ที่ห้องประชุมศูนย์โรคหัวใจอาคารสี่ รพ.ธนบุรี เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 22 ส.ค. ได้มีการแถลงข่าวความคืบหน้าอาการป่วยของ ‘เป้า’ สายัณห์ สัญญา โดยนพ.ประสิทธิ์ เจียรกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ รพ.ธนบุรี และนายแพทย์วชิรบุณย์ ศาสตระรุจิ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ รพ.ธนบุรี ทั้งนี้ นพ.ประสิทธิ์ เจียรกุล เผยว่า “วันนี้ได้ไปดูคุณสายัณห์รู้สึกว่าอาการดีขึ้น หน้าตาสดชื่น ไม่มีอาการไข้ ทางคณะแพทย์วางแผนที่จะให้ผู้ป่วยกลับบ้าน ซึ่งก่อนที่จะให้คุณสายัณห์กลับบ้านจะมีการสอนลูกสาวคุณสายัณห์เกี่ยวกับการให้อาหารเสริมและการฉีดอินซูลินป้องกันเบาหวาน ที่ให้คุณสายัณห์กลับไปรักษาตัวที่บ้านเพราะเรื่องการรักษาโดยใช้วิธีเคมีบำบัดต้องรอเวลาและถ้าต้องรอเวลาโดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องให้น้ำเกลือหรืออาหารทางหลอดเลือดดำก็ถือว่าไม่จำเป็นแล้ว "แต่เราใช้วิธีคือให้ผู้ป่วยกินอาหารเสริมและพวกไข่วันละ3ฟอง คิดว่าน่าจะพอเพียงสำหรับอัลบูมีนที่จะอยู่คงตัวได้แต่มีโอกาสลดได้ก็มาตามอาการอีกครั้งหนึ่งถ้าคนป่วยมีอาการทรุดลง” นพ.ประสิทธิ์ กล่าว นพ.วชิรบุณย์ ศาสตระรุจิ เสริมว่า ในการรักษาแบบประคับประคองของทีมแพทย์รพ.ธนบุรี ตอนนี้คนไข้ไม่มีอาการไข้แล้ว เรื่องการได้รับสารอาหารมาวันนี้ทางคุณสายัณห์สามารถทานอาหารเองได้ซึ่งเป็นสารอาหารพิเศษที่ทางรพ.จัดเฉพาะเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายให้ดีขึ้น ทางรพ.ได้จัดการรักษาในส่วนนี้ทำให้ผู้ป่วยอยู่ในสภาพดีขึ้นและแข็งแรงขึ้น แต่ในส่วนของการรักษาในเรื่องโรคมะเร็งโดยเฉพาะการใช้เคมีบำบัดคงต้องมาคุยกันอีกครั้ง ระหว่างแพทย์,ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วย นพ.วชิรบุณย์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นที่ทางเรารักษานับว่าได้ผลเพราะคุณสายัณห์แข็งแรง สดชื่นขึ้น รับประทานอาหารเองได้มากขึ้น เดินได้ ทำกิจวัตรประจำวันเองได้ ไม่มีไข้ครับ ตอนนี้การฟื้นฟูสภาพร่างกายของคนไข้ได้ระดับหนึ่งแล้ว สภาพจิตใจคิดว่าคนไข้ก็อยากอยู่บ้านได้ใกล้ชิดภรรยาและลูก "ทางการแพทย์ตอนนี้สภาพร่างกายดีขึ้นกว่าตอนมารักษาตัวแรกและสามารถไปดูแลสภาพร่างกายต่อที่บ้านได้ตามคำแนะนำของแพทย์ทั้งด้านการคุมเบาหวาน การรับอาหาร ในส่วนนี้ถ้าทางผู้ป่วยและญาติมีความต้องการทางทีมแพทย์คิดว่าการฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจร่วมด้วยจะทำให้คนไข้มีกำลังใจเข้มแข็งขึ้นแม้จะต้องรักษาต่อไป” นพ.วชิรบุณย์ กล่าว ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกำหนดการออกจากรพ.ของ ‘สายัณห์ สัญญา’ไปพักรักษาตัวที่บ้านเมื่อไหร่ นพ.ประสิทธิ์ เผยว่า วันนี้ทางแพทย์คงให้ลูกสาวของคุณสายัณห์เรียนวิธีการฉีดอินซูลินและการเตรียมอาหารชง ถ้าลูกสาวสามารถเรียนรู้ได้เร็ว ประมาณ1-2วันคุณสายัณห์ก็สามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ และวันนี้เราไม่ได้เอ็กซเรย์ตับเพิ่มเราใช้ของเดิมช่วงที่มาเพราะการทำจะเปลือง เราต้องดูความจำเป็นว่าจำเป็นต้องทำหรือเปล่าถ้าไม่มีความจำเป็นเราก็ไม่ทำเพราะเสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ ตอนนี้ทางแพทย์ของรพ.รักษาจนอาการคงที่และไม่ได้ให้อะไรเพิ่มอย่างการรักษาทางเคมีบำบัดและไม่ได้ให้อาหารทางหลอดเลือดดำแล้ว ทำให้คนไข้ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่รพ. คนไข้ทุกคนอยากกลับบ้านถ้าถึงเวลาที่กลับได้ ต่อให้ขัดแย้งหรือไม่ขัดแย้งเมื่อ3-4วันก่อนเราก็ไม่ได้ถามถึงเรื่องอยากกลับบ้านหรือไม่อยากกลับบ้าน แต่มาวันนี้ดูสภาพร่างกายของคุณสายัณห์สดชื่นมากขึ้นและสารอาหารก็ไม่ได้ให้ทางหลอดเลือดดำแล้วและเพื่อคุณภาพชีวิตของคนไข้ไม่จำเป็นต้องอยุ่รพ.จะดีกว่าครับ ส่วนในเรื่องความเสี่ยงมีอยู่ตลอดมีทั้งความเสี่ยงที่พอรับได้และรับไม่ได้ ถ้าเป็นความเสี่ยงที่พอรับได้บวกลบกับความพึงพอใจและการดูแลตัวเองและการได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นบ้านของคนไข้เอง บวกลบกันแล้วถือเป็นความเสี่ยงที่พอรับได้ ความเสี่ยงของโรคต่อให้อยู่ที่รพ.หรืออยู่ที่บ้านมีความเท่ากันคือความเสี่ยงของโรคมะเร็ง พอผู้ป่วยไปรักษาตัวที่บ้านแล้วในช่วงต้นก็มีการนัดดูอาการสองอาทิตย์ครั้งและต่อไปก็เป็นเดือนละครั้ แต่ถ้าระหว่างรอมาพบแพทย์ทางรพ.ก็มีทีมแพทย์ไปตรวจรักษาให้ถึงบ้านถ้ามีเหตุการณ์ฉุกเฉิน ส่วนถามว่าเชื้อมะเร็งจะแพร่กระจายได้เร็วแค่ไหน ตรงนี้ไม่สามารถบอกได้เพราะเชื้อมะเร็งเซลของมันจะแตกตัวเร็วแพร่กระจายได้เร็ว การพยากรณ์อาการของโรคในแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ระยะเวลาต่างกัน ในส่วนของคุณสายัณห์ตอนนี้เชื้อลามไปประมาณ50กว่าเปอร์เซ็นต์แล้วตอนนี้ตัวเหลือง ร่างกายบวม ทางด้านนาย มานิตย์ อังกินันทน์ ผู้จัดการส่วนตัวของนายสายัณห์ สัญญา เผยว่า “ก่อนหน้านี้พี่เป้าได้ถามว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน ก็ได้ตอบพี่เป้าไปว่าตอนนี้ตับของพี่เหลือแค่30เปอร์เซนต์แล้ว จะรักษาอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพี่ ซึ่งทางพี่เป้าได้ตอบกลับตนอย่างปลงๆว่าจะรักษาหรือไม่รักษาก็ตายเหมือนกัน ตอนนี้สภาพร่างกายของพี่เป้ามีอาการบวมที่ท้อง แขนและขา โดยส่วนตัวผมไม่อยากให้พี่เป้ากลับไปบ้าน อยากให้อยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลมากกว่าแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่เป้าเอง” ทาง ด้านนางวรรณพร สัมฤทธิ์ ภรรยาของ นายสายัณห์ สัญญา ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่แพทย์ลงความเห็นให้กลับบ้านได้ว่า "จริงๆยังไม่อยากให้พี่เป้ากลับบ้านอยากให้อยู่ใกล้ๆหมอเพราะร่างกายบวม มือเท้าบวม กลัวออกจากรพ.จะมีปัญหาเรื่องสุขพภาพเหมือนเดิม "พี่เป้าทานยาของรพ.ธนบุรีและควบคู่กับยาสมุนไพรทั้งหมด4เวลา แต่พี่เป้ากินยาไม่เคยครบ บางครั้งก็กินเลทหรือบางทีก็ไม่กิน พี่เป้ากินยายากไม่ค่อยกิน เวลากินยาเม็ดจะกลืนยาก ส่วนการทำคีโม พี่เป้ายังหวาดกลัวกับการรักษาวิธีนี้อยู่ แต่ส่วนตัวแล้วอยากให้อยู่รพ.จนหมดคอนเสิร์ตวันที่1 ก.ย.” นางวรรณพร กล่าว
สถานที่ในข่าว
ข่าวในพื้นที่ใกล้เคียง ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง
