ผู้เขียน หัวข้อ: สาปพระเพ็ง วันที่ 20 สิงหาคม 2556  (อ่าน 356 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
สาปพระเพ็ง วันที่ 20 สิงหาคม 2556
« เมื่อ: สิงหาคม 20, 2013, 06:20:55 am »

 รัดเกล้าหลับตา หัวหมุนติ้วได้ยินเสียงเรียก น้ำเสียงอ่อนโยนว่า...น้องน้อย สลับกับรัดเกล้า รัดเกล้าเอามือยันอกไผ่ไว้ไม่ให้เข้ามาใกล้ตัว สองสายตาประสานกัน ไผ่ดึงเธอเข้ามาใกล้ รัดเกล้าเจ็บที่อก และหายใจไม่ออก แล้วก็วูบหมดสติไป ไผ่ตกใจ ประคองหญิงสาวไว้ในอก และเกิดแสงสว่างวาบส่องเข้าตาไผ่รัดเกล้าฟื้นตื่นขึ้นมาที่เมืองศรีพิสยา มองไปรอบ ๆ เหมือนเป็นตลาดเพราะมีข้าวของขายมากมาย ผู้คนเดินไปมาฝักใฝ่แต่งกายสวยงามด้วยลูกปัดและขนนก แต่ละคนต่างพูดคุยกันเรื่องงานฉลองพระเพ็ง รัดเกล้าตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศหันมาเห็นมรันมาในระยะประชิด ก็ตกใจแทบสิ้นสติ จะหลบก็ไม่ทัน
     
    พลันแสงประหลาดวาบขึ้นระหว่างสองร่างที่กำลังเดินผ่านกัน เสมือนชั่วขณะเวลาที่โลกแห่งอดีตและปัจจุบันบรรจบเข้าหากันด้วยอดีตชาติจากมรันมาสู่รัดเกล้า รัดเกล้ายื่นมือไปแต่ไม่อาจสัมผัสมรันมาได้
    
    “มรันมา”
    
    มรันมาเหลียวกลับไปมองตามเสียงเรียก เธอไม่เห็นรัดเกล้าที่ยืนอยู่ตรงหน้า
     
    “เหลียวซ้ายเหลียวขวาอะไร มรันมา”
     
    อุตลาดึงมรันมาให้หันกลับมา พาเดินออกไปอย่างเร่งรีบ รัดเกล้ามองตามไปอย่างเสียดาย พลันเห็นสีหสาที่ปลอมเป็นพ่อค้าขายหม้อดิน มองจ้องและตามกลุ่มมรันมาไป รัดเกล้าอยาก
    จะเรียกเตือนมรันมาแต่ไม่มีเสียงมรันมารู้สึกแปลก ๆ หันไปมองด้านหลัง ไม่เห็นใคร
     
    “มองหาใคร มรันมา” กาหลงถามขึ้น
    
    “เปล่าจ้ะ...กาหลง แค่รู้สึกเหมือนมีคนมอง”
    
    “อ๋อ ก็ผู้ชายที่ร้านผ้านั่นไง...แล้วก็พ่อค้าที่ร้านเครื่องเทศนั่นอีก...ใคร ๆ ก็มองมรันมาคนสวยทั้งนั้นแหละ”
    
    อุตลาได้ยินน้ำค้างกระเซ้า ความริษยาพุ่งขึ้นทันที
    
    “มานี่ ข้าจะฟ้องเจ้านางว่าเจ้าชักช้า เพราะ มัวแต่ระริก ทิ้งสายตาให้ผู้ชายทั้งตลาด”
     
    อุตลากระชากมือมรันมาแสดงอำนาจ แต่มรันมาไม่ยอม สะบัด
    
    “อย่าเอานิสัยตัวเองมาด่าคนอื่น อุตลา”
     
    “ก็ข้าเห็นเจ้ามองหาผู้ชาย มานี่ ข้าจะฟ้องให้เจ้านางเฆี่ยนเจ้า มรันมา”
     
    อุตลากระชากแรง มรันมาปัดแรงเพื่อให้อุตลากระเด็น ล้มกลางตลาด อุตลาจะเอาเรื่อง แต่มรันมาวิ่งเร็วออกไปพร้อมกาหลงกับน้ำค้างแล้ว ชาวบ้านหัวเราะอุตลา อุตลารีบลุกขึ้นตามเร็วไปด้วยความโมโห
      
    เมื่อได้ข้อมูลและความเคลื่อนไหวของเมืองศรีพิสยาแล้ว สีหสาก็รีบกลับมารายงานนรสิงห์ทันที
    
    “เราควรจะโจมตี ตอนที่พวกศรีพิสยากำลังหลงระเริงไปกับงานเฉลิมฉลองความสุขจะทำให้พวกมันประมาท และนั่นคือฤกษ์ดีที่จะบุกทำลายศรีพิสยา ในคืนบูชาเพ็ง”
    
    “หลั่งเลือดในคืนศักดิ์สิทธิ์ ไม่ได้เด็ดขาด!!! พระเพ็งเป็นเทพีผู้ประทานความร่มเย็น ไม่ใช่เทพีแห่งสงคราม ถ้าแสงแห่งคืนเพ็ญถูกบด บังในวันฟ้าเปิด พระเพ็งจะพิโรธ เมื่อนั้น...บาปเคราะห์จะรุนแรงทวีคูณ” สุเลวินโหราค้าน
    
    “นั่นแหละคือสิ่งที่ข้าต้องการ ศรีพิสยาต้องย่อยยับ”
    
    “หาใช่ ศรีพิสยา...ความพินาศจะเป็นของผู้กระทำการลบหลู่” สุเลวินโหราเตือน
    
    “อย่าบังอาจปากพล่อยให้ระคายบาทกษัตริย์แห่งเรา องค์นรสิงห์โดนเมืองเล็กศรีพิสยาแข็งข้อ เท่ากับท้าทายพระบารมี อีกหน่อยเมืองเล็ก ๆ มันจะรวมหัวกันเอาศรีพิสยาเป็นตัวอย่าง”
     
    องค์นรสิงห์หันมามองสีหสากับสุเลวินโหราด้วยสายตาไม่พอใจ
    
    “แล้วพวกเจ้าก็มีปัญญา แค่ยืนอวดเก่ง เถียงกันให้ข้าเสียเวลา ออกไปไปให้พ้นหน้าข้า... ทั้งคู่”
    
    สีหสากับสุเลวินรีบถอยออกไปทันที...ทั้งสองเดินมาลานฝึกอาวุธ เห็นทหารกำลังซ้อมการต่อสู้กันอย่างดุเดือด
    
    “หากไม่นับว่าเจ้าเป็นโหรขององค์นร         สิงห์...”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)