ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวอังคารสีเลือดโหรทำนายสารพัดปัญหารุมเร้า  (อ่าน 879 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ KimZii

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 791
  • Level:
    0%
  • Thank : 14
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด




วันนี้ (5 มี.ค.) นายภิญโญ พงษ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติแห่งประเทศไทย
 
เผยผลทำนายการโคจรของดาวอังคารมาอยู่ใกล้โลกมากที่สุดในวันที่ 5 มี.ค.นี้  ว่า ทางโหราศาสตร์เรียกดาวอังคารเป็นดาวประจำของกองทัพหรือดาวแห่งการสู้รบยอดขุนพล ลักษณะการโคจรครั้งนี้มีความวิปริตเดินถอยหลัง และได้อิทธิพลจากการเกิดดาวอังคารเต็มดวงทำให้มองเห็นเป็นสีเลือดคือสีส้มกับสีแดง และยังเล็งกับพระอาทิตย์ในมุม 180 องศา ทำให้ดาวอังคารดวงใหญ่เท่ากับพระอาทิตย์ แถมยังโคจรในราศีสิงห์ซึ่งเป็นธาตุไฟและเล็งลัคนาภพปุตะในดวงเมืองเรียกว่าเกิดพินธุบาวท์ หรือเกิดจุดแตกร้าวในดวงเมือง โดยดาวอังคารจะโคจรวิปริตตั้งแต่เดือนมี.ค.-มิ.ย.นี้ จึงต้องระมัดระวังให้มากโดยเฉพาะเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง เรื่องสถาบันที่เกี่ยวข้องกับการสืบทอดอำนาจ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นปี 52-53 ที่มีการเผาบ้านเผาเมือง มีคนล้มตายจำนวนมากเรียกว่าเป็นปีอาเพศ อะไรที่เหมือนไม่น่าจะเกิดก็เกิดขึ้นได้ทุกอย่าง

นายกสมาคมโหราศาสตร์ฯ กล่าวว่า ดาวอังคารยังหมายถึงกองกำลังนอกกฎหมายที่มาสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองหลังจากความพยายามปองดองไม่สำเร็จ

แผ่นดินไทยต้องแยกออกเป็นสองฝ่ายอีกครั้ง หนำซ้ำจะเกิดปัญหาความขัดแย้งกับมิตรต่างประเทศที่เคยเป็นคู่ค้า รวมทั้งกับประเทศเพื่อนบ้านจนมีการสู้รบเกิดขึ้น อีกทั้งดาวอังคารที่เดินถอยหลังทำให้เกิดภาพของกองทัพไทยไม่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่จะเกิดยอดขุนพลที่มาช่วยบ้านเมือง อย่างไรก็ตามจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิด และสิ่งคาดการณ์ไว้ก็จะไม่เกิด นอกจากนี้ยังต้องระวังภัยธรรมชาติไว้ด้วย ซึ่งน่าห่วงเรื่องแผ่นดินไหว โดยในตำราระบุว่าพสุธาจะดูดกินเลือดคน และระวังเหตุเครื่องบินตกครั้งสำคัญหรืออาจโดนวินาศกรรม แถมโรคระบาดใหม่ๆจะเกิดขึ้นจนส่งผลให้ตัวผู้นำหรือนายกรัฐมนตรีเกิดปัญหาสุขภาพถึงขั้นผ่าตัด หรือเกิดอุบัติเหตุ แต่จะอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกินปลายปี 55


อย่างไรก็ตามแม้จะเปลี่ยนตัวผู้นำหรือรัฐบาล ประเทศไทยก็มีความขัดแย้งวุ่นวายไม่จบสิ้น
 
เพราะเป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย ความขัดแย้งจนเกิดการต่อสู้มีคนบาดเจ็บล้มตายจะลุกลามไปจนถึงปี 57 เพราะอิทธิพลของดาวเสาร์และดาวราหูทับดวงเมืองอยู่ถึง2ปีครึ่ง หลังจากนั้นประเทศไทยจะศิวิไลซ์มีความสงบสุขและเจริญทุกๆด้าน


นายภิญโญ ทำนายต่อว่า ดวงเมืองในปี55 ถูกเล็งด้วยราศีสิงห์  เมษ และธนู พร้อมกับมีดาวราหูและดาวเสาร์

มาทับดวงเมืองต่อจากดาวพระอังคาร จะทำให้มีอุบัติภัยครบเกือบทุกด้านทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ แต่พลัดเดือนกันเกิดตลอดทั้งปี โดยตอนนี้จะเจอแล้งจัด เกิดลมพายุวิปริตและแผ่นดินไหว แต่เดือน ก.ย.จะเกิดฝนตกหนักน้ำมามากเหมือนปี 54 หากเตรียมตัวไว้จะเป็นการป้องกันได้ระดับหนึ่ง.



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 


 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)