ผู้เขียน หัวข้อ: แค้นเสน่หา วันที่ 24 กรกฎาคม 2556  (อ่าน 351 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
แค้นเสน่หา วันที่ 24 กรกฎาคม 2556
« เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2013, 04:50:53 am »

 คำพูดที่ราบเรียบของพจน์ ไม่ส่อความสะพรึงกลัวต่อมัจจุราชที่คืบคลานเข้ามาใกล้ ทำให้จันทร์ร้องไห้ออกมา
    
    “คุณพี่คือร่มโพธิ์ ร่มไทรของเราทุกคน ทำไมถึงต้อง...ต้องตาย”
    
    “จันทร์ พูดอะไรอย่างนั้น น้องต้องอยู่เป็นหลักแก่บ้านเรา ลูกพี่ยังอายุน้อยต้องการคนชี้นำที่เป็นคนดีมีเมตตา ซึ่งน้องเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุด พี่จะได้นอนตายตาหลับ”
     
    พจน์นั่งบนเตียงคนไข้ แต่สีหน้าเข้มแข็งมั่นคง ขณะที่จันทร์รับฟังคำสั่งเสียของพจน์ทั้งน้ำตา...เมื่อพจน์กลับมาบ้าน คุณหญิงเพ็ง จันทร์ และทุกคนในบ้านต่างช่วยกันดูแลพจน์อย่างดี และด้วยกำลังใจที่ดี ทำให้สุขภาพร่างกายของพจน์ไม่ทรุดโทรมมากนัก
    
    ที่วังรังสิยา ผ่องกลัวว่าชายเดียวจะรู้เรื่องเฟืองในวันหนึ่ง จึงตัดสินใจมาบอกท่านหญิงเรื่องที่ชายเดียวแอบฟังท่านหญิงคุยกับเฟือง
    
    “เอาเถอะ... ฉันจะจัดการแกไม่ต้องกลัว ขอบใจที่เป็นห่วง”
    
    “ถึงยังไงหม่อมฉัน ก็คิดถึงบุญคุณพี่เฟืองเสมอมังคะ” ผ่องยืนยัน
    
    “ไม่กลัวแล้วรึ...อย่าลืมว่าแกเคยจะทิ้งฉันไปนะ” ท่านหญิงดักคอ
    
    “ไม่แล้วมังคะ หม่อมฉันรู้แล้วว่า ถึงยังไงแกก็ไม่ทำร้ายหม่อมฉัน” ผ่องยืนยันก่อนจะเดินเลี่ยงออกไป
    
    “ได้ยินแล้วใช่มั้ย อย่าไปทำอะไรมัน...มันเป็นคนซื่อ แล้วมันก็รักเฟืองมาก” ท่านหญิงเปรยกับวิญญาณเฟือง
    
    “เด็จไปบ้านปัณณธรเถิดมังคะ” เฟืองที่หมอบอยู่โพล่งขึ้น
    
    “ทำไม...มีอะไร” ท่านหญิงแปลกใจ
    
    “คุณชายไม่ยอมไปเรียน เพราะชอบผู้หญิงบ้านนั้น หม่อมฉันจะแสดงให้เห็นว่า...ชอบคนไหน”
    
    “เฟืองจะทำยังไง” ท่านหญิงสงสัย
    
    “พามาที่นี่... มาทีละคนนะมังคะ” เฟืองบอกกล่าว
    
    “ให้พาใครมาก่อน” ท่านหญิงเอ่ยถาม
    
    “นังรุ้ง” เฟืองตอบ แววตาอาฆาตแค้นชัดเจนออกมา
    
    ท่านหญิงแขไขทำตามที่เฟืองบอก วันรุ่งขึ้นจึงไปพบจันทร์ที่บ้านปัณณธร ชวนรุ้งมาเที่ยวที่วังรังสิยา...เมื่อมาถึงชายเดียวก็พารุ้งไปเดินเล่นรอบ ๆ จนถึงเรือนของเฟือง เหมือนมีอะไรครอบงำรุ้งให้เดินเข้าไป
    
    “มา...ขึ้นมา...ขึ้นมาหาข้า”
    
    เสียงเฟืองเรียกรุ้งดังแว่ว เหมือนมีอะไรครอบงำรุ้งให้เดินเข้าไป
    
    “ในที่สุดวันที่ข้ารอคอยก็มาถึง...ในที่สุดเอ็งก็มาหาข้าจนได้...มา...เข้ามา นังตัวมาร...มารเหมือนแม่เอ็ง..มาหาข้าสิ ข้าคอยอยู่นานแล้ว”
    
    เสียงเฟืองแสยะยิ้ม จะเล่นงานรุ้ง แต่แล้วชายเดียวก็วิ่งเข้ามาดึงตัวรุ้งเอาไว้ทัน ชายเดียวอุ้มร่างรุ้งที่หมดสติมาที่ตำหนัก คุณหญิงทอแสงเข้ามาเห็นพอดีก็รีบเข้าไปขวาง โวยวายลั่นว่ารุ้งมารยา แกล้งทำเป็นป่วย ชายเดียวไม่สนใจรีบพารุ้งเข้าไปปฐมพยาบาล ทำให้คุณหญิงทอแสงไม่พอใจจึงไปฟ้องท่านหญิงแขไข
    
    “ท่านแม่ไม่ทรงได้ยิน ไม่ทรงทราบหรอกค่ะ”
    
    “หญิงพูดอีกทีก็ได้ มันทำมารยา เล่นละครเก่ง ที่เป็นลมไปเนี่ยอย่านึกว่าเป็นเรื่องจริง”
    
    ชายเดียวลุกขึ้น เดินมุ่งไปหาทอแสง มือกำแน่น
    
    “ชาย นั่นน้องนะ” ท่านหญิงปราม
    
    “เป็นถึงหม่อมราชวงศ์ ระวังคำพูดหน่อย”
    
    “ท่านป้าขา ทรงได้ยินแล้วนะคะ พี่ชายเดียวปากจัดแค่ไหน หญิงแตะรุ้งเป็นไม่ได้ ป้องกันกันดีนัก”
    
    “ก็หญิงทำไมจิกหัวเรียกคนอื่นอย่างนั้น เขาก็ลูกมีพ่อมีแม่เหมือนกัน หญิงทำถูกหรือไม่คิดดูให้ดี”
    
    “เพื่อนคุณชาย ฟื้นแล้วค่ะ” ผ่องรีบบอก
    
    ชายเดียวปราดเข้าไปดูรุ้งด้วยความเป็นห่วง ท่านหญิงมองดูสถานการณ์สีหน้าเครียดจัด เมื่อกลับมาที่ห้องเรียกเฟืองมาคุยด้วย
    
    “ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ทำกับเขาอย่างนี้ได้ยังไง...ถ้าเขาเป็นอะไรไปใครเดือดร้อน มีความคิดบ้างไหม”
    
    “มันทำเสน่ห์เล่ห์กล คุณชายไม่ยอมไปเรียนต่อเพราะมัน ท่านหญิงไม่สบายพระทัย บังคับคุณชายก็ไม่ได้ เดี๋ยวท่านชายก็มาพิโรธท่านหญิงของหม่อมฉัน” เฟืองหมอบอยู่
    
    “ท่านชายเด็จไปสวรรค์แล้ว ไม่เหมือนเอ็งหรอกนังเฟืองไปไหนก็ไม่ได้ เพราะจิตใจอาฆาตพยาบาท เป็นสัมภเวสีเร่ร่อนคอยรังควานผู้คนอยู่อย่างนี้ หลอกหลอนคนในบ้านจนเขาระอากันหมดกลัวเขา ก็ไม่กลัวแล้วจะบอกให้ นี่ยังบังอาจไปหลอกทำร้ายคนนอกบ้าน คิดดูมั่งรึเปล่า เอ็งให้ข้าออกไปตามตัวเขามา เอ็งยังบังคับชายเดียวให้พาเขาไปที่เรือนเอ็ง แล้วเอ็งก็จะทำร้ายเขา เห็นแก่หน้าข้ากับคุณชายบ้างมั้ย เขามาตายที่วังนี้อะไรจะเกิดขึ้น” ท่านหญิงพูดอย่างโมโห
    
    “ก็ท่านหญิงคิดว่ามันเป็น...”
    
    “เรารู้รึยังล่ะว่า...ใช่หรือไม่ใช่...หรือถึงใช่เอ็งก็ทำอะไรเขาไม่ได้”
    
    “ทำไมจะไม่ได้” เฟืองทำท่าจะเถียง
    
    “เอ็งหยุดเดี๋ยวนี้...นังเฟือง...ข้าบอกให้หยุด...หยุด...เอ็งทำอะไรเขาไม่ได้...อย่าทำเป็นอันขาด ถ้าไม่เชื่อ เอ็งไม่ต้องอยู่วังนี้อีกต่อไป ข้าจะไปหาคนมาขับไล่เอ็ง”
    
    เฟืองหมอบลงไปจนแทบติดพื้น แล้วค่อย ๆ พลิกหน้าแหงนมองท่านหญิงสายตาเสียใจลึกซึ้ง น้ำตาปิศาจเฟืองค่อย ๆ ไหลรินออกมา เสียงสะอื้นก้องกังวานอยู่ในห้อง แล้วร่างก็ค่อย ๆ จางหายไป
     
    ส่วนชายเดียวก็มาส่งรุ้งที่บ้านปัณณธร เมื่อชายเดียวกลับไปแล้วจันทร์เข้ามาซักถามลูกว่าเจอใครบ้าง
    
    “ท่านหญิง ข้าหลวงที่ชื่อผ่อง ชื่อพิกุล แล้วแม่ครัวที่ชื่อป้าสาลี่จ้ะ”
    
    “ท่านหญิงรับสั่งกับรุ้งว่าไงบ้างลูก” จันทร์ซักต่อ
    
    “ไม่ดีหรอก ใช่มั้ย”จริมาโพล่งถามขึ้น
    
    “ดีค่ะ” รุ้งยืนยัน
    
    “ไม่เชื่อ ไม่เห็นเคยพูดดีกะใคร หน้าตาบึ้งตึงตลอดเวลา กับน้าจันทร์น่ะเหรอ บางทีพูดยังไม่มองหน้าเล้ย..เฮ้อเสียอารมณ์จริง ๆ พูดถึงคนวังนี้...นอนดีกว่า” จริมาล้มตัวลงนอน
    อย่างเซ็ง
    
    “รุ้ง..ต่อไปถ้าคุณชายชวนรุ้งไปวังของเธออีก แม่ว่ารุ้งอย่าไปเลยนะลูก” จันทร์ห้ามอยู่ในที
    
    “จ้ะแม่”รุ้งรับคำอย่างว่าง่าย ทำให้จันทร์ยิ้มพอใจ
    
    รุ้งกับจริมาเรียนจบแล้ว พจน์จึงเตรียมจะส่งจริมาไปเรียนต่อที่เมืองนอก แต่บังเอิญจริมารู้เรื่องที่พจน์ป่วยหนักและกำลังจะตาย เธอจึงยืนกรานไม่ไปเรียนต่อ แต่พจน์กลับไม่ยอม จริมาเสียใจมากจึงมาคุยกับจันทร์
    
    “ทำไมน้าจันทร์ไม่บอกริมาว่าคุณพ่อกำลังจะตาย” จริมาโพล่งถาม    จันทร์ตกใจ หันไปทางรุ้งทันที   “ตัวเล็ก รู้แล้วริมาบอกเอง ตัวเล็กนั่นแหละเป็นคนบอกให้ริมาพูดกับน้าจันทร์ตรง ๆ ริมารู้ว่าคุณพ่อไม่ให้บอก...ทำไมคะ”จริมาคาดคั้นถามจันทร์     “คุณพจน์ไม่อยากให้คุณริมาเห็นคุณพ่อไม่สบาย”      “คุณพ่อเป็นพ่อ.. ริมาเห็นได้ไม่ว่าคุณพ่อจะเป็นยังไง ทำไมมันทรมานมาก หรือ มันไม่น่าดู หรือ” จริมาย้อนถาม “ท่านกลัวคุณริมาขวัญเสีย ไม่ยอมไปเรียนต่อ” จันทร์บอกเหตุผล   “แต่ตอนนี้ ริมาเสียใจมาก คุณพ่อบอกว่าใครจะเป็นจะตายไม่ให้บอกริมากับพี่ฉัตต์ มันไม่ยุติธรรมเลยนะคะ เราเป็นลูก มากีดกันเราได้ยังไง” จริมาฟูมฟายเสียใจ    “ริมาจะทำยังไง ไม่ไปเรียนเหรอ” รุ้งเอ่ยถาม       “ไป...ริมาจะไป ริมาจะไม่ทำให้คุณพ่อเสียใจ แต่น้าจันทร์กับตัวเล็กต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”
    
    “อะไรคะ”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)