แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Warden

หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 26
31
ข่าว IT / ลือ iPhone 5 เปิดตัว 7 สิงหาคม ศกนี้
« เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2012, 07:05:38 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ตามติดกระแส iPhone 5 กันต่ออีกสักข่าวนะครับ ล่าสุดเว็บไซต์ชื่อ KnowYourMobile รายงานว่า แอปเปิ้ล (Apple) เตรียมประกาศเปิดตัว iPhone 5 ก่อนกำหนดระยะเวลาเดิมที่จะเป็นช่วงเดือนตุลาคม โดยเลื่อนขึ้นมาเร็วขึ้นเป็น 7 สิงหาคม หรืออีกประมาณแค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น :O

เว็บไซต์ KnowYourMobile อ้างแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้เปิดเผยกับทางเว็บไซต์ว่า มันมีความเป็นไปได้อย่างมากที่แอปเปิ้ลจะทำเซอร์ไพรส์ผู้บริโภคทั่วโลกด้วยการเปิดตัว iPhone 5 ในวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งจะแตกต่างจากแหล่งข่าวหลายๆ แห่งที่มีการคาดการณ์กันก่อนหน้านี้ว่า มันจะเป็นช่วงเดือนตุลาคม อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวยืนยันคุณสมบัติของ iPhone 5 ตามข่าวลือที่มีออกมาก่อนหน้านี้  โดยเฉพาะเรื่องของหน้าจอ 4 นิ้ว Retina Display และชิป NFC รวมถึงโพรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่คาดว่าน่าจะเป็น A6 (ชิปล่าสุดคือ A5X ทีมาพร้อมกับ iPhone 4S) ตลอดจนวัสุดทีใช้ทำตัวเครื่องที่เป็นอะลูมิเนียมทีมีเฉดของสีต่างกัน



ทั้งนี้ แอปเปิ้ลต้องการให้ iPhone 5 มีดีไซน์ที่แตกต่างจาก iPhone 4/4S อย่างเห็นได้ชัด โดยคาดว่า ไอโฟนรุ่นใหม่จะมาพร้อมกับ iOS 6 ที่พกพาฟีเจอร์ใหม่ ซึ่งรวมถึง Siri ที่ฉลาดกว่าเดิม เพื่อทิ้งห่างคู่แข่งอย่าง Android 4.1 Jelly Bean ของ Google และ Windows Phone 8 ของ Microsoft ไม่ว่าข่าวนี้จะเป็นเรื่องจริง หรือไม่อย่างไร? หากมีความชัดเจนมากขึ้น ทางเว็บไซต์ arip จะเกาะติดมานำเสนอเป็นระยะๆ ซึ่งมีความเป็นไปได้เหมือนกันที่ Apple จะตัดสินใจเช่นนี้ เพราะลำพังแค่ยอด Galaxy S III ที่แรงจนผลิตแทบไม่ทัน แถมยังมีแท็บเล็ต 7 นิ้วที่กำลังเป็นที่นิยมของผู้บริโภค คงทำให้ Apple นั่งอยู่เฉยๆ เพื่อรอเวลาเปิดตัวตามกำหนดการเดิมได้ยากเหมือนกัน เอาเป็นว่า รอพิสูจน์ข่าวนี้ในอีกสามสัปดาห์ข้างหน้านะครับ

ที่มา : arip

32
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] สำหรับคุณผู้อ่านที่ใช้ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสในองค์กรอย่าง Endpoint Protection 12.1 บนพีซีที่รันระบบปฏิบัติการ Windows โดยเฉพาะ Windows XP อาจพบอาการล่มของเครื่องคอมพิวเตอร์จนถึงขั้นแสดงหน้าจอน้ำเงินมรณะ (BSoD - Blue Screen of Death)

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Symantec Security Response ประกาศเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของอัพเดทซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสเวอร์ชันสำหรับ่ลูกค้าองค์กรของทางบริษัทที่ส่งผลให้คอมพิวเตอร์บางเครื่องล่มการทำงานได้ ซึ่งไซแมนเทคได้รับรายงานจากลูกค้าตั้งแต่วันพุธที่ 11 กรกฎาคม ทีผ่านมา โดยหน้าจอของวินโดวส์จะเกิดข้อผิดพลาดที่เรียกว่าจอน้ำเงินมรณะหลังจากรีบูทเครื่องที่อัพเดทเสร็จแล้วขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งนี้กลุ่มของผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือ ผู้ใช้พีซีที่รัน Windows XP และอัพเดทไวรัสล่าสุดของ Symantec EndPoint Protection 12.1 ทั้งนี้มีรายงานที่แจ้งทางบริษัทว่า ระบบบังคับให้ผู้ใช้ลบซอฟต์แวร์ออก แต่เครื่องก็ใช้งานไม่ได้ ซึ่งขั้นตอนการกู้ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติกินเวลามาก



ลูกค้าของไซแมนเทคไม่พอใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างมาก โดยจากฟีดแบคต่างๆ ที่ร้องเรียนเข้าไปยังบริษัท เนื่องจากมันทำให้คอมพิวเตอร์ (ที่ยังคงรัน Windows XP) หลายเครื่องในธุรกิจต้องชะงักกับปัญหาดังกล่าว ในขณะที่แผนกไอทีต้องมาแก้ปัญหา เพื่อกู้คืนระบบให้กลับมาทำงานได้อีกครั้ง ซึ่งทำให้เสียเวลา และเสียงานโดยใช่เหตุ เนื่องจากปัญหาทั้งหมดเกิดจากอัพเดทซอฟต์แวร์ของไซแมนเทค อย่างไรก็ตาม ไซแมนเทคได้ยุติการเปิดให้อัพเดทดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม หลังจากประกาศข้อผิดพลาด และยุติชุดอัพเดทดังกล่าว

ที่มา : arip

33
ข่าว IT / โนเกียหั่นราคา Lumia 900 ลงครึ่งหนึ่ง
« เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2012, 07:04:31 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวล่าสุด Nokia หั่นราคา Lumia 900 สมาร์ทโฟนเรือธงของทางบริษัทลงครึ่งหนึ่ง หลังจากวางตลาดได้เพียงแค่สามเดือน ซึ่งเป็นหนึ่งในความพยายามที่จะช่วงชิงส่วนแบ่งกลับคืนมา เนื่องจากยังคงทิ้งห่างจากผู้นำตลาดอย่างแอปเปิ้ล และซัมซุงอย่างไม่เห็นฝุ่น โดยราคาของวินโดวส์โฟน Lumia 900 จะเหลือแค่ 49.99 เหรียญฯ หรือประมาณ 1,500 บาท จากเดิม 99 เหรียญฯ (ประมาณ 3,000 บาท) พร้อมสัญญาการใช้งาน 2 ปีกับทาง AT&T (งานนี้เฉพาะลูกค้าในสหรัฐฯ เท่านั้น)

โนเกียลดราคาสมาร์ทโฟนรุ่น Nokia Lumia 900 ที่ขายผ่านหน้าร้านของ AT&T ในสหรัฐฯ ลงเหลือ 50% โดยตัวแทนบริษัทกล่าวว่า การลดราคาครั้งนี้เป็นไปตามแผนการบริหารจัดการวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างโนเกียกับผู้ให้บริการเครือข่าย โดยย้ำว่า มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร แต่ประเด็นที่น่าตั้งข้อสังเกตก็คือ ซัมซุงได้หั่นราคาของ Galaxy S2 ก่อนหน้านี้ เนื่องจากปฏิเสธไม่ได้ว่า โนเกียเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนช้าเกินไปทำให้เสียส่วนแบ่งตลาดไปมากมาย ในขณะเดียวกันตลาดมือถือระดับล่างทีมีราคาถูกยังถูกเจาะโดยคู่แข่งหลายๆ รายอีกด้วย



อย่างไรก็ดี ด้วยคุณสมบัติของ Nokia Lumia 900 ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows Phone ของไมโครซอฟท์จะมีหน้าจอที่ใหญ่ถึง 4.3 นิ้ว โพรเซสเซอร์ 14GHz แถมยังมีกล้อง 8 ล้านพิกเซล การหั่นราคาลงครั้งนี้ ทางบริษัทคาดว่า จะทำให้ผู้บริโภคหันมาเล่นวินโดวส์โฟนของโนเกียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม อัตราเร็วในการขายของ Lumia 900 (และวินโดวส์โฟนรุ่นอื่นๆ ภายใต้แบรนด์โนเกีย) เริ่มชะลอตัวลงก่อนหน้านี้ ภายหลังที่ไมโครซอฟท์ระบุว่า สมาร์ทโฟนรุ่นปัจจุบันไม่สามารถรัน Windows Phone 8 ได้ นั่นหมายความว่า ผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ทโฟน Windows Phone 8 ที่ซื้อเครืองไปตอนนี้แล้ว อาจจะต้องซื้อเครื่องใหม่ เนื่องจากอัพเกรดโอเอสไม่ได้ ปัจจุบันโนเกียประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง โดยล่าสุดเพิ่งจะลดพนักงานไป 10,000 ตำแหน่ง

ที่มา : arip

34
ข่าว IT / ภาพหลุด iPhone 5 (อ้างของจริง)โผล่!!!
« เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2012, 07:04:08 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ไอโฟน 5 (iPhone 5) เป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นของทางแอปเปิ้ล (Apple) ที่ขยันมีภาพหลุด ข่าวรั่ววงใน ที่คงได้ลุ้นกันอีกครั้งว่า รายงานที่มีการเผยแพร่ออกมาเหล่านี้จะถูกสักกี่ข้อ ซึ่งเช้านี้ก็มีให้ติดตามกันอีกแล้ว โดยล่าสุดมีการปล่อยภาพที่ระบุว่าเป็น iPhone 5 จากเว็บไซต์ KitGuru เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งอ้างว่าเป็นเครื่องตัวอย่างที่ใช้ทดสอบ นั่นหมายถึง iPhone 5 กำลังอยู่ในระหว่างการผลิตแล้วในขณะนี้ หรือภาพที่เห็นเป็นแค่ของปลอมกันแน่?

เว็บไซต์ KitGuru เผยแพร่ภาพที่อ้างว่าเป็น iPhone 5 เทียบกับ iPhone 4S ซึ่งทำให้เห็นถึงความแตกต่างของขนาดระหว่างสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นได้ค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะขนาดตัวเครื่องของ iPhone 5 ที่ใหญ่ขึ้นกว่าไอโฟนรุ่นปัจจุบัน เนื่องจากมีหน้าจอใหญ่ถึง 4 นิ้ว ในขณะเดียวกันยังใช้คอนเน็คเตอร์สำหรับการเชื่อมต่อด็อคกิ้งที่เล็กลงกว่าเดิม ด้วยการลดจำนวนเข็มสัญญาณจาก 30 พิน (ที่คุ้นเคยบน iPad, iPhone และ iPod Touch) เหลือเพียง 16 พิน ส่วนความหนา และความกว้างของ iPhone 5 ดูเหมือนจะเท่าๆ กับ iPhone 4S



อย่างไรก็ตาม ภาพที่เผยแพร่ออกมาได้สร้างความสงสัยอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะสิทธิ์ในการนำภาพดังกล่าวออกมาเผยแพร่ หรือแม้แต่การใช้โปรแกรมตกแต่งภาพอย่างโฟโต้ชอปในการสร้างภาพดังกล่าวออกมา แต่ KitGuru อ้างว่า มันเป็นภาพของจริงภาพแรกของ iPhone 5 ทีมีการปล่อยออกมา (จะบอกว่า ภาพก่อนหน้านี้ที่ปล่อยออกมาเป็นของปลอมงั้นสิ) โดยทางเว็บไซต์ยังอ้างอีกว่า ทีมงานได้รับ"แรงกดดันจากภายนอก" (???) ทำให้พวกเขาต้องตัดสินใจลบภาพของ iPhone 5 ออกไปจากเว็บไซต์ ซึี่งการให้ข้อมูลลักษณะนี้ยิ่่งทำให้เชื่อว่า ภาพดังกล่าวอาจจะเป็นของจริงก็ได้ โดยแรงกดดันจากภายนอกที่ว่านี้ อาจหมายถึง Apple ก็เป็นได้ หรือเป็นจิตวิทยาของทางเว็บไซต์ทีต้องการปั่นกระแสให้เป็นข่าว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางกองบรรณาธิการเว็บไซต์ arip เชื่อว่า กว่าจะถึงวันเปิดตัวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เราคงจะได้ชมภาพหลุด และข่าวรั่วเกี่ยวกับ iPhone 5 อีกหลายรอบแน่นอน - -"

ที่มา : arip

35
ข่าว IT / อีคอมเมิร์ซในจีนเปิดจอง iPhone 5 แล้ว?
« เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2012, 07:43:30 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวนี้คงจะสร้างความงุนงงให้กับแอปเปิ้ล (Apple) ไม่น้อย เพราะทางบริษัทเองยังไม่เคยออกมายอมรับเลยว่า กำลังผลิต iPhone 5 แต่ Taobao เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ (ขายทุกอย่างแบบ Amazon.com) ในจีนได้เปิดให้ลูกค้าสามารถสั่งจอง iPhone 5 กันได้แล้ว...อุ๊ปส์!!!

Taobao เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในจีน กำลังเปิดให้ลูกค้าสามารถสั่งจอง iPhone 5 พร้อมทังแสดงภาพถ่ายจำลองของตัวเครื่อง และคุณสมบัติที่คาดว่าจะพบได้ในไอโฟนรุ่นต่อไป ซึ่งเป็นการทำตลาดล่วงหน้าก่อนแอปเปิ้ลจะเปิดตัว iPhone 5 ที่คาดว่าน่าจะเป็นในช่วงเดือนตุลาคมของปีนี้ ที่สำคัญ ผู้บริหารแอปเปิ้ลยังคงปิดเงียบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แม้แต่ชื่อเรียกของ iPhone 5 ก็เป็นการจัดตั้งโดยสื่อ และลูกค้าสาวก ซึ่งคาดเดาเอาจากข้อมูลรายล้อมประกอบกับภาพหลุดข่าวรั่วเกี่ยวกับสเป็กทีมีออกมาเป็นระยะๆ อย่างเช่น การมีหน้าจอที่ใหญ่กว่าเดิม และด็อคกิ้งใหม่ที่เล็กลง



ทางเว็บไซต์ Taobao ยังเสนอ iPhone 5 ที่มีตัวเลือกให้จองหลากหลายรุ่นอีกด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีรุ่นที่สามารถอ่านภาษาจีนกลาง หรืออย่างน้อยก็ต้องมีเครื่องมือแปลภาษาที่เยี่ยมยอด อย่างไรก็ตาม ทางเว็บไซต์ไม่ได้แจ้งกำหนดการส่งมอบสินค้า ผู้ค้าบางรายรายงานว่า iPhone 5 ที่จองนี้จะมีราคาสูงถึง 1,100 เหรียญฯ (ประมาณ 33,000 บาท) กันเลยทีเดียว สาเหตุที่ราคาสูงขนาดนี้ เนื่องจากผู้ค้าใน Taobao จะใช้วิธีซื้อ iPhone 5 จากฮ่องกง หรือสหรัฐฯ เพื่่อนำกลับเข้ามาขายในจีนอีกทีหนึ่ง

ที่มา : arip

36
ข่าว IT / ด่วน!!! "ยาฮูเมล์"ถูกแฮค 450,000 ราย
« เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2012, 07:42:59 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] สำหรับคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ที่ใช้อีเมล์ของยาฮู (Yahoo mail) ทุกท่าน ควรเปลียนรหัสผ่าน เพื่อความปลอดภัยเป็นการด่วน เนื่องจากมีรายงานข่าวว่า บัญชีผู้ใช้อีเมล์พร้อมพาสเวิร์ดประมาณ 450,000 รายถูกแฮคออกไป เนื่องจากช่องโหว่ในการทำงานของระบบ โดยทางยาฮู (Yahoo) ได้ออกมายืนยันเมื่อวานนี้ พร้อมทั้งแจงเพิ่มเติมว่า มีพาสเวิร์ดของบัญชีผู้ใช้เป็นส่วนน้อยที่ถูกแฮคไปที่สามารถใช้ล็อกอินได้จริง - -"

ทั้งนี้ทางยาฮูเมล์กล่าวถึงสาเหตุว่า  เริ่มต้นจากความพยายามในการแฮค "ไฟล์เก่าๆ" จาก Yahoo Contributor Network (แพลตฟอร์มแชร์คอนเท็นต์) โดยอีเมล์ และพาสเวิร์ดที่ถูกขโมยออกไปได้นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นบริการอีเมล์ของยาฮูเองตามด้วยอีเมล์ของบริษัทอื่นๆ ซึ่งทางยาฮูเปิดเผยว่า ทางบริษัทกำลังแก้ไขช่องโหว่ และได้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดของผู้ใช้ที่โดนขโมยพาสเวิร์ดไป พร้อมทั้งจะได้แจ้งเตือนบริษัทต่างๆ ที่อีเมล์ และพาสเวิร์ดถูกขโมยออกไปด้วย "เราต้องขอโทษผู้ใช้ทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้" ถ้อยแถลงจากยาฮู



แหล่งข่าวยังเปิดเผยอีกด้วยว่า กลุ่มแฮคเกอร์ที่เจาะระบบ และขโมยพาสเวิร์ดของยาฮูเมล์ออกไปได้นั้นใช้ชื่อเรียกตัวเองว่า D33D Company ซึ่งใช้เทคนิคการขโมยพาสเวิร์ดที่ไม่ได้เข้ารหัสด้วยช่องโหว่ SQL injection โดยวิธีนี้จะเป็นการใช้คำสั่งที่สามารถดึงข้อมูลออกจากเว็บซต์ทีมีช่องโหว่นี้อยู่ได้ ผู้เชี่ยวชาญระบบรักษาความปลอดภัยกล่าวว่า ยาฮูควรมีมาตรการในการป้องกันพาสเวิร์ดที่จัดเก็บไว้ในระบบให้แน่นหนากว่านี้ โดยเฉพาะการเก็บพาสเวิร์ดที่ควรจะมีการเข้ารหัส อย่างไรก็ตาม ยาฮูกล่าวว่า แค่ 5% ของบัญขีผู้ใช้ และพาสเวิร์ดที่ถูกแฮคออกไปเท่านั้นที่สามารถใช้ล็อกอินได้ อย่างไรก็ดี เพื่อความปลอดภัย ผู้ใช้ยาฮูเมล์ควรเปลี่ยนพาสเวิร์ดในการใช้งาน

ที่มา : arip

37
ข่าว IT / เตือนผู้ใช้ Windows 7 ปิด Gadget ด่วน
« เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2012, 07:41:59 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวล่าสุด ไมโครซอฟท์แนะนำผู้ใช้ Windows Vista และ Windows 7 ให้ยกเลิกการใช้ Gadgets และ Windows Sidebar เนื่องจากมีการแจ้งพบช่องโหว่ที่ผู้ไม่หวังดีสามารถใช้สั่งรันโค้ดอันตรายผ่านอินเทอร์เน็ตได้ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังไม่ได้แจงรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับช่องโหว่ เพียงแค่เตือนว่า หากผู้ใช้มีสิทธิ์แอดมิน แฮคเกอร์จะสามารถใช้ Gadgets (โปรแกรมเล็กๆ ที่วางบนเดสก์ทอป หรือ Sidebar บน Windows 7 หรือ Vista) ทะลุทะลวงระบบได้ :O

ไมโครซอฟท์ แจงในบล็อกภายหลังการนำเสนอของ Mickey Shkatov และ Toby Kohlenberg สองแฮคเกอร์ในงานประชุม Black Hat โดยทั้งสองได้เปิดเผยช่องทางการโจมตีไว้ในสไลด์ที่ชื่อว่า "We Have You By The Gadgets" อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกียวกับช่องโหว่แต่อย่างใด นอกจากจะบอกว่า ผู้ใช้มีโอกาสที่จะติดตั้ง Gadgets ที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งเปิดให้สามารถสั่งรันโค้ดอันตรายผ่านเน็ตได้ "Gadgets ที่ติดตั้งจากแหล่งผู้ให้บริการที่ไม่น่าไว้วางใจ อาจทำให้เกิดความเสียหายกับคอมพิวเตอร์ของคุณได้ แถมยังสามารถเข้าถึงไฟล์ต่างๆ ในคอมพิวเตอร์ ตลอดจนแสดงข้อมูลส่วนตัว หรือแม้แต่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการทำงานของเครื่องได้ในทุกเวลา" ไมโครซอฟท์เตือน



เนื่องจาก Gadgets จะทำงานได้โดยใช้สิทธิ์ของล็อกอินผู้ใช้ขณะนั้น ซึ่งเท่ากับเปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีสามารถใช้ช่องโหว่สั่งรันโค้ดอันตรายด้วยสิทธิ์ระดับผู้ใช้ทั่วไปจนถึงแอดมินระบบ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ขณะนัน สำหรับทางแก้ หรือป้องกันผู้ใช้ ไมโครซอฟท์แนะนำให้ยกเลิก (disable) การทำงานของ Windows Sidebar และ Gadgets บนระบบปฏิบัติการ Windows Vista และ Windows 7 ทุกเอดิชั่น อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติ Windows Sidebar for Gadgets จะถูกตัดออกไปจาก Windows 8

ที่มา : arip

38
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวนี้อาจสร้างความตกใจให้กับผู้ใช้สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต Android เมื่อมีรายงานว่า พบมัลแวร์ปลอมตัวเป็นเกมส์ยอดฮิตใน Google Play ซึ่งแม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวว่า ทางกูเกิ้ลเพลย์พยายามจะลบมัลแวร์ออกไปจากทางร้านแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่วายที่จะพบมัลแวร์ที่แฝงตัวเข้าไปจนได้

สำหรับการตรวจพบมัลแวร์ใน Google Play นั้น ส่วนใหญ่จะมาจากเหล่าบรรดาบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Symantec ไปจนถึง F-Secure โดยรายแรกรายงานการพบมัลแวร์ในรูปของโทรจันที่สามารถแพร่กระจายไปบนอุปกรณ์แอนดรอยด์ชื่อว่า Dropdialer ซึ่งการทำงานของมันจะมีการแอบส่งข้อความไปต่างประเทศด้วยเครื่องของเหยื่อ (ค่าบริการที่สูงมากจะถูกแบ่งให้กับผู้สร้างมัลแวร์) โดยมัลแวร์ตัวนี้จะแฝงตัวมากับแอพฯ วอลล์เปเปอร์ นอกจากนี้ยังมีแอพฯ เกมส์ยอดนิยมอีกสองตัวได้แก่ Super Mario Bros และ Grand Theft Auto (GTA 3 - Moscow City) ที่ดูเหมือนแอพฯ ทั่วไป และมันสามารถผ่านเครื่องมือสแกนอัตโนมัติทีชื่อว่า Bouncer ของ Google เข้าไปนอนรอให้ดาวน์โหลดใน Google Play ได้นานนับ 2 สัปดาห์



แอพเกมส์อันตรายทั้งสองตัวได้ปรากฎอยู่ใน Google Play ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน และมียอดโหลดระหว่าง 50,000 - 100,000 ดาวน์โหลด ซึ่งนั่นหมายความว่า ผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดเกมส์ยอดนิยมทั้งสองตัวนี้ไปตกเป็นเหยื่อของมัลแวร์เรียบร้อยแล้ว ประเด็นที่น่าเศร้ายิ่งกว่าก็คือ Google ไม่พบความผิดปกติจนกระทั่งไซแมนเทคแจ้งให้ทางกูเกิ้ลทราบ แต่นั่นก็หลังจากที่มีผู้ใช้โหลดไปหลายหมื่นรายแล้ว นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบหลักฐานอีกด้วยว่า กูเกิ้ลไม่ได้ตรวจสอบแอพฯ โดยละเอียดใน Google Play ซึงถือเป็นช่องโหว่ใหญ่ที่ทำให้มัลแวร์สามารถปลอมตัวเข้าไปอยู่ในนั้นได้อย่างง่ายดาย และต่อเนื่อง ส่วนทางด้านเทคนิคในการแฝงตัวเข้าไป แทนที่จะติดเข้าไปในตัวแอพฯ เลยโดยตรง ซึ่งโอกาสผ่านการตรวจสอบด้วยระบบของ Google Play อาจจะยาก ดังนั้น แอพฯ มัลแวร์ปลอมตัวเหล่านี้จะใช้วิธีการโหลดมัลแวร์เข้าไปในระบบภายหลังที่ติดตั้งตัวมันเข้าไปใช้งานบนเครื่องของเหยื่อแล้ว นั่นหมายความว่า Google Play จะไม่มีทางตรวจพบได้เลย ดังนั้นผู้ใช้อุปกรณ์โมบายแพลตฟอร์มของ Android คงจะต้องติดตามความเคลื่อนไหวของรายงานข่าวเกี่ยวกับมัลแวร์พวกนี้ตลอดเวลา เพราะแม้จะดาวน์โหลดจาก Google Play ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย 100% หรือไม่ก็ต้องติดตามซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสบนสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต Android

ที่มา : arip

39
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] เช้านี้ขอเริ่มต้นรายงานข่าวด้วยแก็ดเจ็ต (Gadget) เอาใจสาวก"ไอโฟน" (iPhone) ที่จะยังไง๊ยังไงก็ไม่ชอบคีย์บอร์ดบนหน้าจอสัมผัส (on-screen keyboard) อยู่ดี เนื่องจากการกดปุ่มบนหน้าจอสัมผัสนอกจากจะไม่รู้สึกถึงการโต้ตอบแบบปุ่มจริงแล้ว มันยังมีโอกาสพิมพ์ผิดได้ง่ายอีกด้วย และประเด็นสุดท้ายก็คือ การจัดเรียงปุ่มพิมพ์ที่ไม่คุ้นเคย ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป หากคุณได้รู้จักกับ Spike Case เคสพร้อมคีย์บอร์ด QWERTY ที่มาพร้อมกับปุ่มกดจริงๆ ว้าว!!!



Spike Case เป็นเคสไอโฟนรุ่นล่าสุดที่เปิดโปรเจ็กต์รอรับเงินทุนสนับสนุนจากผู้สนใจอยู่บนเว็บไซต์ Kickstarter ซึ่งหากพิจารณาดีไซน์พื้นฐานของเคส มันแทบจะไม่ต่างจากรูปแบบที่เราพบเห็นกันโดยทั่วไป แต่จริงๆ แล้วมันได้รับการออกแบบให้สามารถใช้งานร่วมกับคีย์บอร์ด QWERTY (คล้ายๆ BlackBerry) ไว้ 2 ดีไซน์ด้วยกัน โดยเคสแบบแรก Spike 1 จะดีไซน์เคสทีสามารถแยกออกจากกันเป็นสองชิ้นบนล่างได้ โดยชิ้นส่วนที่อยู่ด้านล่างจะมีคีย์บอร์ดอยู่ด้วย ซึ่งเวลาที่ต้องการพิมพ์ข้อความ ก็ให้ถอดเคสด้านล่างออกมา แล้วพลิกคว่ำสวมกลับเข้าไปที่ด้านหน้าของไอโฟน คีย์บอร์ด QWERTY ของ Spike 1 จะประกบลงตรงตำแหน่งของคีย์บอร์ดบนหน้าจอสัมผัสของไอโฟนพอดิบพอดี ซึ่งทำให้การกดปุ่มบนคีย์บอร์ด (เคสด้านล่างที่พลิกกลับขึ้นมาประกบด้านหน้าของไอโฟน) แต่ละปุ่มจะสัมผัสกับปุ่มบนหน้าจอที่ตรงกันนั่นเอง และเนื่องจากด้านข้างของคีย์บอร์ดจะยึดด้วยบานพับ ผู้ใช้สามารถเปิดคีย์บอร์ดขึ้นมา เพื่อสัมผัสหน้าจอด้านล่างของไอโฟนได้โดยตรง และเมื่อไม่ต้องการใช้งานคีย์บอร์ดแล้ว ก็สามารถเลื่อนถอดเคสด้านล่างออกมา แล้วพลิกกลับไปเป็นด้านหลังของเคสได้ตามเดิม



อีกดีไซน์หนึ่งของ Spike Case เคสไอโฟนพ่วงคีย์บอร์ด QWERTY จะมีชื่อว่า Spike 2 สำหรับเคสรุ่นนี้จะหนากว่าเล็กน้อย และมีวิธีติดตั้งคีย์บอร์ดเพื่อใช้งานที่แตกต่างออกไป โดยแทนที่จะใช้การถอดเคสส่วนที่เป็นคีย์บอร์ด แล้วพลิกกลับขึ้นมาประกบด้านหน้า Spike 2 จะออกแบบให้บานพับชุดคีย์บอร์ดสามารถพับเก็บคีย์บอร์ดไปประกบด้านหลังของเคสได้เลย (ตลับพับกลับได้ 360 องศา)  ทั้งสองดีไซน์ของ Spike Case ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ไอโฟนที่ต้องการคีย์บอร์ดที่มาพร้อมกับปุ่มจริงๆ ได้เป็นอย่างดี แตกต่างตรงความสะดวกเท่านั้น สำหรับคุณผู้อ่านที่สนใจอยากได้ สามารถเข้าไปร่วมสนับสนุนได้ที่ KickStarter โดยหากต้องการเป็นเจ้าของ Spike 1 หรือ Spike 2 ก็ต้องอัดฉีดเม็ดเงินให้อย่างน้อย 49 เหรียญฯ หรือประมาณ 1,500 บาทขึ้นไปครับ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=ddfJKQlL7Ls" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=ddfJKQlL7Ls</a>

ที่มา : arip

40
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ไม่มีใครปฏิเสธว่า ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ตลอดจนอุปกรณ์โมบายต่างๆ วันนี้ ต่างก็ตระหนักถึง และเป็นกังวลเกี่ยวกับภัยร้ายไวรัสในทุกๆ ที่บนออนไลน์ เพราะไม่ว่าจะเป็นการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์แค่นั้น คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ก็อาจจะตกเป็นเหยื่อของไวรัสโดยไม่ระมัดระวังตัวก็ได้ ด้วยความห่วงใยผู้ใช้ เฟซบุ๊ก (Facebook) สังคมออนไลน์ที่มีสมาชิกทั่วโลกเกือบพันล้านที่กังวลว่า อาจจะตกเป็นเหยื่อจากการคลิกลิงค์เข้าไปยังเว็บไซต์อันตรายด้วยการเสนอให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสไปใช้งานได้ฟรีแล้ว :D

รายงานข่าวล่าสุด เฟซบุ๊กได้เปิดบริการ Malware Checkpoint for Facebook พร้อมทั้งเปิดให้ผู้ใช้เลือกผู้ให้บริการแอนตี้ไวรัสหนึ่งในสองรายด้วยกัน โดยบริการใหม่ของเฟซบุ๊กจะแนะนำให้ผู้ใช้เลือกลงทะเบียนกับ Microsoft Security Essentials หรือ McAfee Scan and Repiar ส่วนผู้ใช้แมคฯ (Mac) บริการ Malware Checkpoint จะพาไปยังเว็บไซต์ Apple Security Updates



หน้าจอแจ้งเตือนผู้ใช้ Facebook ที่จะโผล่ขึ้นมาเมื่อตรวจพบว่า พีซีของคุณอาจติดไวรัสเข้าแล้ว!!!

อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊กได้ให้บริการแจ้งเตือนเว็บไซต์อันครายกับผู้ใช้มานานแล้ว โดยหากเฟซบุ๊กตรวจพบว่า มันมีความเป็นไปได้ที่การเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์จากลิงค์ดังกล่าว อาจทำให้ติดมัลแวร์ได้ แถมยังลิงค์ผู้ใช้เข้าไปยังซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส เพื่อกำจัดไวรัสให้กับคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ที่สงสัยว่าจะโดนเล่นงานเข้าแล้ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุด เฟซบุ๊กกำลังเปิดบริการ Malware Checkpoint ไปยังผู้ใช้ทั้งหมด ไม่ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้จะถูกตรวจพบว่าติดไวรัส หรือไม่ก็ตาม

ที่มา : arip

41
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวล่าสุด ทวิตเตอร์ (Twitter) ไมโครบล็อกทีมีผู้ใช้ทั่วโลกกว่าร้อยล้านคน หลังจากปรับโฉมเปลี่ยนโลโก้ให้นกกระจิบดูทะมัดทะแมงยิ่งขึ้นแล้ว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทางบริษัทยังได้ออกอัพเดทแอพฯ บนไอโฟน (iPhone) และแอนดรอยด์ (Android) โดยคุณสมบัติในเวอร์ชันอพเดทของทวิตเตอร์จะเอาใจผู้ใช้มากขึ้น

และแล้วก็เป็นไปตามที่ผู้ใช้คาดไว้ เมื่อแอพฯ ทวิตเตอร์ เวอร์ชันอัพเดททั้งบนไอโฟน และแอนดรอยด์ ที่เพิ่งจะปล่อยออกมานั้น จะสามารถขยายพื้นทีการแสดงผลข้อความทวีตต่างๆ เพื่อแสดงพรีวิวที่มากับลิงค์ของพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นภาพ และวิดีโอ สำหรับแอพฯ Twitter เวอร์ชันล่าสุดบน Android จะเป็น 3.3 และถ้าเป็น iPhone ก็จะเป็นเวอร์ชัน 4.3 โดยทั้งสองเวอร์ชันจะสามารถแสดงข้อความแจ้งเตือน (notifications) จากทวีตได้ รวมถึงการ avatars ทีสามารถแตะเพื่อเข้าไปดูโพรไฟล์ได้ทันที นอกจากนี้ Twitter เวอร์ชันอัพเดทยังมาพร้อมกับคุณสมบัติ autocomplete ที่ได้รับการปรับแต่งการทำงานให้แนะนำคำต่างๆ ที่ต้องการพิมพ์ได้อย่างฉลาดยิ่งขึ้นอีกด้วย และแน่นอนว่า แอพฯ ตัวใหม่จะมาพร้อมกับโลโก้ใหม่ของ Twitter ด้วย



Dick Costolo ซีอีโอของ Twitter กล่าวว่า ความพยายามในการที่จะทำให้ผู้ใช้ได้ประสบการณ์ในการใช้งานทวิตเตอร์บนแพลตฟอร์มต่างๆ เป็นหนึ่งเดียวนั้นคือ เป้าหมายสำคัญของการพัฒนาทวิตเตอร์ ซึ่งการอัพเดทแอพฯ บน iPhone และ Android ให้ใช้งานง่ายขึ้น ในขณะที่สามารถเข้าถึงคอนเท็นต์ต่างๆ ผ่านลิงค์ในทวีตที่ส่งเข้ามานั้นเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นจุดยืนที่ชัดเจนของบริษํทที่ต้องการให้แอพฯ ใช้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และเร็วกว่าเดิม (โดยเฉพาะการลดเวลาหน่วงของการทำงาน) ผู้ใช้ Twitter app บน iPhone และ Android เมื่อแตะลิงค์ในทวีตที่มีเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์พันธมิตรอย่าง KickStarter แอพฯ จะสามารถเล่นวิดีโอได้โดยตรงจากในรายละเอียดของทวีตได้ทันที หรือแม้แต่การอ่านสรุปบทความจากลิงค์ของนิตยสารออนไลน์ต่างๆ ในทวีต ตลอดจนวิวภาพถ่าย และวิดีโอจากลิงค์ของผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์อย่าง Etsy และ Vimeo ก็ทำได้เช่นกัน การขยายความสามารถของบริการข้อความสั้น 140 ตัวอักษรของ Twitter จะทำให้ผู้ใช้อยู่กับบริการนานขึ้น ซึ่งอาจจะหมายถึงโอกาสขายโฆษณา และบริการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคตอีกด้วย

ที่มา : arip

42
ข่าว IT / MS คาด Surface จะคว่ำ iPad ได้ในที่สุด
« เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2012, 04:37:21 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ดูเหมือนกระแสของ Surface ภายหลังเผยโฉมต่อสื่อมวลชนทั่วโลก และเหล่าบรรดาพันธมิตรผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ของไมโครซอฟท์ จะค่อนข้างเงียบลงไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งล่าสุด สตีฟ บอลล์เมอร์ ซีอีโอของไมโครซอฟท์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ทางบริษัทตั้งเป้าการออกศึกครั้งนี้ไปที่ iPad ของ Apple โดยมั่นใจว่า Surface จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคทั่วโลกอย่างแน่นอน รวมถึงสมาร์ทโฟนที่จะทำงานด้วย Windows Phone 8 ที่ตั้งเป้าให้ iPhone เป็นคู่แข่งหมายเลขหนึ่งเช่นเดียวกัน

ในงานประชุมพันธมิตรทั่วโลกของไมโครซอฟท์ บอลล์เมอร์ กล่าวว่า "เรากำลังพายามจะสร้างความชัดเจนในจุดยืนที่ว่า ไมโครซอฟท์จะขอท้าชนด้วยผลิตภัณฑ์ในทุกตลาดของแอปเปิ้ล ไม่เพียงแต่เฉพาะบริการคลาวด์สำหรับผู้บริโภคทั่วไป นวตกรรมทางด้านฮาร์ดแวร์ เราจะไม่ยอมแอปเปิ้ลอีกต่อไป" ซึ่งการประกาศศึกครั้งนี้ ตอกย้ำเจตนารมณ์อันแรงกล้า หลังจากเปิดตัว Surface เมื่อเดือนที่แล้ว โดยจะเป็นแท็บเล็ตที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่จะเปิดตัวปลายปีนี้ สำหรับแท็บเล็ต Surface จะมีให้เลือกสองเวอร์ชันด้วยกันคือ รุ่นที่ใช้โพรเซสเซอร์ Intel ทำงานด้วยระบบปฎิบัติการ Windows 8 Pro และรุ่นที่ใช้โพรเซสเซอร์ ARM ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows RT ทั้งนี้ไมโครซอฟท์คาดว่า ในปีแรก Surface อาจจะยังมียอดจำหน่ายไม่กี่ล้านตัวเท่านั้น



ซีอีโอของไมโครซอฟท์ยังกล่าวอีกด้วยว่า บริษัทได้ทำการตัดสินใจสร้างแท็บเล็ตของตนเอง เนื่องจากไมแฮปปี้กับดีไซน์ และนวตกรรมที่เหล่าพันธมิตรผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ได้นำเสนอออกสู่ตลาด อย่างไรก็ตาม Surface ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเท่านั้น นอกจากนี้ บอลล์เมอร์ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงแรกนี้ ไมโครซอฟท์จะเน้นผลักดัน Surface ให้เกิดในตลาด ส่วนสมาร์ทโฟนจะเป็นลำดับถัดไป เนื่องจากมีพาร์ทเนอร์อย่าง Nokia และ HTC ที่ช่วยทำตลาดอยู่แล้ว แต่แน่นอนว่า ไมโครซอฟท์จะไม่ปล่อยให้แอปเปิ้ลเอ็นจอยกับไอโฟนอยู่เพียงเจ้าเดียว

ที่มา : arip

43
ข่าว IT / iPhone 5 และ iPad mini ต้นแบบโผล่!!!
« เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2012, 07:12:59 am »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] หลังจากที่มีรายงานข่าวเกียวกับ "ไอแพด มินิ" (iPad mini) และ "ไอโฟน 5" เผยแพร่ออกมาอยู่เป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้ ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า ภาพต้นแบบผลิตภัณฑ์ทั้งสองของแอปเปิ้ล (Apple) จากโรงงานผลิตในจีน ได้หลุดออกมาว่อนไปทั่วเน็ตอยู่ในขณะนี้

ประเด็นก็คือ ยังไม่มีการออกมาตั้งคำถามกันเลยว่า ภาพต้นแบบของ ไอโฟน 5 และ ไอแพด มินิ ดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนใดของการผลิต เนื่องจากมันอาจจะเป็นต้นแบบที่ยังไม่สมบูรณ์ หรืออาจมีการปรับปรุงดีไซน์กันต่อไปก็เป็นได้ แต่ด้วยความฮอตของ iPhone 5 และ iPad mini ที่เป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ มันจึงถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว โดยเว็บไซต์ GottaBeMobile ได้นำเสนอภาพของต้นแบบ iPhone 5 และ iPad mini ที่หลุดออกมา ซึ่งตอกย้ำข้อเท็นจริงที่ได้มีการรายงานข่าว ตลอดจนภาพชิ้นส่วนที่มีการหลุดรั่วออกมาก่อนหน้านี้ได้เป็นอย่างดี



ภาพที่ปล่อยออกมา หากเป็นการสร้างขึ้นจากโปรแกรม 3D ก็ต้องถือว่า เนียนมากๆ ซึ่งภาพแรกจะเป็น iPad mini ที่แสดงให้เห็นช่องลำโพง 2 ชุดอยู่ที่ขอบด้านล่างของตัวเครื่องประกบด็อคกิ้ง หรือช่องเสียบคอนเน็คเตอร์ทีมีขนาดเล็กลงกว่าแบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม แอปเปิ้ลไม่เคยยืนยันใดๆ เกี่ยวกับการใช้ด็อคดังกล่าวกับ iPhone 5 หรือ iPad รุ่นต่อไปแต่อย่างใด สำหรับคุณสมบัติของ iPad mini หน้าจอแสดงผลจะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 7.85 นิ้ว หรือตัวเครื่องมีขนาดเป็น 2/3 ของ iPad ที่ใช้กันอยู่ในขณะนี้ ส่วนความบางของตัวเครื่องเทียบกับรุ่นปัจจุบันจะสัดส่วนที่บางกว่าเป็น 4/5



ในส่วนของ iPhone 5 ภาพที่หลุดออกมาแสดงให้เห็นด้านหลังของตัวเครื่องทีใช้อะลูมินัมตลอดทั้งชิ้น ซึ่งทำให้มีการตั้งข้อสังเกตกันว่า แล้วมันจะร้อนกว่าเดิม หรือไม่? แต่ที่แน่ๆ มันเหมือนกับมีแฟลช LED อยู่ใกล้ๆ และขนาดของเลนส์กล้องที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งน่าจะหมายถึงความละเอียดทีเพิ่มขึ้น ส่วนตัวเครื่องที่ดูยาวขึ้นนั้น ก็คงจะช่วยยืนยันถึงขนาดของหน้าจอที่แอปเปิ้ลคงต้องขยับขึ้นเป็น 4 นิ้ว เพื่อให้ทันคู่แข่งแอนดรอยด์ในตลาด และทั้งหมดนี้เป็นรายงานข่าวล่าสุดเกี่ยวกับ iPhone 5 และ iPad mini ที่มีการเผยแพร่กันออกมา อย่างไรก็ดี คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ทุกท่านคงต้องติดตามข้อเท็จจริงดังกล่าวกันต่อไป ซึ่งหากมีความคืบหน้าประการใด ทางกองบ.ก.จะรีบนำเสนอให้ได้ทราบทันที

ที่มา : arip

44
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ก่อนหน้านี้ นอกจากเราจะได้เห็นดีไซน์จักรยานที่มีรูปร่างแปลกๆ เรื่อยมาจนถึงจักรยานไฮบริดที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยปั่นให้แทนเวลาเมื่อยแล้ว เชื่อว่า RaXibo Hand-Tret-Velo จะเป็นจักรยานอีกสายพันธุ์หนึ่งที่คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ต้องไม่เคยพบเห็นมาก่อนอย่างแน่นอน แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะดูไม่แตกต่างจากจักรยานทั่วไป แต่ความจริงมันเป็นจักรยานที่ผู้ขี่สามารถใช้ทั้งมือ และเท้าช่วยกันปั่นได้...ว้าว!!!



ไม่แน่ใจเหมือนกว่า ไอเดียนี้จะช่วยให้การปั่นจักรยานของคุณง่าย หรือยากขึ้นกว่าเดิมกันแน่ แต่รับรองในความแตกต่างที่เมื่อคุณนำมันออกมาปั่นบนท้องถนน เป็นต้องถูกสายตาจับจ้องอย่างแน่นอน RaXibo Hand-Tret-Velo จักรยานจากบริษัทผู้ผลิตในสวิส ได้พัฒนาระบบขาถีบแบบใหม่ที่สามารถใช้แฮนด์ของจักรยานในการร่วมปั่นล้อของจักรยานไปพร้อมกับๆ ขาของคุณได้ เรียกได้ว่า ปั่นจักรยานคันนี้เป็นประจำทั้งขา และแขนของคุณจะแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน ฟังดูตลกนิดหน่อย แต่ข้อเท็จจริงที่เห็นจากคลิปวิดีโอสาธิตการใช้งานก็คือ คุณยังคงสามารถใช้แฮนด์ในการปั่นจักรยานไปได้พร้อมกับการควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ได้เช่นเดียวกับจักรยานทั่วไป

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=p0cBTBbnaUY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=p0cBTBbnaUY</a>

RaXibo Hand-Tret-Velo มี 2 เวอร์ชันให้ผู้สนใจเลือกสั่งซื้อไปออกกำลังกายพร้อมๆ กับการซิ่งบนถนน พื้นราบ และทางชัน โดยเวอร์ชันขนาดล้อ 26 นิ้วจะมีราคาอยู่ที่ 2,600 เหรียญฯ หรือประมาณ 82,500 บาท ส่วนอีกเวอร์ชันหนึ่งจะมีขนาดของวงล้อใหญ๋กว่าคือ 29 นิ้ว สนนราคาจะอยู่ที่ 2,900 เหรียญฯ หรือประมาณ 92,000 บาท สาบานได้นะครับว่า มันคือราคาของรถจักรยาน

ที่มา : arip

45
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวเช้าวันจันทร์นี้ขอเริ่มต้นด้วย แอมะซอน (Amazon) ซุ่มพัฒนา"สมาร์ทโฟน" ของทางบริษัทเอง โดยแหล่งข่าวจากเว็บไซต์บลูมเบิร์กอ้างว่า แอมะซอนกำลังทำงานร่วมกับฟ๊อกซ์คอน (Foxconn) บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ในจีน (บริษัทผู้ผลิต iPhone ให้กับ Apple) เพื่อพัฒนาสมาร์ทโฟนที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) เวอร์ชันทีได้รับการปรับแต่งการทำงานโดยแอมะซอนเอง

อย่างไรก็ดี แนวโน้มที่แอมะซอนจะต้องกระโจนเข้าสู่สังเวียนสมาร์ทโฟน เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท มีให้เห็นมาก่อนหน้านี้พอสมควรแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความพยายามปรับแต่ง Android เวอร์ชันของทางบริษัทเอง เพื่อใช้กับ Kindle Fire เรื่อยมากจนถึงการเปิดหน้าร้านแอพสโตร์ และคอนเท็นต์ดิจิตอลของทางบริษัท ซึ่งคงเหลือแค่ตัวแปรเดียวในระบบนิเวศทางธุรกิจนั่นก็คือ "สมาร์ทโฟน" ที่สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของแอมะซอนได้ อีกทั้งยังรวมถึงต้นทุนทางใจที่สำคัญที่มาจากเหล่าบรรดาสาวกที่มีความเชื่อมั่นในแบรนด์ แม้แอมะซอนจะเพิ่งจะเข้าสู่ตลาดการเป็นผู้ค้าฮาร์ดของตนเองได้ไม่กี่ปีเท่านั้น



โดยแอมะซอนเป็นผู้เล่นในตลาดฮาร์ดแวร์ตั้งแต่ปี 2007 ด้วยการเปิดตัว Kindle เครื่องอ่านอีรีดเดอร์ เรื่องมาจนถึงแท็บเล็ต Kindle Fire เมื่อช่วงปลายปี 2011 ซึ่งประสบความสำเร็จมากกว่าผู้ค้าแท็บเล็ตหลายๆ เจ้าในตลาด ด้วยกลยุทธ์ทางด้านราคาที่ถูกมาก (รายงานข่าวว่า ทุกเครื่องขายออกไปด้วยราคาที่ขาดทุน) โดยหวังรายได้จากอีบุ๊ก ภาพยนตร์ และเพลงดิจิตอล อย่างไรก็ตาม ตลาดสมาร์ทโฟนมีคู่แข่งที่แข็งแกร่งมากมาย โดยเฉพาะตลาด Android ที่ปัจจุบันเจ้าตลาดเป็นสมาร์ทโฟนของซัมซุงที่มียอดส่งมอบเข้าสู่ตลาดทั่วโลกอยู่ที่ 42.2 ล้านเครื่องในไตรมาสแรกของปี 2012 ส่วนทางด้านแอปเปิ้ลตามมาติดๆ ด้วยยอด 35.1 ล้านเครื่อง ส่วนอันดับที่ตามมายังห่างไกลมากก็คือ Nokia และ RIM

การบ้านของแอมะซอนในการเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนมีหลายตัวแปรเหมือนกัน นอกเหนือจากคู่แข่งที่แข็งแกร่งแล้ว นั่นก็คือ การพัฒนาสมาร์ทโฟนที่เหนือกว่าในราคาที่ถูกกว่าตามสไตล์ของแอมะซอน การที่จะต้องระวังสิทธิบัตรต่างๆ ในการพัฒนาสมาร์ทโฟนทีมีการจดมากมาย เพราะหากโดนฟ้องก็คงเสียหายมากกว่าได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการทำข้อตกลงกับเหล่าผู้ให้บริการเครือข่ายที่ถือเป็นอุปสรรคอีกประการหนึ่บที่แอมะซอนต้องก้าวข้ามไปให้ได้ แหล่งข่าวยังอ้างอีกว่า สมาร์ทโฟนของแอมะซอนจะเปิดตัวปลายปีนี้ช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน ว่าแต่คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ล่ะครับ อยากใช้สมาร์ทโฟนของแอมะซอนกันบ้างไหมครับ?

ที่มา : arip

หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 26