นรสิงห์มองทุกคน ยังไม่ทันตอบ ไผ่ก็ขัดขึ้นก่อน
“พอแล้ว ไม่ต้องไปฟังมันพล่ามอะไรอีก มันไม่ได้เจตนาดีกับพวกเราเลย ออกไปจากที่นี่ได้แล้ว เรามาเพื่อสืบคดีฆาตกรรม...ไม่ใช่มานั่งฟังเรื่องเหลวไหลบ้าบอ”
ไผ่กระตุกเรื่องงานขึ้นมา วิกกี้หน้าตาขึงขังขึ้นมาทันที
“จริงด้วย...ป่านนี้ผู้กองพัทธ์คงถามหาฉันแล้ว ไป...กลับกันได้แล้ว มีอะไรไปเคลียร์ข้างนอก...วิกกี้ขอตัวก่อนนะคะ พอดีวิกกี้ต้องเป็นคนสรุปเรื่องคดี ป่านนี้ผู้กองพัทธ์คงคิดถึงวิกกี้แย่แล้ว”
วิกกี้คว้ากระเป๋ายกมือไหว้นรสิงห์ ก่อนจะก้าวฉับ ๆ ออกไป รัดเกล้ามองนรสิงห์ด้วยสายตาอยากรู้เรื่องราวต่อมาแต่ถูกวิกกี้ที่เดินกลับมาดึงมือ ตวัดสายตามองค่อนไผ่
“ไปกับฉัน ยายเกล้า...เดี๋ยวพวกหื่น มันจะฉวยโอกาสลวนลามแก”
“ผมเชื่อว่าเรื่องที่คุณเล่ามันไม่ใช่นิทาน แล้วสักวันผมจะต้องรู้จุดจบของเรื่องนี้ให้ได้”
วิวมองนรสิงห์อย่างเชื่อมั่น ก่อนจะเดินออกไปอีกคน นรสิงห์หันมามองไผ่ที่ยืนจ้องอย่างท้าทาย
“แล้วคุณล่ะ ไม่อยากรู้ตอนจบของคุณบ้างเหรอ”
“ตอนจบสั้นนิดเดียว...ฉันฆ่าแก”
ไผ่จ้องนรสิงห์อย่างเกลียดชังแล้วเดินออกไป นรสิงห์มองตามด้วยสายตาคมกริบ
“น่าสงสาร ที่แกคิดผิดมาตลอด ฉันต่างหากล่ะที่ฆ่าแก...ฆ่าทุกชีวิต ไม่มีใครเหลือเลยสักคน”
สายตานรสิงห์กลับสลดลง หางเสียงท้ายประโยคเจือแฝงไว้ด้วยความเศร้าลึกสุดประมาณ
ในขณะที่วิกกี้กับพวกกำลังจะออกจากบ้านนรสิงห์ พัทธ์ก็แวะมาหาเพชรดาที่บ้านพร้อมกับยอดชาย และได้มาทันเห็นเหตุการณ์ที่เพชรดาถูกผลักตกบันไดลงมา โดยมีอภิวัฒน์และสิริรัตน์อยู่ในบริเวณนั้นด้วย
“ผมขอเชิญคุณสองคน ไปให้ปากคำที่สำนักงานสืบ”
“ฉันพูดไปหมดแล้ว...หูแตกกันหรือไง ถึงไม่จดไม่จำอะไรเลย ไม่มีอะไรที่ฉันต้องให้การคดีพี่ดำอีกแล้ว”
“ไม่ใช่ครับ ผมจะขอสอบปากคำอีกคดี” พัทธ์พูดเสียงเข้ม
“คดีอะไร”
“พยายามฆ่าคุณเพชร” พัทธ์พูดเสียงเข้มชัด
อภิวัฒน์ชะงัก สิริรัตน์ยืนตะลึง
“ฉันไม่ได้ทำ” สิริรัตน์บอก
“แต่เราเห็นชัด ๆ ว่า คุณถีบคุณเพชรตกบันได” ยอดชายยืนยัน
“ชั้นไม่ได้ถีบ”
“ด้านหลังคุณเพชรมีคนอยู่สองคน...ไม่ใช่ คุณ ก็ต้องเป็นอีกคน” พัทธ์พูดพลางเลื่อนสายตามาที่อภิวัฒน์
“ไม่ต้องมาสงสัยฉัน ฉันไม่ทำอะไรชั่ว ๆ แบบนี้แน่ เพชรนี่น้องรักของฉันนะ”
เพชรดาหันมาอ้าปากค้าง สิริรัตน์หันมองอภิวัฒน์อย่างเคือง ๆ ที่เอาตัวรอดคนเดียว
“ไม่ใช่คุณสองคน ก็แสดงว่าบ้านนี้มันคงมีวิญญาณผีร้าย ถึงได้ถีบคุณเพชรกลิ้งตกลงมาแทบคอหักตาย”
“คงจะเป็นวิญญาณผีพี่ดำ...ใช่มั้ยเพชร”
อภิวัฒน์หันไปมองเพชรดาด้วยสายตาขู่เข็ญ
“ทำไมไม่บอกเค้าไปล่ะว่า แกตกบันไดลงมาเอง...พวกชั้นไม่เกี่ยว”
“พูดความจริงมาเลยครับ คุณเพชร ผมอยู่ที่นี่ คุณไม่จำเป็นต้องเกรงหรือกลัวใครที่คิดจะฆ่าคุณ”
“งั้นก็บอกเค้าไปสิ เพชร ว่า พี่ชายคนนี้กล้าทำร้ายน้องสาวที่เค้ารักมากที่สุด”
อภิวัฒน์ใช้ทั้งสายตาและคำพูดที่จะกดดันเพชรดา
“คุณเพชร...สองคนนี้พยายามจะฆ่าคุณใช่มั้ย”
เพชรดาตัดสินใจ รีบหันไปทางพัทธ์
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ไม่มีจริง ๆ ฉันลื่นเอง”
“คุณเพชรอาจจะเห็นแก่พี่น้อง แต่ผมมาเพื่อจับฆาตกร ไม่สนใจว่าจะเป็นพี่ใครน้องใคร”
พัทธ์มองจ้องอภิวัฒน์ด้วยสายตาเอาเรื่อง
“คุณยังมีโอกาสพูดความจริงนะครับคุณเพชร หรือจะรอให้บ้านนี้มีคนตายเพิ่มขึ้นจากฝีมือคนอำมหิตที่ยังลอยนวล”
“อย่าปากพล่อย ผู้กอง ที่นี่บ้านผม คุณโผล่มาอย่างนี้ ผมต่างหากที่จะยัดคุณไปนอนในห้องขัง”
“ผมมีสิทธิมาที่นี่ในฐานะตำรวจเจ้าของคดี แล้วการที่ผมมาโดยไม่ได้นัด...มันก็ทำให้คดีนี้คืบหน้าไปมาก เพราะสิ่งที่ผมกับยอดชายเห็นเมื่อกี้...มันคือการพยายามฆ่าปิดปากพยาน” พัทธ์ย้ำ
“เพชร มันบอกแล้วว่ามันลื่นล้มลงมาเอง...คุณนี่ มันจะทำเกินหน้าที่ไปหน่อยแล้วนะ หรือว่าอยากปิดคดีนี้เร็ว ๆ เอาไว้เลื่อนขั้นตัวเอง” อภิวัฒน์ขึงขังไม่พอใจ
“หมิ่นประมาทเจ้าพนักงานก็ติดคุกได้นะครับ”
อภิวัฒน์เงียบทันที ขณะที่สิริรัตน์เริ่มยืนไม่ติด
“ฉันไม่เกี่ยวนะ คุณวัฒน์ด่าผู้กองคนเดียว เพชรมันก็ลื่นตกบันไดเอง”
“หุบปากได้แล้ว สิริรัตน์” อภิวัฒน์ตวาด
“บ้านนี้คงต้องอยู่ใต้อำนาจของคุณหมดทุกคน” พัทธ์ดักคอ
“พอหมดบารมีพี่ชายคนโต คนที่รออยู่ก็พร้อมจะผงาดขึ้นมาเป็นใหญ่เพื่อแทนที่ ครอบครองทุกอย่าง”
“อืม ก็ปากเสียอย่างนี้ซินะ ถึงได้แป้กอยู่แค่ร้อยตำรวจเอก...หน้าตาดูมีอายุมากแล้วนี่”
พัทธ์จ้องอภิวัฒน์ที่พูดจาดูถูก แล้วเอ่ยสั่ง
“ยอดชาย โทรฯ ไปบอกคนของเรามาดูแลความปลอดภัยให้คุณเพชรดาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง จนกว่าคุณอภิวัฒน์ คุณสิริรัตน์จะยอมไปให้การที่สำนักงานสืบ”
สิริรัตน์สีหน้าไม่ดี เพราะกลัวถูกจับ ส่วนอภิวัฒน์สีหน้ากังวลขึ้นมาทันที
พัทธ์กับยอดชายอยู่ที่บ้านอภิมุข จนกระทั่งมีตำรวจมาเฝ้ายามที่หน้าบ้านจึงยอมลากลับไป...จากนั้น อภิวัฒน์จึงเปิดฉากขู่เข็ญเพชรดาอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง