ผู้เขียน หัวข้อ: กุหลาบไฟ วันที่ 31 กรกฎาคม 2556  (อ่าน 460 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
กุหลาบไฟ วันที่ 31 กรกฎาคม 2556
« เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2013, 08:21:04 am »

 โยคีศิลาดำปลอมตัวเป็นบุรุษพยาบาล โดยจัดการกับบุรุษพยาบาลและเอาชุดมาใส่แทน ส่วนอรชรก็เอายานอนหลับใส่บัวลอยน้ำขิงให้ชูชิตกินจนหลับไป เพื่อเปิดทางให้เธอมาโรงพยาบาลอย่างสะดวก พอมาถึงก็เห็นบุรุษพยาบาลเดินนำหน้าไว ๆ พยายามเรียกและวิ่งตามแต่ก็ไม่ทันสักที โยคีศิลาดำบริกรรมคาถาตามหาไศลาจนมาถึงหน้าห้องวงทอง และใช้มนต์นำตนเองเข้าไปในห้องอย่างง่ายดาย
    
    โยคีศิลาดำยืนมองไศลาที่กำลังเพ่งสมาธิรักษาคุณนายวงทอง ตาของโยคีศิลาดำเปลี่ยนเป็นสีแดง พลังสีขาวสว่างที่ออกมาจากไศลาถูกเปลี่ยนเป็นสีดำทะมึน ไศลาที่หลับตาอยู่ถึงกับกระอักเลือดพอลืมตาเห็นโยคีศิลาดำก็ตกใจ โยคีศิลาดำยื่นมือขวาออกมาทำท่าเหมือนจะบีบคอไศลา ไศลาตัวลอยขึ้นมาจนมาอยู่ในมือของโยคีศิลาดำ ดวงตาไฟของโยคีศิลาดำจ้องเข้าไปที่ตาของไศลา แต่กลับเห็นหน้าของนักพรตเมฆขาวในแววตานั้น โยคีศิลาดำตกใจปล่อยไศลากระแทกพื้น
    
    โยคีศิลาดำรู้ทันทีว่าไศลาต้องมีอะไรเกี่ยวพันกับนักพรตเมฆขาวแน่ “เจ้าเป็นอะไรกับ...ไอ้เมฆา”
    
    ไศลาที่อยู่ที่พื้นพยายามหลับตาตั้งสมาธิใช้พลังตาที่สาม โยคีศิลาดำเดินเข้ามากระชากตัวไศลาให้ยืนขึ้นและถามย้ำ ไศลาไม่ตอบ พยายามหลับตาตั้งสมาธิต่อไป โยคีศิลาดำใช้มือขวาจับหัวของไศลาเพื่อใช้พลังจิตบังคับให้ไศลาพูด ไศลาพยายามบังคับตัวเองให้หลุดพ้นจากอำนาจจิตของโยคีศิลาดำ แต่ไม่สำเร็จค่อย ๆ ตัวอ่อนลง จนยืนนิ่งตาลอย เหมือนคนโดนสะกดจิต
    
    “เจ้าชื่ออะไร”
    
    “ฉันชื่อไศลา”
    
    “เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
    
    “ฉันมารักษาคุณป้า”
    
    “เจ้าเป็นอะไรกับไอ้เมฆา”
    
    “ฉันไม่รู้จักเมฆา”
    
    อรชรซึ่งเดินตามบุรุษพยาบาลมา ได้ยินเสียงร้องของไศลาจึงแง้มประตูเข้าไปดูในห้อง และเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
    
    โยคีศิลาดำโมโห ไม่เข้าใจที่พลังจิตของตัวเองไม่สามารถบังคับไศลาได้ “โกหก บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าเจ้าเป็นอะไรกับเมฆา”
    
    “ฉันไม่รู้จักเมฆา”
    
    โยคีศิลาดำยื่นมือไปบีบคอไศลา “ไม่รู้จักใช่มั้ย...”
    
    ไศลาดิ้นทุรนทุรายเพราะหายใจไม่ออก โยคีศิลาดำยิ่งบีบแน่นขึ้น ตัวไศลากระตุกก่อนจะหมดสติคามือของโยคีศิลาดำ อรชรเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนจะวิ่งหนี โยคีศิลาดำได้ยินเสียงปิดประตูแล้วหันไปดู เห็นหลังอรชรแวบ ๆ จึงเหวี่ยงร่างไศลาไปกระแทกผนังห้องอย่างแรง และมายืนดักหน้าอรชร
    
    “อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันไม่รู้ไม่เห็น ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น”
    
    โยคีศิลาดำมองเรือนร่างของอรชรด้วยความพอใจ “เจ้านี่ก็...สวยไม่แพ้พี่สาวเลยนะ” โยคีศิลาดำตะครุบตัวอรชรไว้แล้วนัวเนียไม่ยั้ง อรชรพยายามขัดขืนดิ้นทุรนทุรายด้วยความรังเกียจและร้องให้พี่สาวช่วย
     
    ธีรธรสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะฝันว่าวงทองและไศลาเสียชีวิต พยายามจะนอนต่อแต่ไม่สามารถข่มตาให้หลับได้จึงรีบไปที่โรงพยาบาล
    
    โยคีศิลาดำลากอรชรเข้าไปที่โซฟาในห้องวงทองและเริ่มนัวเนียอีก อรชรต่อสู้โยคีศิลาดำจึงต่อยท้องจนอรชรไม่มีแรงสู้อีกต่อไป ไศลาฟื้นสติขึ้นมาก็เข้าไปช่วยน้องสาว และใช้พลังพิเศษช่วยจนอรชรหายเจ็บ โยคีศิลาดำเข้ามาล็อกคอไศลาจากข้างหลัง อรชรลนลานวิ่งออกจากห้องหนีไปแบบไม่คิดชีวิตและมาชนกับธีรธรเข้าอย่างจัง อรชรลุกขึ้นได้ก็วิ่งหนีอีก ธีรธรจำได้ว่าเป็นน้องสาวของไศลาก็เอะใจ รีบวิ่งไปที่ห้องวงทองทันที
     
    ไศลาใช้ศอกกระแทกที่ของหวงของโยคีศิลาดำ 3 ครั้งติดถึงขั้นจุกต้องยอมปล่อย ไศลาฉวยโอกาสวิ่งหนี แต่ทันทีที่ไปถึงประตูก็ต้องชะงัก เมื่อโยคีศิลาดำเนรมิตให้เป็นประตูเพลิง ไศลาตั้งสมาธิดับไฟที่ประตูเพลิง โดยมีสายน้ำออกมาจากฝ่ามือไศลามาดับไฟและวิ่งหนีออกไป โยคีศิลาดำอึ้งที่ไศลาใช้พลังพิเศษสู้ตัวเองได้
    
    ไศลาวิ่งหนีออกมาจากห้อง โยคีศิลาดำวิ่งตามมาจนเกือบจะถึงตัวไศลาแต่เห็นธีรธรเจอกับไศลาพอดีจึงรีบหลบ ไศลาบอกมีคนตามฆ่าเธอ แต่ธีรธรมองไม่เห็นใคร ไศลาหันไปมองไม่เห็นใครจริง ๆ ก็โล่งใจโผเข้าหาธีรธรด้วยความเหนื่อยล้า โยคีศิลาดำแอบดูธีรธรกับไศลา เเต่เห็นคล้ายเงาของนักพรตขาวปรากฏอยู่ข้างไศลาจาง ๆ โยคีศิลาดำหงุดหงิดเพราะเสียดายที่ไม่สามารถเก็บไศลาได้ เขายังหวั่น ๆ กับเงาราง ๆ ของนักพรตเมฆา
     
    ธีรธรประคองไศลากลับเข้ามานั่งที่โซฟาในห้องพักคุณนายวงทอง และเดินไปดูแม่ที่ยังไม่ได้สติ ไศลามองอย่างเศร้า ๆ “พอเรื่องมาเป็นแบบนี้ ไศเลยไม่แน่ใจว่าคุณป้าจะหายหรือเปล่า”
    
    “ไม่เป็นไรหรอก ไศบอกเองไม่ใช่เหรอว่าถ้าคุณแม่ไม่หาย เราเริ่มต้นกันใหม่ได้”
    
    ไศลาพยักหน้าเศร้า ๆ “แต่ไม่รู้ว่าที่บ้านคุณธีจะยอมหรือเปล่า คงไม่มีใครเชื่อไศอีกแล้ว”
    
    ธีรธรเดินมาจับไหล่ให้กำลังใจไศลา “อย่าคิดมากสิ คุณยังมีผมนะ” ไศลาสบตาธีรธรอย่างซึ้งใจ
     
    พอกมลามาถึงก็เยาะเย้ยว่าไศลาเป็นคนลวงโลกที่ไม่สามารถรักษาอาการของวงทองได้ ธีรธรผิดหวังในตัวพี่สาวมากที่เอาอาการป่วยของแม่มาพูดเป็นเรื่องสนุกปาก กมลาโกรธจึงตบหน้าน้องชายและต่อว่าธีรธรที่หลงผู้หญิงจนทำให้แม่ต้องเป็นอย่างนี้ ธีรธรน้ำตาคลอมองพี่สาวด้วยความเจ็บปวด นพรัชจะอธิบายแต่ก็ถูกกมลาว่าอีกว่าหลงไศลาเหมือนกัน
    
    “พี่ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ แค่ผู้หญิงข้างถนนคนเดียวมาทำให้บ้านเราเดือดร้อนได้ขนาดนี้”
    
    ธีรธรทนฟังไม่ไหว เดินออกไปจากห้องด้วยความโมโห นิ่มนวลรีบเดินตามธีรธรออกไป นพรัชมองตามธีรธรด้วยความเป็นห่วงแล้วหันมาบอกกมลาด้วยเสียงเรียบ ๆ
    
    “พี่แก้มครับ ที่ผมจะบอกพี่ก็คือคุณแม่ฟื้นตั้งแต่ 6 โมงเช้าแล้วครับ แล้วสุขภาพท่านก็กลับมาเป็นปกติ ไม่พบเชื้อมะเร็งใด ๆ เลยในร่างกาย เพียงแต่ว่าตอนนี้ผมให้ยาคลายเครียดไป เพราะท่านดูตื่นเต้นมากไปเท่านั้นเองครับ”
    
    กมลาฟังนพรัชพูดแล้วถึงกับอ้าปากค้าง
     
    ธีรธรเดินหน้าเครียดออกมายืนสงบสติอารมณ์ที่ริมทางเดินภายในโรงพยาบาล นิ่มนวลเดินตามออกมา ธีรธรหันไปเห็นนิ่มนวลก็จะเดินหนีแต่นิ่มนวลเรียกไว้ก่อน
    
    “ขอโทษนะนิ่ม ตอนนี้พี่ยังไม่อยากคุยกับใคร”
    
    นิ่มนวลชะงักกับคำพูดของธีรธร ธีรธรเดินหนีไป นิ่มนวลมองตามด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะเดินตามโดยที่ธีรธรไม่เห็น นิ่มนวลเห็นธีรธรเข้าไปในร้านกาแฟและสั่งกาแฟร้อนสองแก้ว รวมทั้งเข้าไปเลือกซื้อขนมอย่างตั้งใจ คิดว่าคงจะเอาไปง้อกมลา แต่ที่ไหนได้ธีรธรเอากาแฟและขนมมาให้ไศลาที่ห้องพัก นิ่มนวลเห็นแล้วทั้งเจ็บปวดและน้อยใจ
    
    “เธอบีบให้ฉันร้ายเองนะ...ไศลา” นิ่มนวลรำพึงออกมา สายตาเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว
     
    ดุลยศักดิ์สบายใจเพราะคิดว่ายังไงโยคีศิลาดำที่เขาใช้ให้ไปเก็บไศลาต้องทำงานเรียบร้อยแต่ เมื่อโยคีศิลาดำบอกว่าเขาทำงานไม่สำเร็จ ดุลยศักดิ์โมโหมาก
    
    “อาจารย์จะบอกว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนเดียว เก่งถึงขนาดรอดจากฝีมือระดับโยคีศิลาดำไปได้งั้น
    เหรอ” ดุลยศักดิ์หันไปมองนาถสุดา นาถสุดาหลบตา ดุลยศักดิ์ลุกขึ้นปึงปัง เดินออกจากห้องอาหารไป โยคีศิลาดำสบตากับนาถสุดาด้วยความเครียด
     
    “ขอบคุณมากนะไศลา ที่ช่วยคุณแม่ผม”    ธีรธรส่งแก้วกาแฟให้ เมื่อเข้ามาในห้องพักของไศลา
    
    “คุณป้าและคุณธีมีบุญคุณกับไศมาก ถ้ามีอะไรที่ไศทำเพื่อตอบแทนได้ ไศก็ยินดีและเต็มใจทำให้อยู่แล้วค่ะ”
    
    “ถ้าอย่างนั้น ทำไมไม่เห็นไศลาทำอะไรให้ผมบ้างเลย”
    
    “แล้วคุณธีอยากให้ไศทำอะไรล่ะคะ” ไศลา เอียงหน้าขึ้นมอง ธีรธรอมยิ้ม ทำหน้าเจ้าเล่ห์ “ถ้าบอกไปแล้ว...ทำให้จริงนะ” ไศลาพยักหน้ายิ้ม ๆ ธีรธรกุมมือไศลาแล้วส่งสายตาหวานเยิ้มให้ “ผมอยากขอให้ไศลาอยู่กับผม ไม่หนีผมไปอีก...ทำได้มั้ย”
    
    ทั้งสองสบตากันหวานซึ้ง ธีรธรค่อย ๆ เอียงหน้าเข้าไปใกล้หน้าไศลาขึ้นเรื่อย ๆ จะจูบ ไศลาเหมือนจะเคลิ้มตาม แต่เปลี่ยนเป็นเบี่ยงตัวออกทัน “ไศว่าเรารีบไปหาคุณป้ากันดีกว่านะคะ” รีบลุกขึ้นเดินออกไป ธีรธรมองตามอย่างเสียดายโอกาส
     
    นิ่มนวลเดินหน้าเศร้ากลับมา แต่พอเห็นคุณนายวงทองฟื้นมาคุยกับกมลาได้ก็ดีใจวิ่งเข้าไปกอด คุณนายวงทองลูบหัวนิ่มนวลด้วยความรักและเอ็นดู กมลาเห็นสีหน้านิ่มนวลก็เดาได้ว่าเป็นเรื่องธีรธร นิ่มนวลจึงบอกว่าธีรธรไปหาไศลา ทำให้กมลาโกรธมาก
     
    หลังจากเจอกับโยคีศิลาดำ อรชรกลับไปบ้านก็เป็นไข้ไม่ได้สติเพราะทั้งกลัวและเจ็บปวดร่างกาย ชูชิตจึงพามาโรงพยาบาลและเจอกับไศลาที่เดินมากับธีรธร ไศลารีบไปดูอาการของอรชร ชูชิตหันมายักคิ้วให้ธีรธรแบบกวนๆ ก่อนจะรีบเดินตามไศลาไป
    
    โยคีศิลาดำเล่าเรื่องที่เขาต่อสู้กับไศลาซึ่งมีพลังพิเศษจนเขาต้านทานไม่ได้ นาถสุดาแปลกใจมาก
    
    “เจ้ารู้มั้ยว่ามันเป็นใครมาจากไหน”
    
    “จากประวัติที่นายเคยให้ดูมันก็เป็นแค่เด็กกำพร้าธรรมดา แล้วก็เคยเป็นครูสอนคาราเต้เด็ก”
    
    “มันมีวิชาอะไรพิเศษอย่างอื่นอีกมั้ย”
    
    นาถสุดานึกย้อนไปถึงตอนที่เคยฆ่าไศลาครั้งแรก “ใช่แล้ว...มันมีตาที่สาม” โยคีศิลาดำตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน นาถสุดาคิดก่อนจะบอก “ตอนที่นาถสู้กับมันครั้งแรก จู่ ๆ ตาที่สามบนหน้าผากของมันก็เปิดออกพร้อมแสงสว่างจ้าไปหมด”
    
    โยคีศิลาดำนิ่งไปอย่างใช้ความคิด “วิชาเนตรอัคคี เมฆา...เจ้าเกี่ยวข้องอะไรกับนังเด็กนี่กันนะ”
     
    ชูชิตพาไศลาเข้ามาในห้องพักผู้ช่วยของอรชรแล้วกดล็อก เพราะชูชิตรู้ว่าหมอพาอรชรไปตรวจ ชูชิตจะลวนลาม แต่ไศลาปัดป้อง และป้องกันตัวอย่างเหนือชั้น จนชูชิตถึงกับอึ้งในพัฒนาการการต่อสู้ของไศลา เป็นเวลาเดียวกับบุรุษพยาบาลพาอรชรกลับมาส่งที่ห้อง ชูชิตจึงไม่กล้าทำอะไรอีก
    
    “เป็นไงบ้างอร ดีขึ้นหรือยัง” ไศลาเดินเข้าไปลูบหัวน้องสาวอย่างเอ็นดู
    
    “พี่ไศรู้ได้ยังไงว่าอรอยู่ที่นี่”
    
    “พอดีพี่บังเอิญเจอ...ชูชิต เขาก็เลยพาพี่มาหาอร”
    
    อรชรหันไปมองชูชิตที่ยืนอยู่อีกฝั่งเตียงอย่างพยายามสังเกต แต่ก็ไม่เห็นไศลากับชูชิตมีท่าทีอะไรต่อกันเป็นพิเศษ “พี่ชิต อรอยากกินรังนกจัง พี่ชิตช่วยไปซื้อให้อรหน่อยได้มั้ยคะ”
    
    “อ๋อ...ได้สิจ๊ะ งั้นเดี๋ยวพี่มานะ” ชูชิตอ้อมแอ้มออกไปจากห้อง
    
    อรชรหันมายกมือไหว้ไศลา “เมื่อคืนอรต้องขอบคุณพี่ไศมาก ถ้าไม่ได้พี่ไศช่วยไว้ อรคงตายไปแล้ว”
    
    “เราพี่น้องกัน พี่ไม่มีวันยอมให้อรเป็นอันตรายหรอก”
    
    อรชรแอบร้าย แสร้งน้ำตาคลอด้วยความตื้นตัน “อรขอโทษพี่ไศ ขนาดอรเลวกับพี่ไศสารพัด พี่ไศยังไม่เคยคิดจะทิ้งอร อรละอายใจจริง ๆ”
    
    ไศลาน้ำตาไหลปลื้มใจ คิดว่าในที่สุดอรชรก็คิดได้ “ไม่เป็นไรนะอร พี่ไม่เคยโกรธอรเลยสักครั้ง อรไม่ต้องคิดมากนะ”
    
    “ต่อไปนี้เราพี่น้องจะไม่ทะเลาะกันอีกแล้วนะ” อรชรทำน้ำตาหยด
    
    “ได้สิอร เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ” ไศลาตื้นตันใจน้ำตาไหล สองพี่น้องโผเข้ากอดกัน สายตาอรชรฉายแววเยาะหยันที่ไศลาโง่ยอมเชื่อสิ่งที่เธอหลอก
     
    นาถสุดาถูกดุลยศักดิ์เร่งเรื่องงานหมั้นระหว่างเธอและชูชิต เพราะใกล้วันที่จะส่งของลอตใหญ่แล้ว นาถสุดาเซ็ง ๆ เพราะเธอไม่ต้องการหมั้นกับชูชิต พร้อมกับเอารูปที่ปาปารัซซีถ่ายออกมาดูและครุ่นคิด ก่อนจะส่งรูปทั้งหมดทางอีเมลนาถสุดายิ้มอย่างพอใจ “ฝันไปเถอะไอ้ดุลยศักดิ์ ฉันไม่ยอมพังไปกับแกแน่”
     
    ไศลาเดินออกมาจากห้องอรชรอย่างอารมณ์ดีที่ได้ปรับความเข้าใจกับอรชรแล้ว นพรัชเห็นก็รีบเดินเข้ามาหา
    
    “อ้าว...คุณนพ ไศกำลังอยากเจออยู่พอดีเลยค่ะ”
    
    นพรัชก้มหน้ายิ้มเขิน “รู้สึกดีจังที่ได้รู้ว่าคุณไศลาอยากเจอผม”
    
    “คุณนพว่าอะไรนะคะ” นพรัชเงยหน้ามาเห็นสายตาที่ว่างเปล่าของไศลาก็กลับมาสู่โลกความจริง “อ๋อ...ไม่มีครับ คุณไศลามีธุระอะไรกับผมเหรอครับ”
    
    “ไศอยากถามเรื่องคุณป้าค่ะ ว่าผลตรวจเป็นยังไงบ้าง”
    
    “อ๋อ...ทุกอย่างโอเคมาก ๆ เลยครับ ร่างกายของคุณป้าปกติทุกอย่าง และที่เซอร์ไพร้ส์ผมมากก็คือเซลล์มะเร็ง...หายเรียบ”
    
    ไศลาดีใจในผลงานของตัวเองมาก “จริงเหรอคะ แล้วแบบนี้คุณป้าจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่คะ”
    
    “พรุ่งนี้ได้เลยครับ เห็นท่านบ่นว่าอยากกลับบ้านมากแล้ว ผมก็ไม่อยากขัดใจ นี่ก็กำลังจะไปบอกข่าวดีท่าน คุณไศลาจะไปด้วยกันมั้ยครับ”
    
    “ไปสิคะ” ไศลายิ้ม
     
    สุทธิพงษ์นอนซมตาปูดอยู่บนเตียงในห้องพัก ธิดารัตน์ซื้ออาหารมาให้และมองไปรอบ ๆ ห้องที่แสนรกของสุทธิพงษ์อย่างสยอง พอมาใกล้สุทธิพงษ์ก็ถึงกับเอามือบีบจมูกเพราะกลิ่นตัวเหม็นคลุ้ง จนสุทธิพงษ์เริ่มอายกับสภาพความเป็นอยู่ของตัวเอง
    
    “จะเอาปัญญาที่ไหนไปอาบ เจ็บขนาดนี้”
    
    “แล้วพี่ ๆ ไปไหนกันหมด ไหนว่ามีพี่สาวสองคนไง”
    
    สุทธิพงษ์หน้าเศร้า “อย่าไปพูดถึงเขาเลย มีก็เหมือนไม่มีนั่นล่ะ”
    
    ธิดารัตน์แกะข้าวกล่องหยิบช้อนยื่นให้ แต่สุทธิพงษ์มือสั่น ๆ มากเพราะความหิว ธิดารัตน์ดึงช้อนกับกล่องข้าวกลับ “สั่นขนาดนี้ เดี๋ยวหกหมดกันพอดี มา...เดี๋ยวแฟนป้อนให้” ธิดารัตน์ป้อนข้าวให้สุทธิพงษ์เขิน ๆ ส่วนสุทธิพงษ์แอบรู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนที่ได้ธิดารัตน์ดูแล ระหว่างที่ประคองสุทธิพงษ์เข้าห้องน้ำ กระเป๋าสตางค์ของสุทธิพงษ์หล่นและเปิดอ้าออก เห็นรูปสี่พี่น้องถ่ายด้วยกัน ธิดารัตน์หยิบขึ้นมาดูและอมยิ้ม ที่เธอตาถึงเพราะครอบครัวนี้หน้าตาดีกันทั้งบ้าน
     
    นพรัชพาไศลาเดินเข้ามาในห้องวงทอง นิ่มนวลกำลังป้อนอาหารเย็นให้วงทองอยู่ ส่วนกมลาซึ่งนั่งอยู่ใกล้ ๆ ธีรธร เห็นไศลาเข้ามาก็อดหมั่นไส้ไม่ได้
    
    “ดีจังนะคะ มาทั้งหมอเล็กหมอใหญ่ ไปไหนก็ต้องตัวติดกันไปตลอด น่ารักจริง ๆ คู่นี้”
    
    ธีรธรแอบไม่พอใจกมลาที่พูดเหน็บได้ตลอดเวลา ส่วนนพรัชทำเป็นไม่ได้ยินที่กมลาพูด เสไปพูดเรื่องอื่น “ผมมีข่าวดีจะแจ้งให้ทุกคนทราบว่า ผลการตรวจร่างกายโดยละเอียดของคุณแม่ไม่พบความผิดปกติใด ๆ เลย และเซลล์มะเร็งที่เคยมีอยู่ ก็หายไปหมดแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์”
    
    นพรัชเดินเข้าไปกอดคุณนายวงทองแสดงความยินดี คุณนายวงทองดีใจจนน้ำตาไหล ยกมือไหว้นพรัชเลย “ขอบคุณมากนะลูก ที่ช่วยให้ชีวิตใหม่แม่ ขอให้พ่อเจริญรุ่งเรืองในทุกอย่างของชีวิต”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)