ผู้เขียน หัวข้อ: แค้นเสน่หา วันที่ 10 สิงหาคม 2556  (อ่าน 359 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
แค้นเสน่หา วันที่ 10 สิงหาคม 2556
« เมื่อ: สิงหาคม 10, 2013, 05:13:52 am »

 “อย่างที่คุณฉัตต์เห็น” รุ้งบอกเสียงอ่อย ๆ
    
    “เธอเขียนสรุปไว้ท้ายบัญชีรายรับร้านอาหาร แปลว่า เงินที่ส่งให้ฉันเรียนหนังสือ...เงินขายอาหาร ...ไม่ใช่เงินของคุณพ่อหรือ” ฉัตต์ถามอย่างตกใจ
    
    “ค่ะ” รุ้งตอบรับตรง ๆ
    
    “ทำไม...ฉันถามว่าทำไม...ทำไมไม่ใช่เงินคุณพ่อ...มาเอาเงินนี่ทำไม
    
    รุ้งนิ่ง ไม่ตอบ ฉัตต์โมโหตบโต๊ะอย่างแรงจนรุ้งสะดุ้งเฮือก
    
    “ตอบมาเดี๋ยวนี้...ทำไมต้องเอาเงินที่เธอขายอาหาร...เงินคุณพ่อฉันมีทำไมไม่ส่งให้ฉัน...คุณหญิงวิมลโพยม คุณต้องตอบผมมาเดี๋ยวนี้...ถ้าไม่อยากให้ผมอาละวาดไปถึงคนอื่น...ทำไม...เงินคุณพ่อไม่มีเหรอ...ตอบ...คุณพ่อไม่มีเงิน เธอเลยต้อง...”
    
    ฉัตต์โวยวายไม่จบ รุ้งก็โพล่งขึ้นทันที
    
    “ค่ะ คุณลุงกันเงินไว้พอค่าเรียนของคุณฉัตต์กับริมา... แต่ค่ารักษาตัวของคุณลุงเกินกว่า...ที่คุณลุงคิด” คำพูดของรุ้งทำให้ฉัตต์ฟังแล้วนิ่งอึ้งไป ความรู้สึกทั้งอาย ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจประดังขึ้นมาจนแน่นอก ทำให้น้ำตาไหลออกมา
     
    “คุณฉัตต์...ฟังรุ้งก่อนนะคะ”
    
    รุ้งปราดเข้ามาประคอง
    
    “ตลอดเวลาที่ฉันหาเรื่อง...ที่ฉันอาละวาด...ที่ฉันพูดจาไม่ดีกับเธอ...เธอคงนึกยิ้มเยาะอยู่ในใจว่าที่แท้เธอเป็นคนหาเงินให้ฉัน... เป็นคนจุนเจือฉัน...ฉันนี่โง่เง่าจริง ๆ”
    
    ฉัตต์เอ่ยเสียงขืนเจ็บปวด นั่งอย่างหมดแรง ก้มหน้าจนมือทั้งสองกุมอยู่ที่หัว
    
    “ไม่...คุณฉัตต์ รุ้งไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยค่ะ” รุ้งรีบปฏิเสธ
    
    “ทำไมไม่คิดล่ะ... คิดสิ... คิดได้นี่”
    
    ฉัตต์ยิ้มเยาะตัวเอง ลุกพรวดขึ้นจะออกจากห้อง รุ้งผวาเข้ากอดด้านหลังแน่น ซบหน้าแนบหลัง ดึงตัวฉัตต์ไว้ ฉัตต์หยุดชะงัก
     
    “ไม่รู้จักรุ้งหรือคะ...ถึงพูดว่ารุ้งอย่างนี้...ถ้ารุ้งเป็นอย่างที่คุณฉัตต์ว่า คุณฉัตต์รักรุ้งได้ยังไง ถ้ารุ้งเป็น...รุ้งก็ไม่รักคุณฉัตต์หรอกค่ะ...เราจะไม่รักกันถ้ารุ้งเป็นคนแบบนั้น”
    
    รุ้งเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา ฉัตต์หันมาอย่างแรง ผวาเข้ากอดรุ้งและจูบเธออย่างอ่อนโยน...หลังจากที่ทั้งสองหนุ่มสาวปรับความเข้าใจกันได้แล้ว ฉัตต์ก็ยอมให้รุ้งเปิดร้านอาหารราตรีอีกครั้ง...
    
    เมื่อร้านเปิดบริการ ลูกค้าก็พากันมาอุดหนุนมากมายเหมือนเดิม...ระหว่างนั้น บัวที่รู้ว่าฉัตต์เปิดร้านอาหารก็ได้แวะมาหาเขา และเอ่ยถึงเรื่องแต่งงาน ทำให้ฉัตต์อึ้ง พูดไม่ออก จริมากลัวว่าฉัตต์เกรงใจบัวจนยอมแต่งงาน...คืนนั้นเธอจึงพูดกับพี่ชายอีกครั้ง
    
    “ใช่ พี่รักรุ้งมาก...แต่พี่เป็นผู้ชายนะริมา พี่ทำอย่างนั้นกับผู้หญิงไม่ได้” ฉัตต์เอ่ยขึ้นอย่างอึดอัดใจ
    
    “รักตัวเล็กไม่มากพอน่ะสิ” จริมาค้อนใส่
    
    “พี่รักรุ้งที่สุดของหัวใจของพี่...ชาตินี้จะไม่รักใครอีกแล้ว...พี่สาบาน”
    
    ฉัตต์ยืนยันความรู้สึกของตน โดยไม่รู้ว่ารุ้งแอบฟังอยู่
    
    “รักคนหนึ่ง แต่แต่งกับอีกคนหนึ่ง ใครก็ไม่เชื่อพี่ฉัตต์ เขาเป็นเมียพี่ฉัตต์แล้วใช่มั้ยล่ะ อยู่ด้วยกันที่เมืองนอกน่ะ”
    
    “ริมา...ทำไมคิดว่า พี่เป็นผู้ชายเอาเปรียบผู้หญิงแบบนั้น”
    
    “แล้วทำไมล่ะ พี่ฉัตต์ล้มการแต่งงานเถอะ ถ้าไม่เชื่อริมาจะเสียใจไปตลอดชีวิต...ไม่ใช่ตัวคนเดียวนะ ยังมีผู้หญิงอีกคนที่จะเหมือนตายทั้งเป็น...จะบอกให้” จริมาพูดเสียงแข็ง
    
    รุ้งทนฟังไม่ได้แล้ว หันหลังกลับวิ่งลงบันไดไปอย่างเร็ว จริมาได้ยินเสียงหันไปมอง
    
    “ตัวเล็กแน่นอน...ตามไปพี่ฉัตต์”
    
    “ไปไหนล่ะ”
    
    “ไปหาสิ...เวลาตัวเองหายไป ตัวเล็กเค้ายังรู้ว่าตัวไปไหนเลย”
     
    ฉัตต์ตามรุ้งมาที่ศาลาริมน้ำ
    
    “รุ้ง...ฉันจะพูดยังไงดี จะทำโทษตัวเองยังไงดี...ทำไมฉันไม่บอกเธอว่าฉัน...รักเธอเหลือเกิน รักเธอตลอดเวลา ตั้งแต่วันที่เธอตีฉัน เพราะกลัวว่าถ้าคุณพ่อตีฉันจะเจ็บมากกว่า”
    
    “คุณฉัตต์เพิ่งอายุนิดเดียว...รักแล้วหรือคะ”
    
    “มันอาจไม่ใช่ความรัก อาจเป็นแค่ความรู้สึก...จับใจ เข้าใจมั้ย จับใจกับน้ำใจ น่ารักของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ส่งผ่านไม้เรียวอันนั้นมาให้ฉัน แต่เพราะ...เพราะ...ฉันเป็นคนโง่ เป็นคนทิฐิเป็นคนบ้า...เป็น...”
    
    รุ้งแตะนิ้วปิดปากฉัตต์ ฉัตต์จับมือ จูบที่ปลายนิ้ว รุ้งร้องไห้ ฉัตต์จูบซับน้ำตาจนแห้งเหือด
    
    “ฉันเสียใจเหลือเกิน...ฉันไม่ดีกับเธอมาก มายหลายอย่าง แต่เธอกลับทำทุกอย่างเพื่อฉัน เธอเขียนจดหมายถึงฉัน ปลอบโยนฉัน...ฉันมีกำลังใจทุกครั้งที่อ่านจดหมายของริมา...ทั้ง ๆ ที่น่าจะรู้ว่าริมาไม่ใช่คนละเอียดอ่อนอย่างนั้น...แต่เป็นรุ้งคนนี้ต่างหาก...เธอหาทางช่วยฉัน ยอมเป็นแม่ค้าขายอาหารหาเงินให้ฉันเรียนหนังสือจนจบ...แต่ฉันกลับโกรธเธอว่าเธอรุนแรงที่สุด ฉันนี้มัน...เลว...เลวจริง ๆ”
    
    รุ้งเข้าไปกอดฉัตต์อย่างนุ่มนวล ฉัตต์ประคองหน้ารุ้งด้วยความรักเต็มเปี่ยม
    
    “หม่อมราชวงศ์หญิงวิมลโพยม รังสิยา สูงส่งกว่าฉันมาก ทั้งฐานันดรทั้งจิตใจ”
    
    “รุ้งเป็นแค่รุ้ง...รุ้งของคุณฉัตต์”
    
    รุ้งเห็นใจฉัตต์มากที่กลุ้มใจ เธอจึงบอกว่าเธอรักเขา และดีใจที่เขาก็รักเธอ และขอให้ฉัตต์แต่งงานกับบัวตามที่รับปาก ฉัตต์จึงนัดบัวมาพบที่ร้านอาหาร   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)