นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานพิธีมอบระบบซอฟต์แวร์ “i lert u” ให้แก่ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟเซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ โรงพยาบาลกรุงเทพ เพื่อนำไปใช้ติดตั้งเป็นระบบเทคโนโลยีเพื่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ส่งตำแหน่งดาวเทียมผ่านระบบสมาร์ทโฟนและสมาร์ททีวี พื้นที่โฆษณา
สนใจลงโฆษณา ติดต่อ โทร.0-2642-3400 ต่อ 4613 สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ ซิป้า ร่วมกับ บริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก จำกัด คิดค้นและพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน ส่งตำแหน่งเกิดเหตุผ่านดาวเทียมด้วยระบบภาพ พร้อมกระจายการขอความช่วยเหลือผ่านระบบสังคมออนไลน์ ภายใต้ชื่อ
“i lert u” ซึ่งเป็นนวัตกรรมการแจ้งเหตุฉุกเฉินที่รวดเร็ว แม่นยำ และให้ข้อมูลผู้ต้องการรับความช่วยเหลือได้ผ่านระบบจอภาพ ทำให้การดำเนินการช่วยเหลือ มีประสิทธิภาพและทันท่วงที จากการแจ้งเพียงปลายนิ้วสัมผัส
นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เผยว่า กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยในทุกด้าน ทั้งด้านการค้า การลงทุน การศึกษา การติดต่อสื่อสาร และด้านความปลอดภัย นวัตกรรมซอฟต์แวร์ระบบ
“i lert u” เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้คิดค้นและพัฒนาระบบการแจ้งขอรับความช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ส่งตำแหน่งดาวเทียมผ่านระบบสมาร์ทโฟน และสมาร์ททีวี ที่ผู้ต้องการความช่วยเหลือและผู้ขอรับความช่วยเหลือสามารถติดต่อกันได้ผ่านระบบจอภาพ โดยไม่ต้องกังวลด้านการใช้ภาษา ซึ่งหน่วยงานหลักทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ได้รับมอบระบบไปในวันนี้ สามารถนำไปให้บริการผู้ใช้บริการในแต่ละภาคส่วน โดยทางบริษัท การบินไทย จะนำระบบนี้ไปติดตั้งเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการดูแลผู้โดยสารทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศกรณีฉุกเฉิน พร้อมกันนี้ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน AIS และ โรงพยาบาลกรุงเทพ จะนำระบบนี้ไปใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนไทยในทุกระดับทั่วประเทศ นายไตรรัตน์ ฉัตรแก้ว ผู้อำนวยการ ซิป้า กล่าวว่า ปัจจุบัน ซอฟต์แวร์เทคโนโลยี มีบทบาทกับการดำเนินชีวิตในทุกด้าน ทั้งในด้านการศึกษา การดำเนินธุรกิจ คุณภาพชีวิต รวมถึงด้านความปลอดภัย สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ มีเป้าหมายให้ซอฟต์แวร์ที่คิดค้น และพัฒนาโดยคนไทยได้รับความนิยมมากขึ้นโดยเฉพาะในหมู่คนไทยด้วยกัน เพราะซอฟต์แวร์ไทยเป็นเทคโนโลยีคุณภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอยู่แล้ว นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารการตลาดบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่า ทุกวันนี้ประชาชนจำนวนมากใช้สมาร์ทโฟนที่สามารถออนไลน์ได้ทุกเครื่อง และด้วยศักยภาพของ 3G 2100 ของ AIS เราสามารถให้บริการมากกว่า 97% ของพื้นที่ในประเทศไทย ดังนั้น การที่ AIS ร่วมมือกับ SIPA และเอนนี่แวร์ ทู โก ในการ Rebranding เป็น Aunjai i lert u นั้นจะเป็นการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตสังคมของคนไทยให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งเป็นนโยบายหลักของ AIS คือ
- มุ่งมั่นสรรหาบริการใหม่ๆที่มีความพิเศษและแตกต่างซึ่งสอดคล้องการใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้ใช้บริการ
- มุ่งมั่นในการดำเนินกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมของเราอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องตลอดไป
คุณอัฐ ทองแตง ประธานโครงการศูนย์บริการฉุกเฉินในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า การนำ i lert u มาใช้งานเป็นประโยชน์กับคนไข้ และโรงพยาบาล เพราะเมื่อคนไข้เกิดเหตุฉุกเฉิน ก็สามารถกด lert มายังระบบ anywhere to er หรือ ระบบ BES ระบบจะแสดงตำแหน่งพิกัดบนพื้นโลกที่แม่นยำ และแสดงผลข้อมูลคนไข้ ประวัติการรักษาขึ้นมาทันที พร้อมทั้งคำนวนให้ทันทีว่า โรงพยาบาลใดในเครือของเราที่ใกล้ที่สุด และรถพยาบาลคันใดที่เหมาะสมกับอาการของคนไข้ จากนั้นศูนย์ BES จะทำการโทรกลับไปเพื่อยืนยันการขอแจ้งความช่วยเหลือ และทำการสั่งการทันที หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ศูนย์ BES จึงทำการสอบถามเพื่อเก็บข้อมูลการเจ็บป่วยของคนไข้ลงในระบบ เพื่อเตรียมส่งให้แพทย์และพยาบาลในรถ ระบบจะแสดงรายชื่อแพทย์ พยาบาล คนขับรถที่อยู่ในตารางเวลาที่ว่างและเหมาะสมขึ้นมาในทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่เป็นคนตัดสินใจเลือกอีกครั้ง พร้อมทั้งส่งตำแหน่งจุดรับคนไข้ไปยัง Navigator ที่ติดตั้งไว้ที่หน้ารถพยาบาลทันที ทำให้ลดเวลาในการอธิบายทางให้คนขับรถ นายแพทย์อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวว่า ในการรับเรื่องเบื้องต้นจะต้องสอบถามสถานที่เกิดเหตุให้แน่ชัด เพื่อจะได้ทำการสั่งการได้ถูกต้องแม่นยำ และค้นหาว่าเจ้าหน้าที่หรือหน่วยอาสาสมัครคนใดที่อยู่ใกล้ที่สุดและพร้อมออกไปช่วยเหลือ ซึ่งบ่อยครั้งการสอบถามสถานที่เกิดเหตุในเวลาเกิดเหตุนั้น ผู้ประสบภัยเกิดความตกใจทำให้อธิบายไม่ถูกว่าตนเองอยู่ที่ไหน และก็บ่อยครั้งที่ผู้ประสบภัยไม่ใช่คนพื้นที่นั้นๆ ยิ่งทำให้การอธิบายสถานที่เกิดเหตุเป็นเรื่องยุ่งยาก และทำให้การสั่งการออกไปช่วยเหลือเกิดความล่าช้า ระบบ i lert u เป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้งาน เพื่อช่วยให้ผู้ประสบภัยหรือผู้พบเห็นเหตุการณ์ สามารถใช้ประโยชน์จากสมาร์ทโฟนที่มีอยู่ ซึ่งปกติแทบทุกคนที่มีสมาร์ทโฟนก็จะสามารถใช้งาน mobile internet และใช้ social network อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น facebook, twitter, line หรือWhatsApp ก็ตาม สามารถทำการ lert ผ่าน i lert u เพื่อขอความช่วยเหลือมายัง สพฉ. ได้ง่ายและรวดเร็วเหมือนที่ใช้กับ social network ทั่วไป คุณสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ระบบ THAI ilertu และ THAI smile ilertu เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง การบินไทย และ บริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย โดยในแอพลิเคชั่นจะมีหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินที่จำเป็นทั้งหมด ซึ่งจะแตกต่างจากระบบ i lert u อื่นที่รองรับการให้บริการของคนไทย และยังเป็น Application Directory ของการบินไทยทั้งหมดที่ลูกค้าของการบินไทยสามารถเชื่อมโยงแอพลิเคชั่นไปในเรื่องต่างๆได้ นอกจากนี้ i lert u ยังมี function ที่ชื่อว่า where’re u ที่เป็น function ที่เป็นประโยชน์กับนักท่องเที่ยวมาก เพราะบางครั้งเราไม่ได้ต้องการขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานช่วยเหลือฉุกเฉิน แต่เราต้องการส่งข้อความหากันเอง หรือต้องการติดตามหากันในกรณีที่หลงทาง การเดินทางมาบ้านเมืองอื่นก็เป็นปกติของการท่องเที่ยว อาจเกิดการพลัดหลงกันได้ง่ายๆ where’re u สามารถติดตามกันเอง และสามารถส่ง lert โดยมีข้อมูลตำแหน่งของตนเอง ภาพถ่ายและข้อความไปในการส่งเพียงครั้งเดียว นายกิตตินันท์ อนุพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อรุณสวัสดิ์ ดอท คอม จำกัด กล่าวว่า เราสร้าง i lert u ขึ้นมาได้จากฐานลูกค้า emergency management ของบริษัทประกันภัย ที่เราคุ้นเคยกับคำว่า “มาเร็ว เคลมเร็ว” และ ฐานลูกค้าของในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ เพื่อให้ลูกค้าสามารถกด lert ส่งข้อความ ภาพ และ ตำแหน่งดาวเทียม มายังศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินได้รวดเร็ว และสามารถสั่งการออกไปช่วยเหลือได้ทันเวลา เราจึงนำ i lert u ออกมาช่วยเหลือสังคมให้ประชาชนคนไทยและชาวต่างชาติ สามารถกด lert ขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉิน ไปยัง 1669 และ BES โดยมี AIS และ Thai Airways เป็นผู้สนับสนุน และประชาสัมพันธ์ให้คนในประเทศไทยใช้ i lert u
โครงการ i lert u เป็นระบบงานที่ทำขึ้นเพื่อถวายในหลวงในวาระครบรอบ 84 พรรษา โดยมีซิป้า เป็นผู้ให้การสนับสนุนการพัฒนาจนกระทั่งสำเร็จ สามารถใช้งานได้จริง ช่วยชีวิตได้จริงในสังคม ilertu ยังเปิดรับหน่วยงานช่วยเหลือฉุกเฉินต่างๆ และหน่วยงานใดก็ตามที่ทำเพื่อสังคม ไม่แสวงผลกำไร สามารถสมัครเป็น u และนำระบบ ilertu ไปใช้ช่วยสังคมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์
