แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Warden

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 26
16
ข่าว IT / Office 2013 ไม่สนับสนุน XP และ Vista
« เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2012, 09:50:46 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ถ้าคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ยังคงใช้ Windows XP หรือ Windows Vista อยู่ มันอาจถึงเวลาแล้วที่คุณควรจะอัพเกรดระบบปฏิบัติการที่ใช้อยู่เป็น Windows 7 (หรือไม่ก็ Windows 8 ที่จะเปิดตัวในปลายเดือนตุลาคม ศกนี้) เพราะไม่เช่นนั้น คุณจะไม่สามารถใช้ชุดซอฟต์แวร์ Office 2013 ที่ไมโครซอฟท์มั่นใจว่า คุณจะต้องชอบออฟฟิศรุ่นนี้อย่างแน่นอน

รายงานข่าวล่าสุด ไมโครซอฟท์ได้ประกาศถึงความต้องการระบบสำหรับการใช้ชุดซอฟต์แวร์ Office 2013 ซึ่งในข้อกำหนดดังกล่าว เผยให้เห็นชัดเจนว่า มันไม่สนับสนุนระบบปฏิบัติการรุ่นเก่าอย่าง Windows XP และ Windows Vista ดังนั้น หากคุณต้องการใช้คุณสมบัติใหม่ที่เก่งกว่าเดิมของ Office 2013 ทางเลือกของคุณก็คือ การอัพเกรดโอเอสเป็น Windows 7 หรือไม่ก็ Windows 8 ส่วนความต้องการทางด้านฮาร์ดแวร์ก็จะประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ที่ใช้โพรเซสเซอร์ที่มีความเร็วอย่างน้อย 1GHz หน่วยความจำอย่างน้อย 1GB สำหรับเวอร์ชัน 32 บิต และ 2GB สำหรับเวอร์ชัน 64 บิต ระบบจะสนับสนุนความละเอียดของหน้าจออย่างน้อย 1024 x 576 พิกเซล และถ้าจะให้ดีควรใช้การ์ดจอเร่งกราฟิก :O ที่เข้ากันได้กับ DirectX 10 และคุณจะต้องมีพื้นที่ว่างของสตอเรจอย่างน้อย 3GB เพื่อติดตั้งซอฟต์แวร์



ในขณะที่ผู้ใช้ Vista ส่วนใหญ่จะอัพเกรดเป็น Windows 7 แล้ว แต่ขณะเดียวกัน ผู้ใช้ในธุรกิจส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้ Windows XP อยู่เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน โดยปัจจุบันยังคงมี Windows XP โอเอสที่อยู่ในตลาดประมาณ 40% และมีอายุมากกว่าทศวรรษแล้ว แม้ไมโครซอฟท์จะหยุดให้การสนับสนุนระบบปฏิบัติการรุ่นดึกตัวนี้แล้วก็ตาม อย่างไรก็ดี Windows 8 ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะทำงานร่วมกับ Office 2013 ได้เป็นอย่างดี โดยไมโครซอฟท์หวังว่า ผู้ใช้จะตัดสินใจอัพเกรดมาใช้ซอฟต์แวร์ทั้งสองในที่สุด

ที่มา : arip

17
ข่าว IT / new iPad กับ Nexus 7 ใครอึดกว่ากัน?
« เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2012, 09:50:21 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] นอกจากเราจะได้เห็นการชำแหละแก็ดเจ็ตใหม่ๆ โดย iFixit แล้ว เว็บไซต์อย่าง SquareTrade ยังช่วยให้ผู้ใช้ได้ทราบถึงความอึดของแก็ดเจ็ตด้วย โดยล่าสุดทางเว็บไซต์ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการทดสอบเปรียบเทียบความแข็งแรงทนทานของ Google Nexus 7 กับ new iPad ของ Apple ด้วยการทำ Drop Test (ทดสอบความทนทานจากการตกหล่น) และ Dunk Test ถ้าพวกมันตกลงไปในน้ำจะเป็นอย่างไร? คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip คิดว่า ของใครจะอึดกว่ากันครับ?



Square Trade ทำการทดสอบ 3 รูปแบบด้วยกัน ตั้งแต่การทำมันตกลงจากมือขณะยืน ผลักมันตกลงจากขอบโต๊ะที่นั่ง และทิ้งมันลงในอ่างอาบน้ำ (ใครที่ชอบแช่ตัวในอ่างพร้อมกับเล่น new iPad หรือแท็บเล็ตอย่าง Nexus 7) ผลปรากฎว่า Nexus 7 ทนทานต่อการตกหล่นมากกว่า โดยหน้าจอสัมผัสยังคงโต้ตอบการใช้งานได้ และมีรอยขีดข่วนด้านหลังเล็กน้อย ในขณะที่ new iPad เกิดรอยขีดข่วนที่ด้านหลังเช่นเดียวกัน แต่หน้าจอกระจกด้านหน้าแตกร้าว ส่วนผลการทดสอบด้วยการทำหล่นจากโต๊ะที่นั่งด้วยการเลื่อนมันให้หล่นลงไปกระแทกกับพื้่นคอนกรีต (ตกจากที่สูงในระดับต่ำกว่าการยืนใช้งาน แต่เป็นการตกโดยขอบลงกระแทกกับพื้น) ผลปรากฎว่า ได้ผลลัพธ์คล้ายกัน โดย Nexus 7 เกิดรอยขีดข่วนด้านหลังเล็กน้อย ในขณะที่ทางด้าน new iPad หน้าจอแตกเป็นครั้งทีสอง



หลังจากทดสอบความทนทานจากการตกหล่นแล้ว SquareTrade ได้ทำการทดลองครั้งที่สามด้วยการนำ new iPad และ Nexus 7 เข้าไปในห้องน้ำ เพื่อทดสอบในกรณีที่ว่า หากเราทำแท็บเล็ตทั้งสองรุ่นตกลงไปในอ่างอาบน้ำที่มีน้ำอยู่เต็มจะเป็นอย่างไร? ในขณะที่แท็บเล็ตทั้งสองเปิดให้ทำงาน ผลปรากฎว่า หลังจากนำมันขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำ Nexus 7 ยังคงใช้งานได้ตามปกติ ทั้งหน้าจอ ระบบเสียง และฟังก์ชันการโต้ตอบการสัมผัสยังคงใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ทางด้าน new iPad หน้าจอสัมผัสยังคงใช้งานได้ตามปกติ แต่ระบบเสียงไม่ทำงาน ข้อสรุปที่ได้จากการทดสอบของ SquareTrade ก็คือ Nexus 7 ทนทานกว่า new iPad ทั้งการทำร่วงหล่น และจมน้ำ สำหรับการทดสอบที่่ลุ้นระทึก และน่าใจหายเวลาที่เห็นแก็ดเจ็ตทั้งสองตกจากที่สูงกระแทกพื้นคอนกรีต หรือจมน้ำ คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip สามารถชมได้จากคลิปข้างล่างนี้ดรับ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=nKaPmrXKfO0" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=nKaPmrXKfO0</a>

ที่มา : arip

18
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เว็บไซต์วิดีโออย่าง"ยูทูบ" (YouTube) ได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำ"เบลอ"ให้ใบหน้าของผู้คนที่ปรากฎอยู่ในคลิปวิดีโอที่อัพโหลดขึ้นไปได้โดยอัตโนมัติ คุณสมบัติการทำงานดังกล่าวจะช่วยปกป้องคุ้มครองบุคคลที่ไม่เห็นด้วยทางการเมือง

เมื่อช่วงต้นสัปดาห์มีรายงานผลการศึกษาวิจัยจาก Pew Research Center เกี่ยวกับสื่อสารมวลชนที่ดีที่สุด ซึ่งปรากฎว่า คลิปวิดีโอบนยูทูบที่อัพโหลดขึ้นไปจากนักข่าวประชาชน (citizen journalism) อย่างเช่น เหตุการณ์ซึนามิในญ๊่ปุ่นปี 2011 มีผู้เข้าชมสูงที่สุด จนอาจกล่าว่าได้ว่า ยูทูบ กลายเป็นสื่อสารมวลชนที่คนใช้ติดตามข่าวเป็นอันดับต้นๆ ของโลก นอกเหนือจากคลิปบันเทิง นอกจากนี้ เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทางยูทูบก็เพิ่งจะคลิปวิดีโอเหตุการณ์ก่อกบฎในไซเรียโพสต์ขึ้นไปมากมาย ซึ่งปรากฎภาพใบหน้าของบุคคลที่กำลังประท้วงให้เห็นได้อย่างชัดเจนอีกด้วย



"เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการแชร์คลิปการประท้วง และไม่ต้องการให้มีภาพใบหน้าของผู้เข้าร่วมให้เห็น หรือแม้แต่การแชร์คลิปชัยชนะในเกมเบสบอลของลูกคุณที่มีอายุ 8 ขวบ โดยไม่ต้องการให้คนทั่วโลกได้เห็นใบหน้าของเด็กน้อย เทคโนโลยีการทำภาพเบลอบนใบหน้าของเราจะเป็นขั้นตอนแรกที่เราช่วยให้คลิปวิดีโอของคุณไม่มีการแสดงอัตลักษณ์ของผู้คนในคลิปได้" ยูทูบโพสต์ไว้ในบล็อกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ฟีเจอร์ใหม่ของยูทูบยังยอมให้ลบก็อปปี้ต้นฉบับของคลิปที่อัพโหลดได้เลยอีกด้วย เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้ "ยูทูบภูมิใจที่จะเป็นช่องทางให้คนทั่วโลกได้เข้ามาแชร์เรื่องราวของพวกเขา ซึ่งรวมถึงนักเคลื่อนไหว" ยูทูบโพสต์ทิ้งท้ายในบล็อก

ที่มา : arip

19
ข่าว IT / Windows 8 เปิดตัว 26 ตุลาคม ศกนี้!!!
« เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2012, 04:48:33 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวล่าสุด ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทได้กำหนดวันเปิดตัวระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ Windows 8 แล้ว โดยจะเป็นวันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม 2012 ซึ่งตรงกับที่ผู้เชี่ยวชาญ และนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้



ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ได้ทวีตข้อความผ่านบัญชีผู้ใช้ @Windows ว่า "ให้ทำเครื่องหมายบนปฏิธินของคุณได้เลย วินโดวส์ 8 จะเปิดตัวในวันที่ 26 ตุลาคม 2012" นอกจากนี้ สตีเวน ไซนอฟสกี้ ประธานฝ่ายวินโดวส์ของบริษัทยังได้ประกาศข่าวดนี้ในงานประชุมฝ่ายขายประจำปีอีกด้วย ซึ่งเมื่อต้นเดือนไมโครซอฟท์ได้ยืนยันว่า Windows 8 จะเปิดตัวในเดือนตุลาคม แน่นอน แต่ไม่ได้ระบุวันที่ชัดเจน โดยระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่จะสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ที่ใช้อินพุทต่างๆ ได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นระบบหน้าจอสัมผัส เมาส์ คีย์บอร์ด และสไตลัส



อย่างไรก็ตาม สำหรับ แท็บเล็ต Microsoft Surface ที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าจะวางตลาดพร้อมๆ กับ Windows 8 และได้มีการแนะนำกันไปแล้วเมื่อเดือนที่ผ่าน ทางไมโครซอฟท์กลับไม่ได้มีการพูด หรือโพสต์ข้อความถึงแต่อย่างใด นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้กล่าวถึง Windows Phone 8 อีกด้วย โดยคาดว่า น่าจะมีกำหนดการเปิดตัวในช่วงใกล้ๆ กับวันที่ Windows 8 เปิดตัว ซึ่งก็คงต้องติดตามความชัดเจนกันอีกที คาดสงครามโมบายคงจะเดือดอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้

ที่มา : arip

20
ข่าว IT / ภาพต้นแบบ iPad ปี 2004 โผล่ว่อนเน็ต
« เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2012, 04:47:36 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] เอกสารประกอบการต่อสู้กันในศาลระหว่างแอปเปิ้ลกับซัมซุง ทำให้ต้องมีการเปิดเผยภาพของต้นแบบไอแพด (iPad Prototype) ย้อนกลับไปในปี 2004 หรือก่อนหน้านั้น แหล่งข่าวได้พบภาพดังกล่าว เนื่องจากมันถูกใช้ในการทำเอกสารฟ้องร้องกันระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสอง โดยผู้ออกแบบ iPad ของแอปเปิ้ลในขณะนั้นคือ Jony Ive



จากเครื่องต้นแบบไอแพดที่เห็นในรูปจะสังเกตได้ว่า มันค่อนข้างมีขนาดที่ใหญ่ และหนาเทอะทะพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ iPad รุ่นแรกทีมีการเปิดตัวในปี 2010 แต่มีดีไซน์ที่เรียบง่ายเหมือน iPad ของจริง ไม่ว่าจะเป็นขอบหน้าจอสีดำ มุมที่โค้งมน หรือแม้แต่โลโก้ของแอปเปิ้ลที่อยู่ตรงกลางด้านหลังของตัวเครื่อง ซึ่งมันเป็นโมเดลที่บริษัทสร้างไว้ และเป็นหลักฐานสำคัญทีแอปเปิ้ลใช้ฟ้องซัมซุง (Samsung) ที่พัฒนา Galaxy Tab ออกมาด้วยดีไซน์ที่คล้ายกัน นอกจากนี้ ในภาพยังแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า มันได้รับการจดสิทธิบัตรไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม 2004 (ต้นแบบนี้น่าจะเสร็จก่อนจดสิทธิบัตรพอสมควร) ดีไซน์ และรูปแบบของตัวเครื่องต้นแบบ (ชื่อโมเดล 035) เหมือนกับ iPad จริง ต่างแค่ขนาดและความหนา ความจริงแล้ว iPad อยู่ในระหว่างการพัฒนาก่อนที่จะมี iPhone เสียด้วยซ้ำ



สตีฟ จอบส์ เคยกล่าวว่า เขาจำได้แอปเปิ้ลเคยผลิตเครื่องต้นแบบของแท็บเล็ตไว้แล้วก่อนหน้านั้น แต่ตัดสินใจเปลี่ยนแผนการผลิตเป็น iPhone แทนทันที นอกจากนี Jony Ive ผู้ออกแบบ iPad กล่าวว่า โมเดล 035 ที่เห็นในรูปนี้เป็นหนึ่งในต้นแบบ iPad ที่สร้างขึ้นจากสิทธิบัตรการออกแบบของแอปเปิ้ล เอกสารศาลที่เป็นต้นฉบับได้ถูกพิมพ์ในรูปของภาพขาวดำ และสแกนเก็บไว้เพื่ออ้างอิงเรียบร้อยแล้ว งานนี้คงต้องดูว่า ซัมซุงจะงัดเอาเอกสาร หรือหลักฐานใดมาสู้ หรือแย้งว่า ทางบริษัทเองก็มีไอเดียในการพัฒนาแท็บเล็ตในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip คงต้องติดตามรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้กันต่อไปนะครับ :P



ที่มา : arip

21
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] วันพระไม่ได้มีหนเดียว หลังจากซัมซุงแพ้คดีให้กับแอปเปิ้ลในหลายประเทศ ล่าสุดศาลอังกฤษตัดสินให้แอปเปิ้ลลงประกาศในหน้าเว็บไซด์ของตัวเองเป็นเวลา 6 เดือน และลงหนังสือพิมพ์ในประเทศอีกหลายฉบับ เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้โดยทั่วกันว่า ซัมซุงกาแลคซี่แท็บไม่ได้เลียนแบบไอแพดของแอปเปิ้ลแต่อย่างใด



Colin Birss ผู้พิพากษาในคดีนี้ กล่าวว่า ไม่มีทางที่ผู้บริโภคจะสับสนกับผลิตภัณฑ์ 2 ตัวนี้เนื่องจาก ซัมซุงกาแลคซี่แท็บยังไม่ดีเท่าไอแพด จึงมีคำสั่งให้แอปเปิ้ลแก้ภาพลักษณ์ดังกล่าวให้กับซัมซุงในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตามศาลไม่อนุญาติตามคำขอของซัมซุงในการสั่งห้ามแอปเปิ้ลป่าวประกาศว่าซํมซุงเลี่ยนแบบแอปเปิ้ลเนื่องจากเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น

ขอบคุณภาพจาก http://www.androidauthority.com/

ที่มา : arip

22
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] แม้ว่าก่อนหน้านี้ กูเกิ้ลพลัส (google+) จะถูกขนานนามอย่างเสียๆ หายๆ ว่ามันเป็นเมืองร้าง แต่ผลการศึกษาล่าสุดจาก American Customer Satisfaction Index (ACSI) ระบุว่า ผู้ใช้แฮปปี้กับกูเกิ้ลพลัส มากกว่าเฟซบุ๊ก (Facebook) โดยมีเปอร์เซ็นต์ทิ้งห่างอย่างเห็นได้ชัด

อ้างอิงข้อมูลตัวเลขจากดัชนีวัดความพึงพอใจของผู้บริโภคโดย ACSI ระบุว่า คะแนนความพึงพอใจของผู้ใช้ชาวมะกันที่มีต่อบริการของ Google+ และ Wikipedia เท่ากันคือ 78 จาก 100 ในขณะที่ทิ้งห่างสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง "เฟซบุ๊ก" (Facebook) ที่มีเปอร์เซ็นต์ความพึงพอใจอยู่ที่ 61 เท่านั้น แถมยังตกจากปีก่อนถึง 7.6% เลยทีเดียว ในรายงานดังกล่าวยังวิเคราะห์อีกด้วยว่า ผลการตกตำในด้านความนิยมของเฟซบุ๊กมาจากการเปลี่ยนรูปแบบของโพรไฟล์เป็น TImeline โดยผู้ใช้บ่นว่า พวกเขาไม่สามารถปฎิเสธการใช้โพรไฟล์แบบใหม่ได้ ในขณะที่ Google+ ได้รับความพอใจสูงขึ้น เนื่องจากการเชื่อมบริการกูเกิ้ลต่างๆ อย่างเช่น Search, Youtube และ Gmail เข้าไปด้วย ซึ่งรวมถึงเวอร์ชันบนโมบาย ที่ทางกูเกิ้ลแจ้งว่า แทรฟฟิกของ Google+ ส่วนใหญ่มาจากโมบายแอพฯ



นอกจากนี้ ACSI ยังเปิดเผยอีกด้วยว่า เครือข่ายสังคมออนไลน์ Google+ ไม่มีโฆษณาเข้ามารวบกวนเหมือน Facebook และโซเชียลมีเดียอื่นๆ สำหรับตัวเลขในตารางที่ไม่มีคะแนนความพึงพอใจของ Google+ ในปี 2011 เนื่องจากไม่ได้มีการวัดผลในปีดังกล่าว ผลวิจัยตัวเลขนี้สอดคล้องกับข้อมูลสถิติของ Compete บริษัทวิเคราะห์เว็บไซต์ที่แสดงตัวเลขผู้เยี่ยมชมล่าสุดของ Google+ ที่เติบโตถึง 43% ในช่วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน ที่ผ่านมา ทั้งนี้ผู้บริหารกูเกิ้ลกล่าวว่า Google+ มีสมาชิกทั้งสิ้น 250 ล้านราย โดยมีผู้ใช้ที่ใช้งานเป็นประจำอยู่ที่ 150 ล้านรายต่อเดือน และ 75 ล้านรายต่อวัน ไม่ว่าคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip จะเชื่อตัวเลขดังกล่าว หรือไม่ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่า Google+ กำลังรุกคืบตลอดเวลา แน่นอนว่า มันคงจะไม่สามารถเอาชนะ Facebook ได้ในเร็ววัน แต่ก็ประมาทไม่ได้เหมื่อนกัน (นักวิเคราะห์มองว่า เฟซบุ๊กมีผู้ใช้เยอะกว่ามาก ดังนั้นคะแนนความพึงพอใจย่อมมีโอกาสที่จะตกต่ำกว่าได้ แต่ในทางกลับกันการมีผู้ใช้มากกว่า มันก็จะสร้างพลังของการผูกขาดที่ยึดเหนี่ยวผู้ใช้ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงกับสิ่งที่ใช้มายาวนานได้เหมือนกัน)

ที่มา : arip

23
ข่าว IT / Firefox 14 "เสิร์ช+ปลั๊กอิน"ปลอดภัยขึ้น
« เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2012, 09:53:17 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] มอซิลล่า (Mozilla) ยังคงเร่งเครื่องอัพเดทเวอร์ชันของไฟร์ฟอกซ์ต่อไปตามกรอบเวลาที่กำหนด โดยล่าสุดได้ออก Firefox 14.0.1 สำหรับผู้ใช้พีซี และแมค ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่มีสเถียรภาพในการทำงานสูง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ออก Firefox 14 for Android และ Firefox 13 เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน



คุณผู้อ่านที่ใช้ไฟร์ฟอกซ์เวอร์ชันปัจจุบันจะได้รับการอัพเดทเป็น Firefox 14.0.1 โดยอัตโนมัติ แต่ถ้าต้องการจะดาวน์โหลดด้วยตนเอง เพื่อนำไปติดตั้งบนเครื่องอื่นๆ ก็สามารถเข้าไปยังเว็บไซต์ www.mozilla.org สำหรับการเปลี่ยนแปลงในเวอร์ชันใหม่นี้ก็จะเป็น API ใหม่ๆ ที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาเว็บสามารถป้องกันไม่ให้คอมพิวเตอร์เข้าสู่โหมดสแตนด์บาย ซึงเป็นประโยชน์มากสำหรับการับชมวิดีโอออนไลน์ และระบบจัดการอัตลักษณ์ (identity manager) และสนับสนุนการแสดงผลแบบเต็มหน้าจอ (full screen) บน Mac OS X 10.7 (Lion)



แต่สำหรับคุณสมบัติใหม่ที่ผู้ใช้จะสังเกตเห็นได้ชัดก็คือ Awesome Bar (ช่องป้อน URL) ที่ล่าสุดเพิ่มความฉลาดให้กับการเติม URL ที่สมบูรณ์ให้โดยอัตโนมัติขณะพิมพ์ (auto-complete) อีกทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยให้กับการใช้เสิร์ชอย่าง Google โดยจะกำหนดให้ใช้โพรโตคอล HTTPS ที่เริ่มต้นการใช้งานเลย ซึ่งโพรโตคอลนี้จะเข้ารหัสคำค้น และผลลัพธ์ที่ส่งกลับไปมาระหว่างผู้ใช้กับ Google ด้วย SSL นั่นหมายความว่า ข้อมูลที่คุณใช้ค้นบน Google จะปลอดภัย ใครขโมยข้อมูลระหว่างทางไปก็ไม่สามารถรู้ได้ เพราะมันถูกเข้ารหัสนั่นเอง นอกจากความใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยดังกล่าวแล้ว Firefox 14 ยังเพิ่มคุณสมบัติใหม่ที่ผู้ใช้ต้องเปิดการทำงาน (enable) เอง นั่นก็คือ "Click to Play" ซึ่งจะแตะเบรคปลั๊กอินต่างๆ ก่อนที่พวกมันจะถูกโหลด กล่าวคือ เมื่อหน้าเว็บมีการร้องขอให้ติดตั้งปลั๊กอินใดๆ เพิ่มเติม จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ก่อนดังรูปข้างบนนี้

*การเปิดใช้งาน Click To Play ใน Firefox 14.0.1 ทำได้ด้วยการพิมพ์ about:config เข้าไปใน Awesome Bar จากนั้นเสิร์ชหาบรรทัด plugins.click_to_play แล้วดับเบิ้ลคลิกบนรายการนี้ พร้อมกับตั้งค่าเป็น true รีสตาร์ทการทำงานของ Firefox 14.0.1 เพียงแค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อย

ที่มา : arip

24
ข่าว IT / เผย iPhone 5 "จอสัมผัส"บางลงได้อีก!!!
« เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2012, 09:52:53 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวเช้านี้ยังคงเกาะติดความเคลื่อนไหวของ "ไอโฟน 5" (iPhone 5) คราวนี้ไม่ใช่ข่าวรั่ว หรือภาพหลุดแต่อย่างใด แต่เป็นเทคโนโลยีของหน้าจอสัมผัสที่ใช้กับ iPhone 5 ซึ่งนอกจากมันจะมีขนาดที่ใหญ่กว่า iPhone 4/4S แล้ว มันยังมีการพัฒนาให้บางลงกว่าเดิมอีกด้วย

แอปเปิ้ล (Apple) ได้เริ่มผลิตหน้าจอสัมผัสทีใช้เทคโนโลยีใหม่แล้ว โดยจะเป็นการรวมเอาเซ็นเซอร์สัมผัสฝังเข้าไปในจอ LCD ซึ่งทำให้สามารถลดชั้นของเซ็นเซอร์ที่แต่เดิมเป็นชั้นที่รองอยู่ใต้หน้าจออีกทีหนึ่ง (เพราะมันรวมเข้าไปอยู่ในจอ LCD แล้ว) ผลลัพธ์ทำให้จอสัมผัสที่จะใช้กับ iPhone 5 มีความบางลงกว่าเดิมได้ถึง 0.5 มม. เทคโนโลยีนีมีชื่อเรียกว่า "in-cell" ทั้งนี้นอกจากความบางแล้ว จอสัมผัสรุ่นใหม่ยังทำให้คุณภาพของภาพที่แสดงผลบนหน้าจอ iPhone 5 ดีกว่าเดิมอีกด้วย สำหรับพื้นทีว่าง 0.5 มม. จะทำให้แอปเปิ้ลสามารถเพิ่มชิ้นส่วน ตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปใน iPhone รุ่นต่อไปได้อีก



แม้ว่า เทคโนโลยีหน้าจอสัมผัส in-cell จะใช้เวลาในการผลิตนานกว่า และยากกว่าในการที่จะรวมเซ็นเซอร์กับจอ LCD เข้าด้วยกัน แต่มันช่วยให้การประกอบ iPhone ง่ายขึ้นกว่าเดิม และลดต้นทุนให้กับแอปเปิ้ลได้อีกด้วย ตามรายงานข่าวระบุว่า หน้าจอสัมผัส in-cell จะช่วยลดขั้นตอน และลดต้นทุนในการผลิตชิ้นส่วนได้นั่นเอง โดยบริษัทผู้ผลิตจอ LCD ให้กับแอปเปิ้ลในคร้งนี้ได้แก่ ชาร์ป และซัมซุง รายงานข่าวเกี่ยวกับเทคโนโลยีจอสัมผัส in-cell ได้รับการเปิดเผยขึ้นภายหลังทีมีข่าวภาพหลุดที่อ้างว่าเป็นกระจกด้านหน้าของ iPhone 5 ได้วันเดียว



อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของแอปเปิ้ลปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวคู่แข่งที่กำลังมาแรงอย่างซัมซุง โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่เป็นเรือธงอย่าง Samsung Galaxy S III ที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ขนาด 4.8 นิ้ว และบางกว่า iPhone รุ่นปัจจุบัน แถมยังมียอดขายมากกว่า 6.5 ล้านเครื่องภายในระยะเวลาเดือนกว่าๆ เท่านั้น งานนี้คงต้องรอดูว่า iPhone 5 จะสามารถสยบคู่แข่งที่มาแรงได้ หรือไม่?

ที่มา : arip

25
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] นักวิจัยจากบริษัท NXP Semiconductor NV ได้พัฒนาชิปออดิโอ DSP (Digital Signal Processing) ที่สามารถเพิ่มกำลังเสียงให้กับลำโพงขนาดเล็กที่ใช้ในสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ให้มีความดังมากขึ้่นถึง 5 เท่าในขณะที่ยังมีระบบป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับลำโพงเนื่องจากเสียงที่ดังขึ้นมากอีกด้วย



ความลับของชิปขยายเสียง NXP TFA9887 ก็คืออัลกอริธึมในการปรับแต่งเสียง และเทคโนโลยี CoolFlux DSP ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ ทำให้มันสามารถขยายเสียงลำโพงขนาดเล็กทีใช้ในสมาร์ทโฟนให้มีระดับความดังได้สูงถึง 2.6 วัตต์ อาร์เอ็มเอส จากเดิมที่มีระดับความเสียงแค่ 0.5 วัตต์เท่านั้น ดังนั้น หากสมาร์ทโฟน เครื่องเล่นเพลงดิจิตอล และแท็บเล็ตต้องการระบบเสียงที่ดังขึ้น และการตอบสนองต่อเสียงเบสที่ลึกกว่าเดิม TFA9887 ไม่ได้แค่เพิ่มระดับความดังเท่านั้น แต่มันยังมีความฉลาดในการตรวจจับการตอบสนองของลำโพง ตลอดจนการควบคุมอุณหภูมิแบบเรียลไทม์

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=oLMXCTvCB70" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=oLMXCTvCB70</a>

TFA9887 จะปรับแต่งสัญญาณเสียงโดยใช้การทำงานของลำโพง และเนื่องจากลำโพงที่ได้รับการป้องกันจะสามารถให้กำลังเสียง และความถี่ที่ทำให้มันมีเสียงดังกว่าเดิมได้ ทั้งนี้ทางบริษัทยังได้ออกแบบเครื่องมือในการปรับแต่งเสียงให้กับนักออกแบบแก็ดเจ็ตต่างๆ  เพื่อให้สามารถปรับแต่งคุณภาพเสียงบนอุปกรณ์โมบายให้ดีที่สุดได้อีกด้วย ด้วยระดับความดังขนาดนี้ ผู้ใช้อาจจะไม่มีความจำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์เสริมอย่างลำโพงพร้อมเครื่องขยายเสียงขนาดเล็ก อย่างไรก็ดี ในรายงานข่าวไม่ได้ระบุว่า ชิป TFA9887 ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มากกว่าชิปขยายเสียงทั่วไปหรือไม่?

ที่มา : arip

26
ข่าว IT / ภาพหลุด!!! อ้างชิ้นส่วน iPhone 5 สีขาว
« เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2012, 05:23:46 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] กลายเป็นรายงานข่าวลือภาพหลุดรายวันไปเสียแล้ว เมื่อล่าสุดมีภาพถ่ายที่อ้างว่า มันเป็นกระจกปิดด้านหน้าของ iPhone 5 โดยคราวนี้มีของเวอร์ชันสีขาวออกมาให้เห็นกันอีกด้วย ซึ่งหากภาพดังกล่าวเป็นของจริง มันทำให้เราเห็นภาพหน้าตาคร่าวๆ ของ iPhone 5 ได้ชัดเจนขึ้นมากเลยทีเดียว



อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีการเผยแพร่ทั้งกาพ และวิดีโอของแผ่นกระจกด้านหน้าของ iPhone 5 กันไปแล้ว แต่ล่าสุดเป็นภาพที่ปรากฎบนเว็บไซต์ในจีนชื่อว่า Apple.pro ซึ่งอ้างว่า ภาพถ่ายดังกล่าวเป็นตัวอย่างแผ่นกระจกด้านหน้าของ iPhone 5 ประเด็นที่น่าสังเกตก็คือ แผ่นกระจกด้านหน้าที่เผยแพร่ออกมานั้นแสดงให้เห็นว่า ความกว้างของหน้าจอ iPhone รุ่นถัดไปจะเท่ากับ iPhone 4/4S แต่จะมีความยาวกว่าเล็กน้อย ซึ่งก็สอดคล้องกับข่าวลือที่มีกันออกมาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ที่ด้านบนยังมีกล้องหน้าสำหรับ Face Time ของ Apple ที่ในไอโฟนรุ่นถัดไปจะมีการเลื่อนตำแหน่งของกล้องให้ไปอยู่ที่ด้านบนตรงกลางเหนือลำโพง นักวิเคราะห์จาก iSuppli กล่าวว่า ไม่อาจฟันธงลงไปสำหรับช่องด้งกล่าวว่าจะใช้กล้องหน้า หรือไม่ เนื่องจากมันมีเซ็นเซอร์ถึง 3 ตัวด้วยกันทีอยู่ด้านหน้า ไม่ว่าจะเป็น เซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุ (proximity sensor) เซ็นเซอร์วัดแสง (ambient light sensor) และเซ็นเซอร์ตราวจจับความเร่ง (accelerometer)

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=yMg0j9ZlLzc" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=yMg0j9ZlLzc</a>

แม้จะเชื่อว่า รูตรงกลางเหนือลำโพงจะเป็นกล้องหน้าที่จัดวางอยู่ในตำแหน่งที่สมมาตร แต่ผุ้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้งานแต่อย่างใด เพราะโดยปกติเราจะใช้กล้องหน้าโดยถือห่างออกไปประมาณ 18 นิ้ว กล้องจะอยู่ตรงกลาง หรือไม่ ไม่ได้ส่งผลต่อการใช้งานเลย เว้นเสียแต่ว่า แอปเปิ้ลจะอัพเกรดกล้องหน้าจาก VGA ไปเป็น 720p ซึ่งนั่นจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า แอปเปิ้ลเก่งในเรื่องปล่อยข่าวลือ ภาพต้นแบบ หรือชิ้นส่วนต่างๆ ที่มีการเผยแพร่ออกมา บางชิ้นดูจะเป็นการทำแบบลวกๆ จนไม่น่าเชื่อว่า มันจะเป็นต้นแบบของผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ลจริงๆ ที่มุ่งเน้นความเนียบในการสร้างประสบการณ์ที่ดีทีสุดให้กับผู้ใช้ ส่วนประเด็นข่าวลือที่ว่า iPhone 5 จะมาพร้อมกับ 4G LTE และ NFC ผู้เชี่ยวชาญกลับมองตรงข้าม เพราะโดยวิธีของ Apple จะไม่เร่งรีบในการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ ซึ่งหากสังเกตผลิตภัณฑ์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ จะไม่เน้นไฮเทค แต่จะเน้นไฮทัช ประสบการณ์ของผู้ใช้สำคัญที่สุด มีทุกอย่าง แต่ไม่ใช้ สู้ไม่มี แล้วลดความวุ่นวายลง ดังที สตีฟ จอบส์ เคยกล่าวไว้ว่า การตัดสินใจที่ยากที่สุดในการออกแบบผลิตภัณฑ์ก็คือ การเลือกว่าจะเอา (ฟีเจอร์ หรือเทคโนโลยี) อะไรออกไปจากผลิตภัณฑ์ดี :D

ที่มา : arip

27
ข่าว IT / ข้อผิดพลาด Skype ส่งข้อความให้คนอื่น
« เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2012, 05:23:17 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] สไกป์ (Skype) ยอมรับว่ามีข้อผิดพลาดในซอฟต์แวร์ไคลเอ็นต์ที่เพิ่งมีการอัพเดทเมื่อเดือนที่แล้ว โดยบั๊กดังกล่าวจะทำให้โปรแกรมแชต และสนทนาผ่านวิดีโอยอดฮิต ส่งข้อความ และคอนเท็นต์ระว่างผู้ใช้ไปยังผู้รับคนอื่นๆ ที่อยู่ในรายชื่อผู้ติดต่อ (contact list) ด้วย...อุ๊ปส์!!!

Skype บริการแชตยอดฮิตที่มีผู้ใช้บริการมากถึง 40 ล้านรายทั่วโลก และถูกซื้อไปโดยไมโครซอฟท์ด้วยมูลค่ากว่า 8.5 พันล้านเหรียญฯ ได้อธิบายถึงข้อผิดพลาดของการทำงานที่เกิดขึ้นว่า ข้อความต่างๆ ที่ถูกส่งระหว่างผู้ใช้สองคนจะถูกก็อปปี้และส่งไปยังผู้ใช้คนอื่นๆ ในคอนแท็คด้วย โดยมีผู้ใช้โพสต์ในคอมมูนิตี้ของ Skype ว่า พบความผิดปกติของโปรแกรม เนื่องจากเพื่อนในคอนแท็คลิสต์แจ้งว่า เขาได้ส่งข้อความให้ผิดคน ทั้งๆ ที่ผู้ใช้คนดังกล่าวไม่ได้ส่งข้อความกับเพื่อนคนนี้



อย่างไรก็ตาม Skype ยังคงไม่สามารถชี้แจงเหตุผลที่ชัดเจนถึงต้นตอของปัญหาที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดดังกล่าวได้ และยังไม่ได้ระบุด้วยว่า มันเกิดขึ้นกับไคลเอ็นต์บนวินโดวส์เท่านั้น หรือทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งข้อผิดพลาดของการทำงานที่เกิดขึ้นได้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้ เนื่องจากมันส่งผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน บางรายถึงกับบอกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ เลิกใช้ดีกว่า หลังจากที่เขาพบว่า ข้อความสนทนาระหว่างเขากับเพื่อนอีกคนหนึ่งถูกส่งไปให้คนอื่นๆ ในคอนแท็คลิสต์ด้วย ล่าสุด Skype ยอมรับสำหรับบั๊กที่เกิดขึ้น และได้ขอโทษผู้ใช้ พร้อมทั้งกล่าวว่า จะเร่งออกอัพเดทแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เร็วที่สุดภายในสองสามวันนี้ และจะแจ้งให้ทราบผ่านระบบแจ้งเตือนของโปรแกรม คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ท่านใดที่ใช้ Skype อยู่ แล้วพบปัญหาในลักษณะนี้ ช่วยฟีดแบ็คกลับมาด้วยนะครับ เพื่อว่าจะได้เป็นประโยชน์กับผู้ใช้ท่านอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน

ที่มา : arip

28
ข่าว IT / Office 2013 ปรับโฉมใช้งานระบบสัมผัส
« เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2012, 05:22:55 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] เช้านี้ขอเริ่มต้นรายงานข่าวความเคลื่อนไหวของไมโครซอฟท์ (microsoft) โดยล่าสุดทางบริษัทได้เผยวิสัยทัศน์ของซอฟต์แวร์ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก และถือเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของไมโครซอฟท์ นั่นก็คือ Office 2013 ซึ่งไม่เพียงแต่มีการปรับโฉมการทำงานให้ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้นแล้ว มันยังรองรับการใช้งานในระบบสัมผัส โดยเฉพาะเมื่อใช้บนแท็บเล็ต Windows 8 แถมยังปรับเปลียนนิเวศทางธุรกิจของการใช้ซอฟต์แวร์ด้วยการเก็บค่าบริการสมาชิก และคลาวด์คอมพิวติ้ง



ทิศทางการปรับโฉมของ Office 2013 เปลี่ยนจากการทีมีเครื่องไม้เครื่องมือมากมายจนใช้กันไม่หมด หรือรุงรังจนหาไม่เจอ ไปสู่อินเตอร์เฟซใหม่ที่เรียบง่าย และตอบสนองการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังทำงานได้ทั้งบนพีซ๊ และคอมพิวเตอร์ระบบหน้าจอสัมผัสอย่าง แท็บเล็ต ได้อย่างลงตัวอีกด้วย นอกจากนี้ Office 2013 ยังสนับสนุนการทำงานร่วมกับสไตลัสกับแอพพลิเคชันต่างๆ ด้วยฟีเจอร์ที่เรียกว่า "inking" ในขณะที่การใช้งานบนพีซีจะสามารถสมัครเป็นสมาชิก เพื่อใช้งานร่วมกับระบบคลาวด์ โดยจ่ายค่าบริการสำหรับการใช้ SkyDrive นอกจากนี้ การใช้บริการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้ Office 2013 ด้วยกัน จะเป็นลูกเล่นใหม่ที่ถือเป็นการเปลี่ยนใหญ่ของชุดซอฟต์แวร์นี้ด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับ Office เวอร์ชันเว็บเบสจะยังคงให้ใช้ฟรี แต่ถ้าเป็นเวอร์ชันเดสก์ทอปจะมีส่วนของการสมัครสมาชิกเพื่อใช้บริการเพิ่มเติมด้วย



สำหรับคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ที่สนใจอยากทดลองใช้ Office 2013 สามารถดาวน์โหลด Office 2013 onsumer preview ได้แล้ว เพื่อพิจารณาว่า มันน่าใช้งานมากน้อยแค่ไหน ก่อนที่ผลิตภัณฑ์จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และวางตลาดในช่วงปลายปีนี้ อ้อ...เกือบลืมบอกไป ระบปฏิบัติการที่จะใช้ชุดแอพพลิเคชัน Office 2013 ได้นั้นจะต้องเป็น Windows 7, Windows 8 หรือ Windows RT (สำหรับแท็บเล็ต) เท่านั้น

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=J-3uK2bRNnE" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=J-3uK2bRNnE</a>

ที่มา : arip

29
ข่าว IT / ลำโพงขยายเสียง iPhone รุ่น"รักษ์โลก"
« เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2012, 05:22:17 pm »
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ก่อนนอนคืนนี้ ทางกองบรรณาธิการเว็บไซต์ arip ยังคงมีรายงานข่าวเกี่ยวกับแก็ดเจ็ต (Gadget) ที่่น่าสนใจมาฝากกัน ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมการใช้งาน iPhone 4/4S (อย่าเพิ่งเบื่อรายงานข่าวเกี่ยวกับ iPhone นะครับ ;P) นั่นก็คือ Eco-Amp "ลำโพงขยายเสียงสำหรับไอโฟน" ที่ทั้งชิ้นสร้างขึ้นจากกระดาษรีไซเคิล ว้าว!!!



Eco-Amp ลำโพงขยายเสียงกระดาษรีไซเคิล 100% ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกจากบริษัท Eco Made ที่มีดีไซน์เป็นแก็ดเจ็ตทำมือ DIY โดยเป็นชิ้นกระดาษที่ตัดเรียบร้อยแล้ว เมื่อคุณผู้อ่านซื้อมันมาจะต้องพับประกอบมันขึ้นมาเป็นลำโพงขยายเสียงกระดาษที่สามารถทำให้ iPhone 4/4S เล่นเพลง หรือเสียงจากภาพยนตร์ที่รับชมให้ดังขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์



สำหรับขั้นตอนการประกอบ Eco-Amp และใช้งานร่วมกับ iPhone 4/4S ได้อย่างไร? แนะนำให้ลองชมคลิปวิดีโอสาธิตจากข้างล่างนี้ รับรองว่า คุณจะได้สนุกกับแก็ดเจ็ตรักษ์โลก และทึ่งกับผลลัพธ์ที่ได้ โดยเฉพาะเสียงของ iPhone 4/4S ที่ดังขึ้นมาก เมื่อเทียบกับก่อนใช้ Eco-Amp ลำโพงขยายเสียงที่ไม่ง้อแบตฯ และทำจากกระดาษรีไซเคิล 100% อย่างไรก็ตาม ดูจากในคลิป เมื่อประกอบเสร็จแล้ว คงจะไม่เหมาะนักหากจะแกะออกมาเป็นแผ่นเหมือนเดิม สนนราคาอยู่ที่ 7.99 เหรียญฯ หรือประมาณ 240 บาท โดยสามารถสั่งซื้อได้โดยตรงจากเว็บไซต์ Eco Made ครับ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=lwcjtY8lUdE" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=lwcjtY8lUdE</a>

ที่มา : arip

30
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวล่าสุด สื่อออนไลน์ยักษ์ใหญ่ไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์กไทมส์ วอลล์สตรีทเจอนัล และบลูมเบิร์ก ต่างรายงานข่าวตรงกันว่า แอปเปิ้ลกำลังพัฒนาไอแพดเวอร์ชันเล็กกว่ารุ่นปัจจุบัน หรือที่รู้จักกันในชื่อ iPad mini (แอปเปิ้ลไม่เคยแสดงความคิดเห็นใดๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับเรื่อง iPad mini) และมันจะประกาศเปิดตัวภายในปีนี้



ข้อมูลจากแหล่งข่าวของนิวยอร์กไทมส์อ้างว่า แอปเปิ้ลกำลังพัฒนา iPad ที่มีหน้าจอขนาด 7.85 นิ้ว โดยจะมีราคาต่ำกว่า new iPad รุ่นที่ราคาต่ำสุด (499 เหรียญฯ หรือประมาณ 15,000 บาท) ทั้งนี้สื่อออนไลน์ยักษ์ใหญ่อ้างว่า พวกเขาได้ข้อมูลมาจากแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามหลายรายที่รับทราบเกียวกับโปรเจ็กต์นี้ ข่าวลือเกี่ยวกับ iPad mini ที่ออกมาเติมเต็มตลาดรุ่น 9.7 นิ้ว ถ้าหากเป็นไปตามนี้จริง บริษัทอย่าง Amazon ผู้ผลิต Kindle Fire และ Google ที่เพิ่งจะออกแท็บเล็ต Nexus 7 จะต้องเผชิญคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง iPad mini ของ Apple อย่างแน่นอน



ในขณะที่แอปเปิ้ลไม่ยอมเปิดปากว่า บริษัทกำลังพัฒนา iPad mini จริง หรือไม่? แต่สื่อยักษ์ใหญ่อีกสองรายอย่าง วอลล์สตรีทเจอนัล และบลูมเบิร์ก ต่างก็ให้ข้อมูลตรงกับนิวยอร์กไทมส์ โดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวหลายรายเช่นเดียวกัน ซึ่งการที่สื่อยักษ์ใหญ่ทั้งสามรายมีความเห็นตรงกันเช่นนี้ ทำให้ข่าวลือของ iPad mini มีน้ำหนักที่จะเป็นจริงมากขึ้นจนดูเหมือนว่า ช่วงวันหยุดปลานปีนี้ แอปเปิ้ลอาจจะมีไอแพดให้เลือกถึง 2 รุ่น คงต้องลุ้นกันว่า iPad mini จะสกัดคู่แข่งอย่างแท็บเล็ต Android ได้ หรือไม่? และมันจะไม่ทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจจากการซื้อ iPad จอใหญ่ไปซื้อ iPad mini แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะซื้อรุ่นใด แอปเปิ้ลก็แฮปปี้อยู่ดี :D

ที่มา : arip

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 26