เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 9 ต.ค. ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ได้มีนัดพิจารณาไกล่เกลี่ย คดีดำเลขที่ พ582/56 ระหว่าง น.ส.ดาวิก้า โฮร์เน หรือชื่อในวงการ ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ นางเอกสาวชื่อดัง กับนายศุภชัย ศรีวิจิตต์ หรือเอ อดีตผู้จัดการส่วนตัว โดยใหม่-ดาวิกา เดินทางมาศาลด้วยตัวเอง พร้อมกับนายวิกรม โพธิ์ตระกูล หรือเกล้า ผู้จัดการคนปัจจุบัน และนายกิตติพงศ์ ฐิติธัญวรัตน์ ทนายความ ส่วนทางฝั่งนายศุภชัยนั้นมีเพียงทนายความ น.ส.โกสุม ประสพเสาวลักษณ์ มาเท่านั้น ซึ่งภายหลังจากการไกล่เกลี่ยกันเรียบร้อยแล้ว ใหม่-ดาวิกา ก็ได้เดินมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โบกมือทักทายสื่อมวลชนที่ไปปักหลักรอทำข่าวกันเป็นจำนวนมาก และแฟนคลับที่ตามไปให้กำลังใจหลายสิบคน
ใหม่-ดาวิกา เปิดเผยว่า การไกล่เกลี่ยวันนี้ผลออกมาในทางที่ดี ก็อยากให้ทุกคนยินดีด้วยกับเรื่องนี้ ตอนแรกมีความเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนกันนิดหน่อยเรื่องเงิน แต่ตอนนี้ก็เข้าใจตรงกันแล้ว ในฐานะที่ใหม่เป็นเด็กก็ขอออกมาขอโทษฝ่ายพี่เอก่อนแล้วกัน ถึงพี่เอจะไม่ได้อยู่ในที่นี้ ใหม่ก็หวังว่าพี่เอจะเห็นการกระทำของน้องใหม่ในวันนี้ การไกล่เกลี่ยในวันนี้ก็ถือว่าจบแบบส่วนตัว ได้โทรศัพท์คุยกับพี่เอแล้วก็สบายใจค่ะ ความสัมพันธ์ของเราก็ปกติค่ะ เรายังสามารถเจอกันได้ พี่เอยังบอกว่าไว้นัดทานข้าวกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการชดใช้ค่าเสียหายกันเป็นจำนวน 3 ล้านตามข่าวจริงหรือไม่ นายวิกรม ผู้จัดการส่วนตัว เปิดผยว่า เรื่องจำนวนเงินเราขอไม่พูดถึงเลยดีกว่า ต่างคนก็ต่างพอใจในจุดที่เราตกลงกัน แต่ละคนก็ไปทำหน้าที่ของตัวเอง แล้วก็ไปทำในสิ่งที่ตกลงกันไว้ อย่าเรียกว่าเป็นค่าเสียหายหรืออะไรเลย เอาเป็นว่าเราทำตามที่ตกลงกันไว้ดีกว่า
ด้าน น.ส.โกสุม ทนายความของเอ-ศุภชัย เปิดเผยว่า สัญญาที่คุณใหม่ทำไว้กับคุณเอก็ได้ยกเลิกกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับเรื่องคดีความต้องขอกับสื่อมวลชนทุกคน รวมถึงแฟนคลับของทั้งทางคุณใหม่และคุณเอด้วยว่าอย่าพูดถึงอีก มันจบแล้วในทางศาล จบแล้วก็คือจบ ด้านนายกิตติพงศ์ ฐิติธัญวรัตน์ ทนายความของใหม่ ดาวิกา กล่าวว่า ในส่วนของสัญญาว่าจ้างนั้นเป็นอันยุติ ต่างฝ่ายต่างทำงานในวงการบันเทิงต่อไป ส่วนเรื่องค่าชดใช้นั้นตนไม่ขอพูดถึงเนื่องจากเป็นรายละเอียดที่อยู่ในชั้นศาลที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ สำหรับคดีนี้ นายศุภชัย หรือเอ ศรีวิจิตต์ ผู้จัดการดารา - นักแสดงชื่อดัง เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ดาวิกา หรือใหม่ โฮร์เน นางเอกชื่อดังจากภาพยนตร์ เรื่อง พี่มากพระโขนง เป็นจำเลย เรื่องผิดสัญญา เรียกค่าเสียหายจำนวน 11.5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โจทก์ยื่นฟ้อง ขอให้ศาลมีคำพิพากษา ให้จำเลยชดใช้เงินจำนวน 11.5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี รวมทั้งขอให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญา ที่แต่งตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการส่วนตัวและจำเลยต้องได้รับความยินยอมจากโจทก์ในการรับงานแสดงละคร ภาพยนตร์ พิธีกร ผู้ประกาศ โฆษณา ร้องเพลงทุกประเภท รวมทั้งให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์ ภายหลังการเจรจานาน 6 ชั่วโมงจึงได้ข้อยุติโดยต่างยินยอมถอนฟ้อง
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง
