ควงกันมาร่วมงานแถลงข่าวโครงการ “คนไทยยังให้กันอยู่” ที่พระนิเวศน์เรือโนอาห์ คริสจักรมหาชล 999 ด้วยกันเป็นครั้งแรก สำหรับคุณแม่คนเก่ง ตู่-นันทิดา แก้วบัวสาย และคุณลูกที่น่ารักอย่าง น้องเพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม งานนี้เลยต้องถามถึงความรู้สึกที่ทั้งคู่ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ นานา จนตู่ถูกยกให้เป็นผู้หญิงที่แกร่ง พร้อมอัพเดทความสัมพันธ์ระหว่างน้องเพลงกับคุณพ่อ เอ๋-ชนม์สวัสดิ์ ว่าเหมือนเดิมหรือไม่ด้วย ตู่ เผยว่า “กับข่าวที่เกิดขึ้น สิ่งที่บอกกับลูกเสมอ ก็คือชีวิตคนเราต้องยืนอยู่ด้วยความจริง มันเป็นสิ่งที่เราเองก็ถูกสอนมาตั้งแต่เด็ก คุณพ่อเราเองก็บอกว่าชีวิตลูกจะอยู่ให้มีความสุขจริง ๆ ก็ต้องเดินอยู่บนความจริง และบนความจริงก็ต้องมีความเข้าใจเป็นพื้นฐาน แล้วคนที่มีความสุขที่สุดก็คือตัวเรานี่แหละ การให้มันเป็นความสุขจริง ๆ แต่ถ้าให้ด้วยความจำใจ มันก็จะรู้สึกเองว่ามันเป็นการไม่ปลดปล่อย อย่างที่เราเองบอกว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราอยู่ในวงการนี้มา 39 ปี สิ่งที่เราได้รับนอกจากคนในครอบครัว พี่น้องและเพื่อนฝูงก็คือแฟนเพลงที่ให้เรา ทุกครั้งที่เราอยู่บนเวทีก็จะรู้สึกเลยว่าเขาได้ให้ความรักที่แท้จริง เรายืนอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะสิ่งนี้ที่ทุกคนให้ความรักที่เราเป็นศิลปิน เราก็เอาสิ่งนี้ที่เป็นพลังกำลังใจมาขับเคลื่อนชีวิตเรา เจออุปสรรคอะไรเราก็ผ่านไปได้ค่ะ จริง ๆ ต้องบอกว่าเราเองก็เติบโตมาในครอบครัว ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่สุด อะไรที่จะปกป้องเราได้มากที่สุด วันนี้อายุพอเรา 54 แล้วก็รู้สึกว่ามาจากความรักจริง ๆ ที่เราได้ยินว่าการกอดกันทุกวันทำให้ครอบครัวแข็งแรง คือเราเติบโตมาจากสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความรักของคนในครอบครัว วิธีการเลี้ยงของเราคือการอยู่ใกล้กับลูก อย่างที่บอกว่าเราจะเป็นไหล่ให้ลูกพิงไปตลอดชีวิต ความรักลูกไม่มีวันหมดสิ้นอยู่แล้ว” รู้สึกยังไงบ้างที่ถูกยกให้เป็นผู้หญิงแกร่งและเก่ง? "กว่าจะแกร่งได้มันต้องข้ามเส้นตรงนั้นให้ได้ การที่เราต้องชนะใจตัวเอง ต้องชนะความรู้สึกที่เป็นคำว่าให้จริง ๆ ให้ที่เป็นการเสียสละ เราต้องไม่รู้สึกว่าเราไม่จำใจที่จะให้ หลายสิ่งหลายอย่างที่สอนเรา ชีวิตที่เราผ่านมาก็อาจจะมีปัญหามากมาย แต่ว่าเราไม่เคยที่จะหนีปัญหานั้น อย่างที่พี่บอกเดินกับความจริง มันไม่ได้หลอกตัวเองคือสิ่งที่ดีที่สุด เราอาจจะไม่ใช่ผู้หญิงแกร่งหรอกค่ะ แต่เราเลือกทางเดินที่ถูก เราอาจจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะมีความสุขได้ ส่วนหนึ่งคือการที่เราได้เห็นตัวอย่างที่ดีของคุณพ่อคุณแม่ และในครึ่งชีวิตที่ได้มีโอกาสเดินในสายพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และตอนนี้ได้มาเดินในสายของพระบิดา มาเติมเต็มชีวิตให้เรามีกำลังใจ ได้มองเห็นโลกที่ให้ความรัก แต่อย่าพูดว่าเราเก่งเลย รู้สึกว่ายังไม่ใช่ เราต้องเรียนรู้ไปอีกค่ะ" ถามถึงแพลนการศิลปินของน้องเพลงมีบ้างมั้ย? “เราก็บอกน้องเพลงว่า ถ้าลูกชอบจริง ๆ แล้วให้ไปค้นหาตัวเองก่อน เราถึงได้ไปนิวยอร์คที่ผ่านมา เราไปมา 3 ปีแล้ว ไปทุกซัมเมอร์ แล้วตอนนี้น้องเพลงสอบติดนิเทศจุฬา ฯ เพลงเลยบอกอยากอยู่เมืองไทยก่อน เราก็คิดว่าดีเหมือนกัน แรก ๆ ก็อยากให้เขาไปเรียนที่นิวยอร์คเลยถ้าเขาชอบการแสดง แต่ไป ๆ มา ๆ คือเรามีลูกสาวคนเดียว เพลงเลยบอกว่าไม่เป็นไร ลูกอยู่ใกล้แม่ก่อนก็ได้ เลยต้องเก็บโปรแกรมไปเรียนเมืองนอกไว้ก่อน แต่จริง ๆ เราวางโปรแกรมนี้มา 5 ปีแล้วว่าให้เขาไปเรียนเมืองนอกอยู่แล้ว แต่เพลงก็บอกว่าปริญญาตรีอยู่เมืองไทยก็ดีนะ เดี๋ยวค่อยไปต่อโทที่โน่น หรือถ้าเขาชอบจริงๆ ก็อาจจะดร็อปปริญญาตรีไว้ แล้วไปต่อเพอร์ฟอร์มิ่งอาร์ต 1 ปีที่นั่น"
พอถูกถามว่าน้องเพลงมีให้กำลังใจแม่ยังไงบ้าง ซึ่งน้องเพลง เผยว่า “จริง ๆ เพลงก็อยู่เคียงข้างคุณแม่เสมอ เวลาที่คุณแม่ต้องการใคร ความรักที่เคยมีให้คุณแม่ไม่เคยหมดไป สำหรับเรื่องข่าวที่เกิดขึ้น จริง ๆ เราไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เข้าใจกันดีอยู่แล้ว เราก็จับมือกันไว้ และอยู่เคียงข้างกัน คือคุณแม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้เราเสมอ เราภูมิใจที่คุณแม่เป็นผู้หญิงเก่ง เข้มแข็ง แข็งแรง เราก็จะเดินตามคุณแม่ และจะเข้มแข็งเหมือนคุณแม่ค่ะ” ถามถึงความสัมพันธ์กับคุณพ่อเอ๋ เป็นยังไงบ้าง? "ก็ติดต่อเหมือนเดิม ระหว่างเพลงกับคุณพ่อไม่มีอะไรเปลี่ยนค่ะ คือเรายังพูดคุยกันและยังรักกันเหมือนเดิมค่ะ" ตู่ เสริมว่า "ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงเพลงนะคะ ไม่เป็นไร เพลงโตแล้วค่ะ"
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง
