ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวเรือง วันที่ 27 กรกฎาคม 2556  (อ่าน 352 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
ดาวเรือง วันที่ 27 กรกฎาคม 2556
« เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2013, 06:20:51 am »

 จินตวัฒน์นึกฉุนดาวเรืองที่ทำไมต้องยัดเยียดความดีความชอบให้เขา
    
    พฤกษ์นั่งรออยู่ในรถจนถึง 5 ทุ่ม ชายหนุ่มหมดความอดทน เดินหน้าตึงเข้าไปในผับ โรสในสภาพเมาสะบัดกำลังเต้นอยู่กับลูกค้าฝรั่งและทีมเอเจนซี่อย่างสนุกสุดเหวี่ยงร้องเรียกให้พฤกษ์มาสนุกด้วยกัน พฤกษ์ทำหน้านิ่งบอกถ้าจะให้ขับรถกลับไปส่งโรสก็ต้องกลับออกไปด้วยกันเดี๋ยวนี้ โรสขอสนุกต่ออีกครึ่งชั่วโมง พฤกษ์ยัดกุญแจรถใส่มือโรสก่อนเดินหนีออกไปทันที โรสวิ่งตามไปรั้งตัวพฤกษ์ไว้
    
    “ฉันขับรถไม่ไหว นายช่วยฉันหน่อยนะ”
     
    จินตวัฒน์บุกไปหาดาวเรืองที่บ้าน “เธอโยงทุกเรื่องมาหาฉันเพราะต้องการให้ฉันมีผลงานใช่มั้ย”
    
    “เออ..แล้วไง”
    
    “ฉันไม่ต้องการให้ใครมาสร้างผลงานให้ฉัน เธอเป็นคนทำ เธอก็รับความดีความชอบไปสิ”
    
    “ความดีความชอบของใครไม่สำคัญเท่ากับประเทศชาติได้อะไร จะผลงานใคร ประเทศชาติก็ได้ประโยชน์ทั้งนั้น เป็นผลงานของปลัดก็เหมาะแล้วนี่ เพราะปลัดเป็นข้าราชการ จะให้เป็นผลงานของแม่ค้าอย่างฉันได้ไง เกิดมันรู้ว่าฉันอยู่เบื้องหลังฉันก็โดนมันฆ่าล้างโคตรสิ ฉันไม่ใช่เซเลอร์มูนนะ...จะได้สู้กับผู้ร้ายเป็นกองทัพได้”
    
    “แต่เธอทำดี ทุกคนก็น่าจะได้เห็นความดีของเธอ”
    
    “ดีชั่วอยู่ที่ใจ แค่ฉันรู้ แม่ฉันพี่ฉันแล้วก็นายรู้ว่าฉันเป็นคนดีก็พอแล้ว เอาน่าเฮีย รอดตายแล้วก็อย่าคิดมาก คิดมากแล้วเยี่ยว เอ๊ย ฉี่เหลือง ฮ่าฮ่าฮ่า”
    
    “ขอโทษนะดาวเรือง...ที่ฉันมองเธอผิดมาตั้งแต่ต้น แล้วก็ขอบคุณมาก...ที่ช่วยชีวิตฉันวันนี้”
    
    “นายก็เคยช่วยฉันไว้เหมือนกันนี่ จำได้ปะ...วันที่กำนันเทิ้มโดนยิง ถ้านายไม่ปิดปากฉันไว้ ฉันคงถูกพวกไอ้เสี่ยกำพลระเบิดหัวไปแล้ว ถือว่าเจ๊ากันไปละกัน”
    
    ทั้งสองคนมองกันและยิ้มให้กัน เป็นยิ้มที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ ความจริงใจ ความห่วงใย และเหมือนจะเจือไปด้วยความรักที่ทั้งคู่ต่างไม่รู้ตัว
    
    “ฉันขอบใจเธอแทนข้าราชการทุกคนนะ ที่ช่วยแบ่งเบางานของพวกเรา” จินตวัฒน์เอ่ยปากขอบคุณขณะดาวเรืองเดินไปส่งที่รถ
    
    “ก็ถ้าข้าราชการทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ชาวบ้านก็คงไม่ต้องเหนื่อย”
    
    “มันก็จริงของเธอ ฉันจะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ส่วนเธอ..ดาวเรือง ถึงเธอจะเก่งยังไง งานนี้ก็ยังอันตรายเกินไปสำหรับเธอ ฉันอยากให้เธอวางมือจากงานเสี่ยง ๆ พวกนี้ซะ หัดทำตัวให้เป็นผู้หญิงกับเขาซะบ้าง”
    
    “อ้าว...เอ๊ย!!! ฉันก็เป็นผู้หญิงตั้งแต่เกิด นายเห็นฉันเป็นอะไรล่ะ”
    
    จินตวัฒน์แกล้งมองสำรวจเรือนร่างของดาวเรือง แล้วหัวเราะ...หึ หึ หึ
    
    ดาวเรืองทั้งเก้อทั้งเขิน แต่ก็ยังกร่าง แค่ไม่มีนม ไม่มีตูด ไม่มีตะโพก ไม่มีปาก หู ตา คอ จมูกเซ็กซี่แค่เนี้ย”
    
    “แค่นี้ก็มากเกินไปแล้ว”
    
    “ถึงไม่มีของ แต่ก็เซ็กซี่ได้เหมือนกันนะเว้ย..ว่าไงคะ..ปลัดขา”
    
    ดาวเรืองพยายามโพสท่าเซ็กซี่สุด ๆ เลิกคิ้ว หลิ่วตา ปากจู๋ แอ่นอก บิดตะโพก...ยั่วยวนจินตวัฒน์ จินตวัฒน์เห็นท่ายั่วออกแนวกะเทยของดาวเรืองแล้วขำก๊าก...หัวเราะไม่หยุด
    
    ดาวเรืองเริ่มเก้อ..ไม่มั่นใจขึ้นมาซะงั้น “หยุดหัวเราะได้แล้ว ขำอะไรนักหนา บอกให้หยุดไง”
    
    “ก็มันดูเหมือนผู้ชายลุกขึ้นมาทำท่าบิดตะโพกเป็นผู้หญิงมากกว่า”
    
    จินตวัฒน์ยังไม่หยุดขำ ดาวเรืองเดินเข้าหาจินตวัฒน์ ทั้งทุบตี บิดเนื้อ แถมไล่ข่วน จินตวัฒน์หลบไปมาจนหลังไปพิงรถตัวเอง ดาวเรืองตามไปทุบจินตวัฒน์ต่อ จินตวัฒน์จับข้อมือทั้งสองข้างของดาวเรืองไว้ ทั้งคู่ชะงัก...จ้องตากันนิ่ง ต่างคนต่างหน้าแดง
    
    “เชื่อแล้วว่าเป็นผู้หญิง ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงไล่ชกไล่เตะฉัน แต่นี่...เปลี่ยนมาทุบมาหยิกแทน...ฉันชอบแบบนี้นะ น่ารัก ดูเป็นผู้หญิงดี”
    
    ดาวเรืองหันหลังรีบเดินกลับเข้าร้าน แล้วเตะเก้าอี้ล้มดังโครม! ก่อนจะหันกลับมามองจินตวัฒน์...แก้มแดงจัดหนักขึ้นไปอีก จินตวัฒน์มองดาวเรืองขำ ๆ ดาวเรืองรีบยกเก้าอี้ที่ล้มขึ้นตั้ง จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาเดินเข้าบ้านไป
     
    พฤกษ์ช่วยประคองโรสที่เมามากไปส่งที่ห้อง โรสแหกปากร้องเพลงเสียงดังลั่นไปตามทาง พฤกษ์พยายามห้ามไม่ให้โรสส่งเสียงเอะอะ แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ โรสแหกปากร้องเพลงดังขึ้นไปอีก พฤกษ์รีบลากตัวโรสไปที่ห้องน้ำหวานที่พักอยู่คอนโดเดียวกันกับโรส ได้ยินเสียงเอะอะ กะเปิดประตูออกมาด่าเต็มที่ แต่พอเห็นว่าเป้าหมายที่ตัวเองต้องการจะด่าคือใคร ก็เปลี่ยนอารมณ์จากพร้อมที่จะระเบิดวีนแตก กลายเป็นสงบปากสงบคำ แต่ตาเป็นประกายวาว
    
    พฤกษ์ลากตัวโรสมาส่งที่หน้าห้องพักโดยไม่ทันสังเกตเห็นน้ำหวาน “คุณรีบเข้าห้องไปเลยไป”
    
    “นายกล้าดียังไงมาทำกับฉันอย่างงี้”
    
    “ก็คุณโวยวายไร้มารยาท ขืนปล่อยให้คุณตะโกนโหวกเหวก ห้องอื่นได้มาฉะคุณแน่ นอกจากขี้เหวี่ยง ขี้วีน แล้วคุณอยากจะให้คนอื่นมาตราหน้าว่าคุณเมาไร้สติ ไม่มีมารยาท ไม่มีสมบัติผู้ดีงั้นเหรอ”
    
    “เออ! ฉันมันเหวี่ยง วีน แล้วยังไม่มีสมบัติผู้ดี แต่ฉันจะต้องแคร์อะไรในเมื่อผู้หญิงทั้งประเทศอยากจะสวยเซ็กซี่แบบฉันทั้งนั้น แถมผู้ชายทั้งประเทศก็ฝันอยากจะควงฉันน้ำลายหก”
    
    “ยกเว้นผม ผู้หญิงถ้าไร้สติ แยกไม่ออกว่าอะไรผิดอะไรถูก ต่อให้สวยแค่ไหนผมก็ไม่มอง มันก็แค่สวยแต่รูปจูบไม่หอม”
    
    “ก็มันจะหอมได้ไงในเมื่อนายไม่ชอบผู้หญิง นายไม่สนใจของสวยงาม เพราะนายชอบแบบหล่อล่ำกล้ามปูใช่มั้ยล่ะ”
    
    “ก็แล้วแต่คุณจะคิด”
    
    “ไม่เถียง แต่ก็ไม่ยอมรับ งั้นฉันจะทำให้นายยอมรับเองว่านายเป็นเกย์”
    
    โรสถลันเข้าไปเขย่งจูบปากพฤกษ์เร็ว จนพฤกษ์ไม่ทันตั้งตัว พฤกษ์อึ้ง...นิ่งค้าง
    
    “เห็นมั้ย นายไม่รู้สึกอะไร ไม่วาบหวิวสยิวกิ้วก็เพราะนายไม่ชอบผู้หญิง ยอมรับซะเถอะพฤกษ์ซี่” โรสยืนพิงประตูห้อง กอดอกมองพฤกษ์ ยิ้มเย้ยด้วยท่าทางที่แสนเซ็กซี่ในสายตาชายหนุ่ม
    
    พฤกษ์ระงับโทสะและอารมณ์พิศวาสไว้ไม่ไหว ก้าวไปหา กระชากตัวโรสเข้ามาจูบแบบดูดดื่ม น้ำหวานแอบถ่ายคลิปเก็บไว้โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัว
    
    สักครู่...พฤกษ์เห็นโรสนิ่งไป จึงรีบผละออกมา “ขะ...ขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
    
    โรสตกใจ ทำหน้าไม่ถูก พูดอะไรไม่ออก รีบเอาการ์ดเสียบที่ช่องแล้วเข้าห้องไปอย่างเร็ว ปิดประตูปัง พฤกษ์รู้สึกผิด ทำท่าจะเคาะประตู แต่ก็ชะงักมือไว้เพราะไม่รู้ว่าจะเคาะเพื่อพูดอะไรอีก ชายหนุ่มยืนนิ่งอยู่สักพักก่อนจะเดินก้มหน้าก้มตาย้อนกลับไปทางลิฟต์
     
    กลับไปถึงบ้านพัก จินตวัฒน์เอาแต่นั่งคิดถึงเรื่องดาวเรืองตลอดเวลา พอรู้สึกตัว จินตวัฒน์พยายามเรียกสติกลับคืนมาด้วยการหันไปคว้าโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมากดโทรศัพท์หาโรสทันที
    
    โรสกำลังคิดถึงเรื่องพฤกษ์ อยู่ ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น โรสคิดว่าพฤกษ์โทรฯ มา หญิงสาวลังเล จะรับสายดีหรือไม่ -แต่แล้วความอยากก็เป็นฝ่ายชนะ หญิงสาวจะกดรับโทรศัพท์แต่พอเห็นชื่อที่หน้าจอเป็นชื่อจินตวัฒน์ ความดีใจของโรสหายวับ
    
    แต่โรสก็ยังใส่แอ๊คติ้งกดรับสาย “จิ๋น...ดึกป่านนี้ยังไม่นอนอีกเหรอคะ”
    
    “ก็...กำลังจะนอนแล้วล่ะ โรสเป็นไงบ้าง ช่วงนี้ผมยุ่งมากเลยไม่ค่อยได้โทรฯ หา”
    
    “โรสก็งานยุ่งเลยไม่ค่อยได้โทรฯ หาจิ๋นเหมือนกัน นี่ก็เพิ่งกลับจากงานเลี้ยงลูกค้าฝรั่ง เขามาเซ็นสัญญาซื้อน้ำแร่ที่โรสเป็นพรีเซ็นเตอร์ไปขายเมืองนอกน่ะ โรสจะได้โกอินเตอร์แล้วนะจิ๋น”
    
    “ยินดีด้วยนะโรส เมื่อวานผมก็เพิ่งบุกจับแรงงานเถื่อนมา ยิงกับผู้ร้ายสนั่นยังกับในหนัง”
    
    โรสใจลอยจนเรียกชื่อผิด “อันตรายอะ  พฤกษ์ ต้องระวังตัวนะ โรสเป็นห่วง”
    
    “พฤกษ์”
    
    “เอ่อ...คือ...โรสหมายถึงจิ๋นน่ะค่ะ ต้องระวังตัวให้มากนะคะ” โรสแกล้งหาว “ขอโทษนะคะ โรสอดนอนมาหลายวัน”
    
    “ถ้างั้นก็พักผ่อนเถอะนะ ผมไม่กวนแล้ว รีบนอนซะ...เด็กดื้อ”
    
    “โรสเป็นเด็กดื้อของจิ๋นตั้งแต่เมื่อไหร่”
    
    “เอ่อ...ไม่ใช่ครับ โรสไม่ใช่เด็กดื้อ เอ่อ...หลับฝันดีนะครับโรส”
    
    “ค่ะ กู๊ดไนท์ค่ะจิ๋น” โรสวางสายไปแล้วแอบถอนใจเฮือกโล่งอก
    
    ด้านจินตวัฒน์พอกดวางสายแล้วถอนใจเฮือกหนักหน่วงออกมาไม่แพ้กัน ชายหนุ่มแหงนหน้ามองดวงดาวบนท้องฟ้า...นี่เขาเป็นอะไร ทำไม เขาต้องรู้สึกผิดกับโรส เพราะในใจเขาว้าวุ่นอยู่กับเด็กดื้อคนนั้น ...อย่างนั้นหรือ!!!
     
    เสี่ยกำพลส่งศักดิ์ไปเก็บมือปืนที่โรงพยาบาล แต่พอไปถึงกลับพบว่ามือปืนหลบหนีไปจากโรงพยาบาลแล้ว ศักดิ์รีบกลับไปรายงานเสี่ยกำพล
    
    “มึงรีบตามไปเก็บมันซะ มันหนีไอ้พวกตำรวจหน้าโง่ได้ แต่อย่าให้พ้นเงื้อมมือเราเด็ดขาด”
    
    “ครับนาย เมื่อกี้ไอ้โป่งเพิ่งให้เมียมันโทรฯ หาผม มันขอเงินหนีข้ามไปฝั่งโน้น ผมนัดมันจ่ายเงินแล้วครับ”
    
    “จัดการให้เรียบร้อย อย่าให้เดือดร้อนถึงกู”
    
    ศักดิ์รีบออกไป เสี่ยกำพลมองตาม แววตาฉายความเหี้ยมเกรียม ก่อนจะเดินเข้าไปตรวจงานในปางไม้ต่อ
     
    ที่แท้เป็นแผนของผู้กำกับและจินตวัฒน์ที่ให้โป่งมือปืนที่จับตัวมาได้ติดเครื่องบันทึกเสียงไว้ที่หน้าอก ตอนนัดรับเงินจากศักดิ์ ดาวเรืองกลัวโป่งจะฉวยโอกาสหนีไปจริง ๆ จึงขอตามจินตวัฒน์ไปสังเกตการณ์ด้วย
    
    ศักดิ์นัดพบกับโป่งในป่าตรงตะเข็บชายแดน ตำรวจซ่อนกล้องไว้ที่กระดุมเม็ดบนสุดบนเสื้อของโป่ง จ่าแม่นนำทีมตำรวจแอบซุ่มดูอยู่อย่างใกล้ชิด โดยที่ศักดิ์ไม่รู้ตัว พอศักดิ์ให้เงินไปแล้วก็หาโอกาสจะฆ่าปิดปากโป่ง แต่พอจะหยิบปืนที่เหน็บเอวไว้ด้านหลังออกมา จ่าแม่นที่ซุ่มดูอยู่ก็รีบยกปืนยิงขึ้นฟ้าให้สัญญาณ
    
    ศักดิ์สะดุ้งเฮือก ยกปืนขึ้นส่องกราด เห็นจ่าแม่นและตำรวจอีก 3 นายพุ่งจากที่ซ่อนมาหาตนก็รู้ตัวว่าถูกซ้อนแผน จ่าแม่นและพวกตำรวจยังไม่ทันเข้าใกล้ศักดิ์ ก็ถูกมือปืน 3 คนที่ตามมาคุ้มกันศักดิ์ยิงสวนมาจากพงไม้อื่น เกิดการยิงต่อสู้กันระหว่างตำรวจและผู้ร้าย โป่งวิ่งหนีไปอีกทางที่ไม่มีการยิงกัน
    
    ศักดิ์อาศัยช่วงชุลมุนหนีเข้าป่าอีกด้านไปได้ มือปืนทั้ง 3 เห็นศักดิ์หนีรอดไปแล้วก็ค่อย ๆ ล่าถอย แต่ก็ยังยิงป้องกันตัวด้วย จ่าแม่นและพวกตำรวจหลบกระสุน ยิงตอบ ตามไล่ล่าคนร้ายไปโป่งวิ่งหนีไปหาหมู่จ้อยที่จุดนัดพบใกล้ตะเข็บชายแดน หมู่จ้อยเห็นโป่งแผลฉีกเลือดไหลออกมาเยอะ จึงรีบเข้าไปประคองพาไปนั่งพัก โป่งอาศัยจังหวะที่หมู่จ้อยกำลังวิทยุเรียกรถพยาบาล หยิบไม้ที่วางอยู่แถวนั้นฟาดใส่ต้นคอหมู่จ้อย ก่อนวิ่งหนีลึกเข้าไปในป่าทั้งที่ยังขาเจ็บ หมู่จ้อยยังพอมีสติ รีบวิทยุบอกให้ทุกคนรู้ว่าโป่งหักหลัง กำลังหนีไปทางคลองน้ำใส
    
    โป่งหนีไปเจอศักดิ์ที่ดักรออยู่ริมลำน้ำกั้นเขตแนวชายแดน ศักดิ์ยิงโป่งตาย แล้วเอาเงินของเสี่ยกำพลกลับคืนไป จินตวัฒน์กับดาวเรืองได้ยินเสียงปืน รีบวิ่งไปดู แต่พอไปถึงกลับได้พบเพียงร่างไร้วิญญาณของโป่ง
    
    “อย่างที่เธอพูดไว้ไม่ผิด ไม่มีสัจจะในหมู่โจร แต่อย่างน้อยวาระสุดท้ายของชีวิต นายก็ได้ช่วยเหลือทางการ ขอบใจนะ”
    
    จินตวัฒน์เอื้อมมือไปที่กระดุมเสื้อเม็ดบนสุดซึ่งเป็นกล้องจิ๋ว...จัดการแกะกระดุมกล้องออก ในขณะที่ดาวเรืองหวาดวิตกกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป
     
    พฤกษ์ไปหาโรสที่คอนโดแต่เช้า โรสยังไม่พร้อมจะพบหน้าพฤกษ์ เลยไม่ยอมให้ยามเปิดประตูให้พฤกษ์ขึ้นมาหา พฤกษ์เสียใจที่ไม่มีโอกาสขอโทษหรืออธิบายใด ๆ ชายหนุ่มยืนมองไปที่ระเบียงห้องโรสก่อนตัดสินใจเดินกลับออกไป โรสที่แอบมองอยู่ตรงหน้าต่าง รู้สึกสับสนมาก ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ จูบของพฤกษ์ไม่ใช่จูบแรกสักหน่อย แต่ทำไมถึงทำให้ใจหวั่นไหวได้ขนาดนี้
    
    ศักดิ์กับชาติเป็นกังวล พยายามจะเตือนให้เสี่ยกำพลหยุดความเคลื่อนไหวชั่วคราว รอดูท่าทีของตำรวจก่อน แต่เสี่ยกำพลไม่ยอม
    
    “กูจะนิ่งได้ไง กูเป็นนักธุรกิจ...ไม่ใช่มือปืนอย่างพวกมึงนี่ ไม้เที่ยวนี้ราคาตั้งกี่ร้อยล้าน กูส่งช้าแค่ชั่วโมงเดียว ก็ถูกปรับเป็นล้านแล้วเว้ย มึงสองคนไม่ต้องตื่นตูมหรอกน่า ให้มันรู้ไป..ว่าคนอย่างเสี่ยกำพลจะสู้ไอ้พวกข้าราชการกิ๊กก๊อกที่ดอนพัฒนาไม่ได้” เสี่ยกำพลมั่นใจในบารมีของตัวเองมาก
     
    น้ำหวานแอบปล่อยคลิปโรสจูบพฤกษ์ลงยูทูบ นักข่าวบุกมาสัมภาษณ์โรสถึงที่คอนโด โรสอ้างว่าจะรีบไปงานรับรางวัลพุทธศาสนิกชนดีเด่น ชิ่งหนีพวกนักข่าวไปทันที
    
    จินตวัฒน์เอากล้องจิ๋วที่ซ่อนไว้ที่กระดุมเสื้อโป่งกลับไปให้ผู้กำกับดู หลักฐานชัดเจนทั้งภาพและเสียง ดาวเรืองมั่นใจว่าสามารถเอาผิดเสี่ยกำพลได้แน่ ผู้กำกับขอบคุณจินตวัฒน์ที่ตามไปเก็บหลักฐานมาได้ จินตวัฒน์ยกความดีความชอบให้ดาวเรืองที่ไม่ไว้ใจว่าโป่งจะกลับใจมาช่วยทางการจริง ๆ
    
    โรสร้อนใจเรื่องคลิป รีบไปหาพฤกษ์ที่ร้านดอกไม้ของจันทรา จันทราที่เห็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์แล้ว แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ บอกโรสไปว่าพฤกษ์ไม่มาทำงานที่ร้านแล้ว เพราะเรียนจบ กลับไปทำงานที่บ้านแล้ว โรสเห็นบนโต๊ะของจันทรามีหนังสือพิมพ์วางอยู่ ก็รู้ได้ทันทีว่าจันทราคงเห็นข่าวของเธอแล้ว โรสรีบโทรศัพท์ไปหาจินตวัฒน์ จินตวัฒน์เองก็เพิ่งได้เห็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ขณะพาดาวเรืองไปเลี้ยงไอศกรีม โรสพยายามแก้ตัวบอกคนที่เห็นในรูปเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ที่มาทำงานแทนน้ำหวาน
    
    “เขาเป็นฟรีแลนซ์ที่มาช่วยงานโรสแค่ไม่กี่ครั้ง เมื่อคืนที่โรสบอกว่าไปปาร์ตี้กับลูกค้ามาน่ะ โรสดื่มมากไปหน่อยเลยขับรถไม่ไหว ภาพหลุดนั่น...โรสแค่จูบขอบคุณที่เขาขับรถมาส่ง จูบแบบเพื่อน just friend น่ะค่ะจิ๋น อีตานั่นเป็นพวกเก้งกวาง จิ๋นต้องเชื่อใจโรสนะ โรสกับพฤกษ์...ไม่ได้มีอะไรกันจริง ๆ”
    
    จินตวัฒน์ได้ยินชื่อพฤกษ์แล้วอึ้ง นึกถึงตอนที่คุยโทรศัพท์กันคราวก่อนแล้วโรสเผลอเรียกชื่อพฤกษ์ออกมา
    
    “ผมเชื่อใจคุณนะโรส...แต่ความเชื่อใจมันไม่สำคัญเท่ากับความรัก คุณต้องลองถามใจตัวเองดูว่า คุณยังรักผมอยู่รึเปล่า”
    
    ดาวเรืองได้ยินเต็ม ๆ จินตวัฒน์มีคนรักแล้ว
     
    เป็นเพราะคลิปฉาว ทำให้โรสถูกถอดจากรางวัลพุทธศาสนิกชนดีเด่นปีนี้ แล้วให้จัสมินมารับรางวัลแทน นอกจากนี้โรสยังถูกถอดออกจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาน้ำแร่ และยังโดนสื่อรุมโจมตีอย่างหนัก พฤกษ์เห็นข่าวโรสในหน้าหนังสือพิมพ์ก็ถึงกับอึ้ง ไม่คิดว่าโรสจะโดนอัดหนักขนาดนี้ พฤกษ์พยายามโทรศัพท์ติดต่อหาโรส แต่โรสมัวแต่หนีนักข่าวอยู่ ไม่ได้รับสายพฤกษ์
    
    ในสถานการณ์เช่นนี้ โรสคิดว่าจินตวัฒน์น่าจะช่วยแก้ปัญหาให้เธอได้ หญิงสาวตัดสินใจขับรถไปหาจินตวัฒน์ที่ดอนพัฒนา โดยไม่รู้ว่าพฤกษ์เองก็กำลังเดินทางไปที่ดอนพัฒนาเช่นเดียวกัน
     
    วรรณ แหลม กรอดที่กำลังดูภาพข่าวโรสจูบกับพฤกษ์อยู่ที่แผงหนังสือในตลาด พากันอ้าปากค้างเมื่อเห็นโรสตัวจริงขับรถมาจอดถามทางไปอำเภอ ทั้งสามคนอยากรู้มากว่าโรสจะไปที่อำเภอทำไม
    
    ดาวเรืองดีใจมากที่เห็นเป็ดที่เลี้ยงไว้ออกไข่ จินตวัฒน์บอกให้ดาวเรืองเก็บไข่ไปขาย แต่ดาวเรืองไม่ยอม หญิงสาวบอกจะเก็บเอาไว้ฟักเป็นตัว
    
    “รุ่นลูกตั้งชื่อด้วยจอ จาน ตามชื่อนายแล้ว รุ่นหลานนี่ ต้องขึ้นด้วยดอ เด็ก ตามชื่อฉัน” ดาวเรืองเอามือชี้ไข่เป็ดที่วางเรียงไว้บนกองฟางอย่างสวยงาม แล้วตั้งชื่ออย่างสนุกสนาน “ดุจดาว ดวงเดือน เด้งดึ๋ง โด่งดัง ดุ๊กดิ๊ก ดุ๊กดุ๋ย โดโด้ เดือนเด่น ดวงดาว ดีโด้ ดี๊ดี”
    
    “เป็ดไข่นะครับ คุณดาวเรือง มีแต่ตัวแม่ ไม่มีตัวพ่อสักตัว มันจะฟักเป็นตัวได้ยังไงครับ”
    
    ดาวเรืองชะงักกึก...ยิ้มแหะ ๆ “เออ...จริง”
    
    กลับออกมาจากเล้าเป็ดด้วยกัน จินตวัฒน์เดินไปหาบานชื่นที่กำลังผัดอาหารอยู่ในร้าน
    
    “วันนี้ผมฝากท้องที่นี่เลยนะครับ ดาวเรืองจะได้ไม่ต้องเอาปิ่นโตไปส่ง”
    
    “ค่า...น้าทำของโปรดของคุณปลัดหลายอย่างเลยค่ะ น้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด ผัดคะน้าปลาเค็ม แล้วก็...” บานชื่นอ้าปากค้าง มองไปหน้าบ้านตาไม่กะพริบ
    
    จินตวัฒน์หันไปมองบานชื่นเพราะแปลกใจที่เงียบไป
    
    บานชื่นปิดแก๊ส วางตะหลิว วิ่งออกไปหน้าบ้านด้วยความตื่นเต้น “พฤกษ์ลูกแม่”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)