ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวเรือง วันที่ 26 กรกฎาคม 2556  (อ่าน 351 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
ดาวเรือง วันที่ 26 กรกฎาคม 2556
« เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2013, 06:20:51 am »

 ศักดิ์เห็นตำรวจก็ตกใจ ดึงปืนออกมายิงใส่แล้วรีบเผ่น ส่วนมือปืน 2 คนวิ่งออกไปอีกทาง จินตวัฒน์กับวรรณ เตรียมอาวุธปืนพร้อม วิ่งออกจากที่ซ่อน แล้วตามศักดิ์ไป
    
    จ่าแม่นยิงปืนขู่แรงงานต่างด้าว คนงานพากันตกใจ รีบหมอบตัวลงกับพื้น จ่าแม่นและกลุ่มตำรวจวิ่งเข้ามาที่กลุ่มแรงงานต่างด้าว จ่าแม่นสั่งให้นั่งลงเป็นภาษาอังกฤษ พวกแรงงานต่างด้าวไม่เข้าใจ หมู่จ้อยต้องพูดภาษาเขมรพวกคนงานถึงได้เข้าใจ จ่าแม่นให้หมู่จ้อยต้อนพวกคนงานกลับไปที่รถ ก่อนวิ่งตามพวกศักดิ์ไป
    
    มือปืนสองคนถูกยิงตาย ส่วนศักดิ์โดนยิงที่ข้อมือได้รับบาดเจ็บ วิ่งหนีหายเข้าไปในป่า จ่าแม่นกับวรรณร้อนใจ จะตามไปจับตัวศักดิ์ แต่จินตวัฒน์ห้ามไว้ เพราะไม่รู้ว่าในป่าจะมีกำลังสนับสนุนอยู่เท่าไหร่ ลำพังแค่ตน วรรณ แล้วก็จ่าแม่น อาจสู้กับพวกศักดิ์ไม่ได้
    
    ดาวเรืองเป็นห่วงจินตวัฒน์กับวรรณ จึงไปขอให้หลวงตาคงช่วยตรวจดูดวงชะตาของคนทั้งคู่ให้ หลวงตาคงฟันธงบอกวันนี้ตายคู่แน่ ดาวเรืองตกใจมาก รีบวิ่งลงจากสำนักหลวงตาคงไปทันที
      
    จู่ ๆ ก็มีรถพยาบาลและรถตำรวจที่บรรทุกแรงงานต่างด้าว แล่นผ่านหน้าร้านไป บานชื่นอยากรู้มากว่าเกิดอะไรขึ้น จึงรีบวิ่งออกไปนอกร้าน รถกระบะของจินตวัฒน์แล่นผ่านหน้ามาพอดี บานชื่นตะโกนถามจ่าแม่นที่นั่งอยู่ด้านหลังกระบะว่าเกิดอะไรขึ้น
    
    “สู้กันกลางป่า ตายไป 2 จะรีบเอาไปโรงพยาบาล”
    
    บานชื่นตกใจยกมือทาบอก เพี้ยนขนลุกซู่ ชาวบ้านพากันวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา ดาวเรืองขี่มอเตอร์ไซค์มาถึงที่ร้านพอดี บานชื่นกับเพี้ยนหันมาเห็นดาวเรืองร้องไห้ก็พากันแปลกใจ ดาวเรืองเล่าเรื่องคำทำนายของหลวงตาคงให้ทั้งสองคนฟัง บานชื่นคิดว่าสองศพที่ตายเป็นจินตวัฒน์กับวรรณ
    
    ดาวเรืองรีบขี่มอเตอร์ไซค์ตามขบวนรถพยาบาลไป ระหว่างทางเจอแหลมกับกรอดขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาพอดี ดาวเรืองบอกให้แหลมกับกรอดรีบกลับไปบอกผันกับเวียงว่าวรรณตายแล้ว ตอนนี้ศพอยู่ที่โรงพยาบาล
     
    จินตวัฒน์ วรรณ และจ่าแม่น เข้าไปดูศพคนร้ายในห้องชันสูตรศพด้วยกัน จ่าแม่นเดินออกมานอกห้องชันสูตรศพก่อน เพราะรู้สึกปวดหัว ดาวเรืองขี่มอเตอร์ไซค์มาถึงโรงพยาบาลพอดี พอเห็นจ่าแม่นก็รีบปรี่เข้าไปหา
    
    “ปลัดกับไอ้วรรณล่ะจ่า อยู่ไหน”
    
    “ในห้องดับจิตทั้งคู่นั่นแหละ เอ็งจะเข้าไปเหรอ อย่าเลย...สภาพศพไม่น่าดูหรอก คนนึงโดนยิงกลางแสกหน้า อีกคนโดนที่หัวใจ”
    
    ดาวเรืองปล่อยโฮออกมาทันที “ไม่น่าเลย”
    
    “ทำไมวะ หรือว่าแม่บาน...แม่บานเป็นอะไรไอ้เรือง”
    
    “เพราะฉันคนเดียว ฉันผิดเอง”
    
    “เอ็งปล่อยให้แม่บานตายเหรอไอ้เรือง”
    
    “ไม่ใช่!!!...ฉันหมายถึงคุณปลัดกับไอ้วรรณ ต่างหาก ฉันผิดเองที่เป็นคนส่งเขาไปตาย”
    
    จินตวัฒน์กับวรรณเปิดประตูห้องชันสูตรศพออกมาเห็นดาวเรืองร้องไห้คร่ำครวญต่อหน้าจ่าแม่น ก็หยุดฟัง
    
    “ไอ้วรรณ ถึงมันจะเกเร แต่มันก็ไม่ได้เลวระยำขนาดจะต้องตาย คุณปลัดก็เป็นคนดีคนเก่ง เขายังทำประโยชน์ให้ประเทศได้อีกเยอะ...ทำไมจะต้องตาย...เพราะฉัน...เพราะฉันคนเดียว”
    
    วรรณซึ้งใจมาก “เอ็งร้องไห้เพราะข้าเหรอไอ้เรือง”
    
    ดาวเรืองเงียบกริบ ก่อนหันขวับไป เห็นคนทั้งคู่ยืนหัวโด่...ก็ตาเหลือก
    
    จ่าแม่นยังคงไม่เข้าใจ “เอ็งพร่ำอะไรของเอ็งวะไอ้เรือง”
    
    จินตวัฒน์ยิ้มขำ “คิดว่าฉันกับนายวรรณตายแล้ว”
    
    “แล้ว...ยัง...ยังไม่ตายเหรอ” ดาวเรือง เข้าไปจับหน้า จับแขน จับตัวจินตวัฒน์ “ยังไม่ตายจริง ๆ ด้วย”
    
    วรรณยื่นแก้มไปให้ดาวเรืองที่กำลังกระ โดดโลดเต้น “ไม่เชื่อ ลองหอมแก้มดูก็ได้”
    
    ดาวเรืองชกหน้าวรรณไปที ต่อยท้องวรรณจนตัวงออีกที แล้วหัวเราะ ขณะที่วรรณร้องลั่น
    
    “เชื่อแล้วว่ายังไม่ตาย”
    
    “ฉันไม่ตายง่าย ๆ หรอก”
    
    “ข้าก็เหมือนกัน ตราบใดที่ข้ายังไม่ได้แต่งงานกับเอ็ง ข้าไม่ยอมตาย”
    
    ดาวเรืองกระโดดกอดวรรณ วรรณเคลิ้ม มีความสุข แต่เพียงชั่ววินาที ดาวเรืองก็ผละออกมา แล้วโผไปกระโดดกอดจินตวัฒน์ จินตวัฒน์จะกอดตอบแต่กลับชะงัก รู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นมากะทันหัน...เขาเป็นอะไรไป จู่ ๆ ก็ทำอะไรไม่ถูกซะงั้น ไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ไหน รู้สึกมือไม้เกะกะไปหมด ดาวเรืองรู้สึกตัวว่ากอดจินตวัฒน์แน่น รีบผละออกมา...แต่ไม่ทันเพราะหน้าแดงซ่านไปแล้ว
    
    “ข้าก็ไปด้วยนะไอ้เรือง”
    
    ดาวเรืองแก้เขินด้วยการหันมากอดจ่าแม่นแทน “ฉันดีใจจริง ๆ ที่ทุกคนไม่เป็นอะไร...ดีใจจริง ๆ นะ”
    
    ทุกคนยิ้มแย้มให้กันอย่างลืมตัว เหมือนว่ามิตรภาพได้เริ่มก่อตัวขึ้นแล้วอย่างเงียบ ๆ โดยเฉพาะจินตวัฒน์กับดาวเรืองที่ยิ้มให้กันอย่างมีความหมาย 
     
    ตอนที่ 19
    
    กำนันผันกับบรรดาเมีย ๆ ตกใจมาก เมื่อรู้ว่าวรรณออกไปช่วยทางการจับไม้เถื่อน แหลมกับกรอดร้องไห้โฮเสียใจที่รู้จากดาวเรืองว่าวรรณตายแล้ว แต่กำนันผันกับเมีย ๆ พากันคิดว่าสองคนเสียใจที่ไม่ได้ตามวรรณเข้าไปในป่า กว่าสองคนจะหลุดปากบอกข่าววรรณตายแล้วออกมาได้ก็มืดค่ำมากแล้ว
    
    กำนันผันไม่เชื่อว่าวรรณจะตายแล้วจริง ๆ ยิ่งกรอดกับแหลมบอกว่ารู้ข่าวมาจากดาวเรือง ก็ยิ่งคิดว่าสองคนคงโดนดาวเรืองแกล้งหลอกเอา เสมอใจแนะนำให้ลองโทรศัพท์ไปถามจ่าแม่นดู กำนันผันรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรฯหาจ่าแม่น แต่จ่าแม่นไม่รับสาย
    
    เวียงร้อนใจ จะบุกไปถามที่สถานีตำรวจให้รู้เรื่อง แต่ก่อนจะก้าวเท้าออกจากบ้าน เสียงหมาหอนก็ดังโหยหวนขึ้นมา ทุกคนสะดุ้ง ขนลุก เริ่มใจคอไม่ดี
    
    “พ่อจ๋า แม่จ๋า หนูกลับมาแล้วจ้ะ” 
    
    ทุกคนขยับจะไปรับวรรณในขณะที่เสียงหมายังโหยหวน วรรณในสภาพเลือดเกรอะกรัง หน้าตามอมแมม เดินออกมาจากเงามืดของต้นไม้ แล้วแสยะยิ้มให้ทุกคน ทุกคนชะงักกึก สบตากันแล้วแหกปาก “ช่วยด้วยยยย” พร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ก่อนจะวิ่งหนีขึ้นบ้านไม่คิดชีวิต
    
    วรรณเดินตามขึ้นไปบนบ้านด้วยท่าทีงง ๆ พวกกำนันผันคิดว่าวิญญาณวรรณยังไม่รู้ตัวว่าได้ตายไปแล้ว ไม่มีใครกล้าโผล่หน้าออกมาหาวรรณ แม้กระทั่งเสมอใจ วรรณต้องประกาศก้องว่ายังไม่ตาย ทุกคนค่อยออกมาจากที่ซ่อน จับเนื้อตัววรรณดู เห็นว่ายังอุ่น ๆ อยู่ค่อยพากันยิ้มออกมาได้
     
    บานชื่นกับเพี้ยนก็คิดว่าวรรณกับจินตวัฒน์ตายไปแล้วเหมือนกัน พอเห็นจินตวัฒน์กลับมาพร้อมกับดาวเรือง ก็คิดว่าวิญญาณของจินตวัฒน์ตามดาวเรืองมา ดาวเรืองไม่ยอมเล่าความจริง แกล้งหลอกให้ทั้งคู่เข้าใจผิด คิดว่าจินตวัฒน์ตายไปแล้วจริง ๆ  บานชื่นกับเพี้ยนมารู้ความจริงก็ตอนจ่าแม่นขับรถมารับจินตวัฒน์กลับไปบ้านพัก บานชื่นทั้งอายทั้งโมโห วิ่งไล่ตีดาวเรืองไปรอบร้าน
      
    วันรุ่งขึ้น เสี่ยกำพลกลับมาถึงเมืองไทย พอรู้ข่าวจากชาติและศักดิ์ก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก “พวกมึงดูแลกันยังไงวะ ตำรวจมันถึงได้แห่เข้ามารวบคนงานไปหมด กูไม่อยู่แค่ไม่กี่วัน จะไว้ใจพวกมึงบ้างไม่ได้เลยใช่มั้ย”
    
    ชาติรีบรายงาน “ทุกอย่างมันไม่มีปัญหาหรอกครับเสี่ย ถ้าไม่มีคนพาพวกตำรวจบุกมาถึงนี่”
    
    “ไอ้เทิ้มมันก็ตายไปแล้ว กูยังไม่หมดเสี้ยนหนามอีกเหรอวะ ไอ้เวรนั่นมันเป็นใคร”
    
    “ไอ้ปลัดจินตวัฒน์ครับเสี่ย มันพาตำรวจมา แล้วมันก็เป็นคนยิงผมด้วย”
    
    “ในเมื่อมันยิงมึง มึงก็กลับไปเอาคืนสิวะ” แววตากำพลเต็มไปด้วยความแค้น
     
    บานชื่นพาดาวเรืองบุกไปเอาเรื่องหลวงตาคงที่สำนัก หาว่าหลวงตาคงทำนายผิดว่าวรรณกับจินตวัฒน์จะตาย หลวงตาคงรีบบอกดาวเรืองเข้าใจผิดไปเองว่าที่บอกว่าตายคู่คือวรรณกับจินตวัฒน์
    
    “ตกลงเอ็งตื่นตูมไปเองงั้นเหรอ นี่แน่ะ” บานชื่นเขกมะเหงกใส่ลูกสาว 
    
    ดาวเรืองเอามือลูบหัวหน้ามุ่ยเพราะเป็นอย่างที่โดนว่าจริง ๆ
    
    “ถามจริงเถอะไอ้เรือง เอ็งกลัวใครตายมากกว่ากันวะ ไอ้วรรณหรือคุณปลัด”
    
    ดาวเรืองไม่ตอบ ทำท่าจะลุกเดินหนีไป หลวงตาคงรีบเรียกไว้
    
    “เดี๋ยวก่อนไอ้เรือง ข้าลองตรวจดวงชะตาคุณปลัดดูแล้ว ช่วงนี้พระเสาร์โคจรผ่านกระแสของราหูกับดาวมฤตยูย้ายเข้าราศีเกิดของคุณปลัด”
    
    “แล้วมันแปลว่าอะไรล่ะหลวงพี่” บานชื่นหันขวับไปถาม
    
    “คุณปลัดกำลังมีเคราะห์หนัก ภายในวันสองวันนี้ถ้าตายก็ตาย ถ้ารอดก็รอด เอ็งไปเตือนคุณปลัดให้ระวังตัวให้ดี”
    
    “ทำไมฉันต้องไปด้วยล่ะ ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
    
    ต่อหน้าหลวงตาคง ดาวเรืองทำปากแข็งไม่ยอมรับว่าเป็นห่วงจินตวัฒน์แต่พอออกจากสำนักหลวงตาคง ดาวเรืองก็รีบแจ้นไปหาจินตวัฒน์ที่ที่ว่าการอำเภอทันที
    
    มือปืน 2 คนที่เสี่ยกำพลจ้างให้มาเก็บจินตวัฒน์ ขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดข้างรถปิกอัพคนละด้านกับที่ดาวเรืองจอดมอเตอร์ไซค์ ดาวเรืองทำกุญแจหลุดมือก้มลงเก็บกุญแจ มือปืนไม่เห็นดาวเรือง หยิบรูปถ่ายออกมาดู แล้วพากันชี้เป้าไปยังจินตวัฒน์ที่เดินออกมาจากที่ว่าการอำเภอพร้อมกับปลัดอำเภออีก 2 คน ดาวเรืองชะงักแอบฟังที่มือปืนคุยกัน
    
    จินตวัฒน์เดินแยกไปที่รถ มือปืนคนหนึ่งบอกให้ฉวยโอกาสตอนปลอดคนเก็บจินตวัฒน์เลย แต่มือปืนอีกคนบอกให้ใจเย็นรอให้นายสั่งก่อน ว่าแล้วทั้งคู่ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป ดาวเรืองรอจนมือปืนขี่มอเตอร์ไซค์ไปไกลแล้ว จะรีบวิ่งไปบอกจินตวัฒน์ แต่จินตวัฒน์กลับขับรถออกไปก่อน
    
    ดาวเรืองเป็นห่วงจินตวัฒน์มาก รีบไปปรึกษาผู้กำกับที่โรงพัก ผู้กำกับรับปากจะดูแลความปลอดภัยให้จินตวัฒน์เอง ส่วนดาวเรืองก็ต้องระวังตัวให้มาก อย่าให้พวกเสี่ยกำพลรู้เด็ดขาดว่าดาวเรืองมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ด้วย
     
    พฤกษ์ขับรถพาโรสไปส่งที่ผับ โรสรับปากว่าจะเข้าไปทักทายลูกค้าแล้วกลับออกมาไม่เกิน 3 ทุ่ม พฤกษ์นั่งรออยู่ในรถไม่ตามโรสเข้าไปในผับ เพราะพรุ่งนี้มีนัดกับอาจารย์แต่เช้า และที่สำคัญคือพฤกษ์ไม่ชอบดื่มเลยไม่อยากเข้าไปในผับ
    
    ดาวเรืองเป็นห่วงจินตวัฒน์ ใส่ชุดไอ้โม่งแอบปีนหน้าต่างเข้าไปหากลางดึก เพื่อบอกให้รู้ว่ามีมือปืนจะมาลอบยิง ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นเอง จู่ ๆ ก็มีเสียงคนผิวปากเป็นเสียงนกดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ “มีคนมา”
    
    “ใคร”
    
    “คนที่จะมาส่องนายน่ะสิ เสียงนกนั่นน่ะเสียงไอ้วรรณส่งสัญญาณ ฉันให้มันเฝ้าอยู่ใต้ถุนบ้าน”
    
    ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงคนตะโกนเรียกจินตวัฒน์ให้ออกไปนอกบ้าน
    
    ดาวเรืองกระซิบบอกจินตวัฒน์ “อย่าเพิ่งออกไปนะ ตะโกนบอกไปว่าเดี๋ยว”
    
    จินตวัฒน์ลังเลนิดหนึ่งแล้วยอมทำตาม
    
    “เดี๋ยว...เดี๋ยวนะ”
    
    “เดี๋ยวเปิดประตูให้กว้างนะ ฉันจะคุ้มกันให้เอง ไอ้วรรณคงพร้อมแล้ว”
    
    “อย่ายิงก่อนล่ะ ดูก่อนนะว่าไม่ใช่คนบริสุทธิ์” จินตวัฒน์ค่อย ๆ ขยับกลอน
    
    “รู้น่า...นับหนึ่งถึงสามค่อยเปิด...หนึ่ง...สอง..สาม”
    
    จินตวัฒน์ผลักประตูเปิดออกไป ดาวเรืองกลิ้งไปกับพื้น ใช้เท้าเตะที่เข่าด้านล่างของจินตวัฒน์ จินตวัฒน์ไม่ทันตั้งตัวทรุดลง จังหวะนั้นเองเสียงปืนก็ดังเปรี้ยง กระสุนวิ่งผ่านหัวจินตวัฒน์ไปโดนของที่อยู่ภายในบ้านแตกกระจาย จินตวัฒน์หมอบลงกับพื้น ดาวเรืองที่นอนอยู่กับพื้นพลิกตัวแล้วยิงสวนออกไปในความมืด
    
    ใต้ถุนบ้าน วรรณซึ่งซ่อนตัวอยู่ก็ยิงออกไปในความมืดเช่นกัน มือปืนทั้ง 2 คนซ่อนตัวอยู่คนละจุดแต่ไม่ไกลกันยิงขึ้นไปบนบ้านพัก
    
    จ่าแม่นกับหมู่จ้อยอยู่ในรถกระบะตราโล่ที่จอดซุ่มอยู่ห่างจากบ้านพักปลัดไปประมาณ 200 เมตรหันมาสบตากัน ก่อนจะหยิบปืนขึ้นมาแล้วรีบวิ่งไปยังบ้านพักปลัด
    
    ดาวเรืองยิงโดนอกมือปืนคนหนึ่ง มือปืนอีกคนเห็นเพื่อนเสียท่าก็ขยับล่าถอย วรรณออกจากที่ซ่อนใต้บันได วิ่งตามมือปืนไป วรรณยิงโดนมือปืนที่ต้นขา จ่าแม่นกับหมู่จ้อยวิ่งเข้ามาช่วยวรรณจับมือปืนไว้ได้
    
    ดาวเรืองได้ยินเสียงจ่าแม่นบอกว่าตำรวจมาก็เบาใจ รีบยัดปืนใส่มือจินตวัฒน์ “ที่เหลือนายจัดการเองก็แล้วกัน”
    
    ดาวเรืองรีบวิ่งกลับไปที่หน้าต่าง แล้ว
    กระโดดหายไปในความมืด วรรณซึ่งใส่ถุงมือดำและพรางตัวชุดดำเก็บปืนของมือปืนส่งให้จ่าแม่น ก่อนจะวิ่งหายไปในความมืดอย่างรวดเร็วเช่นกัน
    
    มือปืนเห็นว่าตนหมดทางรอด จึงยกมือขึ้นยอมแพ้ จ่าแม่นส่งปืนให้หมู่จ้อย ช่วงจังหวะที่ทั้งคู่เผลอ มือปืนก็ถีบจ่าแม่นกระเด็นไปที่พื้น แล้วบิดมือหมู่จ้อยไพล่หลัง เอาปืนจ่อหัวเป็นตัวประกัน จะพาหมู่จ้อยขยับหนี แต่ยังไม่ทันได้ไปไหนไกล จินตวัฒน์ถือปืนแล้วฟาดใส่ก้านคอมือปืนล้มลง สลบคาที่
    
    “รีบพาตัวส่งโรงพยาบาลและกันไว้เป็นพยานเถอะครับ...ก่อนที่พวกมันจะตามมาปิดปากกันเอง”
    
    จ่าแม่น หมู่จ้อย กุลีกุจอลากมือปืนออกไป
     
    ผู้กำกับยืนคุยกับจินตวัฒน์หน้าห้องฉุกเฉิน “ตาย 1 บาดเจ็บ 1 เดี๋ยวทำแผลเสร็จ เราจะกันตัวไปสอบ คิดว่าน่าจะสาวไปถึงคนบงการได้แน่”
    
    “ขอบคุณนะครับที่ส่งจ่าแม่นกับหมู่จ้อยไปดูแลผม”
    
    “ต้องขอบใจดาวเรืองที่มาส่งข่าว”
    
    “ดาวเรืองเหรอครับ ผมไม่เข้าใจ...ทำไมดาวเรืองถึงได้รู้ความเคลื่อนไหวของคนพวกนั้นเร็วกว่าคนอื่น บางครั้งก็เร็วจนผมกลัว ..กลัวว่าเด็กอย่างดาวเรืองจะมีส่วนพัวพันกับพวกนั้นด้วย”
    
    “มีน่ะมีแน่ แต่ไม่ใช่พัวพัน แค่สังเกตการณ์”
    
    “หมายความว่ายังไงครับ”
    
    “ไอ้เรือง...เป็นสายของเรา เรื่องนี้รู้แค่ผมกับไอ้เรือง แล้วตอนนี้ก็คุณ ยิ่งรู้กันมากเท่าไหร่ ไอ้เรืองก็ยิ่งไม่ปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น”
    
    “เพราะอย่างนั้นตำรวจถึงได้ทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยให้ดาวเรืองเป็นนักเลงเฉียดคุกไปมา แต่ไม่เคยติดคุกสักครั้ง”
    
    “เวลาอยากได้ข่าวจากมันที ผมก็ให้จ่าแม่นไปจับไพ่จับเหล้าเถื่อน เดี๋ยวมันก็มาโรงพัก ใครจะขนไม้เถื่อน ขนยา หรือตั้งแก๊งลักรถ...หลบเข้ามาในเขตเราปุ๊บ เรารวบได้หมด ไอ้เรืองมันช่วยเรามาเป็นปี ๆ แล้วครับ อย่างคราวที่จับแรงงานเถื่อนมันจะพาตำรวจไปเองก็ได้ แต่มันอยากให้เป็นผลงานของปลัด” 
    
    “แต่คราวนี้คนที่จัดการคนร้ายซะร่วงคือดาวเรืองครับ ไม่ใช่ผม”
    
    “แล้วปืนที่ใช้ยิงคนร้ายอยู่ไหนล่ะครับ ไอ้เรืองเอาไปด้วยรึเปล่า ตำรวจต้องใช้ประกอบคดี”
    
    “อยู่กับผมครับ ปืนผม”
    
    “ในเมื่อมันเป็นปืนคุณ คนที่จัดการคนร้ายได้ครั้งนี้ก็คือคุณครับ...ปลัด”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)