ถ้าจะเอ่ยถึงเวทีคอนเสิร์ตแท้ ๆ ที่ออกอากาศมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน จนกลายเป็นความบันเทิงที่ผู้ชมทั่วทั้งประเทศติดกันแจ ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอทีวีช่อง 7 สี ในช่วงเวลาประมาณเที่ยง ของทุกวันเสาร์ แน่นอนเรากำลังพูดถึง รายการ “7 สีคอนเสิร์ต” คอนเสิร์ตที่มีเอกลักษณ์หลากหลาย เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมอย่างมั่ก..มาก เรียกว่า “เรตติ้งอันดับ 1 ไม่มีตก” เพราะอะไร?วันนี้ “วาไรตี้เถิดเทิง” จะขอพาไปย้อนรำลึกถึงจุดกำเนิดของรายการทีวีรายการนี้ ที่มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่อีกรายการหนึ่ง
รายการ 7 สีคอนเสิร์ต มีกำเนิดเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อวันเสาร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ.2529 โดยสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ไม่ว่าจะคัดเลือกศิลปิน การจัดเวทีแสงเสียงไปจนถึงถ่ายทอดสดและขายโฆษณาเอง โดยครั้งแรกนั้นจัดขึ้นที่ “ลานเพลินเจ็ดสี” ซึ่งเป็นพื้นที่ด้านหลังอยู่ในสถานีช่อง 7 ใกล้กับสถานีขนส่งหมอชิต (เก่า) โดยมี สุบัณฑิต สุวรรณนพ เป็นผู้กำกับรายการคนแรก (ปัจจุบันเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตรายการของสถานี) และมีพิธีกรที่ดำเนินรายการ 2 คนในครั้งแรก นั่นก็คือ เบิร์ด- ธงไชย แมคอินไตย์ กับ มยุรา ธนะบุตร (เศวตศิลา) ที่ถือว่าเป็นพิธีกรคู่ประวัติศาสตร์ของรายการนี้ ที่มอบความสนุกสนานแบบสด ๆ ทำให้พี่เบิร์ดได้รับรางวัลเมขลา ในฐานะผู้ดำเนินรายการดีเด่นปี 2529 และปีต่อมา มยุราก็ได้รางวัลเดียวกันอีก
ต่อเนื่องมาเกือบสามปีแล้วจากนั้นก็ปรับเปลี่ยนพิธีกรฝ่ายชายเป็น แซม-ยุรนันท์ มาร่วมเป็นพิธีกรเมื่อตอนปี พ.ศ.2531 คู่กันมายาวจนถึงปี 2536 มีศิลปินดังระดับประเทศในยุคนั้นต้องผ่านเวทีนี้เหมือนเป็นเกียรติบัตรการยอมรับทางสังคมว่าดังจริง เพราะไม่ว่าจะเป็น พุ่มพวง ดวงจันทร์, สาว สาว สาว,18 กะรัต, นันทิดา แก้วบัวสาย, มาลีวัลย์, จารุณี สุขสวัสดิ์, คาราบาว, เบิร์ด ธงไชย, อัสนี วสันต์ ฯลฯ เรียกว่า เป็นที่รู้กันว่าใครดังจริงก็จะได้ขึ้นเวทีนี้ แม้ว่าจะมีเรตติ้งท่วมท้นแต่ทางสถานีก็ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอมาตลอด และปรับพิธีกรคู่ใหม่เป็น หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ คู่กับ นัท-มีเรีย เบนเนเดดตี้ ซึ่งตอนนั้นทั้งคู่เป็นดาราที่มาแรงมาก ๆ เป็นคู่พระเอกนางเอกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนั้น
ผ่านไป 2 ปี พ.ศ.2538 ก็เปลี่ยนให้สนุกแฝงความฮาจากพิธีกรคู่ใหม่เป็น เอ-อนันต์ บุญนาค มาคู่กับ ต้อม-รชนีกร พันธุ์มณี นางเอกที่กำลังดังเปรี้ยงปร้างในช่วงนั้นจากละคร “มนต์รักลูกทุ่ง” แล้วจากนั้นเปลี่ยนพิธีกรหญิงเป็น กิ๊ก-สุวัจนี ไชยมุสิก คู่กับ เอ-อนันต์ ซึ่งคราวนี้มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่จากการถ่ายทอดสดที่ลานเพลิน ซึ่งเป็นเวทีกลางแจ้งมีหลังคาและมีวงดนตรี “ฮอตทูทรอต” ประจำรายการเป็นวงแบ๊กอัพ ก็เปลี่ยนรูปแบบย้ายเข้าสู่บรรยากาศแบบคอนเสิร์ตฮอลล์ที่ “เซ็นทรัลปิ่นเกล้า” ต่อมาอีก 1 ปีก็ปรับอีกครั้งโดยมี ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา มาคู่กับ กิ๊ก-สุวัจนี อยู่นาน 3 ปีจนปี พ.ศ.2544 ก็มีการปรับอีกครั้งโดยการเอาพระเอกหน้าใส “บี๋-สวิช เพชรวิเศษศิริ” มาคู่กับสาวหน้าใสวัยทีน (ตอนนั้น) ได๋-ไดอาน่า จงจินตนาการ และก็ต้องย้ายที่ถ่ายทอดสดอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ. 2545 ไปที่ฮอลล์ของ เซ็นทรัลพระราม 2 พร้อม ๆ กับการเปลี่ยนแปลงพิธีกรเป็น แซน-พนมกร ตังทัตสวัสดิ์ คู่กับ ทราย เจริญปุระ จากนั้นพอเข้าปีพ.ศ.2549 ก็ปรับอีกครั้งเป็น พระเอก รพีภัทร เอกพันธ์กุล ที่มีลีลาอารมณ์ขันมาประชันมุกสดกับ เชียร์-ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ ที่ถือว่าเป็นคู่ที่ลงตัวมาก ๆ เพราะดำเนินรายการได้อรรถรสมาจนถึงปัจจุบัน
นอกเหนือจากพิธีกรที่ปรับเปลี่ยนมาตลอด เพื่อความสนุกสนานทันสมัยแบบคัดเอาหัวกะทิมาผสมผสานยังมีการปรับโลโก้รายการด้วยการพัฒนารูปแบบรายการมาแล้วถึง 3 ครั้ง เวทีนี้ถือเป็นเวทีระดับประเทศเพราะรองรับการมาเยือนของศิลปินดังระดับอินเตอร์มามากมาย อาทิ ไมเคิล เลิร์นทู ร็อก, ริคกี้ มาร์ติน, แมนดี มัวร์, หลิน จื้ออิ่ง หรือแม้แต่ เฉินหลง ก็ขึ้นเวทีนี้มาแล้ว
เป็นเวทีคอนเสิร์ตที่ไม่เคยหยุดแม้ว่าเมื่อครั้งวิกฤติน้ำท่วมสูงสุดเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา ฝ่ายรายการของทางสถานียังขวนขวายย้ายที่ชั่วคราวหลบน้ำท่วม ไปจัดแสดงถ่ายทอดสดที่เดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน อยู่สองสัปดาห์ และก็เกิดการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่อีกครั้ง หลังจากการจัดในรูปแบบคอนเสิร์ตในฮอลล์มานานถึง 15 ปี มีการย้ายที่ถ่ายทอดสดอีกครั้ง โดยครั้งนี้ฝ่ายรายการของสถานีย้ายการถ่ายทอดสดไปตั้งเวทีที่ศูนย์การค้า เดอะไนน์ พระราม 9 เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2556 จนมาถึงปัจจุบันนี้โดยปรับรูปแบบให้เป็นเวทีโปร่งเหมือนเมื่อครั้ง “ลานเพลิน” ในยุคแรก ด้วยความต้องการให้การแสดงสดดูสดจริง ๆ และมีบรรยากาศแบบกลางแจ้ง แต่ภายใต้หลังคาโปร่งแสงของศูนย์การค้า มีการปรับพื้นที่เวทีโครงสร้างแนวใหม่และโปรแกรมโชว์ของศิลปินทั้งไทยและต่างประเทศ รองรับความต้องการของผู้ชมทุกรุ่น
และเป็นเวทีที่ศิลปินเกาหลีชื่นชอบ เมื่อมาเมืองไทยก็ต้องมาขึ้นเวทีนี้ อาทิ ทูยูน, บีทูบี และล่าสุดคือ ชูไอ แต่ละครั้งมีแฟนคลับสาวกเกาหลีเข้าชมหนาแน่นกว่า 5,000 คนล้นพื้นที่ หรือแม้แต่แฟนเพลงแนวเพื่อชีวิตก็อิ่มไปกับ คาราบาว รวมไปถึงทุกแนวเพลงไม่ว่าจะเป็น เดอะสตาร์ เอเอฟ แฟนแนวร็อกหรือแม้แต่แนวลูกทุ่ง ฯลฯ การปรับเปลี่ยนการนำเสนอในแต่ละครั้งนั้นดูจะเป็นการสร้างคุณภาพพัฒนารูปแบบตามยุคสมัย “7 สี คอนเสิร์ต” จึงเป็นเหมือนเวทีที่รับรองว่าใครได้มีโอกาสขึ้น แสดงว่าดังจริงคุณภาพจริงถึงจะถูกคัดเลือกขึ้นเวทีนี้ นี่คือคุณภาพที่ไม่เคยเปลี่ยน 7 สีคอนเสิร์ตออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 11.50 น. ใกล้ ๆ เที่ยงมาตลอด 27 ปีไม่เคยเปลี่ยน เช่นเดียวกับเพลงนำของรายการที่เรียบเรียงเสียงประสานโดย อ.ประสิทธิ์ ชำนาญไพร และใช้มาตั้งแต่ครั้งแรกเริ่มจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นคนเดียวกับที่เรียบเรียงทำนองที่เราคุ้นหู “ช่อง 7 สี ทีวีเพื่อคุณ...”.
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง
