ผู้เขียน หัวข้อ: นางร้ายสายลับ วันที่ 31 กรกฎาคม 2556  (อ่าน 542 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
นางร้ายสายลับ วันที่ 31 กรกฎาคม 2556
« เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2013, 08:51:03 am »

 พอถ่ายละครเสร็จ สุรีกานต์หรือ โซ่ นางร้ายเบอร์หนึ่งของวงการบันเทิง ก็รีบขับรถกลับบ้านทันที ระหว่างทาง เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น สุรีกานต์ควานมือหาโทรศัพท์ในกระเป๋าตรงเบาะนั่งข้างตัวอย่างทุลักทุเลเห็นชื่อ “วุ้นกรอบ” ขึ้นบนหน้าจอ
    
    “รู้เวลาดีจริงนะ เป็นช่างแต่งหน้าหรือผู้จัดการส่วนตัวกันแน่เนี่ย”
    
    สุรีกานต์กำลังจะกดรับ แต่เสียงบีบแตรดังขึ้น พอเงยหน้ามองก็ตาโตตกใจ ร้องกรี๊ด จนโทรศัพท์ร่วงหลุดจากมือ รีบหักหลบรถที่พุ่งออกมาจากซอยได้อย่างฉิวเฉียด
    
    สุรีกานต์ถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วมองไปที่กระจกหลัง “ฮึ้ย ขับรถประสาอะไรเนี่ย ไม่ดูตาม้าตาเรือเลย”
    
    สุรีกานต์ขับต่อมาเรื่อย ๆ กำลังจะเลี้ยวขึ้นทางเอก เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นอีก สุรีกานต์พยายามเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่ตกอยู่บนเบาะข้างประตูขึ้นมาดู จังหวะนั้นเสียงบีบแตรก็ดังลั่นขึ้น สุรีกานต์เงยหน้ามองข้างหน้า เห็นรถคันหนึ่งกำลังพุ่งตรงมาอย่างน่ากลัว สุรีกานต์ตาโตตกใจร้องกรี๊ดดังลั่นเท้าเหยียบเบรกมิด
    
    รถสุรีกานต์กับรถสารวัตรนฤเบศจอดห่างกันแค่คืบ นฤเบศลงจากรถท่าทางหัวเสียตรงไปเคาะกระจกเรียกสุรีกานต์
    
    สุรีกานต์ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมา “กรี๊ดดด แกเป็นใครเนี่ย ถอยไปเดี๋ยวนี้นะ”
    
    นฤเบศยังไม่หยุดเคาะกระจกจนสุรีกานต์เริ่มโมโห
    
    “เคาะอยู่นั่นแหละ รถฉันไม่ใช่ถูก ๆ นะ” สุรีกานต์ลดกระจกลงเล็กน้อยมองหน้าสารวัตรนฤเบศอย่างเอาเรื่อง “มีอะไร”
    
    “คุณขับรถยังไงของคุณ ลงมาคุยกันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้เลย”
    
    “คุยตรงนี้ก็ได้ นายมีอะไรก็ว่ามา”
    
    “นี่คุณทำผิดแล้วคิดจะชิ่งเหรอไง” 
    
    สุรีกานต์โกรธ เปิดประตูลงจากรถ “นี่! คนอย่างฉันไม่คิดจะหนีหรอก นายมีปัญหาอะไร” สุรีกานต์มองนฤเบศหัวจดเท้า “โจรชัด ๆ…นายอยากได้เงินใช่มั้ยล่ะ”
    
    “หยุดกล่าวหาผมเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นผมฟ้องคุณข้อหาหมิ่นประมาทแน่ ทางที่ดีคุณขอโทษผมมาดีกว่า เรื่องมันจะได้จบ ๆ”
    
    “หา! อะไรนะ ให้ฉันขอโทษนายเนี่ยนะ”
    
    “ใช่ ก็คุณขับรถมาเกือบชนรถผม คุณผิด คุณก็ต้องขอโทษสิ”
    
    “อย่ามาโทษฉันนะ ไหนล่ะพยาน อย่านึกนะว่าฉันไม่รู้ทันแผนการชั่วร้ายของนายน่ะ อยากได้เงินชดใช้ค่าเสียหายที่มันยังไม่มีอะไรเสียหาย ก็บอกมาเถอะ”
    
    “นี่คุณ!! กรุณาฟังให้ชัด ๆ นะ ผมไม่ใช่โจร และผมก็ไม่ได้ต้องการเงินจากคุณด้วย”
    
    “แล้วต้องการอะไร อย่าบอกนะว่า ต้อง การ…” สุรีกานต์ขยับถอยหนี รีบเอาสองมือปิดป้องตัวเองไว้อย่างระแวง
    
    “ดูละครมากไปใช่มั้ยเนี่ย หรือว่าจะเป็นพวกฟั่นเฟือน ผมไม่น่ามาเสียเวลากับคนเพี้ยน ๆ อย่างคุณเลย” นฤเบศเดินผละไปขึ้นรถและขับออกไปทันที
    
    “ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ ไอ้สิบแปดมงกุฎ ไอ้... ฮึ่ย ฝากไว้ก่อนเถอะ” สุรีกานต์มองตามอย่างโมโหสุด ๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สุรีกานต์รับสาย “จะโทรฯ จิกอะไรนักหนาเนี่ย ฉันเกือบจะตายเพราะแกอยู่แล้วรู้มั้ย เออ... รู้แล้วน่า งานวันพรุ่งนี้ที่สยามพาเลซไม่ลืมหรอก”
     
    ที่ห้องสอบสวน สำนักงานกองบัญชาการตำรวจ ชายคนร้ายท่าทางหวาดกลัวนั่งอยู่บนเก้าอี้กลางห้อง จ่ายมเดินวนรอบเก้าอี้ วางท่าข่มขู่
    
    นฤเบศเดินหัวเสียเข้ามา “เป็นไงบ้าง”
    
    “ปากแข็งน่าดูเลยครับสารวัตร ง้างปากยังไงมันก็ไม่ยอมพูดซะที”
    
    “บอกมาเร็ว ๆ ว่านายแกเป็นใคร”
    
    ชายคนร้ายยังคงอึกอัก
    
    “โอเค จ่ายมจัดการด้วย”
    
    จ่ายมเดินเข้ามาหาชายคนร้าย ทำหน้าตาขึงขังแกล้งยกมือปาดคอขู่ หัวเราะแบบโหด ๆ ชายคนร้ายรีบบอกออกมาว่าตนทำงานให้เสี่ยนาถ
    
    “แกรู้อะไรอีก บอกมาให้หมดนะ”
    
    “เอ่อ คือ ผมรู้มาว่าพรุ่งนี้จะมีการส่งของ”
    
    “ที่ไหน”
    
    “ผมไม่รู้ รู้แต่ว่าลูกค้ารายนี้เป็นคนสำคัญมาก คืนพรุ่งนี้ เสี่ยนาถเลยจะไปพบเขาด้วยตัวเองที่งานสัมมนา โรงแรมสยามพาเลซ”
     
    บรรยากาศหน้างานประกาศรางวัล เป็นไปอย่างคึกคัก เหล่าดารานักแสดงในชุดราตรีหรูทยอยเดินผ่านพรมแดงเข้ามาร่วมงาน โดยมีนักข่าวจากสำนักต่าง ๆ คอยกดชัตเตอร์เก็บภาพ
    
    แก้วดาราในชุดราตรีหรู เดินยิ้มหวานแอ๊บแบ๊วเข้ามาในงาน โพสท่าให้นักข่าวถ่ายรูปไม่หยุด อุษณะในชุดสูทหล่อสง่าเดินควงคู่มากับพลอยนิลในชุดราตรีสวยหวานทั้งคู่หยุดยิ้มให้นักข่าวรุมถ่ายรูป กองทัพนักข่าวทิ้งแก้วดาราวิ่งไปรุมถ่ายรูปพลอยนิลกับอุษณะแทน แก้วดาราได้แต่มองตามอย่างแค้นใจ สุรีกานต์ในชุดราตรีสวยจนเป็นที่ฮือฮา ส่งยิ้มโพสท่าให้นักข่าวถ่ายรูป ก่อนเดินไปถ่ายร่วมกับพลอยนิลและอุษณะแสงแฟลชวูบวาบอย่างต่อเนื่อง
    
    เวลาเดียวกันนั้น ในห้องนํ้าพนักงานชาย ในโรงแรมสยามพาเลซ นฤเบศในชุดบริกรของโรงแรม ท่าทางหล่อเนี้ยบ สะอาดสอ้าน ไม่เหลือเค้าสารวัตรหน้าโหดกำลังใช้มือจัดหูกระต่ายอยู่หน้ากระจก จัดแต่งทรงผม ติดเครื่องมือหูฟังสายลับ
    
    ตรวจเช็กความเรียบร้อยเสร็จแล้ว นฤเบศรีบร้อนเดินออกไปตามหาเสี่ยนาถ พอเห็นเสี่ยนาถกับลูกน้องเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงงานสัมมนา นฤเบศก็รีบแตะหูฟัง บอกให้ทุกคนเตรียมพร้อม เป้าหมายมาถึงแล้ว
    
    งานเลี้ยงสัมมนาเป็นแบบสังสรรค์กึ่งทางการ นฤเบศถือถาดเครื่องดื่มเสิร์ฟแขกอยู่ในงาน สบตากับอัศวินและประเสริฐที่แฝงตัวเป็นบริกร อยู่ภายในงานเช่นกัน
    
    นฤเบศกวาดตามองเห็นเสี่ยนาถหยุดยืนทักทายนักธุรกิจกลุ่มหนึ่งก่อนจะเดินผ่านไปนั่งโต๊ะมุมหนึ่งของห้องจัดเลี้ยง ลูกน้องเสี่ยนาถถอยไปยืนคุมเชิงอยู่ห่าง ๆ
     
    สุรีกานต์ได้รับรางวัลนางร้ายยอดเยี่ยมแห่งปี จากละครเรื่อง “ยอดพธูชู้เสน่หา” เสียงปรบมือดังกึกก้อง สุรีกานต์หันไปยิ้มกับพลอยนิล ก่อนลุกเดินขึ้นไปรับรางวัลบนเวที
    
    “เรียกได้ว่าเธอเป็นนางร้ายตัวแม่แห่งยุคเลยทีเดียว เพราะครองรางวัลนี้มาถึง 3 ปี ซ้อนแล้วค่ะ”
    
    “ขอแสดงความยินดีกับคุณโซ่ด้วยนะครับ” พิธีกรชายบนเวทีกล่าวแสดงความยินดีกับสุรีกานต์
    
    “ขอบคุณนะคะสำหรับรางวัลนี้ โซ่รู้สึกเป็นเกียรติมากค่ะ ก่อนอื่นโซ่ต้องขอขอบคุณอายอด ที่มอบโอกาสดี ๆ ให้โซ่มาโดยตลอด ขอบคุณทีมงาน แฟนละครที่คอยติดตามผลงานตลอด 7 ปีที่ผ่านมา และที่ลืมไม่ได้คือต้องขอบคุณครอบครัวซึ่งเป็นกำลังใจที่มีค่ามากของโซ่ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” สุรีกานต์ชูรางวัล ยิ้มภูมิใจ
     
    นฤเบศนำเครื่องดื่มไปเสิร์ฟที่โต๊ะเสี่ยนาถอย่างนอบน้อม พ่อเลี้ยงกำธรเดินตรงมายังโต๊ะเสี่ยนาถ นฤเบศหันตัวกลับแกล้งชนพ่อเลี้ยงกำธรจนเครื่องดื่มหกรดเสื้อพ่อเลี้ยงกำธร ถาดเครื่องดื่มตกลงบนพื้น แก้วแตก คนในงานกลุ่มหนึ่งหันมามอง
    
    พ่อเลี้ยงกำธรโมโห “เฮ้ย เดินยังไงเนี่ย ไม่มีตารึไงวะ”
    
    “ขอโทษครับท่าน เป็นความผิดของผมเองที่ไม่ทันระวัง ผมจะรีบจัดการให้นะครับ”
    
    นฤเบศทำลนลาน รีบก้มลงเก็บเศษแก้วระหว่างนั้นแอบติดเครื่องดักฟังไว้ที่ใต้เก้าอี้ของเสี่ยนาถ
    
    “ฉันต้องการพบผู้จัดการเดี๋ยวนี้ แกโดนไล่ออกแน่”
    
    เสี่ยนาถรีบตัดบท “ใจเย็นน่า อย่าให้เรื่องไม่เป็นเรื่องมาทำให้เราต้องเสียเวลาเลยดีกว่า”
    
    พ่อเลี้ยงกำธรมองอย่างเคือง ๆ ก่อนนั่งลง สารวัตรนฤเบศก้มหัวกล่าวคำขอโทษอีกครั้งแล้วเดินออกไปแอบยิ้มมุมปาก ก่อนหลบเข้ามุมหนึ่งแล้วยกมือขึ้นแตะหูฟังสายลับ
    
    “เรียบร้อยมั้ยจ่า” จ่ายมที่อยู่ในรถตู้สายลับที่จอดอยู่หน้าโรงแรมกับปรีติรีบตอบกลับไป “โอเคเลยครับสารวัตร รับรองงานนี้ไม่พลาดแน่ โอ๊ะ สัญญาณมาแล้วครับ”
    
    สัญญาณคลื่นเสียงปรากฏบนจอคอมพิว เตอร์ เสียงเสี่ยนาถคุยกับพ่อเลี้ยงกำธรดังขึ้นมา
    
    “ของที่คุณสั่ง ผมเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว”
    
    “ผมไม่ผิดหวังจริง ๆ ที่ร่วมงานกับคุณ”
    
    “วางใจได้เลย คืนนี้ไม่พลาดแน่ ไอ้พวกตำรวจคิดว่าเราคงเก็บตัวเงียบไปอีกนาน แต่ใครจะรู้ ยิ่งเสี่ยง ยิ่งปลอดภัย”
     
    งานประกาศผลรางวัลยังดำเนินต่อไป อุษณะกับพลอยนิลได้รับรางวัลพระนางคู่ขวัญแห่งปี จากละครเรื่อง “ยอดพธูชู้เสน่หา” คนในงานปรบมือให้เสียงดังกึกก้อง
    
    “ละครเรื่องนี้มาแรงจริง ๆ กวาดรางวัลทั้งนางร้ายยอดเยี่ยมและคู่ขวัญแห่งปีเลยนะครับ”
    
    “คู่ขวัญคู่นี้ แฟน ๆ เชียร์ให้อินเลิฟทั้งในจอและนอกจอ เล่นละครด้วยกันเมื่อไหร่ การันตีได้เลยค่ะว่าเรตติ้งกระฉูดแน่นอน”
    
    พลอยนิลและอุษณะลุกขึ้นเดินจากที่นั่งแอบเชิดใส่กันเล็ก ๆ แต่พอเห็นนักข่าวหันกล้องมาเตรียมเก็บภาพ ก็รีบปรับโหมดเปลี่ยนท่าทีเป็นยิ้มแย้มให้กันทันที แก้วดาราเหยียดปากอย่างไม่พอใจ สุรีกานต์ปรบมือยิ้มยินดีด้วยแบบสุด ๆ
     
    ในห้องจัดเลี้ยงงานสัมมนา กลุ่มนักธุรกิจในห้องปรบมือกันเสียงดังไม่ขาดสายหลังจากที่หนึ่งในตัวแทนนักธุรกิจคนหนึ่งกล่าวสุนทรพจน์จบลง นฤเบศเหลือบมองเสี่ยนาถที่โน้มตัวไปกระซิบอะไรบางอย่างกับพ่อเลี้ยงกำธรอย่างสงสัย
    
    จ่ายมและปรีติสวมหูฟังนั่งอยู่ในรถตู้สายลับ ได้ยินแต่เสียงปรบมือดังสนั่น เลยไม่รู้ว่าเสี่ยนาถกับพ่อเลี้ยงกำธรนัดส่งของกันที่ไหน ปรีติพยายามขยายสัญญาณคลื่นความถี่เสียงแต่กลับไม่เป็นผล แถม
    จู่ ๆ เครื่องมือสื่อสารในรถก็เกิดขัดข้องขึ้นมาจนทำให้สัญญาณถูกตัดขาด ไม่สามารถติดต่อกับทุกคนในทีมได้อีก
     
    แก้วดาราเดินมาหยุดตรงแบ๊กดรอปเพื่อโพสท่าถ่ายรูปกับรางวัลนักแสดงดาวรุ่งหญิงแห่งปี นักข่าวกรูเข้ามาสัมภาษณ์
    
    “ได้ข่าวว่าน้องแก้วจะได้ร่วมแสดงละครฟอร์มยักษ์ของช่องจริงรึเปล่าคะ”
    
    แก้วดารามัวแต่ทำท่าเขิน ยังไม่ทันได้ตอบ พลอยนิลก็โผล่เข้ามาแย่งซีนเสียก่อน
    
    “คงต้องรอไปก่อนมั้งคะ ละครฟอร์มยักษ์แห่งปีทั้งที ก็ต้องคัดเลือกนักแสดงฝีมือดีเป็นธรรมดา พวกเด็กใหม่หวังฟลุก คงยาก”
    
    “ตกลงข่าวลือที่ว่าคุณพลอยนิลกับคุณแก้วดาราเกาเหลากันจริงหรือเปล่าคะ”
    
    พลอยนิลชะงักแต่ยังยิ้ม แก้วดาราเขยิบเข้าไปหาพลอยนิลจนชิด แกล้งคว้ามือมาจับอย่างรักใคร่
    
    “ก็แค่ข่าวลือน่ะค่ะ จริง ๆ แล้วเราสนิทกันมาก พี่นิลเป็นนางเอกในดวงใจแก้วตั้งแต่แก้วเด็ก ๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะโตทันได้มาร่วมงานกัน ไม่แน่เรื่องต่อไปเราอาจจะได้เล่นเป็นคู่แม่ลูกกันก็ได้นะคะ”
    
    พลอยนิลเริ่มเคืองส่งสายตาพิฆาตให้แก้วดารา บรรยากาศเริ่มตึงเครียด นักข่าวถ่ายรูปไม่หยุด
    
    สุรีกานต์ปรากฏตัวเข้ามาแทรกกลางระหว่างพลอยนิลกับแก้วดาราเอาไว้ “ใช่ค่ะ จริง ๆ ในกองพวกเราสนิทกันมาก นิลกับน้องแก้วชอบหยอกกันเล่นแรง ๆ แบบนี้เป็นประจำแหละค่ะ เรามาถ่ายรูปกันต่อดีกว่านะคะ”
    
    สุรีกานต์ยิ้มหวาน ส่งสายตาเตือนพลอยนิลกับแก้วดาราให้สงบศึกชั่วคราว พลอยนิลฮึดฮัดขัดใจ จำใจหันมาถ่ายรูปร่วมกัน แต่ยังไม่วายแกล้งโพสท่ายกรางวัลขึ้นบังหน้าแก้วดาราทุกชอตแบบเต็ม ๆ
     
    นฤเบศเห็นเสี่ยนาถและพ่อเลี้ยงกำธรพร้อมลูกน้องกำลังจะเดินออกจากห้องจัดเลี้ยงไป จึงรีบวิทยุบอกให้ทุกคนเตรียมพร้อม แต่วิทยุสื่อสารเสีย นฤเบศติดต่อใครไม่ได้ รีบเดินตามกลุ่มคนร้ายไป แต่เพราะมีนักธุรกิจจำนวนมากเดินผ่านมาตัดหน้า หันมาอีกทีกลุ่มคนร้ายก็เดินพ้นประตูห้องจัดเลี้ยงออกไปแล้ว
    
    นฤเบศเห็นลูกน้องพาเสี่ยนาถและพ่อเลี้ยงกำธรมุ่งไปทางลิฟต์ ผ่านกลุ่มนักข่าวและกลุ่มคนจากงานประกาศผลรางวัลที่กำลังทยอยออกจากห้องจัดเลี้ยงอีกฟากของโรงแรม นฤเบศพยายามแหวกผู้คนมองตามกลุ่มคนร้ายไป
    
    ประตูลิฟต์ค่อย ๆ เปิดออก เสี่ยนาถ พ่อเลี้ยงกำธร และลูกน้องก้าวเข้าไป นฤเบศวิ่งมาทันเห็นประตูลิฟต์กำลังค่อย ๆ ปิดลง จึงเร่งฝีเท้าเพื่อจะตามให้ทันจนเผลอไปชนสุรีกานต์ที่เดินถือรางวัลมาอย่างภาคภูมิใจเข้าอย่างจัง รางวัลแก้วคริสตัลรูปนางฟ้าในมือสุรีกานต์ตกลงไปกระทบบนพื้น ปลายปีกนางฟ้าบิ่นไปด้านหนึ่ง
    
    “รางวัลของฉัน” สุรีกานต์รีบก้มเก็บอย่างโมโห
    
    นฤเบศไม่สนใจรีบวิ่งไปกดลิฟต์เพื่อจะตามกลุ่มคนร้ายไป สุรีกานต์โมโห ถลกกระโปรงวิ่งตามไปขวางไม่ให้นฤเบศเข้าไปในลิฟต์ได้
    
    “อะไรของคุณเนี่ย ผมกำลังรีบ”
    
    “นายจะรีบไปเสิร์ฟอาหารที่ไหนฉันไม่สนใจหรอกนะ แต่นายซุ่มซ่ามมาชนรางวัลฉันเป็นแบบนี้ ฉันไม่ยอม”
    
    “โอเค ผมขอโทษ พอใจแล้วใช่มั้ย ทีนี้ก็หลบไปได้แล้ว”
    
    “ขอโทษส่ง ๆ แบบนี้ใครมันจะไปอยากรับ ขอโทษให้มันจริงใจหน่อยสิ”
    
    “นี่คุณ! ผมไม่มีเวลามาไร้สาระกับคุณหรอกนะเพราะงานของผมมันสำคัญกว่าไอ้รางวัลบ้า ๆ ของคุณซะอีก”
    
    “นายกล้าดูถูกรางวัลของฉันเหรอ ออกมานี่เลย ฉันจะฟ้องให้ผู้จัดการโรงแรมไล่นายออก”
    
    สุรีกานต์พยายามทั้งฉุดทั้งดึงสารวัตรนฤเบศออกจากลิฟต์ให้ได้ ทั้งสองคนยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมาจนในที่สุดสุรีกานต์ก็สู้แรงไม่ไหว เหลือบไปเห็นปุ่มกดลิฟต์ ก็รีบรูดกดลิฟต์ทุกชั้น ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่นฤเบศผลักสุรีกานต์ออกไปจากลิฟต์ได้พอดี นฤเบศหน้าเหวอ เห็นปุ่มลิฟต์ถูกกดทุกชั้น สุรีกานต์ยืนยิ้มสะใจอยู่หน้าลิฟต์ที่กำลังค่อย ๆ ปิดเข้ามาหากัน
    
    “ฮึ สมนํ้าหน้า โทษฐานที่กล้ามาดูถูกรางวัลอันทรงเกียรติของฉัน”
     
    ลิฟต์ค่อย ๆ เลื่อนลงมาทีละชั้น นฤเบศพยายามติดต่อหาทุกคนแต่ไม่สำเร็จ ชายหนุ่มโมโห ตัดสินใจวิ่งออกจากลิฟต์ที่ชั้น 5 แล้ววิ่งลงบันไดหนีไฟลงมาถึงชั้น 1
    
    นฤเบศวิ่งท่าทางเหนื่อยหอบมาถึงล็อบบี้ชั้นล่างของโรงแรมกวาดตามองหาเสี่ยนาถและพ่อเลี้ยงกำธรแต่ก็ไม่พบ จึงวิ่งออกไปทางประตูด้านหน้าโรงแรม พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นรถคันหนึ่งซึ่งจอดเทียบอยู่ตรงบันไดโรงแรม กระจกรถฝั่งด้านคนขับรถค่อย ๆ เลื่อนลง เผยให้เห็นโฉมหน้าของสุรีกานต์ที่มองมาแบบกวน ๆ อมยิ้มขำสะใจ โบกมือให้เชิงล้อเลียน
    
    นฤเบศมองแล้วยิ่งแค้นหนัก สูดลมหายใจระงับอารมณ์โกรธ รถของสุรีกานต์เคลื่อนออกไปพร้อมกับกระจกรถที่ค่อย ๆ เลื่อนปิดดังเดิม นฤเบศมองตามพูดไม่ออก แค้นฝังหุ่นสุด ๆ
     
    เช้าวันใหม่ ที่เซฟเฮาส์ทีมเดอะซัน อัศวินยืนปาลูกดอกเล่นอยู่บริเวณใกล้ ๆ กับประเสริฐที่หลบมุมนั่งสมาธิอยู่ จ่ายมกำลังอ่านหนังสือพิมพ์บันเทิง ที่ลงภาพข่าวสุรีกานต์ พลอยนิล และแก้วดาราในงานประกาศรางวัล
    
    “ ถึงคุณพลอยนิลจะสวยหวาน น้องแก้วดาราจะสวยใส แต่หนึ่งเดียวในดวงใจของจ่ายมก็คือคุณโซ่สุรีกานต์คนเดียวเท่านั้น”
    
    “คนอื่นเขามีแต่ปลื้มนางเอก แต่จ่าดันปลื้มนางร้ายซะงั้น อย่างผมต้องน้องแก้วดารา ทั้งขาว สวย แถมยังตู้ม ๆ ซะด้วย”
    
    ประเสริฐพูดโดยไม่ลืมตา “อนิจจา วัตตะ สังขารา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ จะสวยจะขาว จะตู้มแค่ไหน ตายไปก็เอาไปไม่ได้หนอ”
    
    นฤเบศผลักประตูเข้ามาท่าทางเคร่งขรึม ทุกคนแตกฮือรีบเข้าประจำที่ จ่ายมพับหนังสือ พิมพ์เก็บซ่อนไว้ด้านหลังยกมือทำความเคารพอย่างแข็งขัน นฤเบศกวาดตามอง ทุกคนนั่งตัวลีบ จ่ายมลุกขึ้นยอมรับผิด
    
    “เอ่อ คือ สารวัตรครับ เรื่องเมื่อคืน ผมขอโทษ ผมไม่คิดว่าเครื่องดักฟังมันจะมาขัดข้องเอาตอนสำคัญพอดี ความผิดครั้งนี้ผมไม่มีอะไรจะแก้ตัวครับ”
    
    “ผมด้วยครับสารวัตร ถ้าสารวัตรจะลงโทษ”
    
    “เอาเถอะ เรื่องนี้ถือว่าสุดวิสัย แต่คราวหน้าเราก็ต้องระวังให้มากกว่านี้ สำหรับภารกิจครั้งนี้ในฐานะหัวหน้าทีม ผมจะรับผิดชอบเอง”
    
    “แล้วเราจะเอายังไงต่อไปดีครับสาร วัตร”
    
    ทุกคนมองหน้ากัน บรรยากาศเริ่มเครียด ปรีติผลักประตูเข้ามาในห้อง
    
    “สารวัตรครับ สายเพิ่งรายงานมาว่าเสี่ยนาถจะมีการนัดส่งสินค้าอีกลอตในวันพรุ่งนี้ ส่วนนักธุรกิจที่มาพบกับเสี่ยนาถในงานสัมมนาผมกำลังเช็กจากกล้องวงจรปิดของทางโรงแรม คาดว่าอีกวันสองวันน่าจะรู้ครับ”
    
    “ดีมาก ถ้าได้ตัวมันมา เราน่าจะได้เบาะแสเพิ่มขึ้นอีกเยอะ”
    
    ทุกคนสีหน้ามีความหวังขึ้นมาทันที
     
    สิ้นเสียงสั่งคัตของผู้กำกับ นํ้าฝนก็รีบถือแก้วนํ้าเย็นไปส่งให้สุรีกานต์
    
    “ขอบใจจ้ะฝน เย็นเจี๊ยบชื่นใจเชียว ว่าแต่วันนี้มีอะไรกินบ้างเนี่ย”
    
    “วันนี้ฝนมีแจ่วบองของโปรดของพี่โซ่ด้วยค่ะ มีแฟนคลับเขาฝากไว้ให้”
    
    วุ้นกรอบและพายไก่เดินมาสมทบ
    
    “เก๋นะยะ เป็นนางร้ายก็แอบมีแฟนคงแฟนคลับกับเค้าด้วย นึกว่าจะมีแต่คนเกลียดซะอีก”
    
    “แหม วุ้น นางร้ายอย่างเจ๊ ก็ร้ายแค่ในจอเท่านั้นแหละ ใคร ๆ ก็รู้”
    
    “ไม่จริง ฉันขอเถียง อย่างน้อยแม่ค้าตามตลาดสดก็ไม่โปรดไม่ปลื้ม โทษฐานที่ชีชอบทำร้ายนางเอกผู้แสนดี”
    
    “ฉันแค่แสดงสมบทบาทจนคนดูอินก็เท่านั้นเอง”
    
    “จ้า แม่นางร้ายเบอร์หนึ่ง”
    
    สุรีกานต์เดินเชิดไปแบบสวย ๆ แต่ดันซุ่มซ่ามชนเสาไฟจนหน้าแหย ทุกคนในกองหัวเราะขำ ๆ
     
    วุ้นกรอบกับพายไก่ช่วยกันติดกาวซ่อมปีกนางฟ้าที่หักให้สุรีกานต์ แต่พอสุรีกานต์คว้าถ้วยรางวัลมาดู ปีกนางฟ้าที่แปะกาวไว้ก็หล่นลงพื้น วุ้นกรอบและพายไก่ที่ยืนจับมือกันลุ้น ๆ มองมาอ้าปากค้าง สุรีกานต์ดีใจค้างก้มหยิบปลายปีกนางฟ้าที่หลุดขึ้นมามองสลับกับถ้วยรางวัล
    
    “ไหนบอกว่าซ่อมได้ชัวร์ไงยัยวุ้น”
    
    “โธ่ เจ๊ ฉันเป็นช่างแต่งหน้านะ ไม่ใช่ช่างซ่อมถ้วยรางวัล ฉันว่าเจ๊ทำใจเหอะ ยังไงรางวัลของเจ๊มันก็หักไปแล้วอ่ะ”
    
    “จริง ๆ ฉันก็ไม่ได้เสียใจเรื่องที่ถ้วยรางวัลของฉันต้องพิการหรอกนะ แต่ฉันเจ็บใจมากกว่า ที่ไอ้บ้านั่นมันกล้ามาดูถูกรางวัลของฉันได้”
    
    “จะว่าไปก็น่าแปลกนะเจ๊ หมอนั่นไม่รู้จักนางร้ายตัวแม่อย่างเจ๊โซ่เหรอ” 
    
    “หรือว่าจะเป็นพวกต่างด้าวเพิ่งเข้ามาทำงาน”
    
    “จะต่างด้าวหรืออยู่ดาวไหน ฉันไม่สน ถ้าคราวหน้าฉันเจออีกละก็ เจอดีแน่”
    
    “เอาน่าเจ๊ ไหน ๆ วันนี้ก็เลิกเร็ว ฉันว่าทิ้งความเศร้าแล้วพวกเราไปหาอะไรทำคลายเครียดกันดีกว่านะ”
     
    จังหวะที่กำลังจะเดินผ่านหน้าร้านกาแฟสุรีกานต์ยกมือขึ้นมาจัดแต่งทรงผมแล้วเหลือบมองซ้ายมองขวา ขยับแว่นกันแดดอันโตให้มิดชิด
    
    “แหม เจ๊ ทำเป็นพรางตัว กลัวคนอื่นเค้าจะรู้ล่ะสิว่าโซ่สุรีกานต์ขี้งก รอมาช้อปของตอนเซลส์”
    
    “ฉันไม่ได้งก แบบนี้เขาเรียกรู้จักใช้เงินต่างหากย่ะ”
    
    “ใช่ ๆ รอซื้อตอนเซลส์เยอะ ๆ แบบนี้แหละ จะได้รวย ๆ แบบเจ๊ไง เนอะ”
    
    สุรีกานต์ยิ้มเดินต่ออย่างอารมณ์ดี ไม่ทันสังเกตห็นนฤเบศกับจ่ายมที่นั่งอยู่ในร้าน จ่ายมมัวแต่เหล่พนักงานสาว ๆ ในร้าน นฤเบศเห็นลูกน้องเสี่ยนาถเดินถือกระเป๋าเอกสารผ่านไปก็จำได้ รีบลุกตามออกไปทันที จ่ายมหันมาอีกทีก็ไม่เห็นนฤเบศแล้ว
    
    “อ้าว เฮ้ยยย สารวัตรไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย” จ่ายมรีบตามออกไปทันที
     
    สุรีกานต์ ลากวุ้นกรอบกับพายไก่ เข้าร้านโน้นออกร้านนี้ สุดท้ายซื้อของมาแค่ 2 ถุง
    
    “เจ๊ ลากพวกฉันเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ แต่ได้ของมาแค่นี้เนี่ยนะ งกจริง ๆ เลยเจ๊เนี่ย”
    
    “แล้วแกมายุ่งอะไรด้วย ฉันจะซื้อแค่ไหนมันก็เรื่องของฉัน ตอนแรกฉันกะว่าจะเลี้ยงข้าวพวกแกสักหน่อย อุตส่าห์มาเดินเป็นเพื่อน แต่ฉันมันงกนี่นะ เที่ยงนี้ก็หากินกันเองละกัน”
    
    สุรีกานต์สะบัดหน้าเดินเชิดนำไปแต่แอบยิ้ม วุ้นกรอบกับพายไก่หน้าเหวอ พายไก่โทษว่าเป็นความผิดของวุ้นกรอบ สองคนเถียงกันไปมา หันมาอีกทีก็หาสุรีกานต์ไม่เห็นแล้ว
     
    ขณะที่นฤเบศกำลังแอบมองลูกน้องเสี่ยนาถอยู่หลังเสา จู่ ๆ จ่ายมก็โผล่หน้ามา
    
    “ไปไม่บอกไม่กล่าวกันเลยนะครับสารวัตร ปล่อยให้ผมพูดคนเดียวอยู่ได้”
    
    “หยุดพูดแล้วทำงานได้แล้วจ่า”
    
    จ่ายมเงียบเสียง เอามือปิดปากทันที ลูกน้องเสี่ยนาถยังเดินต่อไปเรื่อย ๆ
    
    จ่ายมชะโงกมองคนร้าย “เอ๊ะ! ไอ้นี่มันคนที่มีรูปอยู่ในกล้องวงจรปิดของโรงแรมในงานสัมมนาวันนั้นนี่ครับ เอายังไงดีครับสารวัตร เข้าไปจับเลยดีมั้ย”
    
    “จับตาดูไปก่อน เรายังไม่รู้ว่าคนที่มารับของจากมันเป็นใคร”
    
    นฤเบศเห็นสุรีกานต์ที่กำลังเดินผ่านมา ไม่ทันระวังเผลอเดินไปชนกับลูกน้องเสี่ยนาถจนถุงชอปปิงหล่นบนพื้น ลูกน้องเสี่ยนาถช่วยเก็บถุงชอปปิงคืนให้สุรีกานต์ ยกนาฬิกาขึ้นมองแล้วก้มหัวเชิงขอโทษแล้วรีบผละจากไป สุรีกานต์จัดทรงผม แว่นตาให้เข้าที่ เหลียวมองหาวุ้นกรอบและพายไก่แต่ก็ไม่เห็นจึงเดินไปอีกทาง
    
    “มันต้องแอบส่งของกันแน่ ๆ เลยครับ ผู้หญิงคนนั้นดูท่าทางมีพิรุธ ผมว่าเข้าไปจับเลยดีกว่าครับสารวัตร”
    
    “เดี๋ยวจ่า ใจเย็น กระเป๋าที่มันถือมายังอยู่ในมือมันอยู่เลย”
    
    “หรือว่า มันจะรู้ตัวว่ามีคนแอบสะกดรอยตาม เลยเปลี่ยนแผนครับ”
    
    “เอางี้ ผมจะตามผู้หญิงคนนั้นไป ส่วนจ่าตามเป้าหมายไป ถ้าพบอะไรน่าสงสัยรีบรายงานผมทันที อ้อ…แจ้งทีมเดอะซันประจำจุดที่วางไว้อย่าให้พลาดล่ะ”
    
    “ครับ สารวัตร”
    
    สารวัตรนฤเบศและจ่ายมแยกย้ายกันไปติดตามเป้าหมาย   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)