ผู้เขียน หัวข้อ: นางร้ายสายลับ วันที่ 5 สิงหาคม 2556  (อ่าน 377 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
นางร้ายสายลับ วันที่ 5 สิงหาคม 2556
« เมื่อ: สิงหาคม 05, 2013, 04:50:56 am »

 “ฮัลโหล! มีอะไร ประชุมพรุ่งนี้ แล้วมา บอกฉันทำไม… หา ให้ฉันไปประชุมด้วย นี่คุณสารวัตร ฉันไม่ได้ว่างขนาดนั้นนะ ฉันเป็นดารา คิวฉัน… ฮัลโหล ๆ ๆ โธ่เว้ย ไอ้ตำรวจฮิตเลอร์”
     
    วันรุ่งขึ้น นฤเบศพาสุรีกานต์ไปแนะนำให้คนในทีมได้รู้จัก เสร็จแล้วก็ค่อยอธิบายแผนงานของคดีให้สุรีกานต์ฟัง
     
    “คดีที่ทางเราได้รับมอบหมายมาคือ การ กวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ และนี่คือผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนเกี่ยวพันกับคดีนี้”
    
    สุรีกานต์ไล่สายตามองข้อมูลต่าง ๆ ในชาร์ต นฤเบศมองท่าทางเริ่มสนใจของสุรีกานต์แล้วพูดต่อ “คนอื่นคุณไม่ต้องสนใจ คนเดียวที่ผมอยากให้คุณสนใจมากที่สุดคือ มิสเตอร์ริชาร์ด รอซซีนี่ รหัสลับที่เราใช้เรียกเขาคือ พลูโต”
    
    รูปริชาร์ดขยายใหญ่ขึ้นมาเต็มจอ สุรีกานต์มองอย่างเก็บรายละเอียด
    
    “พลูโต”
    
    “ใช่ พลูโต อดีตดาวเคราะห์ที่ถูกปลดออกจากระบบสุริยจักรวาล ก็เหมือนมิสเตอร์ริชาร์ดคนนี้ ถ้าเราจับเขาไม่ได้และเขาหนีออกนอกประเทศไปได้เมื่อไหร่ เขาก็จะหลุดออกจากวงโคจรไม่ต่างไปจากดาวพลูโต”
    
    “ช่างคิดเนอะ”
    
    “คุณไม่ต้องสนใจที่มาของมันหรอก ผมอยากให้คุณสนใจหน้าที่ของคุณมากกว่า”
    
    “แล้วหน้าที่ฉันต้องทำอะไรบ้าง”
    
    “คุณเป็นสายลับ หน้าที่ของคุณคือ สืบข้อมูลทุกอย่างจากพลูโต ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดชนิดใหม่ที่มีชื่อว่าคอนเนควัน”
    
    “แค่นี้” “ใช่”
    
    “ไม่เห็นต้องใช้ฉันเลย คุณไปหาสปายที่ไหนก็ได้”
    
    “นี่คุณดารา ที่ผมใช้คุณเพราะคุณเป็นผู้หญิง แน่นอนว่าคุณสวย… แล้วผู้ชายที่ไหนก็แพ้ผู้หญิงสวย ยิ่งผู้ชายอย่างริชาร์ด ยิ่งแพ้”
    
    “คุณเลยกะจะใช้ความสวยของฉันให้เป็นประโยชน์ว่างั้น”
    
    “ใช่ คุณเอาความสวยของคุณไปทำให้ริชาร์ดไว้ใจแล้วก็หาข้อมูลมาให้ผม หวังว่าคุณจะทำได้นะ”
    
    “แน่นอน โซ่สุรีกานต์น่ะเกิดมาเพื่อเป็นนางร้าย งานที่ต้องใช้ความสวย และการหว่านเสน่ห์เนี่ย ฉันถนัดอยู่แล้ว”
    
    สุรีกานต์ตาต่อตากับสารวัตรนฤเบศอย่างไม่ยอมแพ้ จนจ่ายมที่นั่งมองอยู่ต้องขัดจังหวะขึ้นมา
    
    “เอ่อ สารวัตรครับ รหัสลับของคุณสุรีกานต์ล่ะครับ”
    
    “รหัสลับของคุณคือ มูน ส่วนของพวกผม  คือ เดอะซัน ผมคือเดอะซันหนึ่ง ผู้กองอัศวิน คือเดอะซันสอง หมวดปรีติคือเดอะซันสาม หมวดประเสริฐ คือเดอะซันสี่ และจ่ายมคือเดอะซันห้า คุณจำให้ดีนะ เวลาปฏิบัติงานเราจะติดต่อกันโดยใช้รหัสลับ”
    
    “มูนเหรอ ฉันขอเปลี่ยนได้มั้ย” “นี่คุณดารา อย่ามาเรื่องมาก ผมไม่ทนคุณแบบทีมงานคุณนะ”
    
    “ก็มูนมันขรุขระนี่ ฉันไม่ชอบ เอาเป็นว่า ฉันขอใช้เนปจูนแทนล่ะกันนะ มันอยู่ไกลจากดวงอาทิตย์ดี ฉันชอบ”
    
    อัศวินโพล่งบอกออกมา “ผมว่าเนปจูนก็เหมาะกับคุณสุรีกานต์ดีนะครับ ดาวเคราะห์สีน้ำเงินแสนสวย”
    
    “งั้นคงไม่มีใครขัดข้องที่ฉันจะใช้รหัสนี้นะคะ”
    
    “โอ๊ยยย ไม่มี ๆ ไม่มีครับ คุณสุรีกานต์อยากใช้ดาวไหนก็เอาเลยครับ หรือจะเอาดาวในใจผมก็ยังได้”
    
    ทุกคนทำท่าอาเจียนใส่จ่ายม นฤเบศรีบตัดบท
    
    “เอาล่ะ ๆ พอได้แล้ว ต่อไปผมจะบอกภารกิจแรกของเราให้ทุกคนได้รับทราบขอให้ทุกคนตั้งใจฟัง โดยเฉพาะคุณ คุณสุรีกานต์ ฟังให้ดี ๆ และช่วยปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดด้วย”
     
    นฤเบศไปพบรองมานพที่ห้องทำงาน เพื่อรายงานเรื่องการหาสายลับหญิงให้ทราบ แพรไหมทำคุกกี้มาให้รองมานพผู้เป็นพ่อ เลยได้เจอกับนฤเบศหลังจากไม่ได้เจอกันมานาน
    
    “ไม่ได้เจอพี่เบศนานมากเลย เจอครั้งสุดท้ายตอนไหมรับปริญญาโน่น เกือบสองปีได้แล้วมั้ง” แพรไหมชวนนฤเบศคุยขณะเดินออกมาจากห้องรองมานพด้วยกัน
    
    “เห็นท่านรองบอกว่าไหมไปเรียนคอร์ส เบเกอรี่ที่ฝรั่งเศส”
    
    “ใช่แล้วค่ะ ไหมเพิ่งกลับมาเมืองไทยได้สองเดือนนี่เอง”
    
    “ช่วงนั้นพี่คงยุ่งกับงานเลยไม่รู้เรื่องเลย”
    
    “ไหมก็ยุ่ง ๆ เหมือนกันค่ะ พอดีมีโครงการจะเปิดร้าน”
    
    “หือ ร้านเบเกอรี่เหรอ”
    
    “ค่ะ พี่เบศก็รู้น้องสาวคนนี้ชอบทำขนมจะตาย”
    
    “โห น้องสาวพี่โตขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย เมื่อก่อนแค่เล่นซ่อนแอบยังกลัวจนร้องไห้ขี้มูกโป่ง ดูตอนนี้สิ เก่งขนาดจะมีร้านเป็นของตัวเองแล้ว”
    
    “นั่นมันสมัย 7-8 ขวบนะคะ ปีนี้ไหมอายุ 23 แล้วนะคะ”
    
    “เหรอ ทำไมยังตัวแค่นี้อยู่เลยเนี่ย”
    
    “ใครจะสูงเป็นเสาไฟฟ้าแบบพี่เบศล่ะ”
    
    “เรานั่นแหละ หลักกิโลเดินได้”
    
    “พี่เบศใจร้าย”
    
    แพรไหมแอบค้อน นฤเบศยิ้มอย่างอารมณ์ดี จังหวะนั้นเองทั้งคู่เดินไปถึงลานจอดรถพอดี
    
    “ไหมขอแวะไปหาพี่เบศที่บ้านบ้างได้มั้ยคะ อยากเจอป้ามล ไม่ได้เจอนานแล้ว”
    
    “ได้สิ บ้านพี่อยู่ที่เดิม ไปหาได้ทุกเมื่อ”
    
    “งั้นไหมจะทำขนมไปให้ทานนะคะ ยืมตัวเป็นหนูทดลองหน่อย”
    
    “เอาจริงเหรอ พี่ไม่ค่อยถูกกับขนมหวานซะด้วย”
    
    “ไม่รู้แหละ เดี๋ยวไหมลองทำไปให้ชิมนะคะ”
    
    “งั้นก็ตามใจ ได้กินของฟรีป้ามลก็คงชอบเหมือนกัน”
    
    นฤเบศหัวเราะอารมณ์ดี แพรไหมยิ้มแล้วหันไปเปิดประตูขึ้นรถ
    
    “งั้นไหมกลับก่อนนะคะ ไว้จะแวะไปหาแน่ ๆ”
    
    “ขับรถดี ๆ ล่ะ” นฤเบศขยี้ผมอย่างเอ็นดู แพรไหมแอบเขินหัวใจเต้นแรง นฤเบศปิดประตูรถให้ แล้วรถของแพรไหมก็แล่นออกไป อีกด้านของลานจอดรถ มังกรกำหมัดแน่น มองไปที่สารวัตรนฤเบศที่ยืนมองส่งแพรไหมด้วยสายตาเคียดแค้น
    
    “ใจคอจะแย่งทุกอย่างไปจากกูเลยเหรอ ไม่มีวันซะล่ะ กูจะเอาชนะมึงให้ได้ไม่ว่าเรื่องงานหรือความรัก ไอ้นฤเบศ”
     
    แก้วดารามาสายตั้งแต่วันแรกของการถ่ายทำ แต่อาศัยทำแอ๊บแบ๊วน่ารัก ท่าทางสำนึกผิด อ้างว่าช่วงนี้คิวแน่น ต้องทำงานเช้ายันดึกทุกวัน จนแทบไม่มีเวลาพัก เอาตัวรอดจากการถูกตำหนิไปได้
    
    แก้วดาราต้องเข้าฉากกับกวิน ในบทแก้วดาราสะดุดขั้นบันไดเสียหลักจะล้ม กวินเข้าไปโอบแก้วดาราไว้จากด้านหลัง แก้วดาราฉวยโอกาสซุกเข้าไปกับอกของกวิน จนกวินเริ่มเกร็ง จากนั้นแก้วดาราก็ค่อย ๆ เงยหน้ามาสบตากับกวิน สองคนจ้องมองตากันเหมือนต้องมนต์สะกด
    
    สุรีกานต์ยืนมองแก้วดารากับกวินซ้อมคิวนิ่ง ก่อนจะสะบัดหัวเรียกสมาธิแล้วเบนสายตาไปมองทางอื่นแทน เนธานยืนอยู่ข้าง ๆ สุรีกานต์ พอเห็นการแสดงของแก้วดาราแล้วก็กระตุกยิ้ม ก่อนจะเหลือบไปมองสุรีกานต์แล้วแกล้งถามลองใจ
    
    “ช่วงนี้โซ่เจอนิลบ้างมั้ย”
    
    สุรีกานต์ชะงักไปเล็กน้อย “ก็บ้าง แต่ไม่บ่อยหรอก ยุ่ง ๆ กันทั้งคู่น่ะ ถามทำไมเหรอ”
    
    “อ๋อ ไม่มีอะไร พอดีก่อนหน้านี้ไม่กี่วันฉันเพิ่งไปถ่ายแบบที่อิตาลีเห็นนิลอยู่คนเดียวเลยคิดว่าเขาอาจจะไปหาโซ่”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)