ผู้เขียน หัวข้อ: กุหลาบไฟ วันที่ 22 สิงหาคม 2556  (อ่าน 504 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
กุหลาบไฟ วันที่ 22 สิงหาคม 2556
« เมื่อ: สิงหาคม 22, 2013, 07:51:06 am »

 โยคีศิลาดำคิดจะฆ่านาถสุดาทิ้ง แต่เธอก็อาศัยจังหวะหลบหนีไปได้ อรชรบอกโยคีศิลาดำเรื่องที่ไศลาทรยศดุลยศักดิ์ ให้รีบไปฆ่าทิ้งเสีย โยคีศิลาดำบอกมีวิธีที่จะทำให้ไศลาซมซานมาหาโดยไม่ต้องตามให้เหนื่อย ดุลยศักดิ์และมิสเตอร์ลีซื้อขายแลกเปลี่ยนยาเสพติดอย่างสบายโดยไร้ตำรวจรบกวน ดุลยศักดิ์บอกเขามีแบ็กอัพดี ใหญ่โตจนไม่มีใครคิดถึง
    
    เช้าวันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ต่างลงข่าวเรื่องตำรวจหน้าแหก บุกจับยาลอตใหญ่ ที่แท้แค่น้ำตาล ไอซ์ซิ่ง ผู้การเสริมพงษ์ส่งพักงานธีรธร และโยกงาน ของเขาไปให้คนของตัวเองทำแทน
     
    ไศลาถูกนาถสุดาจับตัวมาไว้ที่โรงแรมรวมกับศพเทพ เพื่อเค้นถามเรื่องตำรา และไศลาก็ไม่ยอมปริปากบอก แม้จะถูกทำร้ายอย่างไร ด้านคุณนายวงทองและกมลากังวลใจเรื่องข่าวธีรธรคว้าน้ำเหลวจับยากลางงานหมั้นของชูชิตและนาถสุดา นิ่มนวลเห็นหน้าชูชิตชัดเจนก็อึ้งไป สิ่งเห็นนิ่มนวลคลื่นไส้ ทั้งกมลาและวงทองก็เป็นห่วงเพราะคิดว่าเครียดลงกระเพาะเรื่องธีรธร ขณะที่นิ่มนวลเริ่มกังวลกับอาการของตัวเอง
     
    อรชรพาโยคีศิลาดำมาที่บ้าน และขู่สุทธิพงษ์ให้ไปเอาตำราจากไศลามาให้ โดยโยคีศิลาดำบุกไปจับตัวธิดารัตน์มาเป็นตัวประกัน ด้านธีรธรกลุ้มใจทั้งเรื่องไศลาและเรื่องที่ถูกพักงานจึงกินเหล้าจนเมา นิ่มนวลซึ่งรู้ว่าตัวเองท้องจึงวางแผนพาธีรธรพานอนในห้องและทำทีว่าธีรธรปล้ำเธอ รุ่งเช้ากมลาและวงทองมาเห็นเข้า กมลาโวยวายจะจับธีรธรแต่งงานกับนิ่มนวล ธีรธรงงเพราะเขาจำอะไรไม่ได้เลย แต่ไม่มีใครเข้าข้างเขา แม้แต่วงทองก็ยืนยันให้เขารับผิดชอบแต่งงานกับนิ่มนวล
     
    จ่านิดเข้าไปในห้องเก็บแฟ้มคดีต่าง ๆ จะอ่านข้อมูลเรื่องคดีของดุลยศักดิ์ที่เขาและธีรธรเคยทำไว้ ปรากฏเพราะผู้การเสริมพงษ์เก็บไปบอกจะเอาไปให้ตำรวจชุดใหม่ติดตามทำคดีแทน แต่ตอนนี้ยังหาคนไว้ใจไม่ได้จึงจะดูคดีเอง จ่านิดเริ่มรู้สึกทะแม่ง ๆ ดีที่เขาก๊อปปี้ข้อมูลเก็บไว้กับตัวอีกหนึ่งชุด ผู้การเสริมพงษ์เอาแฟ้มคดีมาให้จ่านิดนำเข้าไปเก็บในห้องจึงเปิดดูข้อมูลเทียบกับเอกสารที่เขาก๊อบปี้เก็บไว้ ปรากฏว่าเอกสารสำนวนคดีที่ผู้การเสริมพงษ์เอากลับมาให้ถูกดัดแปลงไปจากเดิม จ่านิดเริ่มเอะใจและสงสัยในตัวผู้การเสริมพงษ์
    
    จ่านิดแอบเข้ามาในห้องเก็บเอกสาร ค้นประวัติผู้การเสริมพงษ์ รวมไปถึงการสืบค้นทางอินเทอร์เน็ต พบว่าผู้การได้รางวัลต่าง ๆ จากการต่อต้านยาเสพติดมากมาย เขายังคลิกเข้าไปในเว็บไซต์โรงเรียนมัธยมของผู้การเสริมพงษ์ ลิงก์ดูหนังสือรุ่น ก็ปรากฏว่ามีรูปวัยเด็กของดุลยศักดิ์และผู้การเสริมพงษ์กอดคอกัน จ่านิดตกใจมาก
    
    “ทำอะไรอยู่น่ะจ่า”
    
    จ่านิดสะดุ้งสุดตัว รีบปิดจอคอมพ์ทันที “หาข้อมูลสถานที่อยู่ครับผู้การ”
    
    “เดี๋ยวเย็นนี้ผมขอคุยงานด้วยหน่อยสิ เดี๋ยวเราไปคุยกันที่ร้านอาหารเจ้าประจำของผมก็แล้วกัน” ผู้การเสริมพงษ์บอก
    
    “ไม่คุยกันที่นี่เหรอครับผู้การ”
    
    “ไม่เบื่อรึไง บรรยากาศเดิม เปลี่ยนไปที่ใหม่ ๆ บ้างสิจ่า”
    
    จ่านิดระแวง ไม่ค่อยไว้ใจผู้การเสริมพงษ์นัก พอผู้การเสริมพงษ์เดินออกไป จ่านิดก็โทรศัพท์ หาธีรธรทันที “ผู้กองครับ ผมว่าผมเจอตอเข้าแล้ว”
    
    “จ่าพูดเรื่องอะไร”
    
    “ตัวการเรื่องทั้งหมดที่เกิดน่ะสิครับ”
    
    “หมายความว่าไง”
    
    “ผมน่ะหาหลักฐานได้แล้ว...ว่าจริง ๆ แล้วน่ะ”
    
    ยังไม่ทันที่จ่านิดจะพูดออกมา ทางฝั่งธีรธรก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อน โดยคุณนายวงทองเข้ามาบอกว่าธิดารัตน์หายตัวไป ธีรธรรีบตัดสายจากจ่านิด จ่านิดวางหูจากธีรธร ไม่ค่อยสบายใจนัก จึงเซฟรูปและหลักฐานทุกอย่างลงคอมพ์ ก่อนจะส่งอีเมลให้ธีรธร
     
    ชูชิตเดินเข้ามาในบ้านดุลยศักดิ์แต่ถูกสมุนดุลยศักดิ์ดักไว้ไม่ให้เข้า พร้อมชักปืนขึ้นมาจ่อ “นายบอกพวกแกหมดประโยชน์แล้ว”
    
    “อย่าเพิ่งยิงนะ อย่าเพิ่ง ชั้นยังไม่หมดประโยชน์นะชั้น ๆ ยังช่วยนายได้อีกหลายเรื่องนะ”
    
    “หึหึ ช่วยได้หลายเรื่องเหรอ คนปัญญา อ่อนอย่างนายน่ะเหรอ”
    
    “ใครจะคิดยังไงไม่รู้ แต่ชั้นไม่เคยคิดหักหลังนายเลยนะ ถ้าหักหลังชั้นจะยังอยู่ที่นี่เหรอ ชั้นคงหนีไปตั้งนานแล้ว” ชูชิตกลัวจัดบอกจะคุยกับดุลยศักดิ์เอง และลนลานกดโทรศัพท์หาดุลยศักดิ์
    
    “นายครับ นาย อย่าฆ่าผมนะครับ ผมไม่เคยคิดหักหลังนายแม้แต่นิดเดียว นายก็รู้”
    
    ดุลยศักดิ์ยิ้มเจ้าเล่ห์คุยโทรศัพท์กับชูชิต “คนที่ไม่มีประโยชน์ชั้นไม่จำเป็นต้องเก็บไว้”
    
    “นายอยากได้อะไร ผมทำให้ได้หมดนะ อย่าบอกว่าผมไม่มีประโยชน์ ไศลาไง นาย นายอยากได้ตัวไศลามั้ย ผมพาไศลาไปหานายได้ ผมว่าไศลาน่าจะเป็นตัวการทั้งหมดเลย ผมไม่เกี่ยว”
    
    “นั่นแกกำลังพูดถึงผู้หญิงที่แกบอกว่ารักอยู่นะ”
    
    “ผมภักดีต่อนายมากกว่าใครทั้งนั้น ผมพาไศลาไปให้นายจัดการได้จริง ๆ นะ นายเชื่อผม ผมมีประโยชน์ นายอย่าฆ่าผมเลยนะ นะนาย”
    
    ดุลยศักดิ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ บอกให้ชูชิตไปพาตัวไศลามา หากทำไม่ได้ก็เตรียมตัวตายซะ
     
    ไศลาถูกจับใส่กุญแจมือลงอาคม นาถสุดาอ่านหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวเรื่องตำรวจหน้าแตกจับยาเสพติด ก่อนจะบอกว่าดุลยศักดิ์มีสายรายงานความเคลื่อนไหวของตำรวจ และสายก็เป็นถึงนายตำรวจใหญ่ที่คอยหนุนหลังดุลยศักดิ์อยู่ ไศลาถามว่าเป็นใคร นาถสุดาบอกให้เอาตำรามาให้เธอก่อน แต่ไศลาไม่ยอมปริปาก นาถสุดาจึงเริ่มทรมาน ไศลา โดยลากมาและจับหัวไศลากดไปใกล้ ๆ เทพ ไศลาทั้งกลัวทั้งขยะแขยง นาถสุดาบอกให้ขอโทษเทพ แต่ไศลายืนยันว่าเธอไม่ได้ฆ่า แม้นาถสุดาจะทรมานอย่างไรแต่ไศลายังยืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือเธอจนนาถสุดาเริ่มลังเล นาถสุดาทรมานไศลาไม่ได้ผลจึงเปลี่ยนวิธี
    
    “ชั้นจะไม่ทรมานแค่แกนะ ชั้นจะทรมานพี่น้องแกทุกคน”
    
    “อย่าไปยุ่งกับคนอื่น คนอื่นไม่เกี่ยว”
    
    “งั้นก็เอาตำรามา”
    
    “เธออยากได้ตำราไปทำอะไรนาถสุดา เธออยากแค่ทำให้เทพฟื้นขึ้นมาเท่านั้นน่ะเหรอ”
    
    “แกพรากเค้าไปจากชั้น แกก็ควรจะชดใช้ มันถูกแล้ว”
    
    “ชั้นไม่เคยฆ่าใคร...แต่ถ้าเธออยากแค่ให้ชุบชีวิตเทพชั้นจะลองทำให้ แต่ไม่รับปากว่าจะทำได้มั้ย เพราะไม่มีใครรู้วิธีใช้มัน”
    
    “ถ้าแกโกหกชั้น แกตายแน่” นาถสุดากัดฟันแน่น
     
    ไศลาเดินอยู่ในป่าท่ามกลางหมอกบาง ๆ นักพรตเมฆขาวยืนรอเธออยู่ที่นั่น “ได้เวลาแล้วไศลา”
    
    “ได้เวลาอะไรคะอาจารย์”
    
    “ตาที่สามของเจ้าได้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง ภายในร่างกายเจ้าได้กลับมาสมดุลเหมือนเดิมอีกครั้ง”
    
    ไศลาสำรวจร่างกายตัวเองอีกครั้ง เธอรู้สึกถึงพลังบางอย่าง
    
    “ใกล้เวลาเต็มทีที่เจ้าจะต้องทำสิ่งสำคัญแล้ว ไปเสียเถิด”
    
    ไศลาพยายามถามว่าสิ่งสำคัญคืออะไร นักพรตเมฆขาวบอกถึงเวลาจะรู้เอง ไศลาสับสนไปหมดบอกเธอจะตัดสินใจอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย
    
    “เชื่อมั่นในความดี แล้วอย่าลืมกฎ 2 ข้อที่ต้องยึดมั่นปฏิบัติ อย่าฆ่าคน อย่าผิดประเวณี” นักพรตเมฆขาวพูดจบก็ค่อย ๆ ถอยห่างไปเรื่อย ๆ จนหายไปกับหมู่หมอก
    
    ไศลาสะดุ้งตื่น พร้อม ๆ กับแสงวาบจากตา ที่สาม นาถสุดาเดินมาไขกุญแจมือที่ล็อกกับเตียงไว้ให้ “เธอสัญญากับชั้นแล้ว ว่าจะทำให้เทพฟื้น อย่าผิดคำพูดตัวเอง ชั้นให้เวลาแกถึงแค่คืนนี้ ถ้าชั้นไม่เห็นเธอโผล่หัวมาละก็ ชั้นจะฆ่าน้องสาวปาก ดีแกก่อนคนแรกเลยแกก็รู้นี่ว่าชั้นทำได้ง่าย ๆ” นาถสุดาขู่
     
    ธีรธรมาสำรวจห้องธิดารัตน์เพื่อตรวจสอบร่องรอยก่อนที่ธิดารัตน์จะหายตัวไป โดยพบรอยเท้าที่พื้นที่เข้ามาจากระเบียง และต้องพาธิดารัตน์ออกไปทางระเบียงเพียงทางเดียวเท่านั้น ขณะที่พื้นจากห้องจนถึงพื้นดินด้านล่างมีความสูงแต่ไม่มีร่องรอยอะไรเลย แสดงว่าคนที่พาธิดารัตน์ไปจะต้องไม่ใช่คนธรรมดา กมลาได้ทีบอกเป็นไศลาแน่เพราะมีพลังประหลาด ธีรธรเข้าใจผิดคิดว่าไศลาต้องการแกล้งเขา จึงมาลงกับธิดารัตน์
     
    ผู้การเสริมพงษ์ขับรถพาจ่านิดออกนอกเมือง ถนนก็เปลี่ยวขึ้นเรื่อย ๆ จนจ่านิดเริ่มสงสัยเพราะเขาเองก็ไม่ค่อยไว้ใจผู้การนัก ไม่นานนักรถผู้การก็บอกว่ารถยางแบนและให้จ่านิดลงไปดู เมื่อจ่านิดลงไปก็พบว่ายางรถเป็นปกติดี แต่พอหันมาก็พบว่าปืนของผู้การจ่อหัวเขาอยู่
    
    “เป็นผู้การจริง ๆ สินะครับ ผมอุตส่าห์ภาวนาว่าผมจะคิดผิด”
    
    “คนเราน่ะ...รู้อะไรมากมันก็ไม่ดี จ่าว่าจริงมั้ย”
    
    “ผู้การทำได้ยังไง ขึ้นรับโล่ต่อต้านยาเสพติดทุกปี แต่จริง ๆ แล้วก็...”
    
    “ก็บอกแล้วไงว่าชั้นเป็นคนง่าย ๆ ไม่คิดมาก โลกเราเนี่ย...คิดเยอะก็อยู่ยาก ทางเลือกไหนที่มันง่าย ๆ ก็ทำกันไป”
    
    “ทางเลือกนี้คงจะง่ายที่สุดแล้วสิครับ”
    
    “ฉลาดนี่...จริง ๆ จ่าน่าจะได้ก้าวหน้าในอาชีพการงานนะ เสียอย่างเดียวรู้มากไปหน่อย” ผู้การพูดจบ เสียงปืนดังสนั่น ร่างของจ่านิดล้มลงกับพื้น ผู้การเสริมพงษ์มองร่างจ่านิดอย่างเลือดเย็น ก่อนจะหันกระบอกปืนมาจ่อที่แขนตัวเอง แล้วเหนี่ยวไกอีกครั้ง พร้อมแหกปากร้องเสียงดัง ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ในรถ โทรฯ แจ้งเจ้าหน้าที่
    
    “ขอกำลังมาที่บางพลีด่วน ผมและเจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส” ผู้การมองจ่านิดอย่างเฉยเมย ทำเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)