ผู้เขียน หัวข้อ: แค้นเสน่หา วันที่ 23 กรกฎาคม 2556  (อ่าน 379 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
แค้นเสน่หา วันที่ 23 กรกฎาคม 2556
« เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2013, 02:13:55 am »

 “ชายเดียวติดบ้านนั้นจริงจัง ไม่รู้เพราะอะไร เพื่อนก็ไม่อยู่แล้วยังไปแล้วไปเล่า...ไม่รู้ว่าชอบเด็กผู้หญิงนั้น คนไหน หรือว่า...หรือว่า... แม่ลูกกันใช่มั้ยเฟือง เขาดึงดูดกันเพราะเขาเป็นแม่ลูกกันใช่มั้ย” ท่านหญิงถามเฟืองเสียงสะอื้น
    
    “หม่อมฉันทูลแล้วว่าเขาไม่ใช่...เขาตายไปแล้ว หม่อมฉันให้ไอ้ยอดมันเอาศพเขาไปโยนทิ้งกลางแม่น้ำ ตัวมันก็ตายด้วย เพราะหม่อมฉันเจาะเรือมัน มันไม่รอด ทั้งนายทั้งบ่าว ต่อไปนี้อย่าทรงวิตกเรื่องนี้อีก เพราะจะประชวร ประชวรไปมันยุ่งยาก ไม่มีใครดูแลเหมือนตอนที่หม่อมฉันยังไม่ตาย”
    
    เฟืองปลอบใจท่านหญิง และเพราะมัวแต่ห่วงท่านหญิง เลยไม่รู้ว่าชายเดียวและผ่องแอบมาได้ยินคำสนทนานี้
    
    “ท่านแม่รับสั่งกับใครหรือผ่อง”
    
    “ไม่ได้ยินเลยค่ะคุณชาย” ผ่องเฉไฉไม่มีพิรุธใด ๆ
     
    “ผ่องไม่ได้ยินเลยหรือ” ชายเดียวถามย้ำ
    
    “ไม่ได้ยินเลยค่ะ” ผ่องยืนยัน
    
    “ผ่อง...หูหนวกเหรอ...มาฟังใกล้ ๆ...ฟังให้ดี ๆ”
    
    ชายเดียวดึงผ่องเข้ามาแนบหูฟังที่ประตูด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร
    
    “ไม่มีเสียงอะไร ดูด้วยตาดีกว่ามีใครแอบอยู่” ชายเดียวจะเข้าไปในห้อง
    
    “อย่าค่ะคุณชาย...กลับห้องเถิดค่ะคุณชาย”
    
    ผ่องรั้งชายเดียวไว้ และพยายามทำหน้าปกติที่สุด
    
    “ฉันรู้ว่าไม่ใช่เรื่องปกติ...แต่ยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไรก็เท่านั้น”
    
    ชายเดียวดึงดันจะเข้าไปในห้องท่านหญิง แต่ผ่องกลับเฉไฉพาชายเดียวเดินออกมา แล้วชวนคุย
    
    “คุณชายจะไปเรียนเมืองนอกเมื่อไหร่คะ”
    
    “ผ่อง...ถ้าฉันไปผ่องจะคิดถึงฉันมั้ย”
    
    “โถ ถามได้ ทูนหัว ทำไมจะไม่คิดถึงล่ะคะ”
    
    “งั้นฉันไม่ไปแล้ว ตัดสินใจตรงนี้เลย” ชายเดียวยืนยันการตัดสินใจของตน
    
    “อะไรนะคะคุณชาย ไม่ได้หรอกค่ะ ท่านพ่อมีบัญชาไว้นะคะ” ผ่องท้วงติงอย่างตกใจ
    
    “คอยดู”
    
    ชายเดียวบอกอย่างมุ่งมั่น ขณะที่ผ่องมองชายเดียวอย่างไม่สบายใจ
     
    เมื่อฉัตต์เดินทางไปเมืองนอก เขาก็เขียนจดหมายส่งมาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ จริมาให้รุ้งเป็นคนตอบจดหมายให้ โดยให้เขียนในลักษณะว่าจริมาเป็นคนตอบ เพราะลายมือรุ้งกับจริมาคล้ายกัน จดหมายทุกฉบับที่ตอบไป จริมาจะมาเพิ่มคำว่า...รักพี่ฉัตต์ ลงไปเสมอ...
    
    หลายเดือนต่อมา อาการป่วยของพจน์ยิ่งทรุดลง จนไม่สามารถปิดบังไว้ได้อีก เมื่อทุกคนรู้ความจริง ก็พากันทุกข์ใจ โดยเฉพาะจริมาที่ทั้งกลุ้มใจและเครียดมาก จันทร์ไล่รุ้งกับจริมากลับบ้านให้กลับไปอ่านหนังสือ เพราะใกล้สอบแล้ว แต่จริมาไม่ยอม จนพจน์ต้องออกปากสั่ง “กลับบ้าน...พ่อไม่เป็นไรแล้ว”
    
    “คุณพ่อ ริมาขอโทษ ริมาไม่ได้ดูแลคุณพ่อเลย คุณพ่อเจ็บตั้งนานริมาก็ไม่รู้ ได้ยินคุณพ่อไอ แต่...ไม่เฉลียวใจว่าคุณพ่อเป็นเยอะ...ริมาขอโทษ” จริมาร้องไห้
    
    “เหลวไหล ขอโทษพ่อทำไม อยากให้พ่อหายเร็วต้องทำตามที่น้าจันทร์บอก กลับบ้านเตรียมตัวสอบ”
    
    “ค่ะ คุณลุง เราจะทำตามที่คุณลุงบอก จะมาใหม่พรุ่งนี้ ขอให้คุณลุงหายเร็ว ๆ นะคะ”
     
    เมื่อออกมาจากห้องคนป่วย รุ้งเข้าไปคุยกับหมอ แล้วเดินมาหาจริมาที่นั่งหน้าเครียด
    
    “ทำไมจะกลับบ้าน...ทำไมไม่อยู่กับคุณพ่อ จะรีบไปหาใครที่บ้าน...มีใครรอ” จริมาโวยวาย
    
    “ไม่ใช่อย่างที่ริมาคิดหรอก แต่รุ้งทำตามที่คุณลุงบอก”
    
    “คุณพ่อก็ต้องพูดอย่างนั้น เพราะคุณพ่อเป็นห่วงเรา แต่เราต้องเป็นห่วงคุณพ่อมากกว่าสิ”
    
    “แต่เราอยู่ที่นี่ไม่มีประโยชน์” รุ้งอธิบายเหตุผล
    
    “พูดบ้า ๆ รุ้ง...ริมาเหรอไม่มีประโยชน์กับคุณพ่อ ทำไม ต้องแม่ของเธอคนเดียวเหรอ”
    
    รุ้งยืนนิ่งอึ้ง มองหน้าจริมาอย่างไม่เชื่อหู แล้วเดินหนีออกไป จริมารู้สึกผิดรีบวิ่งตามไป รุ้งเข้าใจความรู้สึกของจริมาดีจึงกอดปลอบ
    
    “ตัวเล็ก คุณพ่อริมาจะตายไหม” จริมาร้องไห้สะอื้น
    
    “ทำไมริมาพูดอย่างนั้น” รุ้งตกใจ
    
    “ก็ดูคุณพ่อสิ หน้าซีด ตัวเหลือง พูดก็เหมือนไม่มีแรงเพราะเสียเลือดไปมาก แล้วอย่างนี้จะอยู่ต่อได้ยังไง”
    
    “ถ้าหมอเขาเห็นจำเป็น เขาก็ต้องให้เลือดช่วยคุณลุงอยู่แล้วค่ะ ริมาต้องเชื่อหมอนะ”
    
    “ตัวเล็กอย่าโกรธริมาเลย ริมาก็เข้าใจนะว่าตัวเล็กรู้สึกยังไง ตัวเล็กเก่งกว่าริมา ริมาจะพยายามเข้มแข็งให้ได้เหมือนตัวเล็ก...ริมาอยากเป็นอย่างรุ้งนะ ใครดูว่าอ่อนหวาน แต่ข้างใน
    แข็งโป๊กกล้าคิดไปเรียนพยาบาล แต่ริมาคงกลัวหัวหดแค่ต้องหยิบเข็มมาฉีดยาคนไข้ก็คงสลบไปก่อน...รุ้งถ้าคุณพ่อเป็นอะไรไปอีกคน ริมาจะเหลือใครนอกจากคุณย่าซึ่งก็แก่มาก ตัวเล็กอย่าว่าริมาเลย”
    
    “ไม่ว่าค่ะ.. ไม่ว่า” ทั้งคู่ก็เลยกอดกันร้องไห้
     
    หลังจากเห็นอาการเจ็บป่วยของพจน์ ชายเดียวก็เป็นห่วงท่านหญิงจึงตัดสินใจที่จะไม่ไปเรียนต่อที่เมืองนอก แต่จะเรียนหมอที่เมืองไทยแทน
    
    “ชายจะขัดขืนพินัยกรรมของท่านพ่อรึ” ท่านหญิงถามดุ ๆ
    
    “ก็ชายมีเหตุผล...เป็นเหตุผลที่ถูกต้องด้วย” ชายเดียวบอกอย่างจริงจัง
    
    “เหตุผลอะไร”
    
    “ชายพูดไป ท่านแม่ก็คัดค้านอีก ชายไม่อยากพูด แต่จะทูลว่าเป็นเหตุผลที่สมควรอย่างยิ่ง” ชายเดียวยืนยัน
    
    “จะเรียนหมอในเมืองไทย...เพราะเป็นห่วงแม่ใช่หรือไม่”
    
    “ชายจะทำอะไรไม่เคยเลยที่ท่านแม่จะไม่ทรงทราบ...ใช่ค่ะ ชายห่วงท่านแม่”
    
    “แม่ขอบใจ...แต่แม่ยังไม่เป็นอะไรช่วงที่ชายไปเรียนหรอก แม่ยังไม่แก่ปานนั้น ไปเรียนเสียก่อนเถอะลูก ชายเรียนจบกลับมาตอนนั้นล่ะ แม่กำลังพร้อมเลย พร้อมให้ชายดูแลแม่” ท่านหญิงหว่านล้อม
    
    “ชายไม่คอยถึงตอนนั้นหรอกค่ะ ชายจะดูแลท่านแม่ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ เพราะถ้าปล่อยท่านแม่ตอนนี้ ถึงตอนนั้นอาจจะไม่ทันการก็ได้” ชายเดียวยืนกราน
    
    “อย่าดื้อกับแม่สิลูก” ท่านหญิงขอร้อง
    
    “ท่านแม่ก็อย่าทรงดื้อกับชายสิคะ”
    
    “ถึงจะพูดกันไปอีกสามวันเจ็ดวัน ชายก็ต้องปฏิบัติตามพินัยกรรมของท่านพ่อ เราอย่าเถียงกันให้เหนื่อยเลย...มีเวลาอีกไม่มาก ชายต้องเริ่มเตรียมตัวแล้วนะลูก สำคัญคือต้องฝึกภาษา เรียนหมอจะมี technical term มาก ต้องท่องจำ...ฟังแม่รึเปล่าชาย”
    
    ท่านหญิงหันไปถาม แต่ชายเดียวลุกเดินหนีไปดื้อ ๆ ท่านหญิงนั่งนิ่งสักครู่ แล้วเอ่ยกับเฟือง
    
    “จะให้ฉันทำยังไงดีเฟือง ฉันเหนื่อยจริง ๆ...อะไรนะ เฟืองว่าอะไร...ชายเดียวรักผู้หญิงรึ ...ผู้หญิงบ้านนั้น...เฟืองแน่ใจหรือ” ท่านหญิงตะลึงงันเมื่อรู้ความจริงจากเฟือง
    
    หมอบอกให้พจน์รู้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน 1 ปี หรืออย่างเร็วก็จะเหลือเวลาอีก 6 เดือนเท่านั้น ระหว่างนี้หมอจึงอนุญาตให้เขากลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ พจน์เรียกยอดเข้ามาหา
    
    “ยอด ฉันจะมีชีวิตอยู่ไม่เกิน 1 ปี...เวลาฉันมีเท่านั้น ฉันจะฝากบ้านไว้กับแก ที่บ้านไม่มีผู้ชาย แนบแก่แล้วอาศัยอะไรไม่ได้ ถ้าแกไม่จำเป็นต้องไปไหน ฉันขอร้องให้แกอยู่ที่บ้านตลอดไป”
    
    ยอดลงนั่ง ก้มลงกราบที่ริมเตียง แล้วทำท่าว่าเขาจะอยู่ที่บ้านปัณณธรตลอดไป พจน์พยักหน้าพอใจ
    
    “จันทร์...อย่าทำให้ทุกคนตกใจ น้องเองก็ต้องเข้มแข็ง เพราะพี่ได้ฝากความหวังทุกอย่างไว้ที่น้อง เวลาที่เหลือมากพอที่พี่จะทำอะไร...ที่พี่ต้องการทำได้หลายอย่าง อย่ากังวลไปเลย”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)