ผู้เขียน หัวข้อ: สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันที่ 20 ตุลาคม 2556  (อ่าน 775 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์

 คุณหลวงพยายามจะเตือนติณห์ให้รู้ถึงสัญญาณอันตราย แต่ติณห์ทำเหมือนมองไม่เห็นคุณหลวง จับมือทักทายกับรอบบี้ คิดส์ท่าทางสนิทสนม
     
    พงอินทร์กับกรรณาเดินออกมาจากร้านด้วยกัน จู่ ๆ นํ้าหนึ่งก็วิ่งกลับมาหา บอกว่าช่อเพชรส่งข้อความกลับมาแล้ว บอกกำลังจะไปธุระที่ดรีมเวิลด์ ให้แมสเซนเจอร์เอาของไปส่งให้ที่นั่น กรรณาจะชวนนํ้าหนึ่งไปพบช่อเพชรด้วยกัน นํ้าหนึ่งอ้างว่าต้องรีบกลับไปประชุม พงอินทร์เกรงใจนํ้าหนึ่ง อีกอย่างก็เคยเห็นหน้าช่อเพชรจากรูปถ่ายที่ร้านเจ๊แดงแล้ว จึงรีบดึงตัวกรรณาไปตามหาช่อเพชรที่ดรีมเวิลด์กันเอง
    
    รอบบี้ คิดส์ เสนอตัวจะร่วมลงทุนที่รีสอร์ท มิรันตีสนใจแนวคิดที่จะซื้อที่ดินกำนันพงษ์มาทำเป็นสนามบินเล็กส่วนตัว รองรับนักท่องเที่ยวระดับอภิมหาเศรษฐีจากทั่วโลก โดยใช้ชื่อรีสอร์ทว่าคิดส์แอนด์แมรี่แลนด์ ติณห์ทำเป็นเห็นดีด้วย แค่จะขอเปลี่ยนชื่อเป็น คิดส์ติณห์ แมรี่แลนด์ เท่านั้น
    
    จิตกำนันพงษ์นั่งสมาธิ หาทางช่วยไตรรัตน์ ในนิมิตเห็นดวงจิตดวงหนึ่งไล่ตามดวงจิตอีกดวงหนึ่ง ตรงกับความเชื่อของชนเผ่าลึกลับบนเทือกเขาในทิเบต ที่พูดถึงการตามดวงจิตของคนรักที่จากไปแล้วให้กลับเข้าร่าง ณัฐเดชกับป้าออไม่เข้าใจ กำนันพงษ์รีบอธิบายแนวคิดให้ฟัง
    
    “โดยทั่วไป จิตจะใช้วิญญาณเป็นคูหาเพื่ออยู่อาศัย และเพื่อนำพาจิตไปสู่ที่ต่าง ๆ แต่ตอนนี้จิตของนายไตรรัตน์หลุดออกไปจากวิญญาณ เตลิดไปไม่มีทิศทาง ยิ่งไปกว่านั้น...เซ้นซ์ที่ผมสัมผัสได้ในนิมิต...มันคือ...มืด ดำ อันตราย พลัดพราก สูญเสีย และซากศพ ผมรู้สึกว่า...ผู้ที่ไปตาม...จะไม่ได้ฟื้นขึ้นมาอีก”
    
    แม้จะรู้ว่ามีอันตราย แต่ญาณินตัดสินใจถอดจิตไปตามจิตไตรรัตน์เป็นเพื่อนสุคนธรส จิตกำนันพงษ์ช่วยทำพิธีให้ ส่วนณัฐเดชกับป้าออ ต้องคอยทำการปั๊มหัวใจยื้อชีวิตสุคนธรสกับญาณินเอาไว้ จนกว่าจิตทั้งคู่จะกลับเข้าร่าง
     
    สุคนธรสกับญาณินเข้าไปในจิตของไตรรัตน์ เห็นไตรรัตน์นอนหงายจ้องโมบายขนาดยักษ์รูปสัตว์ต่าง ๆ ภายใต้แสงไฟดวงเดียว ด้วย สีหน้าเคลิ้มสุข ไม่รับรู้โลกภายนอก สุคนธรสพยายามดึงไตรรัตน์ขึ้นมากอด แต่เหมือนมีแรง ดึงดูดจากพื้นที่รั้งร่างของไตรรัตน์ไว้ สุคนธรสพยายามออกแรงอีก แล้วอยู่ ๆ มีเสียงไตรรัตน์ดังมาจากอีกด้าน
    
    “ใครอนุญาตให้พวกเธอเข้ามา”
    
    สุคนธรสมองไปพบไตรรัตน์ยืนอยู่อีกด้าน ไตรรัตน์คนนี้เป็นแนวโหด แค่แบมือ ก็มีไม้เบสบอลโผล่มาอยู่ในมือได้เอง สุคนธรสอึ้ง ๆ งง ๆ ญาณินจะขยับตัว แต่ไม่สามารถขยับได้ เท้าทั้งสองข้าง ราวกับถูกแรงดึงดูดมหาศาลดึงไว้ ญาณินกับสุคนธรสก้าวขาไม่ออกอีกเลย
    
    ไตรรัตน์วิ่งเข้าหาทำท่าเหมือนจะฟาดใส่สุคนธรส สุคนธรสยกมือป้อง แต่แล้วกลับกลายเป็นไตรรัตน์ยื่นดอกกุหลาบให้สุคนธรสตรงหน้า สุคนธรสอึ้ง คาดเดาอะไรที่นี่ไม่ได้เลย
    
    เวลาผ่านไปสองนาที ณัฐเดชกับป้าออช่วยกันปั๊มหัวใจให้สองสาว ป้าออเริ่มอ่อนแรง แขนเหมือนจะเป็นตะคริว แต่ยังพยายามฝืนตัวเองให้ปั๊มหัวใจให้ญาณินต่อ
    
    สุคนธรสฮึด ตั้งจิตให้แน่วแน่ เผชิญหน้าไตรรัตน์ “ฉันรู้..ที่นี่คือจิตของไตรรัตน์..แต่แกไม่ใช่..แกก็แค่อาคมสกปรกที่เข้ามาเปรอะเปื้อนจิตแท้ของไตรรัตน์เท่านั้น ฉันจะสื่อสารกับจิตแท้ของไตรรัตน์ให้ได้”
    
    ไตรรัตน์โผล่แวบมาด้านหลังสุคนธรส เอาไม้เบสบอลง้างคอไว้จากด้านหลัง “แกมีเวลาไม่มากแล้ว จะสื่อสารอะไรกับจิตแท้..เอาสิ..เอาเลย.. หึ ๆ ๆ ฮ่า ๆ ๆ”
    
    สุคนธรสพยายามยื้อไม้ไว้ไม่ให้รัดคอมากไป “ไตรรัตน์..ไตรรัตน์..ได้ยินฉันมั้ย..ฉันมาช่วยนาย..แต่นายต้องช่วยฉันด้วย.. สิ่งเหล่านี้คือมายา จิตของนายถูกปรุงแต่งขึ้นมาด้วยอาคมมนต์ดำที่พวกคนชั่วทำไว้ นายต้องควบคุมมันให้ได้ อย่ายอมแพ้ เข้าใจมั้ย”
    
    “หยุดปากดีได้แล้ว แกไม่มีวันช่วยมันได้หรอก”
    
    ญาณินสงสารสุคนธรส แต่ขยับเข้ามาช่วยอะไรไม่ได้ “ยัยรส..ทั้งหมดนี้ไม่มีอยู่จริง..ทำจิตให้ว่างสิ”
    
    “เวลาอยู่ต่อหน้าแฟน แกทำจิตให้ว่างได้ด้วยเหรอ” สุคนธรสจ้องเข้าไปในตาไตรรัตน์ “ไตรรัตน์ ฉันรู้ว่าจิตแท้ของนายจะไม่ทำอะไรฉัน ฉันเชื่อในตัวนาย นายไม่มีวันทำร้ายฉัน ตั้งสติให้ดีไตรรัตน์..ฉันคือภรรยาของนาย..ฉันรักนาย นายได้ยินมั้ย”
    
    ญาณินพยายามจะหาทางช่วย เห็นร่างไตรรัตน์ที่นอนดูโมบายอยู่ มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตา “คุณรับรู้ทุกอย่าง..แต่คุณทำอะไรไม่ได้เพราะถูกอาคมสะกดอยู่..ใช่มั้ย..คุณต้องทำให้ได้ สิ่งเหล่านี้ถูกปรุงแต่งขึ้นมา ทั้งที่จริงแล้ว มันไม่มีอะไรเลย ไม่มีรูป ไม่มีสังขาร ไม่มีความรู้สึก ไม่มีแม้กระทั่งความว่างเปล่า..อย่าหลงในมายาของจิตคุณต้องก้าวพ้นออกมาจากจิตตัวเอง”
    
    ญาณินพูดไม่ทันขาดคำ ร่างญาณินก็ฟึ่บ! หายไปดื้อ ๆ เหลือเพียงจุดแสงสว่างเล็ก ๆ ทิ้งท้าย ไตรรัตน์ที่นอนยังคงไม่ไหวติงไม่มีปฏิกิริยาอะไร เพียงแต่ดูสงบขึ้น
    
    ป้าออหมดแรงจะปั๊มหัวใจแล้ว นั่งทรุดยกแขนไม่ขึ้นอีกเลยอยู่ข้างญาณิน ณัฐเดชตกใจมาก ป้าออได้แต่ร้องไห้ รู้สึกผิด แต่ทำไม่ไหวอีกแล้ว
    
    ไตรรัตน์โหดกำลังบีบคอสุคนธรสอยู่
    
    “นาย..ไม่เป็นไรไตรรัตน์..นายทำดีที่สุดแล้ว ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ฉันไม่โกรธ ไม่เสียดาย ที่แต่งงานกับนาย ขอให้นายจำไว้แค่ว่า ฉันรักนาย”
    
    “ฉันก็รักเธอ หึ ๆ ๆ ๆ”
    
    ไตรรัตน์โหดมองผ่านหน้าสุคนธรสไป เห็นว่าไตรรัตน์ดีที่นอนอยู่กำลังค่อย ๆ ลุกขึ้นมายืนได้ ไตรรัตน์โหดถึงกับอึ้ง มือที่บีบคออยู่คลายออก
    
    “แก...ออกไป๊!! ที่นี่จิตของฉัน”
    
    “เกิดคลื่นพลังแปรปรวนไปทั่วบริเวณ”
    
    ไตรรัตน์ดี สงบนิ่งไม่ไหวติง “ไม่ใช่จิตของแก ไม่ใช่จิตของฉัน ไม่ใช่จิตของใคร ที่นี่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรเลย”
    
    ทันใด เกิดความสว่างสงบจากตัวไตรรัตน์ออกมา แผดจ้าไปทั่วบริเวณ จนกลืนกินความมืดมิด ทุกอย่างหายสิ้นไป กลายเป็นภาพขาวโพลน
     
    สุคนธรสที่ถูกปั๊มหัวใจ ผวาเฮือกลืมตาขึ้นมา ณัฐเดชเมื่อเห็นว่าสุคนรสฟื้นแล้ว ก็แผ่หราไปเลย หมดสภาพมาก ๆ สุคนธรสผวาตื่น รีบมองอาการของไตรรัตน์ที่สงบลง เหมือนหลับไป
    
    “เขาปลอดภัยแล้ว เธอทำสำเร็จแล้วสุคนธรส” จิตกำนันพงษ์บอกสุคนธรส
    
    ป้าออร้องไห้ไม่หยุด เสียใจ โทษตัวเอง “คุณรสฟื้นแล้ว..แล้ว..ทำไมคุณหนูยังไม่ฟื้น..คุณหนู”   ติณห์ที่กำลังปั๊มหัวใจให้ญาณินแทนป้าออร้องเรียกญาณินเสียงดังลั่น “กลับมาสิญาณิน กลับมาหาผม..กลับมา คุณจะทิ้งผมไม่ได้ ตื่นขึ้นมา กลับมาแต่งงานกับผมก่อน..กลับมา”
    
    ญาณินผวาเฮือก ลืมตาตื่น ทุกคนอึ้ง แต่ก็โล่งใจ
     
    พงอินทร์แปลกใจที่เห็นกรรณาตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศของสวนสนุก และเครื่องเล่นต่าง ๆ มาก กรรณาบอกเป็นเพราะตอนเด็ก ๆ เธอต้องทำงานหาเงินช่วยแม่ตั้งแต่เด็ก เงินทองที่หามาได้ก็ใช้ส่งเสียตัวเองเรียน ซื้อข้าวกิน ซื้อเสื้อผ้าใส่ ไม่มีเงินที่จะเอามาจ่ายกับอะไรที่มันสนุกสนาน เหมือนเด็กคนอื่น ๆ
    
    พงอินทร์ชวนกรรณาเล่นเครื่องเล่นด้วยกัน กรรณาเห็นว่ากำลังทำงานอยู่จึงรีบปฏิเสธ พงอินทร์บอกไว้หลังเสร็จงานจะพากรรณามาเที่ยว
    
    จู่ ๆ ก็มีเสียงประกาศจากประชาสัมพันธ์สวนสนุก บอกให้น้ำหนึ่งมาพบช่อเพชรที่ประชาสัมพันธ์ พงอินทร์รีบพากรรณาวิ่งไปที่ประชาสัมพันธ์ทันที
    
    พอไปถึง เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ชี้ให้ดูผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนหันหลังอยู่ พงอินทร์กับกรรณาเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินปะปนไปในหมู่คนครอบครัวที่มาเที่ยวเล่น จึงรีบเดินตามไปทันที
    
    เหมือนช่อเพชรจะรู้ตัว หลอกให้พงอินทร์กับกรรณาเดินตามไปทั่วสวนสนุก สุดท้ายหลอกให้ทั้งคู่เข้าไปติดอยู่ในเมืองหิมะที่กำลังปิดปรับปรุงอยู่
     
    ที่ติณห์มาช่วยญาณินไว้ได้ทันเวลา เพราะต้องการมาปรึกษาญาณินเรื่องหมอสมคิด กรรัมภาโทรศัพท์มาบอกว่าได้ข้อมูลเพิ่มเติมคดีพิมพิลาศ ณัฐเดชเลยต้องรีบเดินทางกลับกรุงเทพฯด่วน ส่วนติณห์ก็ต้องรีบกลับไปที่รีสอร์ทเพราะเบญจาโทรศัพท์มาตาม
    
    พงอินทร์กับกรรณาจะโทรศัพท์ตามคนมาช่วย แต่ในเมืองหิมะไม่มีสัญญาณ กรรณาทั้งหนาวทั้งหิว พงอินทร์จะช่วยกอดให้หายหนาว กรรณาไม่ยอม ลุกขึ้นมาขยับแข้งขา เตะต่อยอากาศ ออกกำลังให้หายหนาวแทน
    
    ติณห์ไม่อยากให้เบญจาสงสัย เลยโกหกไปว่าออกไปโทรศัพท์หาทนายสมชาติ ให้ช่วยถามเรื่องซื้อที่ดินกำนันพงษ์ให้ เบญจาไม่ติดใจสงสัย ช่วยมิรันตีจัดงานปาร์ตี้อินเดียนไนท์ให้รอบบี้คิดส์ต่อ ติณห์เซ็งสุดขีด แอบส่งข้อความบอกให้ญาณินรู้เรื่องงานปาร์ตี้
    
    สุคนธรสไม่เชื่อว่าสมคิดจะกลับมามีอาคมอีก ญาณินเลยพาสุคนธรสลอบเข้าไปในรีสอร์ท จะได้สัมผัสได้ว่าสมคิดยังเป็นจอมขมังเวทอยู่หรือเปล่า ไตรรัตน์เป็นห่วงสุคนธรส แอบตามไปด้วยทั้งที่ยังไม่หายดี
    
    วิญญาณคุณหลวงพยายามหาทางเตือนติณห์เรื่องหมอสมคิด เบญจาพยายามเก็บอาการทำเป็นเหมือนไม่เห็นวิญญาณคุณหลวง ติณห์จับสังเกต เบญจาแอบฉุนคุณหลวงที่มาโผล่ขัดอารมณ์ จึงแกล้งทำทีว่าตบยุง แต่ที่แท้แอบตบหน้า ปล่อยพลังทำร้ายวิญญาณคุณหลวง ติณห์เห็นทุกอย่างแต่แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น
    
    ออกกำลังได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง กรรณาก็เริ่มหมดแรง พงอินทร์ตัดสินใจดึงตัวกรรณาเข้าไปหลบหนาวในบ้านน้ำแข็งด้วยกัน ในนั้นมีหนังสัตว์ที่ใช้เป็นพร็อพในการตกแต่งอยู่ด้วย พงอินทร์เอาหนังสัตว์มาห่มให้กรรณา ทั้งคู่นั่งหลังพิงกัน เพื่อที่ความร้อนจะได้ถ่ายเทซึ่งกันและกัน
    
    ญาณินพาสุคนธรสกับไตรรัตน์ไปเดินตามหามิรันตีกับหมอสมคิด แต่กลับได้พบกรกฎเข้าเสียก่อน ญาณินกับสุคนธรสสบตากรกฎก็สัมผัสได้ว่าคนนี้ไม่ธรรมดา จึงรีบทำเนียน ๆ พาไตรรัตน์เดินหนีไปอีกทาง วิญญาณคุณหลวงหนีจากเบญจามาเจอเข้าพอดี
    
    สุคนธรสเห็นว่าบนฟ้ายังมีพระจันทร์ จึงชวนญาณินมาช่วยกันใช้พลังรักษาวิญญาณอันบอบช้ำของคุณหลวง แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร อยู่ ๆ คุณหลวงก็มีอาการแสบร้อนขึ้นมาเสียก่อน
    
    “คุณหลวง..ยัยรส คุณหลวงเป็นอะไร”
    
    ไตรรัตน์เห็นว่ามีคนเดินเข้ามาก่อน จึงเรียกญาณินกับสุคนธรส สองสาวมองตามสายตา ไตรรัตน์ไป พบว่าเบญจากำลังเดินเข้ามา โดยมี
    ติณห์เดินตามมา
    
    “พี่ติณห์..ดูสิคะว่าใครมา”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)