ผลงานที่เรียกว่ามีทุนในการสร้างสูงถึง 600 ล้านบาทไทย สำหรับภาพยนตร์สัญชาติเกาหลี-จีน สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “มิสเตอร์ คิงคอง” ในชื่อภาษาไทย ที่กำกับการแสดงโดย “คิม ยองฮวา” ผู้กำกับชาวเกาหลี และนำแสดงโดย “ซูเจียว” นักแสดงชื่อดังจากประเทศจีน
และในวันนี้ ทั้งผู้กำกับ “คิม ยองฮวา” และ “ซูเจียว” ได้เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อให้สัมภาษณ์ถึงการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ โดย ผู้กำกับ “คิม ยองฮวา” เผยก่อนว่า
“สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ตอนนี้ทางทีมงานได้ขายหนังไปทั่วเอเชียแล้ว ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น ที่เรากำลังคุยกันว่าเราอาจจะทำเป็นอีกเวอร์ชั่นหนึ่งสำหรับประเทศนี้ เพราะว่าประเทศญี่ปุ่น ชอบดูหนังฮอลลีวูดกันมาก เลยคิดว่าน่าจะทำเป็นอีกเวอร์ชั่นที่เราจะนำออกไปขายที่ฝั่งอเมริกาและยุโรปด้วย
ส่วนนักแสดงตอนนี้ก็กำลังประชุมคิดกันอยู่ว่า เวอร์ชั่นที่จะฉายฝั่งโน้น เราอาจจะมีนักแสดงฮอลลีวูด เข้ามาร่วมแสดงด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้สรุปอะไรที่แน่นอนครับ เพราะว่าจริง ๆ หนังเรื่องนี้ ในเวอร์ชั่นที่จะฉายในไทยหรือว่าเกาหลี จีน และประเทศอื่น ๆ นั้น มันมีกลิ่นอายของความเป็นเอเชีย มีเอกลักษณ์ของคนเอเชียอยู่มาก แต่เป็นยังไงก็อยากให้ไปติดตามกันในโรงภาพยนต์นะครับ
สำหรับนักแสดงที่เราเลือก ซูเจียว เพราะว่า เธอเป็นเด็กที่ฉลาด เรียนรู้เร็วและทำงานเก่ง และที่สำคัญเลยคือ บทเรื่องนี้ตรงกับคาแรกเตอร์ของเธอมาก มีหลายคนถามว่าทำไมไม่เลือกดารานักแสดงคนอื่น ๆ เพราะว่าประเทศจีน มีหลายคนที่ดังระดับฮอลลีวูด แต่ว่าอย่างที่บอกไปความดังไม่สำคัญเท่ากับคนที่มีความขยัน ฉลาด และคาแรกเตอร์ตรงกับบท”
ด้านนักแสดงชื่อดังจากจีน “ซูเจียว” เผยถึงการทำงานและอุปสรรคในการถ่ายทำเรื่องนี้ว่า “การถ่ายทำเรื่องนี้ช่วงแรก ๆ ก็จะมีปัญหานิดหน่อยในเรื่องของภาษา ที่ทีมงานพูดเกาหลี และภาษาอังกฤษกัน สำหรับตัวเองก็จะมีคนคอยแปลให้ที่ตามติดตัวไปตลอดเวลา และในช่วงก่อนถ่ายทำก็ไปเรียนภาษาเกาหลีด้วย เพราะว่าในหนังเรื่องนี้ ช่วงแรกจะพูดภาษาจีน แต่พอครึ่งหลังจะพูดเกาหลีค่ะ และอีกอย่างที่มีปัญหาคือในเรื่องของอาหาร ช่วงแรกที่ไปกินอาหารไม่ค่อยได้ แต่พออยู่ไปก็เริ่มที่จะชอบอาหารเกาหลีนะคะ
กับภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ่ายไปเรื่อย ๆ รู้สึกตัวเองว่า ได้อะไรจากการทำงานในหนังเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะมาก เพราะว่าต้องเล่นกับซีจีด้วย แต่ในช่วงที่ถ่ายเวลาที่เราพูดคุยกับคิงคอง ก็จะมีคนมาทำท่าเป็นคิงคองให้ ก็เลยรู้สึกว่าไม่ยากเท่าไร ในการทำงานเรื่องนี้ได้เรียนรู้เทคนิคมาเยอะมาก และที่สำคัญเลยคือทีมงาน ที่ทำงานกัน 8-9 เดือน ไม่มีใครบ่นอะไรเลย และการได้ร่วมงานกับมืออาชีพ ทำให้ตัวเองรู้สึกเข้มแข็งขึ้นมาก ๆ
แต่หลังจากที่เสร็จงานแล้ว เวลาที่ไปใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน ๆ ก็ใช้ชีวิตวัยรุ่นทั่วไปค่ะ แต่ซูเจียวจะไม่พูดเรื่องการทำงานกับเพื่อน ๆ ก็คุยกันเรื่องเรียน เรื่องทั่ว ๆ ไปตามประสา” และก่อนที่จะจากกันในวันนั้น ซูเจียว ได้กล่าวฝากหนังเรื่องนี้ว่า อยากให้ทุกคนเข้าไปชมกัน เพราะมันเป็นหนังที่น่ารัก และมีมิตรภาพซ่อนอยู่อย่างลึกซึ้งอีกด้วย และสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ บ้านเราเข้าไปชมกันในโรงภาพยนตร์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้.
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง
