ผู้เขียน หัวข้อ: Twitter ขยายบริการแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินไปยังสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์  (อ่าน 1564 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา  Twitter ได้เริ่มเปิดให้บริการ Twitter Alerts แจ้งเหตุฉุกเฉินในประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้  ซึ่งบริการดังกล่าวจะทำให้ผู้ใช้ได้รับข่าวสารสำคัญและข้อมูลที่แม่นยำจากองค์กรที่น่าเชื่อถือระหว่างเกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆภายในประเทศ เช่น ภัยธรรมชาติ ผู้ก่อการร้าย เป็นต้น                                  พื้นที่โฆษณา  

                                    สนใจลงโฆษณา ติดต่อ โทร.0-2642-3400 ต่อ 4613                                                                    

 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา  Twitter ได้เริ่มเปิดให้บริการ Twitter Alerts แจ้งเหตุฉุกเฉินในประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้  ซึ่ง บริการดังกล่าวจะทำให้ผู้ใช้ได้รับข่าวสารสำคัญและข้อมูลที่แม่นยำจากองค์กร ที่น่าเชื่อถือระหว่างเกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆภายในประเทศ เช่น ภัยธรรมชาติ  ผู้ก่อการร้าย เป็นต้น

 ในวันนี้ Twitter ได้ประกาศขยายบริการดังกล่าวเพิ่มเติมมายังสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ โดยมีองค์กร 57 แห่งสมัครเข้าร่วมโครงการนี้แล้ว เช่น กรมตำรวจประจำสหราชอาณาจักร หน่วยดับเพลิงประจำกรุงลอนดอน ฯลฯ

 [ตัวอย่างทวีตที่มีการตั้งค่าแจ้งเตือน]   เมื่อองค์กรต่างๆที่เข้าร่วมโครงการนี้ทำเครื่องหมาย Alert แจ้งเหตุฉุกเฉินไว้ที่ทวีตใด ข้อความในทวีตนั้นจะถูกส่งตรงผ่าน SMS ไปยังมือถือของผู้ใช้ Twitter ที่ลงทะเบียนใช้บริการ Twitter  Alerts ไว้ทันที ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเลือกได้ว่าจะรับการแจ้งเตือนจากหน่วยงานหรือองค์กรใดบ้าง   โดยทวีตดังกล่าวยังคงแสดงผลบน Timeline ของผู้ใช้เหมือนปกติ  แต่จะมีรูปกระดิ่งสีส้มเล็กๆแสดงไว้ข้างใต้ทวีตนั้นๆด้วย     บริการ ดังกล่าวนี้จะมีประโยชน์อย่างมากในช่วงภาวะวิกฤติต่างๆ  ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรับรู้ข่าวสารที่แม่นยำและน่าเชื่อถือได้อย่างทันท่วง ที น่าเสียดายที่บริการนี้ยังไม่ได้เปิดใช้งานในประเทศไทย  ได้แต่หวังว่าในอนาคตอันใกล้นี้ Twitter จะขยายบริการมายังบ้านเรา                                                                                                                                                                                  


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)