“ยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน ยามชังน้ำตาลก็ว่าขม” ก็ไม่รู้ว่าสุภาษิตนี้จะใช้ได้กับอดีตคู่รัก อนันดา เอเวอริ่งแฮม และ โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล หรือเปล่า เพราะล่าสุดแว่วมาว่าชื่อ “อนันดา” กลายเป็นชื่อต้องห้ามสำหรับโดนัทไปซะแล้ว พอได้มีโอกาสเจอโดนัทเจ้าตัวถึงกับขำกลิ้ง ยอมรับว่ามีช่วงหนึ่งที่คนถามแต่เรื่องนี้จนไม่อยากจะพูดถึง แต่ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวแล้ว โดนัท กล่าวว่า “ไม่มี พูดได้ อนันดา อนันดา อนันดา มันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว และช่วงที่ทุกคนถามมันก็ผ่านมาแล้วระยะนึง ตอนนั้นเราแค่ไม่อยากจะพูดถึง แต่ตอนนี้ยังเจอและคุยกันได้ ที่มีข่าวว่าโดนัทถึงกับได้ยินชื่อนี้ไม่ได้จะร้องไห้ทันที ถามจริง ๆ นะ เคยเห็นแบบนั้นไหม เราค่อนข้างเข้าใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นต่อกัน การร้องไห้เสียใจเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตามปกติอยู่แล้ว เล่าให้ฟังหลายรอบว่าผ่านไปแล้ว คือถ้าไม่มีร้องไห้เลยมันก็ประหลาด มันต้องมีบ้าง ตอนนั้นอาจจะยังไม่ทันตั้งตัวว่ามันเกิดขึ้นแล้ว” รู้สึกยังไงกับข่าวที่สั่งคนรอบข้างไม่ให้พูดชื่อ ของอนันดาให้ได้ยิน? “ไม่จริงเลยค่ะ โดนัทว่ามันเป็นไปไม่ได้ว่าจะไม่คุยกันเลย ล่าสุดก็เพิ่งเจอกันอยู่เลย” เวลาเจอคุยกันยังไงบ้าง เพราะหลายคนทำแบบนี้ไม่ได้? “เหมือนเดิมนะ มันมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ไม่เหมือนเดิม แต่ตอนนี้มันมีอะไรที่ชัดเจนมาก อนันดาเป็นคนเดียวในชีวิตที่เราไม่ทะเลาะด้วยในตอนนี้ นอกนั้นทะเลาะหมด เหมือนกับว่าเราทำงานและรอบ ๆ ตัวมันบีบคั้น และเราก็แบบว่าช่วงนี้เป็นช่วงสมานฉันท์ มีอะไรก็คุยกันด้วยเหตุผลมากกว่า มีอะไรก็ช่วยกันและให้กำลังใจกันเหมือนเดิม เราคุย ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว แต่ว่าก็เป็นการคุยอีกแบบหนึ่ง รายละเอียดลึก ๆ เราก็ไม่ถาม” แสดงว่าเราก้าวข้ามคำว่า “โกรธ” และ “ทะเลาะ” มาแล้ว? “ไม่มีเลย อาจมีช่วงหนึ่งที่ไม่คุยกัน แต่ว่าเราไม่ได้เกลียดไม่อยากเห็นหน้า คือโดนัทมองและเข้าใจตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เรารู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นและจบลง เราไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องใหญ่โต ตอนนี้โดนัทยุ่งและมีหลายหน้าที่มาก อะไรที่ทำด้วยกันก็ต้องมีการจัดการสะสาง และอะไรที่เราเคยได้รับการช่วยเหลือจนเคยตัว ก็ต้องมาจัดการเอง เชื่อไหมว่าตอนนี้มีคนมาจีบยังไม่รู้เรื่องเลย คือแบบเราคุยแต่งาน จนแบบนี้คือการเข้ามาจีบเหรอ คือเราโฟกัสแต่เรื่องงานมาก ๆ ค่ะ”.
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง
