[เอ.อาร์.ไอ.พี,
www.arip.co.th] สองปีก่อน MIT Media Lab ประกาศว่ากำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำให้กล้องสามารถบันทึกภาพคน หรือวัตถุที่อยู่บริเวณมุมต่างๆ ทีสามารถหลบซ่อนตัวได้ โดยไม่ใช้แสงธรรมชาติทีตกกระทบวัตถุโดยตรงเพื่อสะท้อนกลับมาที่ตัวกล้อง ล่าสุดทาง MIT ได้เผยคลิปวิดีโอที่อธิบายถึงเทคโนโลยีดังกล่าวว่ามันสามารถทำงานได้อย่างไร? และผลลัพธ์ที่ได้เป็นเช่นไร?
หากอธิบายกันแบบย่อๆ ก็คือ ระบบจะสามารถบันทึกภาพของคน หรือวัตถุที่หลบอยู่หลังกำแพง หรือเหลี่ยมมุมของห้องได้ด้วยการยิง"เลเซอร์" (Femtosecond laser pulse) ออกไป ซึ่งเมื่อมันตกกระทบกับกำแพง เลเซอร์จะกระจายตัวออกไป โดยเมื่อเลเซอร์ทีแตกกระจายออกไปตกกระทบกับคน หรือวัตถุที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง อนุภาคของเลเซอร์ที่สะท้อนกลับมาตกกระทบที่เลนส์ของกล้องที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ความเร็วสูง สามารถคำนวณระยะห่างและเวลาทีตกกระทบ เพื่อนำมาคำนวณสร้างภาพของวัตถุขึ้นมาใหม่ได้ นับเป็นวิธีที่ฉลาดมากทีเดียว
ด้วยวิธีน้ เซ็นเซอร์ของกล้องไม่จำเป็นต้องการแสงมากมายในการทำงาน เพราะด้วยเลเซอร์ที่แตกกระจายเนื่องจากการชนกับกำแพง จะสะท้อนกลับมาด้วยความเร็วสูง แต่เซ็นเซอร์จะต้องสามารถจับภาพการตกกระทบของแสงด้วยความเร็วระดับพิโควินาที (หรือ 1 ส่วนล้านล้านวินาที) กระสะท้อนของเลเซอร์ที่หักเหตามลักษณะของพื้นผิววัตถุ และถูกส่งกลับมายังกล้องจะสามารถทำให้คำนวณความแตกต่างของทิศทาง และเวลาในการตกกระทบ เพื่อสร้างเป็นภาพออกมาได้ ระบบของ MIT จะสามารถนำไปใช้ในการรบ เพื่อว่าทหารจะสามารถทราบได้ว่า มีศัตรูหลบอยู่เบื้องหลังกำแพง หรือสิ่งกีดขวางเบื้องหน้า หรือไม่? รวมถึงการใช้ให้ผู้ขับรถสามารถทราบได้ว่า ตรงถนนมุมอับดัานหน้ามีสิ่งกีดขวางอยู่ หรือไม่? เป็นต้น สำหรับคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ที่สนใจการทำงานของมันสามารถคลิกเข้าไปดูไดที่ MIT News ครับ
ที่มา : arip