“ทำยังงี้มันหนีหน้ากันนี่หว่า เอาลูกฉันไปเป็นเดือนแล้วมาทำเฉยได้ไง คอยดูเหอะจะฟ้องว่าขโมยลูก” ลำยองขู่
“ฟ้องใครล่ะ” สมัยถามเย้ย ๆ
“ฟ้องใครก็ฟ้องตากวงน่ะแหละ”
“เธอยกให้เขาแล้วไม่ใช่เรอะ”
“ยกให้แต่มันเรื่องอะไรมากีดกันไม่ให้แม่ลูกเขาเจอหน้ากัน”
“ฉันไม่รู้ด้วยหรอกนะเรื่องนี้ ต้องไปคุยกับคุณกวงเขาเอาเอง”
“โรงงานใหม่เขาอยู่ไหน ฉันจะไปตามเขาเอง บ้านเขาด้วย บอกมานะบอกมา”
“ไม่บอกจะทำไม...ไม่ใช่หน้าที่”
“กรี๊ด...ด...ไอ้คนเฮงซวย...พรากแม่พรากลูกเขาไม่พอยังพรากผัวพรากเมียเขาอีก ไอ้คนใจร้าย”
“ฉันไม่ได้พรากนา....ตกลงกันเอง มาเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย บ้านผัวตัวเองไม่รู้จัก แล้วจะมาโทษใคร ไป...กลับบ้านไปซะเถอะ อย่ามาวุ่นวายแถวนี้อีก”
“กูเป็นเมียคุณกวงนะมึง” ลำยองขู่อีก
“ก็แค่เมียเก็บเอาไว้ให้เขาทำลูกละวะ” สมัยยิ้มเยาะอย่างไม่กลัว
“กรี๊ด...ด...” ลำยองจะกรี๊ดอีก
“หุบปากเลย...หนวกหู ถ้าลื้อไม่ออกไปดี ๆ อั๊วจะให้ยามมาลากออกไป”
ลำยองเหมือนถูกผลักเซออกมาจนล้มลงกับพื้น ยามปิดประตูรั้วหน้าโรงงานแล้วยืนคุมเชิงห่าง ๆ ลำยองแค้นใจคว้าก้อนหินข้างตัวเขวี้ยงโรงงานก่อนจะเดินออกไป...เสี่ยกวงยืนอยู่ตรงหน้าต่างห้อง ชั้นบนมองเห็นเหตุการณ์ตลอด เขาเป็นคนสั่งสมัยให้โกหก เพราะไม่ต้องการเจอกับลำยองอีก
“ไปแล้วครับ” สมัยเปิดประตูเข้ามา
“ผมเห็นแล้ว ขอบคุณมากคุณสมัย”
“โชคดีนะที่คุณเปลี่ยนรถ เปลี่ยนห้องทำงาน ไม่งั้นมีหวังเรื่องยาวแน่”
“ไม่หรอก สำหรับผมให้เงินแล้วก็ถือว่าจบกันไปแล้ว...ลูกคือความรับผิดชอบของผม ถ้านิสัยเขาดีกว่านี้สักหน่อยผมอาจจะสงสารแล้วก็เลี้ยงดูส่งเสียเขาต่อไปก็ได้ แต่นี่ ไม่ไหว ยิ่งเขาทำตัวตํ่าเท่าไร ผมยิ่งรู้สึกผิดต่อลูกเมียผมมากขึ้นเท่านั้น”
“ผมว่ายังไงเขาก็ต้องกลับมาอีก”
“เรื่องลูกน่ะเป็นแค่ข้ออ้าง ผู้หญิงคนนี้หิวเงินยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น...เข็ดแล้วคุณสมัย...ผมเข็ดแล้วจริง ๆ”
ลำยองเดินกลับบ้าน แวะซื้อเหล้าที่ร้านค้าซดเหล้ากั๊กพรวดเดียวหมดจอกหน้าตาบิดเบี้ยวเพราะฤทธิ์อันร้อนแรง แต่อึดใจหลังจากนั้นกลับกลายเป็นความอภิรมย์เดินเหน็บขวดเหล้าไป พอถึงบ้าน เห็นยายแลท้าวสะเอวยืนปักหลักรออยู่
“นังลำยอง...อีโง่ทำไมมึงถึงได้โง่ยังงี้วะ”
“อะไรแม่ ฉันยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่นะ”
“มึงให้ลูกชายเขาไปแล้ว ทีนี้เขาจะกลับมาหามึงทำไม สู้ไปหาอีพวกสาวสิบหกนอนกกเล่นไม่ดีกว่าเรอะ อีโง่จะทำอะไรทำไมไม่ปรึกษากูก่อน”
“แม่รู้ได้ไงเนี่ย”
“มึงนึกว่ากูหูหนวกตาบอดเรอะ เขาลือกันไปทั้งซอย”
“อีพวกปากมาก เรื่องของคนอื่นสาระแนอยากรู้กันนัก”
ลำยองเดินเข้าบ้าน ยายแลตามไปพูดต่อ
“บ้านช่องก็ปิดเงียบเชียบ คนใช้มันหายหัวไปไหนกันหมด”
“มันลาออกกันไปหมดแล้ว”
“แล้วเอ็งจะทำยังไง”
“แม่ก็หาคนใช้ใหม่มาให้ฉันซักคนสิ เอาไว้ซักผ้า ถูบ้าน กับข้าวไม่ต้องทำฉันจะกินกับแม่ ฉันให้แม่เดือนละแปดร้อย ตกลงไหม”
“แล้วคนใช้กับไอ้วันมันจะกินยังไง”
“สาย ๆ กับเย็น ๆ แม่ก็ให้ไอ้ปานมันหิ้วปิ่นโตมาส่งสิไอ้วันน่ะเช้า ๆ ก็ให้มันไปกินเอาที่โรงเรียน ให้เงินมันไปซื้อเอาเอง”
“ให้ลูกเขาไปแล้ว คุณกวงเขาไม่กลับมาหาเอ็งอีก เอ็งจะทำยังไง”
“ไม่ต้องกลัวน่า...ยังไงเขาก็ต้องมา” ลำยอง ยังเชื่อมั่นในเสน่ห์ของตัวเอง
“เอ็งนึกยังไงวะให้ลูกเขาไปเนี่ย”
“มันเลี้ยงยากจะตายแม่ เดี๋ยวเป็นหวัดเดี๋ยวตัวร้อน เดี๋ยวขี้ไหลร้องทั้งวันเยี่ยวทั้งคืน หาหมอไม่รู้อาทิตย์ละกี่หน เบื่อจะตาย ย่ามันอยากได้ไปเลี้ยงเองให้ตั้งสามหมื่นใครไม่เอาก็โง่ละ”
“สามหมื่น...มิน่า...ทองเต็มตัวมึงเลย แล้ว ก็ไม่ให้กูซักบาท” ยายแลบ่น
“เอ๊อ...ไอ้อภิชาติมันลูกฉันนะไม่ใช่ลูกแม่ซะหน่อย”
“มันก็ต้องสำนึกบุญคุณกันบ้างโว้ย”
“ก็ที่ฉันให้แม่เดือนละแปดร้อยค่ากับข้าวนั้นไง แม่ก็ไปจัดการเอาเองสิ”
“สมัยไอ้วัน อีย่ามันให้แค่สามพัน ไอ้อภิชาตินี่ ได้สามหมื่นเชี่ยวเหรอวะ”
“ก็นั้นนะสิ ฉันถึงได้ให้ไปไง คุณกวงเขาอยากได้ลูกชายหลาย ๆ คน ยังไงเขาก็ต้องกลับมาหาฉันอีก แม่ค่อยดูเหอะ” ลำยองพูดอย่างผยองลำพองใจ
หลังหมั้นหมายสันต์ก็แต่งงานกับเทวีด้วยพิธีที่เรียบง่ายแต่ถูกต้องตามประเพณี สันต์ไปอยู่บ้านใหม่ที่ซื้อร่วมกับเทวีถึงวันหยุดทั้งสองก็แวะมาที่เรือนแพและช่วยกันทำอาหารให้พ่อสินกับแม่ปั้นกิน “สันต์คะ เดี๋ยวกินข้าวแล้ว เราไปหาวันเฉลิมกันนะคะ”
“วันนี้วันเสาร์ ไอ้วันมันคงขลุกอยู่ที่กุฏิหลวงลุงปิ่นน่ะแหละ” แม่ปั้นบอก
“หนูซื้อขนมกับของเล่นมาให้แกหลายอย่างนะคะ”
“ขอบใจมากนะหนูเทวี ที่อุตส่าห์เมตตา เอ็นดูไอ้วันมัน”
“วันเฉลิมแกเป็นเด็กน่ารักนี่คะพ่อ”
“หนูไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจก็ดีแล้ว ถือว่าเป็นบุญของไอ้วันมัน”
พ่อสินกับแม่ปั้นพอใจที่สะใภ้คนใหม่รักใคร่เอ็นดูหลานชายซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเธอ....จากนั้นสันต์กับเทวีชวนกันไปวัดเจอวันเฉลิมหิ้วหม้ออวยเดินสวนทางมาก็เรียกถาม วันเฉลิมบอกเอาก๋วยเตี๋ยว ที่ร้านลำยงไปให้แม่ สันต์ฟังแล้วสงสารลูก เทวียื่นถุงขนมกับของเล่นให้ วันเฉลิมไหว้ขอบคุณก่อนรับถุงของมาจากเทวี
“มาอยู่กับพ่อไหมวัน พ่อได้ยินมาว่า ป๊าเขาก็เอาน้องไปเลี้ยงแล้ว บางทีแม่เขาอาจจะสบายขึ้น ถ้าไม่ต้องคอยห่วงวันอีกคน”
“วันต้องถามแม่ก่อนครับ” “อาเทวีรู้จักโรงเรียนอนุบาลดี ๆ ใกล้ ๆ บ้านใหม่พ่อตั้งหลายที่นะลูก” เทวียิ้มให้วันเฉลิมอย่างเอ็นดู “วันต้องรีบเอาก๋วยเตี๋ยวไปให้แม่แล้วครับ แม่คอยวันนานแล้ว” สันต์เจื่อนที่วันเฉลิมยังห่วงแม่มาก เขาได้แต่มองตามลูกชายไป เทวีได้แต่จับแขนสันต์บีบเบา ๆ ปลอบใจเพราะรู้ดีว่าสันต์รู้สึกยังไง...ขณะที่ลำยองไปตามหาเสี่ยกวงที่โรงงานอีกครั้ง สมัยรับหน้า บอกเสี่ยกวงไม่อยู่เหมือนเดิม “โกหก...งั้นไอ้รถที่จอดอยู่ข้างนอก นั่นมันรถใคร ถ้าไม่ใช่รถผัวฉัน” ลำยองเตรียมจะอาละวาด อาซ้อเมียเสี่ยกวงเข้ามาพอดี “ผู้หญิงที่ไหนมาตามหาผัวถึงนี่ ไม่รู้จักอับอาย”
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง