ต" แอนดรอยด์ทีมีขนาดหน้าจอ 7 นิ้วของทางบริษัทที่มีชื่อว่า Nexus 7 ในงานประชุมนักพัฒนา I/O ที่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐฯ สำหรับแท็บเล็ตรุ่นดังกล่าวได้รับการออกแบบโดยกูเกิ้ล แต่ได้พันธมิตรผู้ผลิตอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ในไต้หวันอย่าง Asus เป็นผู้ผลิต โดยสนนราคาของ Nexus 7 อยู่ที่ 199 เหรียญฯ หรือประมาณ 6,000 บาทเท่านั้น!!!



Nexus 7 แท็บเล็ตรุ่นใหม่จากกูเกิ้ลจะมีกำหนดการเปิดให้สั่งจองได้แล้วใน Google Play โดยจะเริ่มส่งมอบเครื่องตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม (บ้านเรายังต้องรอไปก่อน เหมือนเดิม - -") ซึ่งจากดีไซน์ คุณสมบัติ ตลอดจนราคาของแท็บเล็ตรุ่นนี้ คาดว่าน่าจะพุ่งเป้าไปที่คู่แข่งอย่าง Kindle Fire ของ Amazon ที่มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 199 เหรียญฯ เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี ทาง Google ระบุว่า คุณสมบัติการทำงานของ Nexus 7 จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการบริโภคคอนเท็นต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนิตยสาร หนังสือ และภาพยนตร์ โดยเฉพาะวิดเจ็ตที่ชื่อว่า My Library ที่อยู่บนโฮมเพจของเครื่องจะสามารถแสดงคอนเท็นต์ต่างๆ ล่าสุดที่คุณสนใจ และพร้อมให้สัมผัส เพื่อเปิดรับชมได้ทันที Nexus 7 มีดีไซน์ที่บางเฉียบ ทำงานด้วย Android เวอร์ชันล่าสุด (Jelly Bean) และ "ควอด-คอร์" โพรเซสเซอร์ Tegra 3 ความเร็ว 1.3GHz สนับสนุนเทคโนโลยี NFC และมีหน่วยความจำ 1GB พร้อมกล้องหน้า 1.2MP มีความจุให้เลือก 2 ขนาดด้วยกันคือ 8GB และ 16GB บนหน้าจอสัมผัสที่มีความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล



Nexus 7 จะมีน้ำหนักแค่ 340 กรัม ซึ่งจะเบากว่า Kindle Fire ประมาณ 50 กรัม ในขณะที่มันมาพร้อมกับหน้าจอไฮเดฟฯ ที่ละเอียดกว่า และชิปเซตกราฟิกที่ประมวลผลได้เร็วกว่าอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การเปิดตัว Nexus 7 ในงาน I/O ครั้งนี้แทบจะเป็นอะไรที่ตรงกันข้ามกับงานในปีที่แล้วที่ได้มีการเปิดตัวซัมซุงแกแล็กซี่แท็บ ซึ่งเป็นแท็บเล็ตไฮเอ็นด์ระดับเดียวกับไอแพด ในขณะเดียวกัน มันเป็นการเดินเกมที่แตกต่างจากกลยุทธ์ของไมโครซอฟท์ที่เมือสัปดาห์ทีแล้ว เพิ่งจะเปิดตัวแท็บเล็ตไฮเอ็นด์อย่างเซอร์เฟซ พร้อมกับตั้งราคาท้าชนไอแพดอีกด้วย อย่างไรก็ดี ตลาดล่างของแท็บเล็ตได้รับความสนใจจากเหล่าบรรดาผู้ผลิตพีซีหลายราย แต่ไม่ว่าจะเป็นตลาดล่าง หรือตลาดระดับไฮเอ็นด์ วันนี้เจ้าตลาดแท็บเล็ตก็ยังคงเป็นไอแพดที่ครองส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกอยู่ที่ 62% ส่วนแท็บเล็ตแอนดรอยด์ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่รวมกันแล้วจะมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 36% ทั้งนี้ แอมะซอนได้จุดประกายความสำเร็จของแท็บเล็ตโลว์เอ็นด์ด้วย Kindle Fire (มีข่าวลือว่า ทางบริษัทจะเปิดตัว Kindle Fire 2 ที่มีขนาดหน้าจอ 10 นิ้วในเร็วๆ นี้) ทีมียอดขายถล่มทลายในช่วงวันหยุดปลายปีที่แล้ว ซึ่งแม้จะใช้โอเอสเป็นแอนดรอยด์ของกูเกิ้ลเหมือนกัน แต่มันดูเหมือนคู่แข่งมากกว่ามิตร เนื่องจากโอเอสบน Kindle Fire เป็นแอนดรอยด์ที่ได้รับการปรับแต่งการทำงานให้พาผู้ใช้เข้าไปยังแอพสโคร์ของแอมะซอนไม่ใช่กูเกิ้ลเพลย์ - -"

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=YMQdfGFK5XQ" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=YMQdfGFK5XQ</a>

ที่มา : arip

59

ข่าว IT / airnet อินเทอร์เน็ตบ้านไร้สาย Super Wi-Fi ความเร็วสูง จาก AIS

« เมื่อ: มิถุนายน 20, 2012, 09:12:04 pm »

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] การใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ คนส่วนใหญ่ใช้งานอินเทอร์เน็ตในการดาวน์โหลดข้อมูลที่ต้องการมาเก็บไว้ที่เครื่อง แต่หลังจากยุค Social Network พฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตเริ่มเปลี่ยนไป การแชร์ รูปภาพและวีดีโอ กลายเป็นเรื่องปกติ รวมไปถึงการเปิดบริการ Cloud Service ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Drop box, iCloud ไปจนถึง Google Drive ทำให้การอัพโหลดข้อมูลไปยังอินเทอร์เน็ตนั้น ใช้ Bandwidth มากขึ้นตามไปด้วย

airnet เป็นบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง จาก AIS ที่ให้ความเร็วในการอัพโหลดเท่ากับดาวน์โหลดซึ่งมากกว่า ADSL ทั่วไป ถึง 13 เท่า (เปรียบเทียบที่แพ็กเกจเริ่มต้น airnet 7 Mbps ส่วน ADSL 0.5 Mbps) ด้วย Upload Speed ที่สูงขนาดนี้ จึงทำให้สามารถใช้งานร่วมกับกล้องวงจรปิด ( CCTV )ได้เป็นอย่างดี รวมถึง Solution IP Camera ที่มีราคาย่อมเยาว์ลงอีกด้วย โดยใช้เทคโนโลยีไร้สาย Super Wi-Fi ที่ความถี่ 5 GHz ทำให้ในช่วงเวลาฝนฟ้าคะนองไม่มีผลต่อคุณภาพสัญญาณ และเนื่องจากเป็นบริการไร้สายจึงไม่จำเป็นต้องมีสายโทรศัพท์พื้นฐาน นอกจากนี้การติดตั้งยังทำได้ง่ายและรวดเร็วด้วย



การทำงานของ airnet นั้น ประกอบด้วยอุปกรณ์รับสัญญาณ (Customer Premises Equipment (CPE)) ที่ติดอยู่ที่บ้านของผู้ใช้บริการ ทำหน้าที่รับสัญญาณจากสถานีฐาน (Access Point(AP)) ของ AIS ซึ่งครอบคลุมการใช้งานในระยะ 3-5 กิโลเมตร โดยอุปกรณ์รับสัญญาณจะทำหน้าที่แปลงสัญญาณไร้สายเป็นสัญญาณ Ethernet (LAN) ต่อเข้ากับอุปกรณ์จ่ายไฟ (Power Over Ethernet (POE)) ที่ทำหน้าที่จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์รับสัญญาณ CPE และส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตมายังเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรงหรือจะต่อผ่าน Wi-Fi Router เพื่อกระจายสัญญาณให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น Notebook, โทรศัพท์มือถือ หรือ Tablet ภายในบ้านเพื่อใช้งานพร้อม ๆ กันหลายอุปกรณ์ก็ได้





ข้อดีของ airnet จาก AIS



1.เป็นการรับ-ส่งข้อมูลเป็นแบบ Symmetric ทำให้ความเร็วในการดาวน์โหลด = อัพโหลด ซึ่งเร็วกว่า ADSL ทั่วไป ถึง 13 เท่า ในราคาเท่ากัน
2.ไม่ต้องใช้โทรศัพท์พื้นฐาน (เบอร์บ้าน)ทำให้ประหยัดค่ารักษาหมายเลขโทรศัพท์ 107 บาทต่อเดือน
3.ใช้งานได้ไม่จำกัดชั่วโมงและปริมาณข้อมูล
4.มีอัตราส่วนการแชร์ใช้ข้อมูล (จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการต่อพื้นที่) ที่ดีที่สุดในตลาด ไม่ต้องแย่งความเร็วกัน
5.ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว
6.สามารถใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศ แม้แต่ช่วงเวลาฝนฟ้าคะนอง
พื้นที่ให้บริการ

ปัจจุบัน airnet สามารถให้บริการได้ทั้งในเขตกทม. ปริมณฑล และตามจังหวัดใหญ่ๆ ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบพื้นที่ให้บริการได้ทางhttp://www.ais.co.th/airnet/th/service_area.html หรือสอบถาม airnet contact center 1742 หรือ 02-614-0742

แพ็กเกจที่ให้บริการ

แอบเห็นโบรชัวร์ของ airnet เลยเอามาแชร์กันนะครับ ก็เลือกใช้ตามแบบที่ต้องการกันได้เลยครับ



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Website www.ais.co.th/airnet
airnet contact center โทร. 1742 หรือ 02-6140742 เปิดให้บริการตั้งแต่ 9:00 – 24:00 น. ทุกวัน
airnet facebook page www.facebook.com/ais.airnet

ที่มา : arip

60

ข่าว IT / ไลน์เตรียมออกพวงกุญแจเอาใจสาวก

« เมื่อ: มิถุนายน 18, 2012, 04:32:09 pm »

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ไลน์เตรียมออกพวกกุณแจจากสติ๊กเกอร์ เอาใจสาวกบนสมาร์ทโฟน

    มาแล้วมาแล้ว! ไลน์เตรียมออกพวกกุญแจที่สามารถแปลงร่างเป็นเครื่องประดับอุดรูหูฟังได้ โดยออกมาให้เลือกจาก 3 ตัวละครได้แก่ มูนหน้ากลม กระต่ายโคนี่ และหมีเฉยบราวน์  โดยทั้งหมดนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการผลิตที่ญี่ปุ่นยังไม่มีของจริงออกมา ถ้าตัวจริงออกมาเมื่อไหร่ ARiP จะอัพเดทให้แฟนๆได้ชมกันเร็วๆนี้ ติดตามกันให้ดี



  ใครชอบตัวไหนอัพเดทกันให้ฟังบ้างนะ

ที่มา : arip