ผู้เขียน หัวข้อ: แค้นเสน่หา วันที่ 5 สิงหาคม 2556  (อ่าน 493 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
แค้นเสน่หา วันที่ 5 สิงหาคม 2556
« เมื่อ: สิงหาคม 05, 2013, 04:50:59 pm »

 “แย่งทุกอย่างไป ก็ต้องเจอบทเรียนอย่างนี้ คุณหญิงทอแสงรัศมีไม่ใช่คนที่เธอจะล้อเล่นได้ ไหนบอกว่าจะไปจากวังไง ใช้เสน่ห์เล่ห์กลให้พี่ชายพากลับมาอีก”
    
    “คุณหญิงเข้าใจผิด”
    
    “เชอะ...คนอย่างเธอทำเป็นสงบเสงี่ยม นังจริมาว่าร้าย เธอร้ายกว่าหลายเท่าไป...ไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่”
    
    คุณหญิงทอแสงลากรุ้ง เหวี่ยงร่างรุ้งเข้ามาในห้อง...แล้วรุ้งก็หวีดร้องออกมาเต็มแรง นัยน์ตาเบิกกว้างตกใจสุดขีด เมื่อเห็นเฟืองนั่งอยู่ในมุมห้อง ค่อย ๆ หันตัวกลับมามองเธอ พร้อมยกมือที่ถือมีดปาดคอตัวเองอย่างแรง เลือดแดง ๆ ไหลพลั่ก ๆ รุ้งกรีดร้องอย่างตกใจ จนหมดสติไปอีกรอบ
     
    คุณหญิงเพ็งดีใจมากที่ทำให้ฉัตต์เข้าใจเรื่องทั้งหมดได้แล้ว เรียกทุกคนมาคุยที่ห้องโถง แต่ยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องเปิดร้านอาหาร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อที่ต่างประเทศของฉัตต์ เพราะรุ้งกลัวเขาจะเสียหน้า จึงขอร้องทุกคนไว้นานแล้ว ตั้งใจว่าให้ฉัตต์เรียนจบก่อนถึงจะบอก
    
    “ย่าดีใจเหลือเกินนะลูก... จันทร์ แม่ยังจำได้รุ้งเคยพูดกับแม่ว่า ไม่เคยโกรธฉัตต์เลย เพราะจริง ๆ แล้วรุ้งรู้ว่าฉัตต์จิตใจดี ไม่เหมือนที่แสดงออก”
    
    ฉัตต์หันมาสบตากับจันทร์ เพราะเหมือนที่จันทร์พูดเมื่อกี้
    
    “ริมาพยายามบอกพี่ฉัตต์ ฟังซะเมื่อไหร่เล่า รุ้งกลับมา ริมาจะบอกให้โกรธพี่ฉัตต์ได้แล้ว”
    
    “ไม่หรอกค่ะ รุ้งก็จะเหมือนเดิม งานแต่งงานคุณฉัตต์รุ้งคงช่วยสุดตัว ต้องสวยงามทุกอย่าง แต่งที่บ้านใช่มั้ยคะคุณแม่” จันทร์เอ่ยขึ้น
     
    “คงงั้น” คุณหญิงเพ็งเสียงเฉยเมย  จริมาแสร้งชำเลืองดูพี่ชาย   “โอ้โฮ อย่างนี้พี่ฉัตต์มีหวังสวดมนต์ทุกวัน...อยากแต่งเร็ว ๆ ไงคะ”
    
    ฉัตต์ลุกพรวดไป ยืนหันหลังให้ทุกคน ดูข้างหลังรู้ว่า ตัวสั่นสะท้านด้วยความในใจ...จันทร์เห็นบรรยากาศผ่อนคลายลงจึงขอตัวไปโรงพยาบาล  
    
    “อ๋อ ไปหารุ้งเหรอ”
    
    “ค่ะ”
     
    “ไปทำไมคะโรงพยาบาล รุ้งอยู่วังรังสิยาค่ะ คุณชายเดียวรับไป ตั้งแต่วันที่พี่ฉัตต์แสดงอภินิหารไล่รุ้งออกไปค่ะ”
     
    คำบอกเล่าของจริมา ทำให้จันทร์ตกใจเซแทบล้มทั้งยืน ก่อนจะร้องไห้โฮออกมา
    
    “น้าจันทร์เป็นอะไรคะ” จริมาตกใจ
    
    “คุณริมา...น้าต้องไปเดี๋ยวนี้ต้องเอารุ้งกลับ มาทันที โธ่ รุ้ง...รุ้งลูกแม่ ทำไม...ทำไมต้องไปที่นั่น”
    
    จันทร์ลนลาน ทำท่าจะวิ่งออกไป
    
    “เดี๋ยว...จันทร์ พูดอะไรให้รู้เรื่องหน่อย อย่าลุกลี้ลุกลน” คุณหญิงเพ็งร้องถาม
    
    “วังรังสิยาเป็นที่ที่อันตรายที่สุดของรุ้งค่ะ.. ถึงชีวิตค่ะ ถ้าที่ลูกกลัวเป็นความจริง” จันทร์เอ่ยเสียงสั่น
    
    “กลัวอะไร” คุณหญิงเพ็งถามงง ๆ
    
    “กลัวความโกรธ ความเกลียด ความอาฆาต พยาบาท ที่คนที่วังนั่นมีกับลูก...แม้ว่า บางคนที่เกลียดลูกมากจะตายไปแล้ว... แต่ลูกเชื่อว่าวิญญาณ เขายังอยู่” จันทร์บอกตามความรู้สึกของตน
    
    “ทำไมเขาถึงโกรธถึงเกลียด” คุณหญิงเพ็งซักต่อ
    
    จันทร์รวบรวมสติ แล้วตัดสินใจบอกความจริง
    
    “ลูกคือ...หม่อมบุหลัน คนที่เกลียดลูกที่สุดชื่อเฟือง เป็นคนสนิทของท่านหญิงแขไข วันที่ลูกคลอดคุณชายเดียว เฟืองเจตนาฆ่าลูก ให้นายยอดพาลงเรือจะไปคว่ำให้ตายกลางแม่น้ำ ..แต่ลูกคลอดรุ้งอีกคน เขาถึงไว้ชีวิต...รุ้ง คือ หม่อมราชวงศ์ หญิงวิมลโพยม รังสิยา น้องสาวฝาแฝดของคุณชายศักดินาค่ะ”
    
    ทุกคนพากันตกตะลึง เมื่อรู้ความจริง ฉัตต์ร้อนใจมาก บอกเขาจะไปพารุ้งกลับมาเดี๋ยวนี้ ทุกคนขอตามไปวังรังสิยาด้วย จันทร์บอกคุณหญิงเพ็งให้รออยู่ที่บ้าน...
    
    “ย่าเป็นตัวถ่วงใช่มั้ย...ไปเร็ว ๆ คนตายไม่เป็นไร ทำอะไรรุ้งไม่ได้ ห่วงแต่ท่านหญิง บอกตรง ๆ ย่าสังเกตอยู่เหมือนกันว่าท่านมองจันทร์ มองรุ้ง แปลก ๆ ดูไม่ออกว่าดีหรือไม่ดี...”   “ไป...ริมาดูแลพี่ด้วย อย่าให้เขาใจร้อนจนเกินไป...จันทร์”
    
    “ค่ะคุณแม่”
    
    คุณหญิงเพ็งกอดจันทร์อย่างให้กำลังใจ
    
    “ลูกแม่เป็นคนดี หลานแม่ก็เป็นคนดี ตัดสินปัญหาทุกอย่างด้วยความคิดที่ดี ความเมตตาเป็นที่ตั้ง ความดีจะคุ้มครองทั้งสองคน”
     
    จันทร์ซึ้งใจทรุดตัวลงกราบคุณหญิงเพ็ง น้ำตาคลอ ยอดเห็นทุกคนออกมาท่าทางร้อนใจ จึงตรงเข้าไปหา สีหน้าถามจะไปไหน
    
    “ฉันจะไปวังรังสิยา ไปรับคุณรุ้งกลับ ยอดดูแลทางนี้ เพราะคุณหญิงไม่ได้ไป” จันทร์บอก
    
    “ผมไปด้วย” ยอดสวนทันที
     
    ทุกคนพากันตกใจที่ยอดพูดได้ ยอดเข้าไปกราบคุณหญิง สีหน้าขอโทษ จันทร์พูดอธิบายแทน
    
    “ยอดไม่ได้เป็นใบ้...เขาต้องทำเป็นใบ้เพราะเขาไม่รู้จะตอบใครอย่างไร ตอนที่มีคนพบเราสามคนที่ท่าน้ำค่ะ”
    
    “เอาเถอะ ค่อย ๆ พูดกันทีหลัง”
    
    ยอดกราบคุณหญิงเพ็ง ลุกขึ้น หันกลับมาเจอหน้าฉัตต์ ยืนประจันหน้า สีหน้าฉัตต์เหมือนจะพูดว่า เห็นมั้ยฉันดูไม่ผิด
    
    “ฉัตต์!” คุณหญิงเพ็งปราม ฉัตต์นิ่ง ทุกคนจ้องอย่างวิตก แล้วฉัตต์ก็ถอยไปขึ้นรถ ทุกคนพากันโล่งอก
    
    “เฮ้อ...พายุพัดผ่านไปแล้ว ไปได้” จริมา บอกยิ้ม ๆ
    
    ยอดรีบตามไปขึ้นรถด้วยทันที
     
    คุณหญิงทอแสงข้องใจและสงสัยเรื่องท่านหญิงแขไขกับรุ้ง จึงเข้ามาถามท่านหญิงที่ในห้อง
    
    “ท่านป้าคะ...ท่านป้าทรง...เอ่อ ไม่ชอบรุ้งใช่มั้ยคะ หญิงเห็นท่านป้า...”
    
    ท่านหญิงแขไขไม่พอใจลุกขึ้นจะเดินออกไป แล้วหยุดชะงักหันมา
    
    “เขาเป็นคนไม่ดี...แม่เขาก็ไม่ดี...ป้าไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นอย่างนี้
    
    “ท่านป้าทรงรู้จักแม่ของเขาด้วยหรือคะ”
    
    “รู้จัก” ท่านหญิงพูดเสียงเครียด
    
    “เอ... น่ากลัวจะใช่ ว่าเขาเป็นคนที่ท่านแม่รับสั่งถึง ว่าท่านแม่เคยรู้จัก เขาเป็น...”
    
    คุณหญิงทอแสงพูดไม่ทันจบประโยค ท่านหญิงแขไขตวาดสั่งให้หยุดพูด และไล่ให้ออกไป
    
    “ท่านป้าคะ...” คุณหญิงทอแสงหน้าเสีย
    
    “ถ้าเธอไม่ไป ฉันจะไปเอง...จะไปหรือไม่ไป”
     
    ท่านหญิงทุบโต๊ะอย่างอัดอั้น คุณหญิงทอแสงตกใจ เมื่อจัดการทุกอย่างแล้ว ผีเฟืองก็กลับมาบอกท่านหญิงที่กำลังนอนหลับ และฝันว่าตนยืนจ้องมองภาพท่านชายอย่างสะใจอยู่ในห้องเก็บกระดูก   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)