เพิ่งจะครบ 4 เดือนไปหมาด ๆ สำหรับ “น้องภู-ภูดิศ” ล่าสุดได้เจอคุณพ่อคุณแม่อย่าง ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ และ เอ๋–พรทิพย์ มาร่วมงาน “แอมบิเพอร์ สเมลลี่ ทู สมายลี่” ที่ เซ็นทรัล พระราม 9 เลยต้องให้ทั้งคู่อัพเดทเกี่ยวกับพัฒนาการของลูกสักหน่อยว่าโตเร็วแบบนี้ พร้อมรับงานรึยังและจะมีทายาทคนต่อไปเลยรึเปล่า นอกจากนี้ยังให้ป๋อเคลียร์เรื่องที่ว่าถูกถอดจาก “บางระจัน” โดยมี เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์ มาเสียบแทนอีกครั้งด้วย เอ๋ เผยว่า “ที่เหมือนเขามีพัฒนาการเร็ว เพราะน้องภูกินนมแม่ คุณหมอบอกว่าตัวเลยใหญ่ เป็นเด็กสมบูรณ์แข็งแรง จริง ๆ เราไม่ต้องระวังเรื่องการกินของเขา เพราะเขากินนมแม่อย่างเดียว แต่ก็มีพวกอาหารที่เรากินต้องระวัง กลัวจะแพ้นิดหน่อย คือก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าเขาแพ้อะไร เป็นผื่นขึ้นที่ตัว ไปหาหมอหมอ บอกว่าให้คุณแม่ลดอาหารกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเป็นของที่เราชอบหมดเลย ทั้งไข่ นม ซีฟู้ด ถั่ว ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าเขาแพ้อะไร เอ๋ก็ลดอาหารพวกนั้นไปก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมา สำหรับเรื่องให้น้องรับอีเวนต์ ตอนนี้ยังรับไม่ได้ อยากให้น้องโตสัก 6 เดือนแล้วรู้เรื่องอีกนิดนึงก่อน ถามว่าตอนนี้เตรียมความพร้อมที่จะมีน้องให้น้องภูต่อเลยไหม ตอนนี้ยังไม่พร้อม ยังจำความรู้สึกแพ้ท้องอย่างแรงได้อยู่เลย และอยากให้นมลูกเต็มที่ก่อน ถ้ามีลูกอีกคนน้ำนมคงไม่มีแน่ ขอเวลาอีกสักพักนึงค่ะ” ด้านป๋อ เสริม “ตอนนี้น้ำหนักของน้องภู 8 กก.เลย จ้ำม่ำมาก ๆ และโตไวมาก สำหรับเรื่องมีน้องอีกคน ต้องบิวต์เข้าไปครับ เอ๋จะได้มีให้ผมอีกคน ถามว่าผมอยากมีไหม ต้องบอกว่าต้องรักคนโตให้ที่สุดก่อนไปสู่คนต่อไป ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาจะน้อยใจ แต่มีเลยก็ดีนะ ของจะใช้ต่อกันได้เลย” ถามถึงล่าสุดมีข่าวว่าป๋อถูกถอดจากละคร “บางระ จัน” ? “ไม่ได้ถูกถอดครับ เรื่องของเรื่องคือผมเล่น “ทรายสีเพลิง” และเรื่องนี้ยังไม่ปิดกล้อง คิวมันชนกันและตัวผมเองได้พูดคุยกับทางพี่หน่อง-อรุโณชา และทางช่อง 3 จนสรุปได้ว่ามันจะห่วงหน้าพะวงหลังเพราะเวลาทาบกันพอดี บางระจันเป็นละครฟอร์มใหญ่มาก เราไม่สามารถทำให้ทุกคนรอคิวผมคนเดียว ผมบอกพี่หน่องว่าถ้าเป็นอย่างนั้นพี่หน่องสามารถหานักแสดงคนใหม่ได้เลย ดังนั้นเราก็พูดคุยกันจนได้บทสรุปว่าควรเปลี่ยนแผนให้ผมไปเล่นอีกเรื่องคือ “สายลับสามมิติ” ส่วนที่บอกว่าบทของผมสุดท้ายมาลงตัวที่ น้องเต้ย-พงศกร อีกแล้ว ผมว่าก็ดีออก วันงานเลี้ยงดาราช่อง 3 ผมเดินไปหาเต้ย และบอกเขาว่าเป็นยังไงบ้างกับ “พันท้ายนรสิงห์” ขอบคุณมากที่ช่วยเล่นให้พี่ เพราะพี่ไม่มีเวลาจริง ๆ คือหน้าที่ของพี่ที่ดีในวงการมันไม่ได้หมายความว่าใครจะดีหรือเด่นกว่าใคร เราอยู่แล้วมีเพื่อนร่วมงานเรื่อย ๆ ดีกว่า เส้นทางนี้มันจะสวยงามมากถ้าพี่จูงน้อง น้องพาพี่ไป จริง ๆ เราก็เสียดายที่ไม่ได้เล่นบางระจัน เพราะเป็นละครฟอร์มยักษ์และเป็นบทประพันธ์ที่น่าเล่นมาก แต่ต้องบอกเลยว่าถ้าทำไม่ได้ ก็บอก ตรง ๆ ว่าผมไม่มีเวลา ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ของทางช่องและแฟน ๆ ที่รอดูครับ”.
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง
